ดอลลาร์แข็งทำทองทั่วโลกราคาตก และนักลงทุนเทขายทำกำไร ด้านร้านใหญ่แทบเยาวราชระบุปริมาณซื้อขายดีขึ้น หลังชาวบ้านหนีปัญหาเงินเฟ้อเลือกซื้อทองเก็บ อีกทั้งพ.ร.บ.เงินฝากช่วยกระตุ้นคนแห่ออมในทองคำ เลขาสมาคมทองคำชี้ช่วง 2 ไตรมาสที่เหลือราคายังแกว่งตัว โวย"โกลด์ ฟิวเจอร์ส"จะทำยอดลูกค้าเข้าร้านหดหาย อีกทั้งมีความเสี่ยงมากกว่า ขณะที่ "ทุ่งคาฮาเบอร์"ไตรมาส 2 กำไรเฉียด 30 ล้านบาท
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำและผู้บริหารร้านทอง เลี่ยงเส็งเฮง กล่าวถึง ภาวะราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ราคานํ้ามันในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลงมา รวมทั้งมาจากการเทขายเพื่อเก็งกำไรของบรรดาสถาบันการลงทุนต่างๆ แต่สาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะ การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีการแข็งค่าขึ้นมา จึงทำให้นักลงทุนพากันเทขายทองคำทิ้งและเปลี่ยนไปซื้อเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไรแทน ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกรวมทั้งในประเทศไทยอ่อนค่าลงมา อย่างไรก็ตามในปีนี้ส่วนตัวยังคาดว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะะมีความผันผวนอยู่ โดยวานนี้ (14ส.ค.) ราคาทองคำแท่ง 96.5% รับซื้อ 13,350 บาท ขายออก 13,450 บาท ทองรูปพรรณ รัะบซื้อ 131,58 บาท ขายออก 13,850 บาท
"ในประเทศไทยนั้น ช่วงนี้ยอดการซื้อขายทองคำต่อวันปรับตัวดีขึ้น หรือกล่าวได้ว่ากลับมาสู่ระดับปกติ หลังจากที่เงียบหายในช่วงก่อนหน้านี้โดยมีนักลงทุนได้เข้าไปซื้อทองคำกันบ้าง แต่การเข้ามาซื้อทองคำของนักลงทุนในช่วงนี้อาจจะไม่ได้เป็นการเข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรมากนัก ส่วนใหญ่จะเข้ามาซื้อเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนมาที่ทองคำบ้าง ขณะเดียวกันจากการที่ภาครัฐได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ส่งผลให้ผู้ฝากเงินบางส่วนนำเงินมาซื้อทองคำเก็บไว้ด้วยเช่นกัน"นายพิชญา กล่าว
สำหรับ แนวโน้มราคาทองคำในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ถึงช่วงไตรมาสที่ 4 นั้น เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ มองว่าจากปัญหาเรื่องของซับไพร์มที่ยังไม่ยุติลงโดยง่ายและคงไม่กลับมาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จะยังคงทำให้บรรดากองทุนต่างประเทศมีการเข้าไปเก็งกำไรในทองคำอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเงินไปชดเชยกับที่เสียไปจากเรื่องดังกล่าว ซึ่งทำให้ราคาทองคำอาจจะมีการดีดตัวขึ้นมาบ้าง และหากราคาทองคำดีดขึ้นมาในช่วงดังกล่าวแล้วคาดว่าในช่วงปลายปีที่มีทั้งเทศกาลคริสมาสต์ รวมทั้งเทศกาลปีใหม่อาจทำให้ภาวะการซื้อทองคำชะลอตัวลง
เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึง กรณีที่จะมีการเปิดตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ ฟิวเจอร์) ของทางตลาดอนุพันธ์หรือ TFEX ว่า หากมีการเปิดตลาดแล้ว ทางร้านค้าทองคำที่มีอยู่มากมายในประเทศจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ที่เห็นได้ชัดเจนคือจำนวนลูกค้าของร้านทองจะหายไป
อย่างไรก็ตาม การลงทุนอนุพันธืยังมีข้อเสียประการหนึ่งที่ผู้ซื้อขายทองคำจะได้รับคือ กรณีที่ซื้อทองคำในตลาดล่วงหน้าแล้วต้องการที่จะขายออกนั้นจะต้องรอจนกว่าจะมีผู้ที่ต้องการซื้อในตลาดมาสนใจจึงจะสามารถขายได้ ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายทองคำแท่งเพราะเมื่อถือทองคำแท่งอยู่ก็สามารถที่จะะขายทองคำนั้นได้อย่างสะดวกกว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยได้ราคาทองตามที่ประกาศไว้
ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สินจากการซื้อขายในตลาดล่วงหน้าที่มีมากกว่าการซื้อขายแบบทองคำจริงนั้น นายพิชญา ระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะมีผลอย่างที่ทางตลาดอนุพันธ์ได้กล่าวไว้เท่าไรนัก
