xs
xsm
sm
md
lg

"พันธมิตรฯ" ลั่นเช็กบิล "รัฐบาล" ทำชาติล่มจม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทัพพันธมิตรฯ บุกบัวแก้ว จี้จิตสำนึก "เตช" เร่งริบพาสปอร์ตแดง "อดีตนายกฯ" หลังตกเป็น "อาชญากร" หนีคดีกบดานที่อังกฤษ "กต.-อัยการ-ตำรวจ" โบ้ยกันมั่ว ปชป.แฉ "แม้ว" ยังไม่เลิกวางแผนป่วน เตรียมมวลชนปะทะเพื่อสร้างสถานการณ์ขอลี้ภัย "สนธิ" ชี้ "พ่อหลวง" ทุกข์ใจบ้านเมืองใกล้ล่มจม เป็นความรับผิดชอบของพี่น้องทุกคนต้องช่วยกันรวมพลังออกมาขับไล่รัฐบาลสัตว์นรกและพรรคพลังประชาชน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ให้รอฟังสัญญาณนกหวีดเสาร์นี้ ประกาศเลื่อนบุกโยธินบูรณะจากศุกร์เป็นจันทร์ที่ 25 ส.ค.

เมื่อเช้าวานนี้ (21 ส.ค.) แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากทั่วประเทศหลายพันคน พร้อม 5 แกนนำพันธมิตรฯ ได้เคลื่อนขบวนจากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อถามหาความชอบธรรมจากนายนายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ กรณีมีพฤติกรรมหลังเข้ารับตำแหน่งช่วยเหลือและปกปิดความผิดของนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ อีกทั้งยังไม่ยอมริบพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่ดินรัชดาฯ แต่กลับหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษก่อนหน้านี้ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จำนวน 1 กองร้อย ที่กระจายกำลังอยู่บริเวณหน้ากระทรวง

เวลา 10.15 น.ขบวนของกลุ่มแนวร่วมพันธมิตรฯ ได้มาถึงยังหน้ากระทรวงการต่างประเทศ โดยแกนนำพันธมิตรฯได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยถึงสาเหตุที่ต้องเดินทางมาในครั้งนี้สลับกับการแสดงดนตรี ร้องเพลงจากนายศรัญญู วงศ์กระจ่าง และวงซูซู ต่อจากนั้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้อ่านคำประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง ขอให้กระทรวงการต่างประเทศปกป้องอธิปไตยของชาติและนำตัวผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินมารับโทษด้วยกระบวนการยุติธรรมของไทย (อ่านรายละเอียดหน้า 3)

"สนธิ" จวก ขรก.กต.ขี้ขลาดตาขาว

นายสนธิ กล่าวเพิ่มเติมกรณีปัญหาปราสาทพระวิหารว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งออกมาแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ นายเตช ไม่ยอมแจ้งสหประชาชาติ ถือเป็นการจงใจละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และตามที่นายเตช จะทำข้อ 2 ได้ต้องทำข้อ 1 ก่อน ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว นายเตช ต้องแจ้งสหประชาชาติ เพราะแถลงการณ์ร่วมเป็นโมฆะ จากนั้นก็ต้องทำข้อ 2 ต่อ ดังนั้น มติกรรมการมรดกโลกต้องเป็นโมฆะตามไปด้วย และเราไม่ยอมรับมติคณะกรรมการมรดกโลก และคณะกรรมการ 7 ชาติที่จะเข้ามาจัดการพื้นที่บริเวณรอบเขาพระวิหาร ทั้งนี้ หากจะปกป้องอธิปไตยชาติ จะต้องชี้แจงกัมพูชาว่าเราจะไม่เจรจาปราสาทตาเหมือนธม เพราะเป็นของไทย และหากเรามีรัฐบาลไม่ขายชาติเหมือนรัฐบาลหอกหัก รัฐบาลต้องสั่งไม่ให้มีใครเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล

