xs
xsm
sm
md
lg

"หมัก"โวยทหารไม่ยอมยิงวิ่งพล่าน-ยึดวิทยุฟอกตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – หมักวิ่งพล่านออกสื่อวิทยุทั้งเช้าและบ่าย พล่ามเอาดีใส่ตัวไม่หยุด ยังดื้อดึงไม่ยุบสภา ไม่ลาอก แม้ถูกเหยียบหัว แจง"เตช" ลาออกเพราะถูกบีบคั้น ซัดสื่อตีข่าวองคมนตรีเข้าเฝ้าฯ บอกเป็นเรื่องธรรมดา อัดนักวิชาการโดดรับแนวคิดการเมืองใหม่ ก่อนเผ่นหลบสื่อออกทางกองขยะหลังกรมประชาฯ ไปเรียกประชุมครม. ด่วน เพื่องัดลูกไม้ "ทำประชามติ" อ้างเพื่อให้พลังเงียบแสดงความเห็น ยุติความขัดแย้ง 2 ฝ่าย เดือดทหาร มีปืนแล้วไม่ยิง มีดาบแล้วไม่ฟัน ให้ปิดเอเอสทีวี ก็ไม่ปิด

เมื่อเวลา 07.35 น. วานนี้ (4 ก.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้เดินทางไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ คลื่น 92.5 MHz เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น จนกระทั่งรัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง
 
ทั้งนี้ นายสมัคร ได้เริ่มต้นด้วยการกล่าวชี้แจงถึงสถานการณ์ทางการเมือง หลังจากมีกระแสข่าวว่า นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ ลาออก มีข่าวว่าองคมนตรีไปเข้าเฝ้าฯ นายกรัฐมนตรีไปเข้าเฝ้าฯ ตนจึงต้องมาพูดกับพี่น้องประชาชนผ่านทางรายการนี้

นายสมัคร กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในขณะนี้ มีจุดเริ่มต้นจากมีคนออกมาต่อต้านรัฐบาล โดยยกเอาเรื่องคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาเป็นประเด็น จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเรื่องหมิ่นพระบรมเดชาชานุภาพ เรื่องเขาพระวิหาร เรื่องการก่อสร้างรัฐสภา จุดยืนเปลี่ยนมาตลอด แต่รัฐบาลก็อดทน ไม่ยอมให้เกิดการปะทะ แต่ในที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้

นายสมัคร กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ มีผู้คน 5-6 คน ที่ไม่มีสถานะอะไรรองรับเลยได้เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล แล้วประกาศชัยชนะ คนพวกนี้เคยทำให้เกิดการปฏิวัติมาแล้วในอดีต เมื่อเราได้ประชาธิปไตยกลับมา และตนได้เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำงานมา 7 เดือน ก็มีคนอยากล้มล้างประชาธิปไตยอีก โดยพยายามหาเหตุให้เกิดการนองเลือด แต่รัฐบาลก็ พยายามนุ่มนวล โดยการใช้กฎหมาย แต่ในที่สุดก็เกิดเหตุรุนแรงขึ้นจนได้

"เหตุการณ์คืนวันที่ 2 ก.ย. ผมยืนยันว่าต้องมีการสอบสวน และขอร้องให้ทหารออกมาช่วย จากนั้นผมได้ไปประชุม หารือกับทหารและตำรวจ สรุปว่าต้องดับชนวน ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร โดยให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เป็นผูรับผิดชอบ"

นายสมัคร ยังกล่าวถึงการประชุมร่วม 2 สภา ที่มีการเสนอให้ นายกฯ ลาออก แต่ตนบอกว่า ออกไม่ได้ เพราะเป็นระบอบประชาธิปไตย ตนจะอยู่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย

"ขอยืนยันว่า 7 เดือนที่ผ่านมา ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย เมื่อวันก่อนผมได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มีข่าวว่าผมจะลาออก ผมขอยืนยันว่า จะไม่ลาออก โลกก็กำลังเฝ้ารอสถานการณ์อยู่ ทูตต่างชาติยืนยันว่า รับไม่ได้กับเรื่องปฏิวัติ การปฏิวัติโดยประชาชน ก็รับไม่ได้เพราะไม่มีเหตุผล จึงขอให้เราตรองดูว่า ถ้าผมลาออกแล้ว ประเทศจะเป็นยังไง"

