เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (24 ส.ค.) ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้เปิดพักรับรองให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นำคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพ และนายทหาร ระดับสูง ประกอบด้วย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะนายตำรวจระดับสูง เช่น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรักษ์ จุฑานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. ได้เข้าร่วมอวยพร พล.อ.เปรม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 89 ปีที่จะมาถึงในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ขาดเพียง พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ติดภารกิจเดินทางไปประชุมผู้บัญชาการทหารบกภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกที่ประเทศญี่ปุ่น จึงได้มอบหมายให้ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รอง ผบ.ทบ.เดินทางมาแทน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พวกตนภาคภูมิใจ และตระหนักดีถึงอุดมการณ์ของท่านที่ได้ประพฤติปฏิบัติ เพียรพยายาม ขยันอดทนในการปฏิบัติหน้าที่จนประสบความสำเร็จ จนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยในการดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี เพื่อสนองพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้เสียสละทำงานเพื่อสังคม และประเทศชาติ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคล ที่สำคัญของประเทศ เป็นผู้นำที่มีคุณธรรม และดำรงตนอยู่ในความซื่อสัตย์ตลอดมา พวกตนเชื่อมั่นว่าด้วยความเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตน จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนมุ่งมั่นทำความดีเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ทั้งนี้ พล.อ.เปรม กล่าวโอวาทว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรี และทุกคนที่ยังเป็นเพื่อนตาย มีมิตรไมตรีอยู่ตลอด ซึ่งวันนี้การที่ รมต.ป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ) เชิญตำรวจมาในวันนี้ด้วย เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะตำรวจและทหาร มาจากโรงเรียนเตรียมทหาร หน้าที่ของตำรวจและทหาร อาจแตกต่างกันในตอนเริ่มต้น แต่ในตอนสุดท้ายก็ไปบรรจบกันที่ความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถือได้ว่าต้องทำงานร่วมกัน ด้วยความมุ่งหมายเดียวกัน ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ และมีความร่วมมือซึ่งกันและกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติบ้านเมืองของเรา คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังที่พล.อ. เปรมให้โอวาทเสร็จสิ้นก็ได้เดินเข้ามาทัก พล.อ.ประวิตร และ ผบ.เหล่าทัพคนอื่นๆ โดยพูดทักทายพล.ต.อ.พัชรวาท สั้นๆว่า "ร้อนหน่อยนะอยู่ตรงนี้ แดดมันร้อน" ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านพัก เพื่อรอคณะอื่นเข้ามาอวยพร
จากนั้น พล.อ.ทรงกิตติ นำคณะเหล่านายทหารม้า เข้าอวยพร โดยพล.อ. เปรม ให้โอวาทว่า เราที่อยู่ที่นี้ รู้ว่าพล.อ.ทรงกิตติ ได้ทุ่มเทเพื่อพวกเรามาก ดีใจที่เรายังเป็นทหารม้าอยู่อย่างครบถ้วนดี เราเคยพูดกับ ตุ้ย (พล.อ.ทรงกิตติ ) ติ๋ว ( พล.ต.ไตรรัตน์ รังครัตน์ ผบ.ศูนย์การทหารม้า )ว่า เราพยายามจะพัฒนาเหล่าของเรา ไม่ใช่เพื่อให้มีชื่อเสียง แต่เราเห็นว่ามีความจำเป็นต้องพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่ให้โก๋เก๋ หรือมีอะไรมากกว่าคนอื่น เราเห็นว่ายุทธศาสตร์ชาติ การจัดกำลังต้องมีการพัฒนาอย่างไร เป็นเรื่องที่ได้แต่วิงวอน อ้อนวอน สวดมนตร์ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ อยากให้เราเอาใจช่วยกัน และต่อไปนี้ พิรุณ (พล.ท. พิรุณ แผ้วพลสง รองเสนาธิการทหารบก) ก็ต้องช่วย