นายสนธิ ยังกล่าวปราศรัยฝากไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศด้วยว่า เมื่อก่อนเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ มีศักดิ์ศรีแต่ตอนนี้เป็นอะไรกันไปหมด วันนี้มีแต่คนขี้ขลาดตาขาว ทั้งที่มีการศึกษาสูง แต่วันนี้กลับไม่ทำหน้าที่ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตนมาพูดในวันนี้การศึกษาก็ไม่ด้อยกว่าพวกเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ อย่ามาดูถูกกัน สมัยนี้คนรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ บางคนจบ ป.4 ยังรักชาติมากกว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเสียอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นในช่วงบ่ายกลุ่มแนวร่วมพันธมิตรฯ ได้เคลื่อนขบวนการกลับมาปักหลักชุมนุมที่บริเวณสะพานมัฆวานฯต่อ

ขอตัว "แม้ว" เป็นหน้าที่อัยการ

นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มาดำเนินคดีในไทยว่า กระทรวงฯทำหน้าที่จริงๆ คือเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ แต่ผู้รับผิดชอบจริงๆ คืออัยการ ซึ่งเท่าที่ทราบอัยการ เคยไปหารือกับทางการอังกฤษครั้งหนึ่งแล้ว เราก็รออยู่ว่า อัยการจะทำเอกสารพร้อมเมื่อไร หน้าที่ของกระทรวงฯ คือ ส่งเอกสารต่างๆ ที่ได้รับจากอัยการไปยังสถานทูตไทยที่อังกฤษ เพื่อให้สถานทูตของไทยส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอังกฤษต่อไป

ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ในการขอตัวกลับมาดำเนินคดีนั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางการอังกฤษ โดยอังกฤษต้องไปเทียบกฎหมายของเขาดู เพราะตามหลักของการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ต้องนำเอาไปเทียบดูว่า ข้อหาที่ประเทศไทยมีอยู่นั้นมีกฎหมายที่มีข้อหาเดียวกันกับอังกฤษหรือเปล่า ต้องดูว่าเทียบกันได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นอัยการของเราก็ต้องเตรียมสำนวน และส่งไปให้ทางการอังกฤษพิจารณาว่า เข้าตามหลักเกณฑ์ของเขาหรือไม่

สำหรับเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมขอลี้ภัยอยู่ในอังกฤษนั้น นายวีระศักดิ์ ปฏิเสธว่า ยังไม่ทราบ เพราะโดยมารยาท ถ้าเราถามไปยังทางการอังกฤษ เขาก็จะไม่ให้คำตอบหรือให้ข้อมูลอะไรกับเรา ถือเป็นมารยาทของเขากับบุคคลที่จะขอลี้ภัย ขณะนี้เราก็ต้องรออัยการเพียงอย่างเดียว

รอเอกสาร ตร.ก่อนถอนพาสปอร์ต

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการเพิกถอนพาสปอร์ตทางการทูต (พาสปอร์ตแดง) ของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่า อยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะขณะนี้ตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับหนังสือเดินทางเราจะต้องได้รับแจ้งจากศาล และตำรวจ

"ตอนนี้เราได้รับแจ้งจากทางศาลแล้ว ก็กำลังรอหนังสือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะส่งมาให้ ส่วนการดำเนินการจะเสร็จเมื่อไรก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะได้รับเอกสารเมื่อไร ถ้าตำรวจทำเร็วเราก็จะทำได้เร็ว ซึ่งหน้าที่โดยตรงคือ กรมการกงศุล ก็จะมีการรวบรวมเอกสารทั้งหมดเสนอต่อกระทรวง และรัฐบาล"

เมื่อถามว่า รู้สึกกดดันหรือไม่ที่ต้องดำเนินการกับเรื่องที่อยู่บนความรู้สึกของคนในสังคม นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เราเป็นหน่วยราชการ เราต้องทำตามระเบียบ ทำตามกฎหมาย ระเบียบและกฎหมายมีอย่างไรก็ทำตามนั้น เพราะเราเป็นหน่วยราชการ