นายสมัคร ยังกล่าวถึงกรณี นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ ลาออกว่า เนื่องจากถูกบีบบังคับจากหลายฝ่าย จนภรรยาท่านทนไม่ได้ เพราะสามีมาอยู่กับรัฐบาลที่คนเขาดูหมิ่นเหยียดหยามกันทั้งเมือง ทำให้นายเตช ทนไม่ได้ เมื่อท่านขอถอนไป ก็ไม่เป็นปัญหา

"นายกรัฐมนตรี ถูกเหยียบหัวเหยียบหาง ก็ยังอยู่ เพราะผมเป็นนักการเมือง รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมถึงได้บอกว่า ความกลัวทำให้เสื่อม ผมไม่กลัวหรอกครับ ผมมีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองนี้ ผมต้องรักษา แต่ท่านเป็นนักวิชาการ เพราะฉะนั้นใครที่มานั่ง คาดการณ์นายสมัครออกไป ขั้นตอนหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร เขาบอกเสร็จขั้นตอนจะเป็นอย่างไร เขาจะใช้การเมืองใหม่" นายสมัคร กล่าว

"ป๋าเปรม"เข้าเฝ้าฯ ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้น

นายสมัคร กล่าวว่า เมื่อคืนก็มีข่าวใหญ่โต ว่า พล.อ.เปรมไปเข้าเฝ้าฯ นายสมัครไปเข้าเฝ้าฯ ผมเห็นหัวหนังสือพิมพ์เมื่อเช้า ผมก็นอนอยู่บ้านผม ดูโทรทัศน์ พล.อ.เปรมไปเฝ้าฯ ท่านเป็นองคมนตรีก็ต้องไปเฝ้าฯ ผมเป็นนายกฯ ผมก็ไปเฝ้าฯ ซึ่งผมไปเฝ้าฯ ตั้ง 10 หนแต่ผมไม่เคยเล่าซักที

นายสมัคร ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะใช้แนวคิดการเมืองใหม่ ที่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ร้อยละ 30 และสรรหาอีกร้อยละ 70 โดยตั้งคำถามไปถึงนักวิชาการทั้งประเทศว่า ยอมรับแนวคิดดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะหากจะมีการใช้แนวคิดนี้จริง ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่กลุ่มพันธมิตรฯไม่สามารถสั่งได้ทั้งหมด พร้อมทั้งวอนประชาชนให้ใช้วิจารณญานว่า การร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจะส่งผลต่อประเทศชาติอย่างไร สิ่งที่ได้มาคุ้มกับสิ่งที่เสียไปหรือไม่ และแกนนำพันธมิตรฯ จะตอบแทนประชาชนอย่างไร เมื่อได้รับชัยชนะ

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า จะไม่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุม โดยเห็นด้วยกับแนวทางการแก้ปัญหาแบบละมุนละม่อม ของผบ.ทบ. โดยแนะให้แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 9 คน ที่ถูกออกหมายจับ มอบตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล เพื่อให้เรื่องต่างๆ จบลงอย่างเรียบร้อย

นายสมัคร กล่าวในตอนท้ายว่า ที่มาพูดวันนี้ ก็อยากจะบอกว่า ท่านที่คิดเหมือนกับว่า รถไฟขบวนใหญ่ที่อยู่ในทำเนียบฯ ถ้าไม่มาร่วมแล้ว เหมือนจะตกขบวนรถไฟ นักศึกษาธรรมศาสตร์ มีเท่าไร หนุ่มๆ สาวๆ ออกมาพูดบนเวที บรรดาหนู ๆ คิดกันหรือเปล่าว่า จุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหน สำหรับตัวท่านเองคืออะไร สำหรับประเทศชาติจะจบอย่างไร