"เราบอกตุ้ย หลายทีแล้วว่าต่อไปนี้เราจะไม่พูดแล้ว ตุ้ยต้องพูดต่อ เพราะเราพูดมาเยอะแล้ว ความจริงอยากพูด แต่เห็นว่าสมควรหยุดได้แล้ว ขอบคุณตุ้ย ที่ช่วยดูแลน้องๆให้เป็นทหารม้า ที่ติดอยู่ในจิตวิญญาณ วันก่อนบอกกับ ติ๋ว เรื่องตราศูนย์การทหารม้า ที่เขียนว่า“รบจนสุดใจขาดดิ้น” ความจริงตนเป็นคนตั้งเอง แต่มาคิดอีกที ก็คิดว่าจะมาตั้งใหม่ดีหรือไม่ แต่ถ้าเราเอาคุณลักษณะของทหารม้ามาใส่แทน จะดีหรือไม่ คือ “รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด” ซึ่งได้บอกให้ ติ๋ว ไปทำโพล” พล.อ.เปรม กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นำสมาคมมูลนิธิ จากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เช่น สมาคมนักเรียนเก่าสวนกุหลาบ ททบ. 5 สมาคมแม่บ้านทหารบก องค์การทหารผ่านศึกเข้าอวยพร กล่าวอวยพรว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประธานองคมนตรีเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติหน้าที่เป็นคนไทยที่ดี คือ ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ต้องรักชาติ ศาสนา มหากษัตริย์ ต้องเสียสละอดทน จงรักภักดี สิ่งต่างๆ ได้ปลูกฝังลงในพวกตนทุกคน ความรัก ความผูกพัน ความจงรักภักดี ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน เท่านั้น ยังจะไปสู่คนไทยทุกคนที่ต้องรักษาและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รัก เคารพยิ่งของเรามาตั้งแต่โบราณกาล
"ช่วงเวลาที่ผ่านมา อาจมีปัญหาอยู่บ้างแต่พวกผมพร้อมเสมอที่จะทำหน้าที่ เพื่อทำให้ประเทศชาติมั่นคงปลอดภัย ในนามของผู้บังคับบัญชาทุกเหล่าทัพ ได้ให้นโยบายว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชาติ บ้านเมือง คือสถาบัน ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และวิธีการที่เราจะต้องดำรงรักษาไว้ ท่านประธานองคมนตรีได้เป็นตัวอย่างมาโดยตลอด ในวันนี้จึงมาขอยืนยันคำสัญญาที่ได้เคยกล่าวทุกครั้งว่า พวกผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รวมถึงชาวไทยทั้งหมด รวมถึงคนไทย 60 ล้านคน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทางไปอวยพร พล.อ.เปรม พร้อมกับ 4 เสือ ทบ. ประกอบด้วย พล.อ.ธีรวัฒน์ บุญยประดับ ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ผช.ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. พล.อ.จิรพงษ์ วรรณรัตน์ ประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. เมื่อบ่ายวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากพล.อ. อนุพงษ์ ต้องเดินทางไปประชุม ผบ.อาเซียน–แปซิฟิค ในวันที่ 23 ส.ค. ทั้ง นี้การเข้าพบพล.อ.เปรม ของคณะพล.อ.อนุพงษ์ เป็นเวลากว่า 30 นาที
ทั้งนี้ เนื้อหาในการพูดคุยกันพล.อ.เปรม ได้วานให้พล.อ.อนุพงษ์ ช่วยกันดูแลสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการดูแลชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และจะต้องมีความเข้มแข็งและอดทนต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดย พล.อ.เปรม ได้บอกว่าตัวเองก็ต้องอดทน เช่นกัน และโดยส่วนของ พล.อ.เปรม ก็จะทำหน้าที่ของตนเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะนำคณธรัฐมนตรีเข้าอวยพรพล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ส่วนวันที่ 26 ส.ค.นั้น พล.อ.เปรม จะขอใช้เวลาส่วนตัว และงดรับแขกที่จะเข้าอวยพร