"เตซ" แจงเพิกถอนแถลงการณ์แล้ว

นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมหน้ากระทรวงว่า ไม่รู้สึกกังวลและไม่รู้สึกกดดันต่อการทำงาน เป็นสิทธิของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะแสดงความคิดเห็น ส่วนข้อเรียกร้องที่ต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศส่งหนังสือแจ้งเพิกถอนแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีไทยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ไปยังสหประชาชาติและรัฐบาลกัมพูชา นั้นทางกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ แต่การแจ้งยกเลิกแถลงการณ์ร่วมหลังมีคำสั่งศาลปกครองกลางก็ทำให้เป็นที่ทราบดีว่าแถลงการณ์จะไม่มีผลอีกต่อไป

อัยการโทษ "พัชรวาท" ไม่ขอตัว

ขณะที่นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1-2 คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก

นายธนพิชญ์ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 ที่มีผลบังคับใช้ 9 ส.ค.51 กำหนดให้อัยการสูงสุด หรือผู้ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมาย เป็นผู้ประสานงานกลางส่งผู้ร้ายข้ามแดน กรณีประเทศไทยของให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

แต่ทั้งนี้ ตามมาตรา 30 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าว ระบุว่า การร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ให้พนักงาน หรือหน่วยงานที่ประสงค์จะให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เสนอเรื่องผู้ประสานงาน ซึ่งหมายถึงอัยการสูงสุด ดังนั้น เมื่อคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยจำเลยทั้ง 2 อยู่ในอำนาจศาลฎีกาฯ แล้ว และเมื่อจำเลยระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยหลบหนี ศาลจึงออกหมายจับ ปรับนายประกันโดยส่งหมายจับถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้จับตัวจำเลยทั้งสองไปส่งที่ศาลฎีกาฯ ภายในกำหนดอายุความ

สำหรับข้อหาที่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ มีอายุความ 15 ปี และคุณหญิงพจมาน 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.51 เมื่อเรื่องนี้ ผบ.ตร.มีหน้าที่ต้องนำตัวจำเลยทั้ง 2 ไปส่งศาลฎีกาฯ สตช.จึงถือว่าเป็นหน่วยงานที่ประสงค์ ตามที่บัญญัติใน พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน มาตรา 30 ที่จะให้การส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อนำตัวจำเลยมาดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้น เรื่องนี้ ผบ.ตร. ต้องเป็นผู้ส่งเรื่องร้องขอมายังสำนักงานอัยการสูงสุด แล้วอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง ตามมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวก็จะมีอำนาจหน้าที่ และพิจารณาดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ หากอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นสมควรที่จะจัดทำคำร้องเพื่อขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว อัยการจะจัดทำคำร้องส่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อผ่านวิถีทางการทูตไปยังประเทศอังกฤษต่อไป แต่ขณะนี้ สตช.ยังไม่ได้ประสานงานขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการในเรื่องนี้

นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้กำหนดระยะเวลาในขั้นตอนที่ สตช.จะต้องยื่นคำร้องขอต่อสำนักงานอัยการสูงสุดว่าจะต้องดำเนินการภายในเวลาเท่าใด แต่เมื่อศาลออกหมายจับ และ สตช.ได้รับหมายจับแล้ว ก็ต้องดำเนินการโดยเร็ว ที่จะรวบรวมเอกสารส่งมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดจะได้พิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานอัยการเรื่องนี้

ตำรวจพร้อมประสานอัยการ

ทางด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.ในฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าในการทำเรื่องส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 1-2 ที่ถูกออกหมายจับคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก เป็นผู้ร้ายข้ามแดนว่า เบื้องต้นตำรวจได้รับเพียงหมายจับจากศาลฎีกาฯ เพื่อให้ติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งก็มีการออกประกาศสืบจับ ทางกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) ก็ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้ติดตามตัว จากนั้นจึงสามารถรวบรวมรายงานจากหน่วยงานต่างๆ ที่ส่งมายัง ตร.ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน อยู่ที่ไหน

"ในทางข่าว เราทราบที่อยู่ของทั้ง 2 คนว่าอยู่ที่อังกฤษ แต่ทางราชการในเรื่องนี้ต้องมีการรวบรวมหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศ จาก สตม.และไม่มีรายงานการเดินทางเข้ามาในประเทศอีก เพื่อเป็นหนังสือราชการ ผลการติดตามตัวผู้ที่ออกหมายจับส่งให้ศาลทราบ"

รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ทาง ตร.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดี คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้ที่รับทำคดีต่อจาก คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และอัยการ ผู้สั่งฟ้องคดี เพื่อประสานสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง เพื่อทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตาม พ.ร.บ.ผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551

"หมัก" ต้องตามเช็ดขี้ "แม้ว"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำเรื่องขอลี้ภัยที่อังกฤษ โดยอ้างเรื่องการเมืองและความปลอดภัยว่า การดำเนินการดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ คงใช้การประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ และนำเสนอด้านลบของบ้านเมือง ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือ รัฐบาล โดยเฉพาะนายสมัคร และทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันยืนยันว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม และการดูแลความปลอดภัยของคนในประเทศได้

"รัฐบาลจะจัดงาน มั่นใจไทยแลนด์จะต้องหมายความว่ากระบวนการยุติธรรมก็ดี ความปลอดภัยก็ดี เราต้องยืนยันกับชาวโลกได้ รัฐบาลมีหน้าที่ทำตรงนี้ ที่ผ่านมามีแต่กระทรวงการต่างประเทศเท่านั้นที่ออกแถลงการณ์ไป ผมคิดว่านายกรัฐมนตรี ต้องยืนยันตรงนี้ หากฝากบอกไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณได้ จะบอกว่า ทุกคนเข้าใจได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ห่วงตัวเองและครอบครัว แต่ขออย่าทำอะไรที่เสียหายต่อประเทศชาติ และพฤติกรรมต่างๆ จะเป็นตัวฟ้องว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพูดว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง กับสิ่งที่ทำนั้น ตรงกันหรือไม่" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ปชป.กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำเรื่องขอลี้ภัยกับทางการอังกฤษอยู่แล้ว เมื่อออกจากประเทศไทยก็ต้องไปกำหนดสถานภาพของตัวเองว่าจะอยู่ประเทศนั้นอย่างถาวร หรืออยู่นานๆ ได้อย่างไร เพราะถ้ายังถือวีซ่าเข้าประเทศอยู่ก็มีเวลาจำกัดที่จะอาศัยอยู่ประเทศนั้นๆ

จวก "แม้ว" ยังไม่เลิกชักใยป่วน

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสายโทรศัพท์คุยกับกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค พปช.เพื่อเข้ามายุติความขัดแย้งภายในพรรคว่า เราได้มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการต่อสายสนับสนุนให้กลุ่มต่างๆ ตั้งพรรคการเมือง อย่างน้อย 3 พรรค ตามคำยืนยันของพรรค พปช.ซึ่งถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีความพยายามที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และครอบงำรัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ทำให้รัฐบาลขาดความเป็นเอกภาพ ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้ และส่งผลต่อประชาธิปไตยในประเทศหลายด้าน โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม ที่มีความพยายามขัดขวางสำนวนก่อนขึ้นสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ที่พรรค พปช.พยายามไม่อนุมัติกฎหมายวิธีพิจารณาคดีศาลรัฐธรรมนูญ และคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นการแทรกแซงกดดันเพื่อนำมาต่อรองการพิจารณาหลายคดี ที่จะมีการไต่สวนในชั้นศาล

นอกจากนี้ ยังมีการพยายามพูดถึงการใช้พระราชอำนาจ ในการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งองค์กรอิสระที่นำมาเปรียบเทียบกันระหว่างการโปรดเกล้าฯ ป.ป.ช.กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ผ่านรายการโทรทัศน์ ที่มีผู้ดำเนินรายการรายหนึ่ง ถูกดำเนินคดี จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ดำเนินรายการอีก 2 คน หยุดพูดถึงพระราชอำนาจในการรับรอง ป.ป.ช. ก่อนที่จะเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้