"ผมแน่ใจว่าถ้า หากผมยังทำหน้าที่ถือหางเสือบ้านเมืองนี้อยู่ เรื่องนี้ต้องจบได้ครับ ชาวโลกเขาเฝ้าดูเราอยู่ ขอลาก่อนนะครับ วันนี้เป็นเรื่องกรณีพิเศษ ขอแสดงความผิดหวังต่อท่านทั้งหลายที่เตรียมการนะครับ ว่ามาประกาศลาออก มาโน่นมานี่ ไม่ล่ะครับ สวัสดีครับ"

"หมัก" ฝ่ากองขยะหนีนักข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายสมัคร ชี้แจงผ่านรายการวิทยุแล้ว ได้หลบผู้สื่อข่าวออกทางด้านหลังของอาคารกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นที่ทิ้งขยะ โดยนายสมัคร ยกมือส่งสัญญาณไม่ให้สัมภาษณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า จะตั้งใครมาแทนนายเตช และเมื่อถามว่า จะเป็นไปได้ไหมที่จะตั้งโต๊ะเจรจากับพันธมิตรฯ นายสมัคร ก็ไม่ตอบ พร้อมกับให้ผู้สื่อข่าวไม่ต้องตาม
 
ต่อมา นายสมัคร ได้เรียกรัฐมนตรีบางส่วน เข้าหารือที่บ้านพิษณุโลก ก่อนเรียกประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อเวลา 10.30 น. โดยมีวาระเร่งด่วนเพื่อพิจารณาการตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพิจารณาการทำประชามติ ตามข้อเสนอของพรรคชาติไทย เพื่อคลี่คลายปัญหาต่างๆ

งัดลูกไม้ทำประชามติซื้อเวลา

หลังการประชุม ครม.นัดพิเศษ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า เพื่อเป็นการแก้ไขวิกฤติของบ้านเมือง ทาง ครม. เห็นชอบให้นำรัฐธรรมนูญ มาตรา165 ที่กำหนดให้มีการจัดทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนทั้งประเทศ แต่มีเงื่อนไขสำคัญ คือ จะต้องมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญรองรับ ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภา ที่จะพิจารณาเห็นชอบในวันที่ 8 ก.ย.นี้ ก่อนจะประกาศใช้ ลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

ทางรัฐบาลจึงขอความกรุณาจากส.ว.ให้พิจารณากฎหมายลูกโดยเร็ว เพื่อจะได้ทำประชามติใน 30 วันโดยจะมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้รวบรวมความเห็น ความต้องการ และปัญหาของประเทศ ที่แต่ละฝ่ายมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน และสิ่งที่แต่ละฝ่ายเรียกร้อง ว่าแท้จริงประชาชน 63 ล้าน ต้องการอะไร

"ทันทีที่ ส.ว.มีมติเห็นชอบกฎหมายนี้ จะให้มีการรณรงค์ ชี้แจงประชาชนภายใน 30 วันทันที จากนั้นจะกำหนดวันลงประชามติประมาณ เดือน ต.ค. ที่สำคัญการทำประชามติครั้งนี้ไม่ใช่มัดมือชก และรัฐบาลไม่ได้ซื้อเวลา" โฆษกรัฐบาล กล่าว และว่าเป้าหมายการทำประชามติ คือต้องการให้ประชาชนที่เป็นพลังเงียบ ออกมาแสดงความคิดเห็นให้มากที่สุด

"คนที่ไปยึดทำเนียบฯ 3 หมื่นกว่าคน ต้องการให้นายกฯ ลาออกและยุบสภา แต่ยังมีพลังเงียบ ที่ยังไม่ออกมาให้ความเห็น และหากประชามติออกมาอย่างไร ทางรัฐบาลพร้อมยอมรับ" โฆษกรัฐบาล กล่าว

เลิกพาสปอร์ตแดงไร้สาระ

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ อสมท. นายสมัคร ได้เดินทางไปออกรายการ "คุยได้คุยดี กับวีระ ธีรภัทร" ทางคลื่นเอฟเอ็ม 96.5 ร่วมกับนายวีระ ธีรพัฒน์ ที่ทำหน้าที่พิธีกร ใช้เวลา 1 ชม.

