xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยา”ขีดเส้น60วันยกร่างกม.ค้าปลีก ชงครม.วันนี้ขออำนาจเบรกผุดสาขา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-“ไชยา”เสนอครม.วันนี้ อนุมัติตั้งคณะกรรมการยกร่างกฎหมายค้าปลีก ขีดเส้นให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เพื่อป้องกันข้อครหารวบรัดออกกฎหมาย พร้อมขออำนาจให้พาณิชย์เป็นผู้พิจารณาอนุญาตตั้งหรือขยายสาขา หักคอเทศบาล-อบต.แย่งอำนาจอนุมัติเปิสาขาห้างค้าปลีกมาไว้ในกำมือ ก่อนกฎหมายบังคับใช้ จับตานักการเมืองหาช่องระดมทุนเตรียมเลือกตั้ง เล็งปัดฝุ่นไกด์ไลน์ค้าปลีก เหตุที่ผ่านมา การบังคับใช้หย่อนยาน “ยรรยง”เรียกเหล็กถกปรับหรือตรึงราคาภายในสัปดาห์นี้ หลังต้นทุนลด พร้อมนำสินค้าราคาถูกขายงาน 88 ปีพาณิชย์ 20-22 ส.ค.นี้

นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (19 ส.ค.) กระทรวงฯ จะเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาและพัฒนาธุรกิจค้าปลีกค้าส่งไทย เพื่อให้คณะกรรมการฯ ชุดนี้ทำหน้าที่ในการยกร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง กำหนดมาตรการส่งเสริมธุรกิจค้าปลีก และป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบ โดยจะมอบหมายให้กรมการค้าภายในเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ กำหนดให้ได้ข้อสรุปภายใน 60 วัน

แนวทางในการดำเนินการ คณะกรรมการฯ จะดึงร่างกฎหมายที่ค้างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มาดูรายละเอียด ประกอบกับร่างกฎหมายที่กระทรวงพาณิชย์ยกร่างไว้ โดยจะศึกษาถึงผลดีและผลเสียในแง่ต่างๆ และนำมาพิจารณาว่าจะเพิ่มเติมส่วนใดเพื่อทันต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เพราะปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับว่าธุรกิจค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ของไทยต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดและเร่งด่วน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนมาตลอดว่ากำลังเดือดร้อนอย่างหนักหลังค้าปลีกสมัยใหม่เปิดสาขาแข่งในพื้นที่

“จะให้มีคณะกรรมการฯ ขึ้นมาศึกษาก่อน เพราะไม่อยากถูกรายใหญ่กล่าวหาว่ารวบรัดออกกฎหมาย แต่ที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะมีเป้าหมายต้องการลดปัญหาการเอารัดเอาเปรียบและป้องกันความเสียหายของระบบค้าปลีกของประเทศ และต้องการให้เห็นความชัดเจนต่อการดูแลระบบค้าปลีกและมีกฎหมายคุ้มครองผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ส่วนอะไรเพิ่มหรืออะไรต้องปรับปรุงก็จะหารือกัน”นายไชยากล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครม. นายไชยาได้เตรียมนำเรื่องการระงับการขออนุญาตเปิดสาขาค้าปลีกไว้ก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องการออกกฎหมาย โดยได้เตรียมออกประกาศกระทรวงพาณิชย์สำหรับการเปิดสาขาค้าปลีกต้องได้รับความเห็นชอบจากรมว.พาณิชย์ก่อน

ขณะเดียวกัน นายไชยายังได้เตรียมเรียกค้าปลีกเข้าหารือเพื่อสร้างความเข้าใจในการนำแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมระหว่างห้างค้าปลีกขนาดใหญ่และผู้ผลิตสินค้า(ซัปพลายเออร์) หรือไกด์ไลน์ค้าปลีก มาบังคับใช้อย่างจริงจัง หลังจากมีการกำหนดกรอบดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2549 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการนำไปใช้ในการควบคุมอย่างจริงจัง

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เงา ให้ความเห็นถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้อำนาจกระทรวงพาณิชย์ ในการเปิดปิดสาขาโมเดิร์นเทรด เพื่อแก้ปัญหาค้าปลีกรายใหญ่กับโชห่วยว่า ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าครม.มีอำนาจอะไรที่จะมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้พิจารณาให้ขยายหรือไม่ขยายสาขาของโมเดิร์นเทรด

ทั้งนี้ เนื่องจากอำนาจในการให้โมเดิร์นเทรดสามารถเปิดหรือปิดสาขาได้หรือไม่ เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายผังเมือง ซึ่งเป็นเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาว่า การเปิดสาขาหรือขยายสาขาของโมเดิร์นเทรดกระทบการจราจร หรือกระทบความปลอดภัยหรือไม่

“กรณีนี้น่าจะเป็นการหาช่องทางในการแสวงหาอำนาจในการอนุมัติต่าง ๆ มาไว้ในมือของนักการเมือง เพราะรู้ว่าอำนาจในการอนุมัติในลักษณะนี้มีผลประโยชน์แอบบแฝงได้ จึงมีความพยายามที่จะขออำนาจจาก ครม.ทั้ง ๆ ที่ผิดหลักการการกระจายอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่นท้องถิ่นที่ทำกันมากว่าสิบปีแล้ว หาก ครม.อนุมัติ จะส่งผลกระทบในเรื่องของรายได้และผลประโยชน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งสิทธิในการกำหนดวิถีชีวิตของชุมชนอีกด้วย” นายเกียรติกล่าว

เรียกประชุมผู้ค้าลดราคาเหล็ก

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็ก เบื้องต้นจะขอให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาเหล็กเส้นลงมา หลังแนวโน้มวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเหล็กในตลาดโลกเริ่มชะลอตัวลง หรือถ้าปรับลดไม่ได้ ก็ควรตรึงราคา เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งาน ส่วนสินค้าน้ำมันพืชได้คุยกับผู้ประกอบการเป็นการภายใน โดยจะดูเฉพาะน้ำมันถั่วเหลือง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ให้น้ำมันพืชปรับขึ้นราคา

ส่วนในวันที่ 20-22 ส.ค. ซึ่งจะเป็นวันครบรอบ 88 ปี กระทรวงพาณิชย์ จะมีการจัดงานจำหน่ายสินค้าคุณภาพ โดยนายไชยาได้สั่งการให้นำสินค้าจำเป็นบางกลุ่มออกมาจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งกรมฯ ได้จัดเตรียมไว้แล้ว โดยสินค้าพิเศษ เช่น แบตเตอร์รี่สำหรับรถยนต์เล็กและรถปิกอัพ จะนำมาลดราคาต่ำกว่าราคาตลาดที่ปรับลดไป 5-10% มาจำหน่ายภายในงาน นอกจากนี้ ยังมียางรถยนต์ น้ำมันหล่อลื่น ที่จะนำมาลดราคา ส่วนสินค้าอื่นๆ เช่น ข้าวถุง (5 กก.) ราคาไม่เกิน 119 บาท น้ำมันพืช ขวดละ 41 บาท ไข่ไก่ (เบอร์ 3) ถาดละ 50 บาท หมูเนื้อแดงราคากก.ละ 84 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาท้องตลาดที่จำหน่ายกก.ละ 110 บาท เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น