xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯไม่คุยกับโจรย้ำจุดยืน"สมัคร"ต้องลาออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฉันทามติของพันธมิตรฯยืนกรานไม่เจรจากับ"รัฐบาลโจร"เด็ดขาด หนักแน่นจุดยืนรัฐบานอมินีต้องลาออกสถานเดียว "สนธิ"ลั่นลาออกไม่จบ พร้อมตั้งทนายไล่เช็กบิลรัฐบาลที่โกงชาติ หวังล่มรัฐธรรมนูญและสถาบัน "สมศักดิ์” ตอกย้ำพฤติกรรม “สมัคร” บ้าไปแล้วจริงๆ รวบอำนาจออก พ.ร.ก.พร่ำเพรื่อ การออกประชามติเพื่อถ่วงเวลา ผบ.เหล่าทัพถกหาทางแก้ปัญหาบ้านเมืองแต่แต่ไม่เจอทางออก แม่ทัพภาคที่ 1 ตอบโต้ “สมัคร” จะออกประกาศ พ.ร.ก.อีกกี่ฉบับ ไม่ถือเป็นการยึดอำนาจ พูดชัดกองทัพไม่ปฏิวัติ "สมัคร"ฟันธง ทำประชามติเพื่อให้ประชาชนเลือกข้าง "โพล"ชี้ ประชาชนค้านการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเห็นด้วยกับจุดยืนของผบ.ทบ. ที่เน้นการเจรจา ไม่ใช้กำลัง สื่อทั่วโลกประณามจัดทำประชามติเมื่อสายเสียแล้ว ขณะที่ทุกสาขาอาชีพทั่วภูมิภาค เดินหน้าอารยะขัดขืน "สมัครต้องออก" จี้เอาผิดยิงนศ.รามคำแหง ส่วนเวทีพันธมิตรฯทำเนียบ นักศึกษาเกือบทุกสถาบันขึ้นปราศรัยไล่รัฐบาล แม้ฝนตก ลูกเห็บตก

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ยังคงยืนหยัดอยู่ในทำเนียบรัฐบาลต่อเนื่องและมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินี ซึ่งถือเป็นการอารยะขันขืนต่อรัฐบาล อย่างไรก็ตาม วานนี้( 5 ก.ย.) การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯในช่วงเย็นค่อนข้างขลุกขลัก เมื่อเกิดฝนตกอย่างหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก แต่เมื่อฝนเริ่มจาง ผู้ชุมนุมได้ช่วยกันทำความสะอาด เช่นเดียวกับบริเวณหน้าสำนักงาน ก.พ. และใช้แผ่นไม้ยกสูง เตรียมปักหลักการชุมนุมค้างคืนในคืนนี้ และช่วงค่ำผู้ชุมนุมยังคงทยอยเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่อง และวานนี้(5ก.ย.)เป็นวันที่ 4 ของการประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวมถึงยังมีตัวแทนจากนักศึกษาสถาบันต่างๆเกือบทั่วประเทศขึ้นบนเวทีพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงพลังเรียกร้องให้นักศึกษาทั่วประเทศ รวมกันขับไล่นายกรัฐมนตรี
ขณะที่ทางรัฐสภาได้มีการหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยมีมติให้นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นผู้เจรจากับฝ่ายต่างๆ ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ ทหาร และรัฐบาล โดยนายประสพสุข เชื่อว่า จะได้รับการตอบรับแนวโน้มที่ดีในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ อย่างไรก็ตาม นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีแกนนำไปเจรจากับประธานวุฒิสภาแต่อย่างใด
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นบนเวทีพันธมิตรฯในทำเนียบ พร้อมขอฉันทามติกับผู้ร่วมชุมนุมว่า ถ้านายสมัครไม่ลาออก รัฐบาลชุดนี้ไม่ลาออก เราจะเจรจาไหม ซึ่งผู้ร่วมชุมนุมต่างตระโกนและยืนยันว่า "เราจะไม่เจรจา" และนี้คือ พลังอันแท้จริง เพราะพี่ๆน้องๆ ร่วมกันกับพันธมิตรฯมาก 104 วัน เป็นการแสดงพลังที่ไม่สูญเปล่า แสดงให้ลูกๆหลานๆได้เห็น และนี้คือจุดยืนของสังคมไทย ที่ไม่เคยมีครั้งไหนในประวัติศาศตร์ชาติไทย ที่กระบวนการประชาชนจะยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ แม้แต่ 14 ตุลายังสู้ไม่ได้ ครั้งนี้รวบทุกชนชั้น ทุกศาสนา รวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องความถูกต้องในสังคมไทย ที่ยิ่งใหญ่ไม่มีอีกแล้วในโลกนี้
" รัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช มีเจตนาล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือแม้แต่พวกที่เคยร่วมกับนปก.ที่เคยไปประท้วงบ้านพลเอกเปรม ยังได้รับตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ หรือแม้แต่นายจักรภพ เพ็ญแข ที่จาบจ้วงสถาบัน และพวกเราขอยืนยันและเลือกข้างแล้วว่า พวกเราขอเลือกอยู่กับพระมหากษัตริย์" นายสนธิกล่าวและยืนยันว่า ต่อให้รัฐบาลชุดนี้ลาออกไปแล้ว ทางพันธมิตรฯจะรุกต่อ โดยจะมีการตั้งทนายความขึ้นมาดำเนินการกับรัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวชให้หมด

