ผู้จัดการรายวัน - ทียูเอฟมั่นใจยอดขายปีนี้ทะลุ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากสหรัฐได้ปรับลดอัตราภาษีการทุ่มตลาดกุ้งขั้นสุดท้ายลงเหลือ 2.85% จากเดิมที่เคยถูกประกาศอัตราภาษีในเบื้องต้น 15.30%
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (ทียูเอฟ) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศผลการทบทวนอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(AD)กุ้งในขั้นสุดท้ายแล้ว โดยบริษัทฯได้รับการพิจารณาปรับลดอัตราภาษีใหม่เหลือ 2.85% จากเดิม 15.30% เมื่อช่วงเดือนก.พ. 2551 โดยบริษัทฯได้จ่ายอัตราภาษีADกุ้นให้สหรัฐอยู่ที่ 5.95% ทำให้บริษัทฯได้รับเงินภาษีคืนในช่วงระหว่างก.พ. 2549 - ม.ค. 2550 เป็นเงิน 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอัตราภาษีADใหม่นี้จะส่งผลดีต่อการวางเงินประกันการนำเข้ากุ้ง หรือซีบอนด์ที่ลดลงด้วย
สำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์กุ้งแช่แข็งของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกนั้น มีอัตราการเติบโตสูงถึง 31% จากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน การดำเนินงานของบริษัทจากนี้ไปจะมีความชัดเจนมากขึ้น บริษัทจะดำเนินยุทธศาสตร์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้งให้เข้มข้นขึ้น โดยเน้นการทำตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ปีนี้บริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐตามที่ตั้งไว้ โดย 6เดือนแรกของปี 2551 บริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 32,207.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21%
นายธีรพงศ์ กล่าวว่า ในช่วง 6เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศอัตราเบื้องต้นของภาษีเอดีกุ้งของบริษัทในอัตราที่สูงถึง 15.30% บริษัทฯร่วมกับAkin Gump ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสถานทูตไทยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ได้มีการติดตามแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐทบทวนอัตราภาษีใหม่ จนได้เอกสารการยืนยันถึงอัตราภาษีใหม่ที่ปรับลดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (ทียูเอฟ) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศผลการทบทวนอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(AD)กุ้งในขั้นสุดท้ายแล้ว โดยบริษัทฯได้รับการพิจารณาปรับลดอัตราภาษีใหม่เหลือ 2.85% จากเดิม 15.30% เมื่อช่วงเดือนก.พ. 2551 โดยบริษัทฯได้จ่ายอัตราภาษีADกุ้นให้สหรัฐอยู่ที่ 5.95% ทำให้บริษัทฯได้รับเงินภาษีคืนในช่วงระหว่างก.พ. 2549 - ม.ค. 2550 เป็นเงิน 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอัตราภาษีADใหม่นี้จะส่งผลดีต่อการวางเงินประกันการนำเข้ากุ้ง หรือซีบอนด์ที่ลดลงด้วย
สำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์กุ้งแช่แข็งของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกนั้น มีอัตราการเติบโตสูงถึง 31% จากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน การดำเนินงานของบริษัทจากนี้ไปจะมีความชัดเจนมากขึ้น บริษัทจะดำเนินยุทธศาสตร์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้งให้เข้มข้นขึ้น โดยเน้นการทำตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ปีนี้บริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐตามที่ตั้งไว้ โดย 6เดือนแรกของปี 2551 บริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 32,207.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21%
นายธีรพงศ์ กล่าวว่า ในช่วง 6เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศอัตราเบื้องต้นของภาษีเอดีกุ้งของบริษัทในอัตราที่สูงถึง 15.30% บริษัทฯร่วมกับAkin Gump ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสถานทูตไทยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ได้มีการติดตามแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐทบทวนอัตราภาษีใหม่ จนได้เอกสารการยืนยันถึงอัตราภาษีใหม่ที่ปรับลดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
