“สุเทพ” เพิ่งตื่น! นัดถกแผนฟันถ่อยแดงป่วนชาติค่ำนี้

“สุเทพ” โต้ “ไอ้กี้ แดงถ่อย” ไม่พบมีลูกสมุนเสื้อแดงบาดเจ็บจากเหตุตะลุมบอนกับกลุ่มเสื้อน้ำเงินเมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน รักษาตัวอยู่แม้แต่รายเดียว พร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุดังกล่าว ขณะเดียวกัน เผยเตรียมผุดมาตรการกำราบพวกป่วนชาติค่ำนี้หลังเสร็จสิ้นภารกิจส่งผู้นำอาเซียนกลับประเทศแล้ว
 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แถลงข่าว

วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา โดยระบุว่า ภายหลังตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่า ขณะนี้ไม่มีกลุ่มเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มเสื้อน้ำเงินเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รักษาตัวอยู่เลยแม้แต่คนเดียว อย่างที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้กล่าวอ้าง

อย่างไรก็ตาม นายสุเทพกล่าวด้วยว่า รัฐบาลเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังว่าสถานการณ์จะคืนสู่ความสงบโดยเร็ว

ทั้งนี้ นายสุเทพระบุถึงที่มาของกลุ่มเสื้อน้ำเงินว่า เป็นเพราะมีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนหนึ่ง เห็นว่าเป็นหน้าตาเป็นผลประโยชน์ของประเทศก็มาให้กำลังใจของรัฐบาล และอยู่ในที่ตั้ง ทราบว่ากลุ่มเสื้อแดงบุกเข้าจนกระทบกระทั่งกันขึ้น

นายสุเทพแถลงข่าวถึงกรณีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า วันนี้รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากมีผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงได้แสดงอาการคุมคามผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา จนการประชุมไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะผู้ชุมนุมได้เข้ามาถึงภายในโรงแรม สร้างความตกใจให้บรรดาผู้เข้าร่วมประชุม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องประกาศเลื่อนการประชุมออกไปและได้ขอโทษผู้นำทั้งหลายและได้ตัดสินใจประกาศภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อที่จะใช้อำนาจในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อคุ้มครองอารักขาผู้นำประเทศต่างๆ ให้สามารถเดินทางกลับประเทศได้โดยปลอดภัย ส่วนเรื่องการอพยพผู้นำประเทศต่างๆ ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ทั้งทางเฮลิคอปเตอร์ ทางเรือ และทางรถยนต์ และบัดนี้ผู้นำประเทศสุดท้าย คือ บรูไน ได้เดินทางออกจากโรงแรม รอยัล คลิฟ บีช แล้ว

นายสุเทพกล่าวต่อว่า ตลอดเวลาในช่วงวันนี้ได้ทีกระแสข่าวที่ถูกบิดเบือนว่ามีการต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ชุมนุมเสื้อแดง ตนขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ใช้ความอดทน อดกลั้นอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน ไม่มีผู้ใดพกอาวุธ มีเฉพาะโล่กับกระปองเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับการกำชับ ไม่ให้ทำร้ายประชาชนและอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งคัด

“การปะทะกันเป็นเรื่องของกลุ่มเสื้อแดงเข้าไปทำร้ายประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชลบุรีและพัทยา จึงมีผู้บาดเจ็บหลายคนและมีสาหัสหนึ่งคน คือ นายประดิษฐ์ แก้วศรี ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่ามีคนใส่เสื้อแดงได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด” นายสุเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะกลุ่มเสื้อน้ำเงินหรือไม่ที่ทำให้เกิดการปะทะ นายสุเทพ กล่าวว่า เหตุที่เกิดการปะทะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า กลุ่มคนเสื้อแดงตั้งใจจะมาก่อกวน มีเป้าหมายชัดเจนว่าขัดขวางการประชุม แต่มีพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่ง เห็นว่าการประชุมเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ก็มาให้กำลังใจชุมนุมอยู่ในที่ตั้งและกลุ่มเสื้อแดงได้บุกเข้าไปจึงเกิดการปะทะขึ้น

ส่วนกรณีของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินที่มาปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆ ที่ประชุมนั้น นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่มีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ย่อมอยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนและสมาชิกของพรรคร่วมรัฐบาลมากมาย ทุกคนก็อยากจะเอาใจช่วยให้การประชุมลุล่วงไปด้วยดี แต่โชคร้ายที่เกิดอย่างนี้

เมื่อถามว่า การที่เลื่อนการประชุมออกไปเป็นความผิดพลาดของหน่วยรักษาความปลอดภัยหรือไม่ที่ปล่อยให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามา นายสุเทพกล่าวว่า ทุกฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เพราะรัฐบาลได้สั่งการไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีอาวุธและได้ปฏิบัติมาตลอดตั้งแต่เริ่มการชุมนุม จึงอาจจะเป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมได้ใจ และกลายเป็นเรื่องใหญ่โต รัฐบาลเสียใจที่การประชุมต้องหยุดลงทำให้ประเทศไทยและสมาชิกต้องเสียประโยชน์ แต่หวังว่าสถานการณ์จะกลับคืนอย่างรวดเร็ว

เมื่อถามว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อไร นายสุเทพกล่าวว่า หลังจากนี้นายกรัฐมนตรีคงจะได้พิจารณา คาดว่าน่าจะเป็นทันที่ภารกิจคุ้มครองผู้นำเสร็จสิ้น ส่วนเรื่องผู้บุกรุกได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการแล้ว

สำหรับเรื่องประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจส่งผู้นำประเทศอาเซียนกลับจนหมดสิ้นภายในค่ำวันนี้แล้ว รัฐบาลก็จะพิจารณาถึงแผนที่จะดำเนินมาตรการต่อไป ขณะเดียวกัน ก็จะหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าหลังจากนี้จะยกเลิก พรก.ฉุกเฉินดังกล่าวได้ในช่วงใด โดยขณะนี้นายอภิสิทธิ์ยังอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อปฏิบัติภารกิจส่งผู้นำอาเซียน

“มาร์ค” ส่งผู้นำอาเซียนกลับประเทศ

มีรายงานว่า ที่สนามบินกองทัพเรือ (อู่ตะเภา) เมื่อเวลา 16.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางจากโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเดินทางไปส่งผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เดินทางกลับประเทศ

นายอภิสิทธิ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าฝืนยิ้มว่า เรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยและเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ผู้นำ เสร็จเรียบร้อยแล้วตนขอไปทำงานต่อ เวลานี้ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ส่วนการชี้แจงกับประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะชี้แจงแน่นอน อย่างไรก็ตาม ผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้ามาร่วมประชุมไม่ได้ตกใจหรือกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเข้าใจดี และหวังว่า ประเทศไทยจะจัดการเรื่องราวภายในให้เรียบร้อยเพื่อที่มาร่วมประชุมกันต่อ จากนั้นนายกฯ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เดินทางกลับมายังโรงแรมรอยัลคลิฟบีชฯ เพื่อหารือร่วมกับนายสุเทพ คง คาดว่าเป็นการหารือเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่พัทยา และจังหวัดชลบุรี