**กองทุนทองคำไม่กระทบ**
ขณะที่ นายกัมพล จันทรวิบูลย์ ผู้จัดการกองทุน บลจ.ทหารไทย กล่าวว่า จากราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงขณะนี้ บริษัทมองว่ากองทุนที่ลงทุนในทองคำนั้นไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะราคาทองคำได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงตลอดอยู่แล้ว และราคาทองที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้ ถือว่าเป็นการปรับตัวลดลงไปมาก แต่ได้มีการปรับตัวขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งหากดูจากการประมาณการณ์ส่วนใหญ่แล้วถือว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าราคาทองคำยังเฉลี่ยอยู่ที่ 925-950 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ราคาอาจมีการปรับตัวขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาทองคำสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นไปถึง 1,000 เหรียญ จึงเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงมาบ้างเช่นกัน
นอกจากนี้ราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยมาจากเรื่องของ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน ซึ่งการลงทุนในทองคำถือเป็นการป้องกันปัญหาจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันหากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจะทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในพันธบัตรหันไปลงทุนในทองคำแทน รวมทั้งในตอนนี้ประเทศสหรัฐอเมริกาได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องภายในประเทศ จึงเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง
"สโกเทีย"หนุนห้างทองใช้Gold Futures
นายสุนิล แคชแยป กรรมการผู้จัดการ สโกเทีย โมแคตตา ซึ่งรับผิดชอบธุรกิจด้านโลหะมีค่า (Precious Metal) และ FX (Foreign Exchange) ในภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า การเปิดซื้อขาย Gold Futures จะส่งผลดีแก่ร้านค้าทอง เนื่องจากจะเป็นเครื่องมือช่วยเสริมให้ร้านค้าทองสามารถบริหารความเสี่ยงจากราคาทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและผู้ลงทุนสามารถใช้ Gold Futures ของ TFEX ที่อ้างอิงกับทองคำที่ความบริสุทธิ์ 96.5% ในการบริหารความเสี่ยงดังกล่าวได้ แม้ว่าราคาทองคำในตลาดต่างประเทศจะอ้างอิงกับระดับความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากราคาทองคำจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างมากแม้ว่าระดับความบริสุทธ์จะแตกต่างกันไปบ้าง
ส่วนการขยายธุรกิจเข้ามาสู่การเป็นโบรกเกอร์นั้น จุดที่ควรพิจารณาคือ ผู้ลงทุนในตลาดอนุพันธ์มักจะเป็นผู้ลงทุนคนละกลุ่มกับร้านค้าทอง ดังนั้นการขยายธุรกิจของผู้ค้าทองเข้ามาเป็นโบรกเกอร์อนุพันธ์จึงอาจต้องหาลูกค้าใหม่ เนื่องจากจะอ้างอิงกับลูกค้ากลุ่มเดิมไม่ได้มาก
**ทุ่งคาฮาเบอร์Q2กำไรเฉียด30ล.**
นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) ชี้แจงบริษัทฯมีผลกำไรสุทธิไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 คิดเป็นจำนวนเงิน 29.422 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2550 ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิเป็นจำนวนเงิน 35.809 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 บริษัทย่อยผลิตทองคำจำนวน 8,631 ออนซ์ และ มีรายได้จากการขายทองคำเป็นเงิน 235.69 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นคิดเป็นร้อยละ 55.80 หรือประมาณ 131.49 ล้านบาท จากผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนมิถุนายน 2551 หลังจากบริษัทฯได้เริ่มดำเนินงานในพื้นที่เหมืองใหม่ T-1-8 ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น