เอเอฟพี – พิธีเปิดการประชุมผู้แทนทั่วประเทศของพรรคเดโมแครตที่เมืองเดนเวอร์ เริ่มต้นด้วยการสื่อสัญลักษณ์ทางการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ในวันจันทร์ (25) โดยเอ็ดเวิร์ด เคนเนดี ซึ่งกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง ประกาศส่งมอบคบเพลิงแห่งอุดมคติเสรีนิยมให้กับบารัค โอบามา ซึ่งจะเป็นคนอเมริกันผิวสีคนแรกที่ได้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่ มิเชล โอบามา กล่าวให้คำมั่นว่าจะภักดีต่อการสานฝันของชาวอเมริกัน
มิเชลได้กล่าวสุนทรพจน์โดยเล่าถึงสามีว่าเป็นนักรบผู้ผดุงความยุติธรรม และว่าการที่บารัค โอบามาได้ชิงชัยกับจอห์น แมคเคนแห่งพรรครีพับลิกันนั้นเกิดขึ้นในจังหวะเวลาอันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
“ดิฉันมายืนอยู่ ณ ที่นี้ตรงจุดตัดของประวัติศาสตร์ โดยรู้ดีว่าเสี้ยวส่วนแห่งความฝันแบบอเมริกันของดิฉันนั้นคือคำอำนวยพรที่บรรดาผู้เดินทางล่วงหน้ามาก่อนต้องฝ่าฟันอย่างยากลำบากเพื่อให้ได้มา” เธอบอก
มิเชลในวัย 44 ปี กล่าวอีกว่าเธอและสามีได้รับแรงผลักดันจาก “ความคิดธรรมดา” ที่ว่า “โลกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ยังใช้ไม่ได้”
“นั่นคือเส้นด้ายที่ร้อยโยงหัวใจของเราไว้ด้วยกัน เป็นเส้นด้ายที่ร้อยผ่านเส้นทางของดิฉันและเส้นทางของบารัค รวมทั้งเส้นทางที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกหลายสายซึ่งนำเรามาอยู่ที่นี่กันในคืนนี้ ในสถานที่ซึ่งกระแสแห่งประวัติศาสตร์มาบรรจบกับกระแสแห่งความหวังใหม่”
“และนั่นคือเหตุผลที่ดิฉันรักประเทศนี้” มิเชลกล่าว
ส่วนบารัค โอบามาซึ่งยังหาเสียงอยู่ที่ไอโอวา ก็พูดกับลูกสาวทั้งสองคือซาชากับเมเลีย ผ่านทางจอภาพที่เชื่อมโยงด้วยสัญญาณดาวเทียม โดยบอกให้ทั้งสองดูแลแม่จนกว่าเขาจะกลับมากล่าวสุนทรพจน์รับเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ต่อหน้าผู้คน 75,000 คนในสนามฟุตบอลที่เมืองเดนเวอร์ในวันพฤหัสบดี(28)นี้
ด้านวุฒิสมาชิก เอ็ดเวิร์ด เคนเนดี วัย 76 ปี ซึ่งถูกโรคมะเร็งสมองรุมเร้า ก็ได้ปรากฏตัวสร้างความประหลาดใจในที่ประชุมด้วย เขากล่าวว่า
“ในเดือนพฤศจิกายน คบเพลิงนี้จะถูกส่งต่ออีกครั้งให้กับคนอเมริกันรุ่นใหม่ ดังนั้น ประเทศของเราก็จะมีพันธะผูกพันกับความมุ่งมั่นของบารัก โอบามา ซึ่งเป็นผู้ถือคบเพลิงนี้ เพื่อพวกเราทุกคน”
“ภารกิจจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ความหวังจะเกิดขึ้นใหม่ และความฝันจะยืนยาวต่อไป” เคนเนดีประกาศ
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการประชุม ฮิลลารี คลินตัน ซึ่งพยายามช่วงชิงตำแหน่งกับบารัค โอบามามาตลอดการแข่งขันในช่วงการเลือกตั้งขั้นต้น ก็ได้กล่าวว่า “ขอให้ถือว่าไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น พวกเราทุกคนสามัคคีกัน” และคลินตันมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมใหญ่พรรคในคืนวันอังคาร(28)ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นยังระบุว่า แม้คลินตันจะย้ำกับสาธารณชนหลายครั้งว่าเธอสนับสนุนโอบามา แต่ผู้มีสิทธิลงคะแนนที่อยู่ข้างเธอจำนวนมาก ยังไม่เห็นด้วยกับการเทคะแนนให้กับอดีตคู่แข่งของเธออยู่ดี และคะแนนในส่วนนี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโอบามาในการที่จะเอาชนะแมคเคนให้ได้
ขณะเดียวกัน พรรครีพับลิกันนั้นก็ได้เปิดฉากโจมตีเดโมแครตระลอกใหม่เช่นกัน โดยเผยแพร่โฆษณาชุดใหม่ซึ่งอ้างคำพูดของคลินตันในช่วงการเลือกตั้งขั้นต้นที่กล่าวว่า เธอและแมคเคนนั้นมีประสบการณ์การทำงานมายาวนานทั้งชีวิต แต่โอบามานั้นเพิ่งได้กล่าวสุนทรพจน์เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2002
“เธอพูดถูกไหมล่ะ” เป็นคำถามในโฆษณา พร้อมกับให้ภาพของโอบามาว่าเป็นผู้ที่อ่อนประสบการณ์มากที่สุดในบรรดาผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดียุคใหม่ของพรรค ซึ่งยิ่งโหมกระพือให้ผู้สนับสนุนคลินตันโกรธมากขึ้นที่โอบามาเลือกโจเซฟ ไบเดนเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแทนที่จะเลือกคลินตัน
