xs
xsm
sm
md
lg

10 หอฯเหนือเดินหน้าปลดแอก“โมเดิร์นเทรด” จี้รัฐป้องคนไทย-เตรียมประท้วงผ่านทูตอังกฤษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – คสศ./หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ จับมือต้าน “โลตัส” ป้องค้าปลีกรายย่อย วาง 6 แนวทางต่อสู้ ทั้งออกแถลงการณ์แจกจ่ายทั่วภาคเหนือเร็ววันนี้ ก่อนยื่นเรื่องประท้วงยักษ์ค้าปลีกผ่านสถานทูตอังกฤษฯ-หนุน 3 จำเลยคดี เทสโก้ฯ ฟ้องสู้จนถึงที่สุด พร้อมประกาศงดร่วมกิจกรรมทุกชนิด จี้รัฐบาลเร่งคลอด พ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่ง ก่อนทุนท้องถิ่นตายทั้งประเทศ

ในการประชุมคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่,เชียงราย,พะเยา,แพร่,น่าน,แม่ฮ่องสอน,ลำพูน,ลำปาง,อุตรดิตถ์ และตาก) ครั้งที่ 2/2551 ที่โรงแรมเกทเวย์ อ.เมือง จ.พะเยา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เฉพาะเวทีที่ประชุมภาคเอกชน หอการค้าฯทั้ง 10 จังหวัดได้หยิบยกประเด็นผลกระทบจากธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติ โดยเฉพาะกรณีของเทสโก้โลตัสขึ้นมาหารือเป็นเรื่องหลัก ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทุกจังหวัดต่างได้รับผลกระทบกันโดยทั่วหน้า

นายอนุดิษฐ์ ภูวเศรษฐ กรรมการหอการค้าไทย,ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดที่ 1 (เชียงใหม่,ลำปาง,ลำพูน,แม่ฮ่องสอน) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า หอการค้าฯ 10 จังหวัดภาคเหนือมีมติร่วมกันว่า จะผลักดันให้เกิดการปกป้องค้าปลีกค้าส่งท้องถิ่นอย่างครบวงจรต่อไปจนถึงที่สุด เนื่องจากปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการท้อง
ถิ่นโดยเฉพาะที่อยู่ในตลาดใหญ่ๆ ของตัวเมืองแต่ละจังหวัดต่างประสบปัญหาขาดทุนและล้มเลิกกิจการกันอย่างหนัก

แต่ผู้ที่ออกมาต่อสู้ปกป้องกลุ่มทุนท้องถิ่นหลายรายในประเทศไทยกลับถูกเทสโก้ โลตัส ฟ้องร้องเรียกเงินเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งที่เป็นข่าวปรากฏไปทั่วแล้วถึง 3 รายหลัก ๆ ที่ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายราย ๆ ละ 100-1,000 ล้านบาท รวมทั้งมีแนวโน้มว่าห้างสรรพสินค้าต่างชาติจะยังขยายกิจการต่อไปอีกเรื่อยๆ เพราะระบบป้องกันภายในประเทศและมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ – เอกชนไทยไม่เข้มแข็งเพียงพอ

นายอนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า แนวทางการต่อต้านห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่จากต่างชาติของหอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ ที่จะดำเนินการต่อจากนี้มีอยู่ 6 แนวทางหลัก ๆ คือ 1.จะออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยต่อการให้มีการขยายห้างสรรพสินค้าต่างชาติโดยเฉพาะ เทสโก้ โลตัส ในประเทศไทยและมีมติให้แสดงท่าทีในการป้องกันห้างค้าปลีกค้าส่งไทยอย่างต่อเนื่อง

2.หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ จะยื่นหนังสือประท้วง เทสโก้ โลตัส ต่อกรณีที่ฟ้องร้องคนไทยที่ทำหน้าที่ปกป้องวงการค้าปลีกค้าส่งของประเทศไทย โดยจะยื่นต่อสถานทูตประเทศอังกฤษประจำประเทศไทย 3.งดร่วมกิจกรรมทุกอย่างกับ เทสโก้โลตัส จนกว่าจะมีการถอนฟ้องคนไทยทั้งหมด 4.เรียกร้องให้มีการค้า
ขายกันแบบ Fair Trade แทน Free Trade

5.เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดการออกกฎหมายปกป้องการค้าปลีกค้าส่งท้องถิ่น เพื่อควบคุมกลุ่มทุนใหญ่ และ 6.จะสนับสนุนให้ผู้ที่ถูกฟ้องร้องต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด และเตรียมการฟ้องกลับเพื่อเรียกร้องค้าเสียหายคืนมา

นายอนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ คสศ.-หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ จะจัดเตรียมเป็นเอกสารแถลงการณ์เพื่อแจกจ่ายไปยังภาครัฐและเอกชนทั่วภาคเหนือ และจะนำเรื่องนี้เสนอเข้าสู่การประชุมหอการค้าไทยในเดือนพฤศจิกายน 51 นี้ด้วย เพื่อผลักดันในระดับประเทศต่อไป โดยเป้าหมายสำคัญคือต้องการให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการปกป้องกิจการค้าปลีกของคนไทย โดยถือเป็นโครงการเร่งด่วน เพราะขณะนี้เราทำได้เพียงปกป้องร้านค้าท้องถิ่นที่เหลือเท่านั้น

“การออกแถลงการณ์ดังกล่าวแม้จะไม่ใช่กฎหมายหรือข้อบังคับ แต่หากแต่ละจังหวัดหรือภาครัฐได้แสดงท่าทีหรือจัดทำยุทธศาสตร์จังหวัดโดยเห็นแก่แถลงการณ์ของภาคเอกชนดังกล่าวแล้ว ก็จะสามารถปรามบรรดาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป”

นายอนุดิษฐ์ บอกอีกว่า สถานการณ์การค้าปลีกของไทยในปัจจุบัน ถ้าดูจากฐานข้อมูลของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จะพบว่า การขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อปี 2544 มีเพียง 1,821 สาขา ปัจจุบัน (พฤษภาคม 2551) เพิ่มขึ้นเป็น 6,505 สาขา หรือขยายตัวกว่า 3 เท่าตัว ขณะที่ยอดขายก็โตขึ้นมหาศาลจากปี 44 มียอดขายเพียง 207,073 ล้านบาท ในปี 49 เพิ่มเป็น 427,860 ล้านบาท

เขาบอกว่า ความหวังเดียวที่จะปกป้องธุรกิจค้าปลีกรายย่อยของไทยในขณะนี้ก็คือ “พ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่ง” ที่ถูกยื้อมานานเท่านั้น การใช้กฎหมายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายผังเมือง การควบคุมอาคาร ฯลฯ ที่อยู่ขณะนี้ ล้วนแล้วแต่มีช่องว่างรอยโหว่ ทำให้กลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่เปิดสาขาใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

“เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า รัฐบาลทำอะไรอยู่ ทั้งที่กิจการของคนไทยกำลังจะตายหมดทั้งประเทศ”

นายอนุดิษฐ์ กล่าวว่า การขยายสาขาของห้างใหญ่ทุนยักษ์ในต่างประเทศทั่วโลกจะถูกควบคุมอย่างแน่นหนา เพื่อปกป้องกิจการของคนในท้องถิ่น เช่น ญี่ปุ่น ,ฝรั่งเศส,เดนมาร์ก,มาเลเซีย,อินโดนีเซีย มีกฎหมายเรื่องการขออนุญาตตั้ง/ขยายสาขา/วิเคราะห์ผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม – ฝรั่งเศส,เดนมาร์ก,มาเลเซีย,อินโดฯ มีการกำหนดบริเวณ พื้นที่ตั้งสาขาโมเดิร์นเทรดไม่ให้กระทบกิจการรายย่อยของคนท้องถิ่น – ญี่ปุ่น ,ฝรั่งเศส,เดนมาร์ก,มาเลย์,เกาหลีใต้ มีการกำหนดจำนวนธุรกิจ ขนาดพื้นที่โมเดิร์นเทรด – เดนมาร์ก และมาเลย์ กำหนดวัน เวลา ชั่วโมง ในการเปิดปิดของห้างขนาดใหญ่อย่างชัดเจน เป็นต้น แต่ของไทยกลับปล่อยให้เปิดกันได้อย่างเสรี ภายใต้ข้อกล่าวอ้างว่า เป็นการค้าเสรี

เขาบอกว่า ไม่เข้าใจว่าที่กลุ่มห้างยักษ์เหล่านี้ทำอยู่เป็นการค้าเสรีตรงไหน เพราะการที่ผู้ประกอบการรายย่อยของไทยจะเอาสินค้าเข้าไปวาง ก็ต้องเสียค่าแรกเข้า ตัวละไม่น้อยกว่า 20,000 บาท/สาขา หากขายไม่ดีก็จะถูกปลดออกทันที ซึ่งขึ้นกับการตัดสินใจของห้างใหญ่ – การจัดโปรโมชั่น ต่าง ๆ ซัปพลายเออร์ก็จะถูกบีบให้เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ และจากนี้ไปกลุ่มห้างใหญ่เหล่านี้ก็จะผลิตสินค้าเลียนแบบ ที่เรียกว่า House Brand ขึ้นมาจำหน่ายเอง นั่นหมายถึงผู้ผลิตในท้องถิ่นก็จะตายไปในที่สุดด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น