“เกิดมาไม่เคยเห็นใครเลวทรามอย่างพวกนี้เลย ทุเรศจริงๆ คนเข้าห้องน้ำก็มายืนเฝ้า หมายความว่าอย่างไร ทุเรศจริงๆ ไม่เคยเห็นใครทุเรศอย่างนี้ มันบ้าหรือเปล่า ให้สมาคมหัดอบรมสั่งสอนบ้าง คนเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย จะเข้าห้องน้ำก็มายืนเฝ้า เกิดมาไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีเข้าห้องน้ำแล้วมันเป็นอย่างไร เฝ้ากันใหญ่”
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น บริภาษนักข่าวสายทำเนียบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้ ขอย้อนไปถึงเหตุก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวนี้
นายกรัฐมนตรีหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช ไปออกรายการสนทนาประสาสมัคร ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพันธ์ เหมือนที่เคยปฏิบัติมาทุกสัปดาห์
สำรากผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แล้ว เขาก็เดินทางไปยังตลาด อตก.เพื่อจ่ายกับข้าวเหมือนทุกสัปดาห์ และก็มีนักข่าวติดตามไปเป็นปกติ
ที่ไม่ปกติก็คือ คราวนี้เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช ไปถึงตลาด อตก.ก็มีธุระเข้าห้องน้ำ อตก.เป็นเวลา 40 นาที ออกมาแล้วก็บริภาษนักข่าวดังกล่าว
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น กล่าวในรายการสนทนาของเขาหลายเรื่อง หนึ่งในจำนวนนั้น เขาพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็มีคณะนี้มาต่อต้าน เมื่อวานเขาบอกว่า คดีความของนายกฯ จบเมื่อไรก็ค่อยแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าแก้ก่อนจะไปกระทบคดีความ ได้ประโยชน์กับพรรคการเมืองที่จะถูกยุบพรรค ในมาตรา 309 แต่ไม่ใช่หรอกครับ ที่จะต่อต้านไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญอยู่ที่มาตรา 63 ไปเปิดรัฐธรรมนูญอ่านกันสิ เขากลัวจะแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่คาราคาซังอยู่กลางบ้านกลางเมืองทุกวันนี้ ถนนนี้ย้ายไปถนนนี้ ยึดกระทรวงศึกษาธิการ ยึดกลางบ้านกลางเมือง พอว่างมีเวลาก็เดินไปปิดถนนทุกแห่ง และคณะนี้เคลื่อนขบวนไปสาบถสาบานกันที่วัดพระแก้ว ซึ่งที่ทำได้อย่างนี้ก็เพราะมาตรา 63 เขากลัวว่า พรรครัฐบาลจะไปแก้มาตรา 63 ถ้าจะแก้จะทำอย่างที่ว่านี้ไม่ได้ครับ...”
คำพูดของนายกรัฐมนตรีหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช นี้ สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับคำบริภาษที่ว่า
เกิดมาไม่เคยเห็นใครเลวทราม ต่ำช้าเช่นนี้เลย ทุเรศจริงๆ
คนเป็นนายกรัฐมนตรี คนเป็นผู้นำของประเทศ ไม่สมควรเลยที่จะพูดเยาะเย้ยถากถาง ดูหมิ่นดูแคลนอย่างนี้
แต่เมื่อพิจารณาคำพูดดังที่ยกมานี้ ต้องบอกว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
ตั้งแต่ที่มีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญจากฝ่ายรัฐบาลหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อต้นเดือนมีนาคม (หลังจากเป็นรัฐบาลเพียงเดือนเดียว) ยังไม่มีฝ่ายใด ไม่ว่าจากรัฐบาล และจากฝ่ายประชาชนที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พูดถึงมาตรา 63 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้เลว
เพิ่งจะได้ยินก็เมื่อหลุดออกมาจากปากเน่าๆ ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น ที่ได้รับการดูถูกดูแคลนจากประชาชนทั้งหลายทั้งปวงคนนี้เอง
ประชาชนทั้งหลายต่างก็จำได้ว่า เมื่อเริ่มเข้ามาบริหารประเทศ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น บอกว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต่อเมื่อรัฐบาลจะบริหารประเทศครบเทอม หรือ 3-4 เดือนสุดท้ายก่อนจะพ้นตำแหน่ง
แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น ก็พลิกลิ้นยอมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพวกเขาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และมาตรา 309
แก้มาตรา 237 เพื่อไม่ให้ถูกยุบพรรค เพราะกรรมการบริหารพรรคไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
