xs
xsm
sm
md
lg

ศาลให้พันธมิตรฯ อยู่ทำเนียบฯ ต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วานนี้ ( 29 ส.ค.) ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และทำลายข้าวของเครื่องใช้ รื้อถอนเต้นท์ ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และพยายามบุกเข้าไปสลายการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลว่า เป็นการเข้าไปเคลียร์ตามคำสั่งศาลนั้น

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตร ฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอทุเลาการบังคับคดีโดยฉุกเฉินอย่างยิ่ง ในคดีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร ฯ , นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นจำเลยที่ 1-6 เรื่องละเมิด และขับไล่ พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ให้จำเลยทั้งหก กับพวก ออกจากทำเนียบรัฐบาล รื้อถอนเวทีปราศรัย รวมทั้งขนย้ายสิ่งกีดขวางทั้งหมดในทำเนียบรัฐบาล และให้จำเลยทั้งหก กับพวก เปิดพื้นที่จรจาจรบน ถ.พิษณุโลก – ถ.ราชดำเนิน ทุกช่องจราจร และเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ศาลแพ่งยังได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งจำเลย อ้างว่าโจทก์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปบังคับคดี รื้อถอนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมิได้ปฏิบัติตามกฎหมาย และทุบตีร่างกายประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงขอให้ศาลงดการบังคับคดีไว้ก่อน

ต่อมาเวลา 17.00 น. ศาลแพ่งได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งโดยเห็นว่า เนื่องจากทนายจำเลยทั้ง 6 ได้ยื่นคำร้องอ้างว่า ได้มีการอาศัยหมายบังคับคดีที่ศาลออกตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไปดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน ศาลจึงเห็นควรอธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ให้คู่ความเข้าใจให้ชัดเจน กล่าว คือ ตามคำสั่งที่ระบุว่า " จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหก ออกจากทำเนียบรัฐบาลและบริเวณพื้นที่ทำเนียบฯทั้งหมด ให้จำเลยทั้ง หกดำเนินการให้กลุ่มผู้ชุมและรื้อถอนเวทีปราศรัยรวมทั้งสิ่งกีดขวางอื่นๆออกไปจากบริเวณดังกล่าว" ซึ่งการแปลความคำสั่ง ต้องอ่านทั้งประโยคต่อเนื่องกัน แล้วจะได้ความว่า คำว่า ออกไปจากบริเวณดังกล่าว หมายถึงออกไปจากพื้นที่บริเวณทำเนียบฯ เท่านั้น

ในส่วนคำสั่งที่ระบุว่า " ให้จำเลยทั้ง 6 ดำเนินการให้เปิดพื้นที่จราจรถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน เพื่อให้ประชาชน คณะรัฐมนตรี โจทก์ ข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานในทำเนียบฯ สามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสะดวก" นั้น เป็นคำสั่งที่ต่อเนื่องกัน การแปลความ จึงต้องอ่านข้อความในคำสั่งทั้งประโยค มิใช่นำข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของประโยคมาแปลความ

ดังนั้นเมื่ออ่านประโยครวมแล้วมีความหมายว่า การเปิดพื้นที่จราจร ถนนพิษณุโลกและถนนราชดำเนินนั้น เป็นการให้เปิดพื้นที่จราจรของถนนดังกล่าว ที่ติดกับทำเนียบฯ เพื่อให้สามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยสะดวกเท่านั้น

ในส่วนของคำสั่งที่ระบุว่า "ให้คำสั่งนี้มีผลทันที" หมายถึงให้คำสั่งมีผลบังคับแก่จำเลยได้ทันที แม้จำเลยจะยังมิได้รับการแจ้งคำสั่ง ส่วนการบังคับคดีจะดำเนินการได้เพียงใด ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากจำเลยทั้งหก ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ซึ่งศาลมีคำสั่งรับอุทธรณ์ และรับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของ จำเลยทั้ง 6 แล้วนั้น วันนี้ จำเลยทั้งหก ได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีโดยฉุกเฉินอย่างยิ่ง อ้างว่า โจทก์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปบังคับคดีโดยรื้อถอนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 เบญจ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อาศัยหมายบังคับคดีของศาล เข้าทุบตีร่างกายประชาชน ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณา เห็นว่า หากยังคงให้มีการบังคับคดีต่อไปจะเกิดความเสียหาย จึงเห็นควรให้งดการบังคับคดีไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 292 (2) จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา แจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ เบื้องต้นให้แจ้งคำสั่งทางโทรสารก่อน และให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลอุทธรณ์โดยเร็ว

ยกคำร้องถอนหมายจับ

ต่อมาเวลา 19.00 น.วันเดียวกันนี้ ศาลอาญา ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งขอเพิกถอนหมายจับของ9 แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งศาลพิเคราะห์ แล้วเห็นว่า การออกหมายจับเป็นขั้นตอนแรก เพื่อให้ได้ตัวบุคคลมาสอบสวน เป็นเรื่องระหว่างศาล กับพนักงานสอบสวนผู้ร้อง เมื่อพิจารณาคำร้องออกหมายจับ และพยานหลักฐานของผู้ร้อง ประกอบการไต่สวนแล้วปรากฏในเบื้องต้นว่า มีเหตุที่จะออกหมายจับได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 61 (1) จึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ตามคำร้องขอ เพื่อให้ผู้ร้องดำเนินการสอบสวนต่อไป

ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาแต่ละคนจะมีความผิดดังว่าหรือไม่ ประการใด เป็นเรื่องที่จะต้องผ่านขั้นตอนการสอบสวน การสั่งฟ้อง และการพิจารณาของศาล ซึ่งทุกฝ่ายมีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ข้ออ้างได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับเมื่อพิจารณาคำร้องขอเพิกถอนหมายจับของผู้ต้องหา ก็ล้วนเป็นข้ออ้างตามความคิดเห็นของตน ซึ่งจะต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา ทั้งยังปรากฏในคำร้องของผู้ต้องหาบางตอนด้วยว่า ผู้ต้องหากับผู้ชุมนุมโดยมีอาวุธกระทำการโดยมีเจตนา ไม่ยินยอมให้รัฐบริหารประเทศชาติ และเข้าทำงานในสถานที่ราชการ มีการประกาศมาตรการ เพื่อให้ประชาชนไม่เสียภาษี ไม่ชำระหนี้ค่าไฟฟ้า ค่าประปา บุกรุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล และเข้าไปปิดสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีทีของรัฐ เพื่อไม่ให้ออกอากาศ และไม่ปรากฏว่า ขนาดนี้ผู้ต้องหากับพวกออกไปจากทำเนียบฯแล้ว อันเป็นการเจือสมกับคำร้องขอออกหมายจับของพนักงานสอบสวนผู้ร้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น