"สมัคร"บ้าไปแล้ว ออกพ.ร.ก.ซ้ำซ้อน
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ แถลงกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มอบอำนาจให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ดูแลกฎหมาย 20 ฉบับ ควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จว่า เป็นวิธีการของเผด็จการ สิ่งที่นายสมัครพูดว่า เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย แต่นายกฯ ยึดอำนาจครม.และสั่งการคนเดียวทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีความรู้ความสามารถทำงานได้ทั้งหมด
"มันชัดเจนว่านายกฯ ไม่ไว้วางใจเเม้กระทั่งทหาร ตัวเองเป็น รมว.กลาโหม ก็ยังไม่พอ จึงยึดอำนาจเบ็ดเสร็จกับทางทหาร การกระทำแบบนี้ไม่ต้องสงสัยว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเผด็จการ ทรราชสมบูรณ์แบบ เหตุการณ์ยิงนักศึกษา ม.รามคำแหง เมื่อคืนวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา เชื่อว่าไม่ใช่ฝีมือของชาวบ้านธรรมดาฯ พวกเขาเพียงต้องการจะไปยื่นหนังสือกับนายสมัคร แต่กลับถูกยิง ทางพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รักษาการ ผบช.น. บอกว่า อาจเกิดจากชาวบ้านรำคาญนั้น เป็นการพูดพล่อยๆ แบบนี้ไม่เหมาะสม ทั้งๆ ที่ตำรวจยังไม่ได้สอบสวนเลยว่าใคร คือคนร้าย การกระทำเช่นนี้ถือว่า รัฐบาลโหดเหี้ยมอำมหิต ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน" นายสมศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่าพันธมิตรฯจะมีแนวทางการเคลื่อนแบบใด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พันธมิตรฯ จะผลักดันให้ตำรวจรีบจับคนร้ายมาให้ได้ ย้ำว่านักศึกษาคิดทำกันเอง พันธมิตรฯไม่ได้แนะนำเลย แต่นักศึกษากับพันธมิตรฯ มีแนวทางเดียวกัน คือ เรียกร้องรัฐบาลจับคนร้ายมาลงโทษ ภายในเวล 2 สัปดาห์ ซึ่งหากทำไม่ได้ในเวลาที่กำหนด นักศึกษาทุกสถาบันจะออกมาชุมนุมเต็มที่
"พันธมิตรฯยังคงมีมาตราการที่เข้มข้นที่มากขึ้น หากยังทนอยู่ ก็ต้องหน้าด้านต่อไป และจะยิ่งทำให้พันธมิตรฯ มีการต่อสู้ที่เข้มข้นขึ้นตามจิตวิทยามวลชน ทั้งดีกรี การต่อสู้ทุกรูปแบบจะเข้มข้นไปเรื่อย ๆ หากนายสมัครยังอยู่ พันธมิตรฯจะทำแบบนี้จนอยู่ไม่ได้ "