โดยนายวีระ ได้เริ่มถามถึงการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฯว่าคิดหรือไม่จะเจอเหตุการณ์อย่างนี้ นายสมัครกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดจะเป็นนายกฯ แต่ความจำเป็นบังคับ และไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์ที่รุนแรงขนาดนี้ สาเหตุหลักเกิดจากความชิงชังนายกฯคนเก่า แล้วมีความพยายามโยงมาถึงตน ทั้งๆที่ตนมาด้วยความถูกต้อง แต่คนไม่ถูกต้องมาไล่ ดังนั้นถึงอย่างไรก็ไล่ไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการมองว่า นายสมัคร เอื้อเฟื้อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีไม่ยกเลิกพาสปอร์ตแดง นายสมัคร ชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของกระทรวงการต่างประเทศ แต่เขาโยนมาให้ตน ซึ่งหลักการทางกระทรวงบอกมาเรียบร้อยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องถือพาสปอร์ตธรรมดา พาสปอร์ตแดงยกเลิกเมื่อใดก็ได้ แต่เห็นว่ายังไม่ต้องทำทันที แล้วพาสปอร์ตแดงมันทำอะไรได้ ตนถือยังโดนค้นกระเป๋า มันคุ้มครองอะไรได้ เรื่องยกเลิกไม่มีปัญหา แต่ตนอยากเจอปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เพราะฝ่ายการเมืองบอกว่าเรื่องนี้เจ้าตัวสามารถตัดสินใจเองได้

ตกลงกับผบ.ทบ.แล้ว ไม่ปิด ASTV

นายสมัคร ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลไม่สามารถสั่งปิดสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีได้ ว่า เราไม่สนใจเรื่องนี้ เมื่อทหารโดย ผบ.ทบ. มาถ่วงน้ำหนัก โดยระบุว่า เอ็นบีที ก็ปลุกระดมเหมือนกัน หากจะปิด เอเอสทีวี ก็ต้องปิดเอ็นบีที ด้วย แต่ในเมื่อเอ็นบีที มีความจำเป็น ก็ต้องไม่ปิดทั้งคู่ เมื่อเป็นอย่างนี้ ตนก็ต้องโอเค จึงเลือกหนทางอื่น เริ่มออกรายการที่กรมประชาสัมพันธ์ และมาถึงรายการนี้ ตนพูดกับ ผบ.ทบ. เรียบร้อย

พิธีกรถามว่า วันนี้มีเสียงเรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภา หรือลาออก นายสมัคร ย้อนถามว่า เรียกร้องมาแล้วยุติหรือไม่ ทำไมต้องทำตามเสียงเรียกร้อง เมื่อถามว่า ทำไมถึงตัดสินใจเรื่องนี้ยาก นายสมัคร ตอบว่า ถ้าจะตัดสินใจ มันไม่ยาก แต่การตัดสินใจอยู่ ยากกว่า แต่ต้องตัดสินใจอยู่ เวลานี้มี 96 ประเทศ ที่มีกงศุลในไทย เขาเฝ้าดูอยู่ว่าเราจะไปอย่างไร ตนคุยกับแม่ทัพ นายกอง เขาบอกว่าปฏิวัติอีก ก็รับไม่ได้ ประชาชนปฏิวัติ เขาก็รับไม่ได้ เรื่องยุบสภา ตนไม่มีปัญหา ที่สำคัญจะมีคนมาสั่งให้ยุบสภาไม่ได้ ถ้ามีสภาใหม่แล้วยังมีการเรียกร้องอีก จะต้องยุบกันอีกใช่หรือไม่ และการเรียกร้องให้ลาออกนั้น อยากถามว่ามีเหตุผลอะไร เพราะลาออก คนพวกนี้ก็ไม่ออกจากทำเนียบฯ เขาจะต้องเดินต่อไปที่ 70/30 ส่วนที่ เกรงกันว่าหากตนไม่ยุบสภา ลาออก และไม่มีการรัฐประหาร จะทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อนั้น เวลานี้เริ่มทำให้มันหย่อน โดยการพูดกับประชาชนทั้งประเทศ

