xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพฮึ่มรับมือ “เสื้อแดง” เต็มอัตรา ลั่นปฏิบัติการจากเบาไปหาหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก
กองทัพฮึ่มพร้อมรับมือ “ม็อบเสื้อแดง” เต็มอัตรา-สนับสนุนกำลังตามที่ตำรวจร้องขอ ยันทหารไร้อาวุธ มีเพียงหมวกกันน็อก-โล่-กระบอง เข้าปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย เตือนผู้ชุมนุมให้ระวังมือที่ 3 ด้าน ผบ.ทร.ปัดส่งกำลังนับหมื่นใส่เสื้อแดงเข้าแทรกซึมสร้างสถานการณ์

วานนี้ (23 ก.พ.) พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานประชุมเตรียมการแก้ไขสถานการณ์เกี่ยวกับการรักษาสถานที่สำคัญ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก และผู้แทนนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 1 เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

จากนั้น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยผลการประชุมว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.)ได้มอบหมายให้ พล.อ.จิรเดช เป็นประธานการประชุมเพื่อตรวจสอบทำความเข้าใจกับหน่วยปฏิบัติทุกภาคส่วน เพื่อให้มีความเข้าใจต่อการปฏิบัติกับผู้ชุมนุม ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ร้องขอให้ทหารเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยพนักงานแล้ว โดยภารกิจกองทัพมีหน้าที่ป้องกันสถานที่ราชการสำคัญ ตามแผนอาร์มทองมีกำลังพล 21 กองร้อย โดยกำลังทหารจะเริ่มเคลื่อนย้ายออกจากหน่วยที่ตั้งพร้อมกับกำลังตำรวจ ในเวลาค่ำของวันที่ 23 ก.พ.นี้

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า การรักษาความปลอดภัยบริเวณทำเนียบรัฐบาลนั้น ทางกองทัพบกจะใช้กำลังจากกองทัพภาคที่ 1 โดยใช้กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศจะใช้กำลังจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ โดยมี พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ส่วนการปฏิบัติทุกขั้นตอนจะไม่มีการใช้อาวุธ โดยมีการเน้นย้ำให้ใช้หมวกกันน็อค เสื้อ โล่ห์ กระบอง แต่จะไม่มีการนำอาวุธออกไป

“การปฏิบัติจะยึดจากเบาไปหาหนักตามมาตรฐานสากล หากผู้ชุมนุมจะบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ เราจะใช้เครื่องขยายเสียงบอกกับผู้ชุมนุม และปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอนไป และหากพื้นที่ใดตำรวจร้องขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติม ทางกองทัพก็จะใช้กำลังทหารในเขตปริมณฑลเข้าไปรักษาความปลอดภัย โดยจะมีสารวัตรทหาร (สห.) ตั้งจุดตรวจร่วมกับตำรวจบางพื้นที่” พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