ประชามติขัดรธน.-รบ.ยื้อเวลา
สำหรับการทำประชามติที่รัฐบาลพรรคพลังประชาชนเสนอมานั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา165 วรรคสาม ในทางการเมืองนั้น สามัญสำนึกของผู้นำเป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อมีคนขับไล่กลับยืดเวลาเพื่ออยู่ให้นานที่สุด และไม่น่าเชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลก็กลับดื้อรั้นที่ไม่รู้ผิดถูก
" ผลลัพธ์ของประชามติที่ออกมานั้น คงไม่มีผลอะไรและ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังไม่ผ่านสภา ที่สำคัญการทำประชามตินั้น ยังผิดรัฐธรรมนูญด้วย ตรงนี้คือความไม่ชอบธรรม หากรัฐบาลมีสปิริต ควรลาออกไปได้แล้ว"

ผบ.เหล่าทัพถกหาทางออกแต่ไม่เจอ
วานนี้ (5ก.ย.) ที่บ้านพักรับรองของผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ภายในศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ถนนรามอินทราพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.ได้เชิญผบ.เหล่าทัพ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ., พล.ร.อ. สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร., พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.มาร่วมรับประทานอาหารเช้า และหารือถึงสถานการณ์ของประเทศภายหลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยใช้เวลาในการหารือกว่า 2 ชั่วโมง
ภายหลังที่ผบ.เหล่าทัพหารือกัน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทราบข่าวจึงโทรศัพท์นัดให้ พล.อ.อนุพงษ์ มาพบที่เซฟเฮาส์ บริเวณข้างสนามกอล์ฟกองทัพบก บางเขน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับบ้านพักรับรองผบ.สส. โดยใช้เวลาหารือไม่นาน ก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะเดินทางเข้ามาทำงานที่กองบัญชาการกองทัพบก ในเวลา 10.15 น.
รายงานข่าวแจ้งว่า การหารือของผบ.เหล่าทัพ เกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างนายสมัคร และพล.อ.อนุพงษ์ ภายหลังที่กองทัพไม่ดำเนินการตามที่นายกฯ มอบอำนาจให้ปฏิบัติตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า นายสมัคร อาจจะปลด พล.อ.อนุพงษ์ ออกจากตำแหน่งผบ.ทบ.
พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่ามีการประเมินสถานการณ์จะสามารถช่วยชาติบ้านเมืองได้อย่างไร เพราะบ้านเมืองขณะนี้ค่อนข้างลึกลับ ไม่ค่อยมีใครคิดอะไรออก จึงต้องพยายามช่วยกัน แต่จากการพูดคุย รู้สึกว่าคิดอะไรกันไม่ค่อยออก จึงยังไม่มีข้อเสนอแนะอะไรถึงนายกรัฐมนตรี
"บางทีการพบกันมากเกินไปก็เป็นข่าว จนกลายเป็นเรื่องทำให้คนบางคนระหวาดระแวง ความจริงเราไม่มีอะไร ยืนยันว่าทหารไม่มีการปฏิวัติ เพราะมันยุ่งหลายเรื่อง และไม่มีใครเห็นด้วย" ผบ.สส. กล่าว