"ผมมีหน้าที่ต้องดูแลบ้านเมือง ขอถามว่าถ้าผมเป็นกัปตัน ขับเรือได้ แต่มีลูกเรือคนหนึ่งไม่เอากัปตัน บอกให้ลงไปได้ไหม คนทั้งเรือก็ตกใจ แต่ผมไม่กลัวคนที่มาข่มขู่ มาตรการที่ผมตั้งไว้ ผมตายไปแล้วอีกกี่ 10 กี่ 100 ปี คนก็จะต้องพูดถึง เมืองไทยใครคนใดคนหนึ่งจะลุกมาข่มขู่มาตรการที่เป็นทางราชการไม่ได้ ผมทำเพื่อนบ้านเมือง โดยส่วนตัวไม่มีอะไรแล้ว ไม่มีผลประโยชน์ได้เสียอะไรเลย ผมต้องอยู่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้คู่เมืองไทย"

ข้องใจทหารทำไมไม่ยิง

พิธีกรถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บ้านเมือง และประชาชนเดือดร้อน นายสมัคร กล่าวว่า เวลานี้คนที่ชุมนุมข้างในอยากออก แต่กลุ่มพันธมิตรฯ กันไว้ไม่ให้ออก แม้แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ก็ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเอกสารบัญชีเงินเดือนต่างๆ สะดุดหมด ต้องเข้าไปขอ มาตรการของเราที่อยากทำคือ ออกได้ แต่ไม่ให้เข้า เวลานี้คนที่อยู่ในทำเนียบฯ ละเมิดกฎหมาย

เมื่อถามว่า ถ้าพันธมิตรฯ ไม่ออกจากทำเนียบฯ การบังคับใช้กฎหมายจะทำอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า พอประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินปั๊บ ทหารได้รับปืน ต้องยิงทันที รับดาบก็ต้องฟันทันที ถามว่าถ้ามีปืนแล้วเหน็บไว้ก่อน แล้วยืนคุมเชิงได้หรือไม่ มีดาบก็ใส่ในฝัก ยังไม่ต้องชัก ได้ตกลงกับ ผบ.ทบ.ว่า ตนอดทนรอได้ สิ่งที่จะให้ทำคือ ล้อมไว้ ไม่ให้เข้า แต่จะให้ออก และตอนนี้ก็รู้ว่า คนข้างในอยากออก แต่เขาไม่ให้ออก ข้างในมีประมาณ 3,000 คน วันนี้ บรรยากาศข้างในไม่ได้สวยสดงดงามเหมือนแต่ก่อน

จี้ ส.ว.เร่งคลอด กม.ประชามติ

นายสมัคร กล่าวถึงการเรียกประชุม ครม.เร่งด่วนว่า เพราะการประกาศแต่งตั้งกองอำนวยการแก้ฉุกเฉินจะต้องให้ ครม. สลักหลัง ยืนยันภายใน 3 วัน แล้วอำนาจรัฐมนตรีทั้งหลายใน กทม. ทั้งหมดจะต้องมอบให้ตนเอง ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ก. เลยทำเสียให้เสร็จวันนี้ แล้วการประชุม ครม.วันนี้ ได้คุยเรื่องที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และนายสุทิน คลังแสง กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เสนอถึงการใช้ พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อหาข้อสรุป ข้อขัดแย้งที่หาทางออกไม่ได้ เช่น 1. เห็นว่าสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ทำถูกต้องให้ลงเครื่องหมายถูก ก็ต้องถาม 2 ช่อง ถูกหรือผิด ข้อ 2. เห็นว่ารัฐบาลถูกต้องก็การัฐบาล เห็นว่าพันธมิตรฯ ถูกต้องก็กาพันธมิตรฯ ใช้เวลา 1 เดือน ในการรณรงค์เต็มที่