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง ได้นัดกันแต่งชุดดำ ในวันที่ 26 ส.ค.ซึ่งเป็นวันเกิดพล.อ.เปรม ว่า คนจะแต่งสีอะไร ตนคงไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ถ้าถามความเห็น ก็อยากบอกว่า ไม่สมควร เพราะไม่อยากให้เกิดความรู้สึกอะไรที่ไม่ดีไม่งามขึ้นในบ้านเมือง คนไทยไม่ทำกันอย่างนั้น
ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช.และอดีตผบ.ทบ. กล่าวว่า เป็นเรื่องของความเป็นธรรมชาติ ที่ใครจะทำอะไรก็ได้ อย่าไปคิดอะไรมาก และเชื่อว่าไม่น่าจะนำไปสู่ความรุนแรง เพราะมีกฎหมายควบคุมดูแลอยู่ จึงเชื่อว่าคนเสื้อแดง คงไม่ทำให้เกิดความรุนแรง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พวกตนภาคภูมิใจ และตระหนักดีถึงอุดมการณ์ของท่านที่ได้ประพฤติปฏิบัติ เพียรพยายาม ขยันอดทนในการปฏิบัติหน้าที่จนประสบความสำเร็จ จนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยในการดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี เพื่อสนองพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้เสียสละทำงานเพื่อสังคม และประเทศชาติ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคล ที่สำคัญของประเทศ เป็นผู้นำที่มีคุณธรรม และดำรงตนอยู่ในความซื่อสัตย์ตลอดมา พวกตนเชื่อมั่นว่าด้วยความเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตน จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนมุ่งมั่นทำความดีเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ทั้งนี้ พล.อ.เปรม กล่าวโอวาทว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรี และทุกคนที่ยังเป็นเพื่อนตาย มีมิตรไมตรีอยู่ตลอด ซึ่งวันนี้การที่ รมต.ป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ) เชิญตำรวจมาในวันนี้ด้วย เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะตำรวจและทหาร มาจากโรงเรียนเตรียมทหาร หน้าที่ของตำรวจและทหาร อาจแตกต่างกันในตอนเริ่มต้น แต่ในตอนสุดท้ายก็ไปบรรจบกันที่ความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถือได้ว่าต้องทำงานร่วมกัน ด้วยความมุ่งหมายเดียวกัน ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ และมีความร่วมมือซึ่งกันและกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติบ้านเมืองของเรา คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังที่พล.อ. เปรมให้โอวาทเสร็จสิ้นก็ได้เดินเข้ามาทัก พล.อ.ประวิตร และ ผบ.เหล่าทัพคนอื่นๆ โดยพูดทักทายพล.ต.อ.พัชรวาท สั้นๆว่า "ร้อนหน่อยนะอยู่ตรงนี้ แดดมันร้อน" ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านพัก เพื่อรอคณะอื่นเข้ามาอวยพร
จากนั้น พล.อ.ทรงกิตติ นำคณะเหล่านายทหารม้า เข้าอวยพร โดยพล.อ. เปรม ให้โอวาทว่า เราที่อยู่ที่นี้ รู้ว่าพล.อ.ทรงกิตติ ได้ทุ่มเทเพื่อพวกเรามาก ดีใจที่เรายังเป็นทหารม้าอยู่อย่างครบถ้วนดี เราเคยพูดกับ ตุ้ย (พล.อ.ทรงกิตติ ) ติ๋ว ( พล.ต.ไตรรัตน์ รังครัตน์ ผบ.ศูนย์การทหารม้า )ว่า เราพยายามจะพัฒนาเหล่าของเรา ไม่ใช่เพื่อให้มีชื่อเสียง แต่เราเห็นว่ามีความจำเป็นต้องพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่ให้โก๋เก๋ หรือมีอะไรมากกว่าคนอื่น เราเห็นว่ายุทธศาสตร์ชาติ การจัดกำลังต้องมีการพัฒนาอย่างไร เป็นเรื่องที่ได้แต่วิงวอน อ้อนวอน สวดมนตร์ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ อยากให้เราเอาใจช่วยกัน และต่อไปนี้ พิรุณ (พล.ท. พิรุณ แผ้วพลสง รองเสนาธิการทหารบก) ก็ต้องช่วย