ไม่ชอบพ.ร.ก.แต่ต้องทำตามคำสั่ง
เมื่อถามถึงกรณีที่ ครม. มีมติโอนอำนาจ กระทรวงต่างๆตามกฎหมายรวม 20 ฉบับ ให้แก่นายสมัคร ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ยังไม่เห็นมติครม.ว่าเขียนอย่างไร แต่ได้ยินข่าวมาบ้าง คงไม่มีอะไร และการมอบอำนาจให้นายกฯ คงไม่เกี่ยวว่า ท่านหวาดระแวงทหารจะออกมาปฏิวัติ เพราะทหารมีวินัย และซื่อสัตย์ต่อผู้บังคับบัญชา และการทำงานร่วมกันกับนายกฯ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า พันธมิตรฯ ยืนยันจะไม่มีการเจรจา จนกว่านายกฯจะลาออก พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะเราพูดไม่ออก ส่วนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นไม่ว่าทหารจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม หากเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ก็ต้องปฏิบัติตาม
ส่วนหากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า อาจจะเกิด ถ้าไม่คุมให้ดี แต่การคุม ไม่ใช่การห้าม ต้องพยายามสร้างบรรยากาศที่ไม่รุนแรงให้แก่ทุกคน
"ส่วนความยืดเยื้อ ไม่ใช่ว่าใครยอมแพ้ใคร แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะดีขึ้น ทหารสอนว่า ไม่มีอะไรจะทดแทนได้ นอกจากคำว่า ชัยชนะ แต่ถ้าเป็นฝ่ายเดียวกัน ไม่มีอะไรทดแทนความสามัคคีได้ "
เมื่อถามว่า ทางผบ.เหล่าทัพ จะมีการเสนอให้นายกฯ พิจารณาตนเองเพื่อบ้านเมืองหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่มี ซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายต้องการกำลังใจ โดยผบ.ทบ. ก็ต้องการกำลังใจ เพราะท่านทำงานหนัก

"ประยุทธ์”เชื่อ"หมัก”ขนหัวลุกออก พ.ร.ก.มั่ว
พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่าการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 2 ฉบับเพิ่มเติมของนายกรัฐมนตรี ไม่ถือเป็นยึดอำนาจทหาร นายกรัฐมนตรีสามารถนำอำนาจจากส่วนอื่นมาใช้ปฏิบัติได้เพื่อคุมสถานการณ์ และไม่คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นการป้องกันการปฏิวัติ เพราะทหารไม่ความคิดนี้ พร้อมปฏิเสธข่าวเรื่องที่จะแจ้งจับพันธมิตรฯ ว่าเป็นความเข้าใจผิด ตนเพียงพูดว่า " ผู้ทำผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ไม่ไปแจ้งจับ เพราะตำรวจเป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้วตามกฎหมาย"

พายุกระหน่ำธงชาติหลุดจากเสา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบกว่า เมื่อเวลา 15.30 น. เกิดฝนตกหนักทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่กองบัญชาการกองทัพบก มีฝนลูกเห็บ และลมกรรโชกแรง แต่สิ่งที่ทำให้ข้าราชการทหาร ตกตะลึง คือ ธงชาติผืนใหญ่ บนยอดเสาธงประจำกองทัพบก ที่ตั้งอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์กองทัพบก ได้หลุดจากเสา ปลิวข้ามตึกพิพิธภัณฑ์ หายไปต่อหน้าต่อตาข้าราชการทหาร ที่ยืนดูเหตุการณ์ ทำให้มีการวิพาษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา และอาจจะเกี่ยวโยงกับสถานการณ์บ้านเมืองที่คุกรุ่นอยู่ในขณะนี้