เมื่อถามถึงหน่วยความมั่นคงไม่ต้องการให้มีการยึดสถานที่ราชการใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เหตุการณ์ในอดีตเราคงไม่พูดถึง ส่วนการเคลื่อนไหวนอกสถานที่ราชการสามารถกระทำได้ แต่เราคงจะไม่ให้มีการเข้ายึดสถานที่สำคัญทางราชการ เพราะจะส่งผลกระทบ และเชื่อว่าหากผู้ชุมนุมจะปฏิบัติตามแกนนำซึ่งระบุว่าจะไม่บุกรุกสถานที่ราชการ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าสถานการณ์คงไม่รุนแรงถึงขั้นต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม ส่วนกองทัพบกมีมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยขอความร่วมมือสื่อมวลชน และข้าราชการที่ไม่มีภารกิจ ออกจากกองทัพบกภายใน เวลา 18.00 น.ของทุกวัน ตามแผนรักษาความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า กองทัพส่งทหารเข้าแทรกซึมกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ได้ทำ ไม่ทราบจะทำไปเพื่ออะไร หากสังเกตจะเห็นว่าฝ่ายกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นโฆษกกองทัพบก หรือ ผบ.ทบ.พยายามจะลดการให้ข่าวเรื่องการชุมนุม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมบอกแล้วว่าจะไม่บุกรุกเข้าสถานที่ราชการ ฉะนั้นคิดว่าการชุมนุมคงไม่มีอะไร และเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ ขณะนี้ทุกฝ่ายให้ความสนใจเรื่องมือที่สามมากกว่า ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ และผู้ชุมนุมต่างต้องระวังมือที่ 3 เพราะขณะนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหามาก ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ ฉะนั้น สิ่งไหนที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้ก็ต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่า กังวลเรื่องการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงจะยืดเยื้อหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน กองทัพมีหน้าที่ดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง ส่วนการประชุมอาเซียนซัมมิทเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล เชื่อมั่นว่าตำรวจจะดูแลได้ แต่หากร้องขอมากองทัพก็ยินดี แต่กลุ่มผู้ชุมนุมบอกแล้วว่าจะไม่ไปในสถานที่การประชุม ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง กองทัพพยายามไม่เข้าไปวุ่นวาย เพราะจุดยืนกองทัพต้องปล่อยให้การเมืองว่ากันไป ทหารในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลสมัยใดต้องทำหน้าที่เช่นเดิม ขอยืนยันว่ากองทัพไม่ต้องการเป็นศัตรูกับประชาชนกลุ่มใด เราเป็นกองทัพของประชาชนทุกฝ่าย ไม่ว่าประชาชนฝ่ายใด

ด้าน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกด้วยความร่วมมือร่วมใจ ทุกคนต้องเป็นเจ้าภาพในการประชุมอาเซียนซัมมิต เช่น ประเทศจีนที่เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเขายังทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ ทำไมคนไทย 65 ล้านคน จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพไม่ได้ เพื่อเกียรติยศชื่อเสียง ทำให้ประชาคมรู้ว่าประเทศไทยเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน คิดว่านี่คือ ความต้องการส่วนใหญ่ของประชาชน คิดว่าสิ้นเดือนนี้ คนไทยทุกคนจะประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ประเทศชาติร่วมกัน

ขณะที่ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า กองทัพมีการเตรียมกำลังรักษาความสงบไว้ในกรณีที่ได้รับการร้องขอจากตำรวจ เชื่อว่าตำรวจดูแลได้ ทั้งนี้ไม่รู้สึกเป็นห่วงอะไร เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยแล้ว คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่อยากให้เกิดความสงบเรียบร้อย คิดว่าทุกคนมีความเข้าใจกันดี โดยเฉพาะเจตนารมณ์กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศแล้วว่าจะชุมนมอย่างสงบ จึงไม่รู้สึกเป็นห่วงอะไร คิดว่าคงไม่มีอะไร เชื่อว่าตำรวจดูแลได้ เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า หน่วยความมั่นคงเตรียมเสื้อแดง 10,000 ตัว เพื่อให้กำลังพลปะปนการชุมนุมนั้น พล.ร.อ.กำธร กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ตนก็ได้ยินมาแต่คงไม่มีอย่างนั้น เชื่อว่าไม่มีอะไร

“ความจริงทุกครั้งกองทัพดำเนินการด้านการข่าวอยู่แล้ว แต่การไปสวมเสื้อแดงไม่เคยทราบ สถานการณ์ขณะนี้คิดว่าจะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่น่าเป็นห่วงอะไร และคิดว่าเกือบจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำอยู่แล้ว ส่วนการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียน อยากให้ภาพลักษณ์ของประเทศเป็นไปในทางที่ดี คิดว่าทุกคนคงร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งนี้ เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ” พล.ร.อ.กำธร กล่าว

เมื่อถามถึงแนวทางตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมือง น่าจะถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมากกว่า แต่วิธีนี้ถือเป็นวิธีหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องถามฝ่ายการเมืองดีกว่า ส่วนมองการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรนั้น พล.ร.อ.กำธร กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าตนไม่ทราบการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ
กำลังโหลดความคิดเห็น