"เราบอกตุ้ย หลายทีแล้วว่าต่อไปนี้เราจะไม่พูดแล้ว ตุ้ยต้องพูดต่อ เพราะเราพูดมาเยอะแล้ว ความจริงอยากพูด แต่เห็นว่าสมควรหยุดได้แล้ว ขอบคุณตุ้ย ที่ช่วยดูแลน้องๆให้เป็นทหารม้า ที่ติดอยู่ในจิตวิญญาณ วันก่อนบอกกับ ติ๋ว เรื่องตราศูนย์การทหารม้า ที่เขียนว่า“รบจนสุดใจขาดดิ้น” ความจริงตนเป็นคนตั้งเอง แต่มาคิดอีกที ก็คิดว่าจะมาตั้งใหม่ดีหรือไม่ แต่ถ้าเราเอาคุณลักษณะของทหารม้ามาใส่แทน จะดีหรือไม่ คือ “รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด” ซึ่งได้บอกให้ ติ๋ว ไปทำโพล” พล.อ.เปรม กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นำสมาคมมูลนิธิ จากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เช่น สมาคมนักเรียนเก่าสวนกุหลาบ ททบ. 5 สมาคมแม่บ้านทหารบก องค์การทหารผ่านศึกเข้าอวยพร กล่าวอวยพรว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประธานองคมนตรีเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติหน้าที่เป็นคนไทยที่ดี คือ ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ต้องรักชาติ ศาสนา มหากษัตริย์ ต้องเสียสละอดทน จงรักภักดี สิ่งต่างๆ ได้ปลูกฝังลงในพวกตนทุกคน ความรัก ความผูกพัน ความจงรักภักดี ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน เท่านั้น ยังจะไปสู่คนไทยทุกคนที่ต้องรักษาและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รัก เคารพยิ่งของเรามาตั้งแต่โบราณกาล
"ช่วงเวลาที่ผ่านมา อาจมีปัญหาอยู่บ้างแต่พวกผมพร้อมเสมอที่จะทำหน้าที่ เพื่อทำให้ประเทศชาติมั่นคงปลอดภัย ในนามของผู้บังคับบัญชาทุกเหล่าทัพ ได้ให้นโยบายว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชาติ บ้านเมือง คือสถาบัน ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และวิธีการที่เราจะต้องดำรงรักษาไว้ ท่านประธานองคมนตรีได้เป็นตัวอย่างมาโดยตลอด ในวันนี้จึงมาขอยืนยันคำสัญญาที่ได้เคยกล่าวทุกครั้งว่า พวกผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รวมถึงชาวไทยทั้งหมด รวมถึงคนไทย 60 ล้านคน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทางไปอวยพร พล.อ.เปรม พร้อมกับ 4 เสือ ทบ. ประกอบด้วย พล.อ.ธีรวัฒน์ บุญยประดับ ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ผช.ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. พล.อ.จิรพงษ์ วรรณรัตน์ ประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. เมื่อบ่ายวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากพล.อ. อนุพงษ์ ต้องเดินทางไปประชุม ผบ.อาเซียน–แปซิฟิค ในวันที่ 23 ส.ค. ทั้ง นี้การเข้าพบพล.อ.เปรม ของคณะพล.อ.อนุพงษ์ เป็นเวลากว่า 30 นาที
ทั้งนี้ เนื้อหาในการพูดคุยกันพล.อ.เปรม ได้วานให้พล.อ.อนุพงษ์ ช่วยกันดูแลสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการดูแลชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และจะต้องมีความเข้มแข็งและอดทนต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดย พล.อ.เปรม ได้บอกว่าตัวเองก็ต้องอดทน เช่นกัน และโดยส่วนของ พล.อ.เปรม ก็จะทำหน้าที่ของตนเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะนำคณธรัฐมนตรีเข้าอวยพรพล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ส่วนวันที่ 26 ส.ค.นั้น พล.อ.เปรม จะขอใช้เวลาส่วนตัว และงดรับแขกที่จะเข้าอวยพร
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง ได้นัดกันแต่งชุดดำ ในวันที่ 26 ส.ค.ซึ่งเป็นวันเกิดพล.อ.เปรม ว่า คนจะแต่งสีอะไร ตนคงไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ถ้าถามความเห็น ก็อยากบอกว่า ไม่สมควร เพราะไม่อยากให้เกิดความรู้สึกอะไรที่ไม่ดีไม่งามขึ้นในบ้านเมือง คนไทยไม่ทำกันอย่างนั้น
ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช.และอดีตผบ.ทบ. กล่าวว่า เป็นเรื่องของความเป็นธรรมชาติ ที่ใครจะทำอะไรก็ได้ อย่าไปคิดอะไรมาก และเชื่อว่าไม่น่าจะนำไปสู่ความรุนแรง เพราะมีกฎหมายควบคุมดูแลอยู่ จึงเชื่อว่าคนเสื้อแดง คงไม่ทำให้เกิดความรุนแรง