รัฐบาลกดดันให้ประชาชนเลือกข้าง
สำหรับการทำประชามติ ที่รัฐบาลพยายามฝ่าแรงต้าน เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนในการแก้ปัญหาวิกฤตในขณะนี้ และหากผลสรุปออกมานั้น กลุ่มพันธมิตรฯไม่ยอมรับนั้น นายสมัคร สุนทรเวชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวอย่างชัดเจนว่า ประชาชนทั้งประเทศจะเป็นคนจัดการ ประชามติคือคนทั้งประเทศจัดการ คะแนนมันออกเท่าไหร่จะได้ดูใจ จะได้ดูว่าคนไทยอยากอยู่แบบไม่มีกฎ ไม่มีเกณฑ์ มีเท่าไหร่ จะรักษากฎเกณฑ์มีเท่าไหร่ และการทำประชามิตเพื่อหาทางออกให้แก่บ้านเมือง
"วันนี้รัฐบาลก็เอาไม่อยู่ สภา ก็เอาไม่อยู่ ใช้วิธีนุ่มนวลทางศาลก็เอาไม่อยู่ ประกาศภาวะฉุกเฉินให้ทหารไปช่วยดูแลก็เอาไม่อยู่ ทหารบอกว่าเป็นกำแพงแต่ไม่มีประตู ประตูอยู่ที่สภา ก็พบประตูคือมาตรา 165 และก็กำลังทำกรรมวิธีที่จะออกวิธีนี้ จะสำเร็จหรือไม่ ไม่เป็นปัญหา วุฒิสภาเริ่มดำเนินการให้แล้ว มีเวลาทำ 90 วัน แต่ว่าได้รับหลักการแล้วและจะได้ภายใน 7 วัน แปรญัตติแสดงว่าไม่นานก็สำเร็จ ในวงเล็บ 2 ที่ขัดรัฐธรรมนูญเขาบอกว่า เช่น ออกประชามติว่าห้ามไม่ให้ใช้มาตรา 63 อย่างนี้ ลงประชามติไม่ได้ ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ 50 อย่างนี้ลงประชามติไม่ได้ คำอธิบายหมายความอย่างนี้ นึกว่าใครจะเข้าใจเรื่องพรรค์นี้ ในเมื่อไม่เข้าใจ ก็อธิบายให้ฟัง "

เตรียมยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายสมัครกล่าวถึงหากการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ผลจะพิจารณายกเลิกไปก่อนหรือไม่นั้นว่า " ผมคิดก่อนคุณอีก เพราะว่าทำเอาไว้อย่างนี้แล้วคนขัดขืน มันเสียหายกับพ.ร.ก. ผมจะปรึกษาหารือกันวัน 2 วันนี้ ธรรมดาอยู่ได้ 3 เดือน แต่ผมจะไม่ลากถึงอย่างนั้นหรอก ดังนั้น เมื่อใช้แล้วเขา(ประชาชน) ไม่เคารพ มันไม่ต้องออกก็ได้ ก็ยังไม่ต้องเสนอข่าวกันมาก ตนไปปรึกษาหารือกันก่อน " นายสมัครกล่าวถึงสถานะของนายกรัฐมนตรี

รบ.หรือฝ่ายค้านปลุกสงครามกลางเมือง
เมื่อนายสมัคร ถูกถามว่า ผู้นำฝ่ายค้านแสดงความเป็นห่วงว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจกลายเป็นสงครามกลางเมือง นายกฯตอบว่า คนไทยจะไม่มีวันให้เกิดเรื่องนี้ได้เลย คนไทยทุกคนรักบ้านรักเมือง ถ้าเป็นคนไทยจริง ๆ ต้องไม่เอ่ยถึงคำนี้ เพราะไม่มีเหตุผลที่จะเอ่ย คนหยิบมือหนึ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับมีคนสำคัญของบ้านเมืองเอ่ยว่าจะมีสงครามกลางเมือง มันเกิดยังไง ในเมื่อเขาบอกว่าไม่มีอาวุธ ตำรวจทหาร ก็ไม่ใช้อาวุธ ต้องรู้สึกบ้างว่าบ้านเมืองของเรามันอยู่เรียบร้อย ผมไม่ได้กลัวไม่ได้เกรง แต่มันไม่มีเหตุที่จะต้องไปเอ่ย (อนึ่ง เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคนรักอุดร นำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา นำสมัครพรรคพวกเข้ารุมทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ จ.อุดรธานี จนกลุ่มพันธมิตรฯ อุดรธานี ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคน , ช่วงค่ำวันที่1และต่อเนื่องถึงวันที่ 2 ก.ย.กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เข้ามาปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก และในช่วงเช้าของวันที่ 2 นายสมัคร ได้ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)