พิธีกรซักว่า ระหว่างนี้ พันธมิตรฯ ยึดทำเนียบฯ ต่อไปได้ใช่ไหม นายสมัคร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ก็จะรอ แต่เวลานี้ที่จะขอร้อง ที่ต้องมาออกรายการก็เพื่อพูดไปถึงวุฒิสมาชิก ท่านมีเวลา 90 วัน กฎหมายนี้มันผ่านสภาผู้แทนฯไปแล้ว เข้าวุฒิฯ วันจันทร์ที่ 8 ก.ย.นี้ มาออกข่าวก็เพื่อขอความกรุณาว่า ท่านจะทำให้รวดเร็วหน่อยได้หรือไม่ สัก 3 วัน ท่านผ่านเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีทางออก เป็นประตูที่ ผบ.ทบ. พูดไว้ ให้แก้กันในสภาฯ

คุยพรรคร่วมยังทำงานมีความสุข

พิธีกรถามว่า พรรคร่วรัฐบาล จะร่วมหัวจมท้ายกับท่านต่อไปอีกหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า เขาก็มีความสุข ที่ได้ทำงานด้วยกันทั้ง 5 พรรค ดูอย่างพรรคเพื่อแผ่นดิน หัวหน้าถอน แต่ลูกพรรค ไม่ถอน เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ก็มีข่าวจะออก แต่ก็ไม่ออก ลูกพรรคเขาไม่เอาด้วย ก็ยังอยู่ต่อ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ตนก็เคารพ นับถือ เมื่อท่านแสดงความเห็นให้เอาเรื่องเข้า 2 สภา ตนก็ทำตาม ทุกคนอยู่กันแบบไม่มีอะไรที่เป็นความขัดแย้ง

พิธีกรถามว่าไม่ต้องทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่าแก้แล้วมันเสียหายอย่างไร ถ้ามันพ้นวาระนี้ไปก็โดนยุบอีก วันข้างหน้าคนที่เล่นการเมืองต่อจากนี้ไป ก็โดนเหมือนเดิมอีก เลือกตั้งมาก็เจอแบบนี้อีก จะแก้เพื่อวันข้างหน้า

ศาลตัดสินลงโทษถึงจะไป

เมื่อถามถึงคดีความต่างๆ ของนายกฯ ที่ยังค้างในการพิจารณาของศาล นายสมัคร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ออกก็ออก ให้มันรู้กันไป เลยว่าเป็นอย่างนั้น ก็ให้ศาลท่านอ่านคำสั่งไป ตนจะไปสหประชาชาติในวันที่ 26 ก.ย. ต้องไปประชุมทูตทั้งหลายที่ยุโรป ก่อนหน้านั้นศาลจะอ่านวันที่ 25 ก.ย. ตนส่งเอกสารหลักฐานไปหมดแล้ว ขอเลื่อนการอ่านไป 7 วัน 8 วัน เพราะต้องไปทำงานให้บ้านเมือง ก่อน ไม่ได้หนีไปไหน

พิธีกรถามว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องชุมนุมยึดทำเนียบฯ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยติดต่อมาหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะส่งข้อความมา แต่ผ่านช่องทางล่าม โดยบอกว่า เขาตัดขาดออกไปตั้งแต่วันที่ภรรยา ถูกคดีความ ก็ต้องตัดสินใจอย่างนั้น ตนยังบอกผ่านล่ามไปว่า ไปเดินให้เขาถ่ายรูปทำไม ควรจะไปอยู่เงียบๆ นั่นคือความสัมพันธ์ที่ยังมีกันอยู่

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ นายสมัคร มีแผนจะเดินสายออกรายการโทรทัศน์ของเอกชน เนื่องจากที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ใช้สื่อของรัฐวิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่นเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นทำให้นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา พิธีกรช่อง 3 รายการข่าว "เรื่องเล่า เช้านี้" ติดต่อขอสัมภาษณ์พิเศษ นายสมัคร แต่นายสมัคร ได้ยกเลิกไป โดยอ้างว่าไม่พร้อม

ทั้งนี้ระหว่างที่ นายสมัคร ไปร่วมงาน "ข้าวไทยครบวงจร" ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลา 16.30 น. ภายหลังร่วมงานเสร็จ ก็ได้หายตัวไปทันที โดยไม่ให้สื่อมวลชนติดตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น