สื่อท้องถิ่นรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชายสี่คนที่สงสัยว่าอาจวางแผนลอบสังหารโอบามาที่สนามกีฬา แต่อัยการประจำรัฐระบุว่ายังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้
มิเชลได้กล่าวสุนทรพจน์โดยเล่าถึงสามีว่าเป็นนักรบผู้ผดุงความยุติธรรม และว่าการที่บารัค โอบามาได้ชิงชัยกับจอห์น แมคเคนแห่งพรรครีพับลิกันนั้นเกิดขึ้นในจังหวะเวลาอันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
“ดิฉันมายืนอยู่ ณ ที่นี้ตรงจุดตัดของประวัติศาสตร์ โดยรู้ดีว่าเสี้ยวส่วนแห่งความฝันแบบอเมริกันของดิฉันนั้นคือคำอำนวยพรที่บรรดาผู้เดินทางล่วงหน้ามาก่อนต้องฝ่าฟันอย่างยากลำบากเพื่อให้ได้มา” เธอบอก
มิเชลในวัย 44 ปี กล่าวอีกว่าเธอและสามีได้รับแรงผลักดันจาก “ความคิดธรรมดา” ที่ว่า “โลกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ยังใช้ไม่ได้”
“นั่นคือเส้นด้ายที่ร้อยโยงหัวใจของเราไว้ด้วยกัน เป็นเส้นด้ายที่ร้อยผ่านเส้นทางของดิฉันและเส้นทางของบารัค รวมทั้งเส้นทางที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกหลายสายซึ่งนำเรามาอยู่ที่นี่กันในคืนนี้ ในสถานที่ซึ่งกระแสแห่งประวัติศาสตร์มาบรรจบกับกระแสแห่งความหวังใหม่”
“และนั่นคือเหตุผลที่ดิฉันรักประเทศนี้” มิเชลกล่าว
ส่วนบารัค โอบามาซึ่งยังหาเสียงอยู่ที่ไอโอวา ก็พูดกับลูกสาวทั้งสองคือซาชากับเมเลีย ผ่านทางจอภาพที่เชื่อมโยงด้วยสัญญาณดาวเทียม โดยบอกให้ทั้งสองดูแลแม่จนกว่าเขาจะกลับมากล่าวสุนทรพจน์รับเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ต่อหน้าผู้คน 75,000 คนในสนามฟุตบอลที่เมืองเดนเวอร์ในวันพฤหัสบดี(28)นี้
ด้านวุฒิสมาชิก เอ็ดเวิร์ด เคนเนดี วัย 76 ปี ซึ่งถูกโรคมะเร็งสมองรุมเร้า ก็ได้ปรากฏตัวสร้างความประหลาดใจในที่ประชุมด้วย เขากล่าวว่า
“ในเดือนพฤศจิกายน คบเพลิงนี้จะถูกส่งต่ออีกครั้งให้กับคนอเมริกันรุ่นใหม่ ดังนั้น ประเทศของเราก็จะมีพันธะผูกพันกับความมุ่งมั่นของบารัก โอบามา ซึ่งเป็นผู้ถือคบเพลิงนี้ เพื่อพวกเราทุกคน”
“ภารกิจจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ความหวังจะเกิดขึ้นใหม่ และความฝันจะยืนยาวต่อไป” เคนเนดีประกาศ
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการประชุม ฮิลลารี คลินตัน ซึ่งพยายามช่วงชิงตำแหน่งกับบารัค โอบามามาตลอดการแข่งขันในช่วงการเลือกตั้งขั้นต้น ก็ได้กล่าวว่า “ขอให้ถือว่าไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น พวกเราทุกคนสามัคคีกัน” และคลินตันมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมใหญ่พรรคในคืนวันอังคาร(28)ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นยังระบุว่า แม้คลินตันจะย้ำกับสาธารณชนหลายครั้งว่าเธอสนับสนุนโอบามา แต่ผู้มีสิทธิลงคะแนนที่อยู่ข้างเธอจำนวนมาก ยังไม่เห็นด้วยกับการเทคะแนนให้กับอดีตคู่แข่งของเธออยู่ดี และคะแนนในส่วนนี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโอบามาในการที่จะเอาชนะแมคเคนให้ได้
ขณะเดียวกัน พรรครีพับลิกันนั้นก็ได้เปิดฉากโจมตีเดโมแครตระลอกใหม่เช่นกัน โดยเผยแพร่โฆษณาชุดใหม่ซึ่งอ้างคำพูดของคลินตันในช่วงการเลือกตั้งขั้นต้นที่กล่าวว่า เธอและแมคเคนนั้นมีประสบการณ์การทำงานมายาวนานทั้งชีวิต แต่โอบามานั้นเพิ่งได้กล่าวสุนทรพจน์เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2002
“เธอพูดถูกไหมล่ะ” เป็นคำถามในโฆษณา พร้อมกับให้ภาพของโอบามาว่าเป็นผู้ที่อ่อนประสบการณ์มากที่สุดในบรรดาผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดียุคใหม่ของพรรค ซึ่งยิ่งโหมกระพือให้ผู้สนับสนุนคลินตันโกรธมากขึ้นที่โอบามาเลือกโจเซฟ ไบเดนเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแทนที่จะเลือกคลินตัน
สื่อท้องถิ่นรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชายสี่คนที่สงสัยว่าอาจวางแผนลอบสังหารโอบามาที่สนามกีฬา แต่อัยการประจำรัฐระบุว่ายังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้
