ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในช่วง 1H/51 โดยส่วนใหญ่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ SCRI โดยมีเพียงกลุ่มสื่อสาร กลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับประมาณการ โดยกำไรสุทธิใน 1H/51 ของบริษัทจดทะเบียนที่ SCRI ทำบทวิจัย ซึ่งคิดเป็น 80% ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ มีกำไรสุทธิรวมเติบโต 28% yoy นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 73% yoy สื่อสารเพิ่มขึ้น 70% yoy, พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 59% yoy กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์เพิ่มขึ้น 4% yoy สำหรับกลุ่มที่ผลประกอบการลดลงนำโดยกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ลดลง 45% yoy กลุ่มไฟฟ้าลดลง 22% yoy และท่องเที่ยวลดลง 9% yoy
ปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 1H/51 ได้แก่ 1) กลุ่มธนาคารมีกำไรเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการกันสำรองที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ การขยายตัวของสินเชื่อที่สูงกว่าคาดการณ์ 2) ธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีได้รับประโยชน์จากด้านราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ 3)ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นราคาในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีกำไรพิเศษจากสินค้าที่มีต้นทุนเดิมในสต๊อกได้แก่ ธุรกิจเหล็ก เกษตร และ อาหาร 4) ธุรกิจบริการ ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร โรงพยาบาล ท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากการขยายธุรกิจในปีที่ผ่านมา การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว และ การบันทึกรายการพิเศษ 5) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้รับประโยชน์จากมาตรการของรัฐบาลในการลดภาษีเฉพาะช่วยกระตุ้นให้มีอุปสงค์เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มที่มีผลประกอบการลดลงส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการต้นทุนการดำเนินงานที่ปรับสูงขึ้น หรืออุปสงค์ที่เติบโตลดลงจากผลของราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง ยกเว้นกลุ่มไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนรวมถึงจำนวนวันหยุดซ่อมบำรุงที่ค่อนข้างสูงในช่วง 1H/51
สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H/51 SCRI ประเมินว่า อัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงสะท้อนภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจมากขึ้น เมื่อเทียบกับใน 1H/51 โดยประมาณการว่าปี 2551 บริษัทจดทะเบียนที่ SCRI ทำบทวิจัยจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 9%yoy เทียบกับที่เคยเติบโต 28% ในช่วง 1H/51 SCRI ประเมินว่า ปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 2H/51 ประกอบด้วย 1) ราคาน้ำมันดิบคาดว่าค่าเฉลี่ยจะลดลงจาก 112 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วง 1H/51 โดยคาดว่าค่าเฉลี่ยปี 2551 จะอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล 2) อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามคาดการณ์โดยคาดว่าใน 2H/51 จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7%-8% 3) เศรษฐกิจโดยภาพรวมใน 2H/51 คาดว่าจะเติบโตได้เฉลี่ย 5% 4) อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 0.50% 5) ค่าเงินบาทคาดว่าจะอ่อนค่าลงในกรอบ 33.5-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานใน 2H/51 อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ 1) สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์มีการเติบโตชะลอตัวลง 2) อัตรากำไรขั้นต้นของผู้ประกอบการลดลงกลับสู่ระดับปกติเนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษจากสต๊อกสินค้าในขณะเดียวกันธุรกิจโรงกลั่นมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 3) อัตรากำไรจากดำเนินงานของธุรกิจโดยรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ลดลง 4) ธุรกิจส่งออกมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ถึงแม้จะได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทก็ตาม