"ณัฐวุฒิ"ฉุนสื่อเสนอคลาดเคลื่อน
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงภายหลังได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีที่ไม่สบายใจกรณีที่มีสื่อมวลชนหลายฉบับนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนว่า การที่ครม.ประชุมนัดพิเศษ โดยให้ความเห็นชอบเรื่องการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติการตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศเรื่องการกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมาย ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี โดยมีการไปตีความว่านายกฯไม่ไว้วางผบ.ทบ.จึงได้มีการยึดอำนาจคืน

รอโปรดเกล้ารมว.ตปท.คนใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายเตช บุนนาค อดีตรมว.ต่างประเทศได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น วานนี้(5ก.ย.) เวลา 13.45 น. นายสมัคร กล่าวหลังจากเดินทางตรวจความคืบหน้าในการสร้างพระเมรุที่จะใช้ในพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รวมถึงความคืบหน้าในการบูรณะซ่อมแซมพระยานมาศฯว่า ได้นำชื่อกราบบังคลทูลฯการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศคนใหม่แล้ว

กรุงเทพโพลจี้"หมัก"ลาออก
กรุงเทพโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 1,042 คน เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้
(1.การที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 50.2 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 49.8 เห็นด้วย (2. ความคิดเห็นต่อการแสดงจุดยืนของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในการปฎิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เฉพาะที่จำเป็น โดยเน้นการเจรจาและป้องกันมิให้ประชาชนปะทะกัน โดยประชาชนเห็นด้วย ร้อยละ 83.8 ส่วนที่ไม่เห็นด้วยมีเพียงร้อยละ 16.2 (3. ความคิดเห็นต่อการที่ ส.ส. พรรคพลังประชาชน ออกแถลงการณ์ให้ ผบ.ทบ. ปฎิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามชุมนุมเกิน 5 คน และให้มีการเซ็นเซอร์สื่อนั้น ประชาชน ร้อยละ 58.3 ไม่เห็นด้วย มีเพียง ร้อยละ 41.7 เท่านั้นที่เห็นด้วย
(4. การตัดสินใจแก้ปัญหาทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนต้องการ คือ ลาออก ร้อยละ 35.6 บริหารประเทศต่อไป ร้อยละ 31.4 ยุบสภา ร้อยละ26.8 อื่นๆ เช่นให้ ครม.ลาออกให้สู้ถึงที่สุด และให้เลิกเล่นการเมืองร้อยละ 6.2

สื่อนอกเชื่อ"หมัก”แหล!
ขณะที่สื่อต่างประเทศต่างประโคมข่าวเกี่ยวกับการทำประชามติ โดยนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีระบุว่า ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการจัดทำประชามติในครั้งนี้จะช่วยคลี่คลายปัญหาในสังคมไทยที่แตกแยกออกเป็น 2 ขั้วได้อย่างไร โดยทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำถามที่จะใช้ และความโปร่งใสในการลงประชามติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการซื้อเสียง
ขณะที่ นายเจมมี มัสเซิล รองประธานสมาคมเอเชีย ให้ความเห็นว่า การทำประชามติไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่มีรากเหง้ามาจากการกล่าวหาอดีตนายกรัฐมนตรีว่าฉ้อราษฎร์บังหลวง

สหภาพฯกทท.เตรียมตอบโต้รบ.ต่อ
นายสมเกียรติ รอดเจริญ ประธานสหภาพฯ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)กล่าวว่า การที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.นัดหารือกับแกนนำสหภาพถือเป็นการแก้ไขปัญหาและร่วมหาทางออกที่ดีแต่ตนต้องเคารพต่อมติที่ประชุม สรส. ซึ่งขณะนี้สหภาพฯ กทท.จะยุติการประชุมฯไว้ก่อน และจะติดตามสถานการณ์ ทางการเมืองว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หากสถานการณ์เมืองยังไม่ดีขึ้น วันที่ 8 ก.ย.สหภาพฯ กทท.จะหารือกับทางสมาพันธ์ เพื่อออกมาตราการตอบโต้รัฐบาลอีก ซึ่งอาจเป็นการลาหยุดงานเพิ่มเติม