แฉเตรียมระดมมวลชนปะทะ

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ขณะนี้เห็นได้ชัดว่ามีความพยายามแทรกแซงการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคดียุบพรรค พปช.โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ ก่อนคดีขึ้นศาล มีความพยายามบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เช่น มีการหมิ่นศาล ด้วยการเสนอสินบน 2 ล้านบาท ซึ่งมีการจำคุกผู้ดำเนินการไปแล้ว ส่วนในขั้นระหว่างการพิจารณาของศาล ก็มีคำชี้แจงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ปรากฎต่อสื่อมวลชนในต่างประเทศมากมายเกี่ยวกับการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย

"พรรค ปชป.ได้รับข่าววงในมาว่า มีความพยายามที่จะระดมมวลชนเพื่อให้เกิดการปะทะ และให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง เพื่อกดดันกระบวนการพิจารณาของศาลยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ โดยมีการต่อสายตรงถึงคนเดินโพยหวยออนไลน์ อดีตกลุ่มแกนนำ นปก.จึงเป็นห่วงว่าจะมีการเอาความสงบเรียบร้อยของประเทศมาแก้ปัญหาให้กับบุคคลเพียงคนเดียว" นพ.บุรณัชย์ กล่าว

ติดหมายจับ "แม้ว" ไม่ผิด

ส่วนที่เวทีพันธมิตรฯ ในช่วงค่ำ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ ได้กล่าวย้ำถึงข้อกฎหมายกรณีที่มีทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯกล่าวหาว่าติดตั้งคัตเอาท์บิดเบือนหมายจับเข้าข่ายลักษณะปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดยนายสุวัตร ยืนยันพันธมิตรฯไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และชี้ให้เห็นว่าการนำเรื่องนี้ไปแจ้งความถือว่าไม่มีอะไรจะสู้แล้ว

นายสุวัตร กล่าวว่า หมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นั้นมีอยู่จริงและออกโดยศาล ซึ่งพันธมิตรฯก็มีหน้าที่ช่วยเหลือราชการ นำมาขยายให้ใหญ่ขึ้น ขณะเดียวกันหมายจับเหล่านี้ก็ได้เผยแพร่ไปทั่วโลกแล้ว

นายสุวัตร ย้ำว่าการกล่าวหาว่าพันธมิตรฯมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารนั้น ต้องดูที่เจตนา และยกตัวอย่างการปลอมแปลง เช่นกรณีการพิมพ์แบงก์ปลอม ก็ทำขนาดและลักษณะเหมือนกันทุกอย่าง แต่กรณีนี้หมายจับมีจริง แต่มีขนาดเล็กเท่ากระดาษเอ 4 แต่เราต้องการช่วยเหลือราชการจึงนำมาขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งตำรวจก็เคยทำแบบนี้ แม้ว่าอาจจะไม่ใหญ่แบบนี้ แต่ก็เคยทำในลักษณะเดียวกัน

ขณะเดียวกันนายสุวัตร ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน หลบหนี อยู่ต่างประเทศ ดังนั้น การที่ทนายความอ้างว่าได้รับมอบอำนาจนั้นแสดงว่ามีการติดต่อกันถือว่าปิดบังซ่อนเร้นผู้ต้องหาหรือไม่

นายสุวัตร ได้กล่าวถึงพันธมิตรฯทั่วประเทศด้วยว่า การปิดหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่มีความผิด ขณะเดียวกันถ้ามีการจับกุมตัวได้ทางการน่าจะมีรางวัลนำจับให้ด้วย

เสาร์นี้รู้เป่านกหวีดเช็กบิลวันไหน

เวลา 21.00 น.คืนวานนี้ (21 ส.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นกล่าวถึงเรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสต่อผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาที่ทรงให้กำลังใจและทรงให้ระวังการใช้เงินไม่เช่นนั้นบ้านเมืองอาจล่มจมได้ แม้วันนี้ใกล้ล่มจมแล้ว

นายสนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ใช้เงินทำโครงการเมกะโปรเจกต์มูลค่าหลายแสนล้านบาท ซึ่งการที่พ่อหลวงตรัสแบบนี้ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของพวกเรา ที่ต้องไล่รัฐบาลสัตว์นรกนี้ไป ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองล่มจมแน่ และอีกไม่นานเราจะเป่านกหวีด ให้รอฟังเสียงให้ดี