SCRI ประเมินว่า ใน 2H/51 บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มธุรกิจที่โดดเด่นกว่า กลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ โดยคาดว่าจะได้รับผลบวกจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ลงทุนที่คาดจะฟื้นตัวกลับมา รวมถึงผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยกลุ่มที่มีแนวโน้มดีได้แก่ กลุ่มขนส่ง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย รวมถึง กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่างไรก็ตามมีเพียงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดผลประกอบการจะสะท้อนภาพที่ดีต่อเนื่องได้ในไตรมาสหน้า ขณะที่กลุ่มอื่นยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว สำหรับกลุ่มที่มีแนวโน้มชะลอตัว ได้แก่ กลุ่มน้ำมัน เหล็ก โรงกลั่น ถ่านหิน เดินเรือ สินค้าเกษตร รวมถึง ปิโตรเคมี ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ชะลอตัวลง จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและการบริโภคที่ชะลอตัวจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงในประเทศต่างๆในช่วง 9M51
ผลประกอบการ Q2/51แนวโน้มธุรกิจ
2H/51 เทียบ 1H/51 การปรับประมาณการปี 2551 ของ SCRI
BULLISH (น้ำหนักมากกว่าตลาด)
กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoq ดีขึ้น ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม สื่อสาร กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoq ทรงตัว
ปรับขึ้น
กลุ่ม นิคมอุตสาหกรรม กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
NEUTRAL (น้ำหนักเท่ากับตลาด)
กลุ่ม สื่อและสิ่งพิมพ์ กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqดีขึ้น ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ท่องเที่ยว กำไรลดลง yoy และ qoqทรงตัว ปรับลง
กลุ่ม พลังงาน (ไฟฟ้า) กำไรลดลง yoy และ qoqทรงตัว ปรับลง
กลุ่ม รับเหมาก่อสร้างกำไรลดลง yoy แต่เพิ่ม qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ขนส่งกำไรลดลง yoy และ qoqทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoqทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม อสังหาริมทรัพย์(ที่อยู่อาศัย)กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
BEARISH (น้ำหนักน้อยกว่าตลาด)
กลุ่ม วัสดุก่อสร้าง กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม พลังงาน (น้ำมัน)กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqดีขึ้น ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ปิโตรเคมี กำไรเพิ่มขึ้น yoy ลดลง qoq ลดลง
ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม พลังงาน (โรงกลั่น) กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
ที่มา : SCRI ประมาณการ เฉพาะที่ SCRI ศึกษาอยู่เท่านั้น
หมายเหตุ : * เป็นการปรับประมาณกำไรสุทธิเพิ่มจากรายการพิเศษแต่ผลการดำเนินงานปกติไม่เปลี่ยนแปลง
ปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 1H/51 ได้แก่ 1) กลุ่มธนาคารมีกำไรเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการกันสำรองที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ การขยายตัวของสินเชื่อที่สูงกว่าคาดการณ์ 2) ธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีได้รับประโยชน์จากด้านราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ 3)ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นราคาในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีกำไรพิเศษจากสินค้าที่มีต้นทุนเดิมในสต๊อกได้แก่ ธุรกิจเหล็ก เกษตร และ อาหาร 4) ธุรกิจบริการ ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร โรงพยาบาล ท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากการขยายธุรกิจในปีที่ผ่านมา การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว และ การบันทึกรายการพิเศษ 5) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้รับประโยชน์จากมาตรการของรัฐบาลในการลดภาษีเฉพาะช่วยกระตุ้นให้มีอุปสงค์เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มที่มีผลประกอบการลดลงส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการต้นทุนการดำเนินงานที่ปรับสูงขึ้น หรืออุปสงค์ที่เติบโตลดลงจากผลของราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง ยกเว้นกลุ่มไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนรวมถึงจำนวนวันหยุดซ่อมบำรุงที่ค่อนข้างสูงในช่วง 1H/51
สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H/51 SCRI ประเมินว่า อัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงสะท้อนภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจมากขึ้น เมื่อเทียบกับใน 1H/51 โดยประมาณการว่าปี 2551 บริษัทจดทะเบียนที่ SCRI ทำบทวิจัยจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 9%yoy เทียบกับที่เคยเติบโต 28% ในช่วง 1H/51 SCRI ประเมินว่า ปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 2H/51 ประกอบด้วย 1) ราคาน้ำมันดิบคาดว่าค่าเฉลี่ยจะลดลงจาก 112 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วง 1H/51 โดยคาดว่าค่าเฉลี่ยปี 2551 จะอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล 2) อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามคาดการณ์โดยคาดว่าใน 2H/51 จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7%-8% 3) เศรษฐกิจโดยภาพรวมใน 2H/51 คาดว่าจะเติบโตได้เฉลี่ย 5% 4) อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 0.50% 5) ค่าเงินบาทคาดว่าจะอ่อนค่าลงในกรอบ 33.5-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานใน 2H/51 อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ 1) สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์มีการเติบโตชะลอตัวลง 2) อัตรากำไรขั้นต้นของผู้ประกอบการลดลงกลับสู่ระดับปกติเนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษจากสต๊อกสินค้าในขณะเดียวกันธุรกิจโรงกลั่นมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 3) อัตรากำไรจากดำเนินงานของธุรกิจโดยรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ลดลง 4) ธุรกิจส่งออกมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ถึงแม้จะได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทก็ตาม
SCRI ประเมินว่า ใน 2H/51 บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มธุรกิจที่โดดเด่นกว่า กลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ โดยคาดว่าจะได้รับผลบวกจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ลงทุนที่คาดจะฟื้นตัวกลับมา รวมถึงผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยกลุ่มที่มีแนวโน้มดีได้แก่ กลุ่มขนส่ง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย รวมถึง กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่างไรก็ตามมีเพียงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดผลประกอบการจะสะท้อนภาพที่ดีต่อเนื่องได้ในไตรมาสหน้า ขณะที่กลุ่มอื่นยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว สำหรับกลุ่มที่มีแนวโน้มชะลอตัว ได้แก่ กลุ่มน้ำมัน เหล็ก โรงกลั่น ถ่านหิน เดินเรือ สินค้าเกษตร รวมถึง ปิโตรเคมี ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ชะลอตัวลง จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและการบริโภคที่ชะลอตัวจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงในประเทศต่างๆในช่วง 9M51
ผลประกอบการ Q2/51แนวโน้มธุรกิจ
2H/51 เทียบ 1H/51 การปรับประมาณการปี 2551 ของ SCRI
BULLISH (น้ำหนักมากกว่าตลาด)
กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoq ดีขึ้น ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม สื่อสาร กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoq ทรงตัว
ปรับขึ้น
กลุ่ม นิคมอุตสาหกรรม กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
NEUTRAL (น้ำหนักเท่ากับตลาด)
กลุ่ม สื่อและสิ่งพิมพ์ กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqดีขึ้น ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ท่องเที่ยว กำไรลดลง yoy และ qoqทรงตัว ปรับลง
กลุ่ม พลังงาน (ไฟฟ้า) กำไรลดลง yoy และ qoqทรงตัว ปรับลง
กลุ่ม รับเหมาก่อสร้างกำไรลดลง yoy แต่เพิ่ม qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ขนส่งกำไรลดลง yoy และ qoqทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoqทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม อสังหาริมทรัพย์(ที่อยู่อาศัย)กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
BEARISH (น้ำหนักน้อยกว่าตลาด)
กลุ่ม วัสดุก่อสร้าง กำไรเพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม พลังงาน (น้ำมัน)กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqดีขึ้น ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม ปิโตรเคมี กำไรเพิ่มขึ้น yoy ลดลง qoq ลดลง
ไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่ม พลังงาน (โรงกลั่น) กำไรเพิ่มขึ้น yoy และ qoqลดลง ไม่เปลี่ยนแปลง
ที่มา : SCRI ประมาณการ เฉพาะที่ SCRI ศึกษาอยู่เท่านั้น
หมายเหตุ : * เป็นการปรับประมาณกำไรสุทธิเพิ่มจากรายการพิเศษแต่ผลการดำเนินงานปกติไม่เปลี่ยนแปลง
