“อนุพงษ์” ยันเตรียมทหาร 21 กองร้อยสนับสนุนหากเกินขีดความสามารถของตำรวจที่จะควบคุม “ม็อบเสื้อแดง” 24 ก.พ.นี้ ย้ำชัดเจ้าหน้าที่ปราศจากอาวุธ-ไม่สกัดกั้นการชุมนุม พร้อมจี้สำนึกควรเป็นเจ้าภาพ “การประชุมอาเซียนสมิต” ร่วมกัน หวั่นเกิดผลกระทบต่อประเทศชาติโดยรวม
วันนี้ (22 ก.พ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 24 ก.พ.นี้ว่า ทางรัฐบาลจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักในการดำเนินการ โดยให้ดูสถานที่ราชการที่สำคัญๆ โดยไม่ได้มุ่งหวังที่จะไปสกัดกั้นการชุมนุม นั่นคือแนวทางที่ได้กำหนดไว้ ส่วนการปฏิบัตินั้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ คือจะไม่มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเจ้าหน้าที่ปราศจากอาวุธ และจะทำขั้นตอนการปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก ซึ่งคงต้องดูความเหมาะสม ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม หรือกำลังมีไม่เพียงพอ ก็สามารถร้องขอกำลังทหารตามแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งเป็นแผนคล้ายของเดิมที่ทำมา
เมื่อถามว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานขอกำลังเสริมจากทหารมาหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอกำลังทหารมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผนเดิมที่ได้วางไว้ และขอย้ำว่าจะไม่มีการสกัดกั้นนอกสถานที่ราชการ โดยเจ้าหน้าที่จะอยู่ภายในสถานที่ราชการเป็นหลัก ส่วนกำลังทหารทั้งหมดที่ได้ตระเตรียมไว้มีประมาณ 21 กองร้อย ซึ่งตามขั้นตอนจะออกไปปฏิบัติเมื่อถูกร้องขอมา
ต่อข้อถามที่ว่า อยากฝากอะไรกับกลุ่มนักการเมืองบางกลุ่มที่พยายามขัดขวางการประชุมอาเซียนสมิต พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประชุมอาเซียนสมิตนั้น เป็นเรื่องของประเทศ ถ้าเกิดความไม่เรียบร้อย จะส่งผลกระทบต่อประเทศโดยรวม ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว เราน่าจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ส่วนเรื่องการชุมนุมนั้น ตามสิทธิตามกฎหมายสามารถกระทำได้ แต่ขอให้อยู่ในขอบเขต
พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ว่า รัฐบาลจะเป็นผู้กำหนดการดำเนินการ โดยทางกองทัพจะจัดกำลังพลตามที่ได้รับการร้องขอ เมื่อถามว่าได้มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะต้องไปราชการที่ประเทศจีนหลายวัน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนได้ออกคำสั่งให้ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก รักษาราชการแทนในช่วงที่ไปราชการต่างประเทศ ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย ก็มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก คอยดูแลอยู่
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ฮ่องกง แล้วการไปเยียนประเทศจีนครั้งนี้ จะมีโอกาสได้พบกันหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไปตามคำเชิญของสาธารณประชาชนจีน ซึ่งเขามีคำเชิญมา และตนก็ได้เลื่อนกำหนดการตอบรับไปถึง 4 ครั้งแล้ว ก็คงจะต้องไปตามกำหนดการ ซึ่งตนจะไปอยู่ที่กรุงปักกิ่ง และไปเยี่ยมหน่วยทหารทางตอนเหนือ ไม่ได้มีกำหนดการ หรือวาระอื่นแต่อย่างใด