แก้มาตรา 309 เพื่อที่จะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวพ้นจากการดำเนินคดีในหลายกรณีที่ คตส. ตรวจสอบ สั่งฟ้องทั้งศาลอาญา ศาลสถิตยุติธรรม
ยังไม่มีใครพูดถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เลยสักคำเดียว
นอกจากปากเน่าๆ ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่น ที่ชื่อสมัคร สุนทรเวช คนนี้แหละครับ
ประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตยออกมาคัดค้านความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 และ 309 ของรัฐบาลหุ่น มาตั้งแต่วันที่รู้ว่ารัฐบาลนี้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว
และเคลื่อนขบวนออกมาพักร้างค้างแรมอยู่สะพานมัฆวานฯ และรอบทำเนียบรัฐบาลมาจนวันนี้ย่างเข้าเดือนที่ 3 แล้ว
ต่อให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 63
ต่อให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
ต่อให้ประกาศกฎอัยการศึก
ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งการลุกขึ้นสู้ของประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตยได้
อย่ามาขู่กันให้ยากเลย
และอย่าใช้ปากเน่าๆ บิดเบือนความเป็นจริง
เพราะการทำเช่นนี้ คือ พฤติการณ์ที่เรียกได้ว่า ทุเรศ และน่าสมเพชที่สุด สำหรับคนที่อยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรี
แม้จะเป็นเพียงนายกรัฐมนตรีหุ่นก็ตาม
เพราะคนเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องพูดแต่ความจริง และมีแต่จะต้องสัตย์ซื่อต่อประชาชน
อย่าว่าแต่จะต้องมีความเป็นผู้ดีอยู่ในกมลสันดานเลย
สำหรับนักข่าว เขาติดตามนายกรัฐมนตรีทุกสัปดาห์อยู่แล้ว สัปดาห์นี้ก็ติดตามอีก เมื่อทราบว่านายกรัฐมนตรีเข้าห้องน้ำ เขาก็รออยู่ห่างๆ เพื่อจะได้สอบถามราชการงานเมืองไปรายงานให้ประชาชนทราบ
เพราะรัฐบาลเพิ่งจะปรับคณะรัฐมนตรี
เพราะมีข่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะไปเขาพระวิหาร ซึ่งมีปัญหาอยู่
เพราะมีกิจการงานเมืองอีกมากมายที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น ไม่ได้บอกประชาชน
เขาทำอะไรผิด
พวกเขาทุเรศหรือน่าสมเพชตรงไหน
เป็นนักข่าวหรือนายกรัฐมนตรีที่น่าสมเพช
เป็นนักข่าวหรือนายกรัฐมนตรีที่ทุเรศ!
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น บริภาษนักข่าวสายทำเนียบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้ ขอย้อนไปถึงเหตุก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวนี้
นายกรัฐมนตรีหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช ไปออกรายการสนทนาประสาสมัคร ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพันธ์ เหมือนที่เคยปฏิบัติมาทุกสัปดาห์
สำรากผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แล้ว เขาก็เดินทางไปยังตลาด อตก.เพื่อจ่ายกับข้าวเหมือนทุกสัปดาห์ และก็มีนักข่าวติดตามไปเป็นปกติ
ที่ไม่ปกติก็คือ คราวนี้เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช ไปถึงตลาด อตก.ก็มีธุระเข้าห้องน้ำ อตก.เป็นเวลา 40 นาที ออกมาแล้วก็บริภาษนักข่าวดังกล่าว
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น กล่าวในรายการสนทนาของเขาหลายเรื่อง หนึ่งในจำนวนนั้น เขาพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็มีคณะนี้มาต่อต้าน เมื่อวานเขาบอกว่า คดีความของนายกฯ จบเมื่อไรก็ค่อยแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าแก้ก่อนจะไปกระทบคดีความ ได้ประโยชน์กับพรรคการเมืองที่จะถูกยุบพรรค ในมาตรา 309 แต่ไม่ใช่หรอกครับ ที่จะต่อต้านไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญอยู่ที่มาตรา 63 ไปเปิดรัฐธรรมนูญอ่านกันสิ เขากลัวจะแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่คาราคาซังอยู่กลางบ้านกลางเมืองทุกวันนี้ ถนนนี้ย้ายไปถนนนี้ ยึดกระทรวงศึกษาธิการ ยึดกลางบ้านกลางเมือง พอว่างมีเวลาก็เดินไปปิดถนนทุกแห่ง และคณะนี้เคลื่อนขบวนไปสาบถสาบานกันที่วัดพระแก้ว ซึ่งที่ทำได้อย่างนี้ก็เพราะมาตรา 63 เขากลัวว่า พรรครัฐบาลจะไปแก้มาตรา 63 ถ้าจะแก้จะทำอย่างที่ว่านี้ไม่ได้ครับ...”
คำพูดของนายกรัฐมนตรีหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช นี้ สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับคำบริภาษที่ว่า
เกิดมาไม่เคยเห็นใครเลวทราม ต่ำช้าเช่นนี้เลย ทุเรศจริงๆ
คนเป็นนายกรัฐมนตรี คนเป็นผู้นำของประเทศ ไม่สมควรเลยที่จะพูดเยาะเย้ยถากถาง ดูหมิ่นดูแคลนอย่างนี้
แต่เมื่อพิจารณาคำพูดดังที่ยกมานี้ ต้องบอกว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
ตั้งแต่ที่มีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญจากฝ่ายรัฐบาลหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อต้นเดือนมีนาคม (หลังจากเป็นรัฐบาลเพียงเดือนเดียว) ยังไม่มีฝ่ายใด ไม่ว่าจากรัฐบาล และจากฝ่ายประชาชนที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พูดถึงมาตรา 63 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้เลว
เพิ่งจะได้ยินก็เมื่อหลุดออกมาจากปากเน่าๆ ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น ที่ได้รับการดูถูกดูแคลนจากประชาชนทั้งหลายทั้งปวงคนนี้เอง
ประชาชนทั้งหลายต่างก็จำได้ว่า เมื่อเริ่มเข้ามาบริหารประเทศ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น บอกว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต่อเมื่อรัฐบาลจะบริหารประเทศครบเทอม หรือ 3-4 เดือนสุดท้ายก่อนจะพ้นตำแหน่ง
แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น ก็พลิกลิ้นยอมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพวกเขาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และมาตรา 309
แก้มาตรา 237 เพื่อไม่ให้ถูกยุบพรรค เพราะกรรมการบริหารพรรคไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
แก้มาตรา 309 เพื่อที่จะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวพ้นจากการดำเนินคดีในหลายกรณีที่ คตส. ตรวจสอบ สั่งฟ้องทั้งศาลอาญา ศาลสถิตยุติธรรม
ยังไม่มีใครพูดถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เลยสักคำเดียว
นอกจากปากเน่าๆ ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่น ที่ชื่อสมัคร สุนทรเวช คนนี้แหละครับ
ประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตยออกมาคัดค้านความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 และ 309 ของรัฐบาลหุ่น มาตั้งแต่วันที่รู้ว่ารัฐบาลนี้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว
และเคลื่อนขบวนออกมาพักร้างค้างแรมอยู่สะพานมัฆวานฯ และรอบทำเนียบรัฐบาลมาจนวันนี้ย่างเข้าเดือนที่ 3 แล้ว
ต่อให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 63
ต่อให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
ต่อให้ประกาศกฎอัยการศึก
ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งการลุกขึ้นสู้ของประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตยได้
อย่ามาขู่กันให้ยากเลย
และอย่าใช้ปากเน่าๆ บิดเบือนความเป็นจริง
เพราะการทำเช่นนี้ คือ พฤติการณ์ที่เรียกได้ว่า ทุเรศ และน่าสมเพชที่สุด สำหรับคนที่อยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรี
แม้จะเป็นเพียงนายกรัฐมนตรีหุ่นก็ตาม
เพราะคนเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องพูดแต่ความจริง และมีแต่จะต้องสัตย์ซื่อต่อประชาชน
อย่าว่าแต่จะต้องมีความเป็นผู้ดีอยู่ในกมลสันดานเลย
สำหรับนักข่าว เขาติดตามนายกรัฐมนตรีทุกสัปดาห์อยู่แล้ว สัปดาห์นี้ก็ติดตามอีก เมื่อทราบว่านายกรัฐมนตรีเข้าห้องน้ำ เขาก็รออยู่ห่างๆ เพื่อจะได้สอบถามราชการงานเมืองไปรายงานให้ประชาชนทราบ
เพราะรัฐบาลเพิ่งจะปรับคณะรัฐมนตรี
เพราะมีข่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะไปเขาพระวิหาร ซึ่งมีปัญหาอยู่
เพราะมีกิจการงานเมืองอีกมากมายที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น ไม่ได้บอกประชาชน
เขาทำอะไรผิด
พวกเขาทุเรศหรือน่าสมเพชตรงไหน
เป็นนักข่าวหรือนายกรัฐมนตรีที่น่าสมเพช
เป็นนักข่าวหรือนายกรัฐมนตรีที่ทุเรศ!