"รัฐบาลชุดนี้และพรรคพลังประชาชนทำให้บ้านเมืองล่มจม ให้รู้ว่าพี่น้องประชาชนที่ดูเอเอสทีวีทั่วประเทศจะรวมพลังไล่พวกมันออกไปก่อนที่บ้านเมืองจะล่มจม" นายสนธิ กล่าว และว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เห็นในหลวงทรงตรัวแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมาในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทรงบอกว่าวิกฤติที่สุด แต่ตอนนี้ตรัสว่าบ้านเมืองใกล้ล่มจม

"ครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้ายจริงๆ ให้รอวันเสาร์นี้จะประกาศว่าจะเป่านกหวีดวันไหน" นายสนธิ กล่าว และว่าเรารับไม่ได้ที่พ่อหลวงทรงทุกข์ พระองค์ทรงตรัสออกไปทั่วประเทศว่าบ้านเมืองใกล้ล่มจม ซึ่งคนที่ทำให้ล่มจมคือรัฐบาลและพรรคพลังประชาชน พร้อมทั้งยกตัวอย่างการจัดงาน 116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ ที่ลานพระรูปฯตอนนี้ได้รื้อออกไปหมดแล้ว ใช้เงินไปกว่า 100 ล้านบาท

ลูกสมุนยื่นขอความเป็นธรรมให้ "แม้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรคพลังประชาชน เช้าวานนี้ (21 ส.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. นางอนุสรา ยังตรง ส.ส.สมุทปราการ นางนฤมล ธารดำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ นายเรืองเดช เหลืองบริบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาชน (พปช.) ร่วมกันแถลงที่รัฐสภาว่า ในเวลา 14.45 น.พวกตนจะยื่นจดหมายปิดผนึกความยาว 5 หน้าถึงเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพ.ต.ท.ทักษิณ

ทั้งนี้ เนื้อหาในจดหมายปิดผนึกจะเป็นข้อมูลทางกฎหมาย 5 ฉบับ ได้แก่ ประกาศ คปค.ฉบับที่ 30, ประกาศ คปค.แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 30 ที่ยืดอายุ คตส., พ.ร.บ.ประกอบฯ ป.ป.ช. 2542, พ.ร.บ.ประกอบฯ ป.ป.ช. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมที่กำลังอยู่ในวาระการประชุมสภาสมัยนี้ ซึ่งประธาน ป.ป.ช.เสนอเข้ามา และรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยเฉพาะมาตรา 309 ที่มีเนื้อหานิรโทษกรรม คณะรัฐประหารและผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตามประกาศ คปค.

"กฎหมายดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา พวกผมเชื่อว่าประเทศที่เจริญแล้วเมื่อเห็นเอกสารจะเห็นถึงความไม่เป็นธรรม เห็นถึงความไม่ถูกต้องของขบวนการที่หวังล้มทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ พวกผมไม่ได้กล่าวหาศาล แต่กำลังพูดถึงขบวนการยุติธรรมก่อนหน้านั้นคือ คตส., อัยการ, ป.ป.ช. เมื่อรวมกับข้อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมก็เปรียบได้กับตำรวจจับผู้ถูกกล่าวหามา แล้วเป็นคนเขียนสำนวน อัยการก็สรุปตามนั้น ศาลก็ต้องพิจารณาไปตามสำนวน ในที่สุดผู้ถูกกล่าวหาก็อาจผิดทั้งๆ ที่กฎหมายไม่เป็นธรรม ผมเข้าใจเลยที่นาย (พ.ต.ท.ทักษิณ) ออกแถลงการณ์ ระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม จึงน่าจะหมายถึงสิ่งที่ผมจะยื่น"

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขอลี้ภัยการเมืองว่า ตนไม่ทราบแต่คดียังไม่สิ้นสุด จึงไม่รู้ว่าจะขอลี้ภัยด้วยเหตุผลใด ทั้งนี้ การที่ตนไปยื่นต่อเอกอัครราชทูตอังกฤษ เพราะมีขบวนการไปกดดันและไม่ใช่เรื่องที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเมืองไทยหรือไม่ แต่ต้องการให้โลกได้รู้ว่าความยุติธรรมอยู่ตรงไหน ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องออกนอกประเทศ

"หลังจบการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 52 ในสัปดาห์หน้าตนและเพื่อน ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะทยอยไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะเอาอาหารเหนือไปฝาก อาทิ ลาบคั่ว แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว ไปฝากด้วย"

เมื่อถามว่า มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ควรกลับมาไทย หากกระบวนการยุติธรรมเป็นแบบนี้ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าขบวนการยุติธรรมเป็นแบบนี้ กลับมาก็แพ้ ไม่มีทางสู้ กฎหมายยืดอำนาจตัวเอง กะเอากันให้ตาย เป็นกฎหมายเผด็จการ

เมื่อถามต่อว่า กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมอย่างร่าง พ.ร.บ.ประกอบฯ ป.ป.ช.ที่สภาฯกำลังจะพิจารณาฝ่ายพลังประชาชนจะล้มกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้หวังทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สิ้นซาก แต่พรรคคงไม่คว่ำร่าง แต่จะแสดงให้ประชาชนเห็นว่า เรื่องการตรวจสอบความร่ำรวย ผิดปกติ มีการให้อำนาจ ป.ป.ช.มากขึ้น แสดงความตั้งใจว่า จะเอาให้ถึงที่สุด โดยไม่คำนึงถึงหลักคุณธรรม

เลื่อนรวมพล"โยธิน"จันทร์นี้

เวลา 21.10 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ตอนบ่าย มีพันธมิตรฯโทรศัพท์มาบอกว่า ผู้บริหารโรงเรียนโยธินบูรณะ กำลังเตรียมการที่จะแก้ลำที่พวกเรากำลังจะไปพบหลานๆ เพื่อพูดให้ฟังว่า ลุงป้าน้าอาสนับสนุนด้วยตามที่หลานๆ เคยมาบอกไว้ แต่กลับมีการเตรียมการที่จะแก้ลำ โดยวิธีการนำนักเรียนตัวเล็กเข้าห้องประชุมตอนที่พวกเราไป และกำลังคิดอยู่ว่าจะนำนักเรียนโตไปไว้ที่ไหนดี พอมาถึงตอนหัวค่ำได้มีโทรศัพท์มาว่า กระทรวงศึกษาธิการได้มีการประชุมด่วน เรื่องสำคัญที่สุด คือ เรื่องที่พันธมิตรฯจะไปโยธินบูรณะ

"จริงๆ เป็นการประชุมเลิกเมื่อคืนนี้เอง โดยกำหนดไว้ว่านักเรียนส่วนหนึ่งพาไปดูหนัง ส่วนนักเรียนที่เหลือจะมีการปิดโรงเรียนเพื่อไม่ให้เจอพวกเรา"

พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า แล้วเราจะไปทำไม ในเมื่อเขาปิดโรงเรียนไม่ให้ลูกหลานเจอพวกเรา และเขาไม่รู้ว่าที่เรามาชุมนุมมาด้วยหลักเกณฑ์อะไร ดำรงความมุ่งหมายเดิม และปฏิบัติไปตามสถานการณ์ ซึ่งถ้าเขาเลื่อนไปปิดวันจันทร์อีก ยิ่งแสดงให้เห็นชัดเลยว่าผู้บริหารโรงเรียนนี้เอาแต่ประจบรัฐบาล เอาตัวรอดไม่เคยคิดถึงการศึกษาของลูกหลาน

"สัปดาห์หน้าระวังให้ดีเนื่องจากเตรียมที่จะเป่านกหวีด ให้เตรียมพร้อมไว้และสัปดาห์หน้าวันจันทร์ที่จะถึงให้ไปโดยพร้อมเพรียง และเตรียมตัวให้พร้อม เพราะไม่รู้ว่าฝนจะตกหรือเปล่า ให้เตรียมเสื้อฝน และร่มไปให้พร้อม ไปให้กำลังใจลูกหลานของพวกเรา และการปฏิบัติงานของพันธมิตรจะเห็นได้ว่ายิ่งใหญ่ สุดท้ายเจอกันที่หน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ หรือสี่แยกเกียกกาย"พล.ต.จำลอง กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น