พธม.สงขลาขยายวงไล่ “หมัก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ หลายองค์กรการเมืองภาคประชาชนใน จ.สงขลา เริ่มออกมาเคลื่อนไหวขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา รวมถึงกลุ่มนิสิตนักศึกษาอย่างน้อย 5 สถาบันในจ.สงขลา ออกมาเคลื่อนไหวและประกาศจุดยืนทางการเมืองชัดเจน โดยเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรสงขลาในการรวมตัวเคลื่อนไหว
นายไว พรหมเษส รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทยภาคใต้ กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วว่า ภาพรวมของการเดินรถในภาคใต้ทุกขบวนยังคงหยุดเดินรถ และยังหยุด 100 % ซึ่งจากการประสานงานยังยืนยันที่จะมีมาตรการเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีก

ภาคีฯม.ราชภัฏโคราชประณามยิงนศ.รามฯ
นายนพรัตน์ วงษ์วัฒนะ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 แกนนำกลุ่มภาคีนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้อ่านแถลงการณ์ โดยระบุว่า พวกเราขอประณามผู้ก่อเหตุยิงนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่หน้าบ้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และใช้ความรุนแรงกับกลุ่มนักศึกษาซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ

แพทย์ ผนึกกำลังสู้ต้านสมัคร
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทแห่งประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาชมรมแพทย์ชนบทแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งทั่วภาคใต้ ทุกโรงพยาบาลจะขึ้นป้ายหน้าโรงพยาบาล ประณามการกระทำที่รุนแรง และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายจักร พันธุ์ชูเพชร อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) กล่าวว่า แนวคิดการจัดทำประชามติของรัฐบาล 2,000 ล้านบาท เป็นการซื้อเวลาของรัฐบาล เพราะนายกรัฐมนตรี ต้องการยื้อเวลาในผ่านพ้นเดือนตุลาคม หวังให้เงินงบประมาณปี 52 ผ่าน เพื่อรับโครงการเมกะโปรเจกต์ทั้งหลาย ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะเข้าสู่ขบวนการคอร์รัปชันอีกหลายโครงการ จึงไม่สมควรที่ให้งบปี 52 บริหารโดยรัฐบาลสมัคร เพราะไม่มีความชอบธรรมเหลืออยู่แล้ว

กกต.พิจิตรชี้ลงประชามติไม่ช่วยแก้ขัดแย้ง
นายทวีป เล็กสู้ กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า การลงประชามติที่จัดโดยรัฐบาล ทุกฝ่ายมองว่าไม่ยุติธรรมแน่ๆเพราะผู้จัดการลงประชามติมีส่วนได้เสีย ไม่มีองค์กรอิสระมาจัดการ อีกทั้งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร ก็คาดว่าไม่มีใครเคารพผลดังกล่าว จึงไม่เข้าใจว่าการลงประชามติทำไปเพื่ออะไร จึงอยากขอเตือนรัฐบาลว่าคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้จะดีกว่า เพราะถ้าเปิดให้ลงประชามติ ก็จะมีกลุ่มเสื้อเหลืองกับกลุ่มเสื้อแดง ออกมาชนกันเหมือนเดิม ซึ่งไร้ประโยชน์

กุ๊ยถ่อย"ขวัญชัย”สั่งตี!! พธม.ต่อต้าน
ด้านกลุ่มผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 ก.ย.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้ประกาศผ่านคลื่นสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ทางคลื่น FM 97.50 MHz ว่า ตนเองได้เตรียมสมาชิกชมรมคนรักอุดรกว่า 100 คน เป็นทัพหน้าในการดูแลการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 9 กันยายน ที่จะถึงนี้ และทัพหลังอีก 100 คน เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หากมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น