ม.หอการค้าฯ ฉายภาพธุรกิจการค้าไทย-สหรัฐฯ หลังโอบามาชนะเลือกตั้ง มุ่งเน้นการปกป้องการค้าภายในประเทศ ประชาชนขั้นกลางและล่างอย่าง โดยการอัดฉีดงบประมาณ-กระจายรายไปชนชั้นล่าง และการลดภาษีให้ชนชั้นกลาง เพื่อกระตุ้นการบริโภค พร้อมเร่งฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วยการสนับสนุนการส่งออกและดูแลการนำเข้า ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยจะส่งผลทำให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้น
วันนี้ ( 6 พ.ย.) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่นายบารัค โอบามา ชนะเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อการค้าการลงทุนของไทยและทั่วโลก โดยมองว่า นายโอบามา ไม่น่าจะออกกฎระเบียบที่เป็นการกีดกันประเทศคู่ค้ามากนัก เนื่องจากนโยบายทางด้านการค้าคงต้องเป็นไปตามกรอบเวทีโลกและนายโอบามาเอง ก็ต้องการการตอบรับที่ดีจากเวทีโลกเช่นกัน
นายธนวรรธน์ ยังคาดการณ์ว่า นโยบายของนายโอบามา จะต้องปกป้องธุรกิจภายในของสหรัฐฯ และประชาชนขั้นกลางและล่างอย่างแน่นอน รวมทั้งจะต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วยการสนับสนุนการส่งออกและดูแลการนำเข้า ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยจะส่งผลทำให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องดูแลให้ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสม 34 - 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนรายได้ของชนชั้นกลางและล่างของสหรัฐฯ ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อสินค้าไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการให้สามารถรักษาระดับการส่งออกไว้ได้ นอกจากนี้ นายธนวรรธน์ ยังกล่าวอีกว่าในปี 2552 เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะยังคงติดลบและจะค่อยๆ ปรับตัวฟื้นได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี
ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ มีนโยบายที่จะมุ่งกีดกันด้านการค้าการลงทุนจริง เช่น การจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าในอัตราสูง หรือการเพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบสำหรับสินค้านำเข้ามากขึ้น เช่น มาตรฐานแรงงานและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ก็อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกไทยบ้าง โดยธุรกิจที่คาดว่าจะมีความเสียงมากที่สุดก็คือ ธุรกิจส่งออกกุ้ง และธุรกิจอาหารกระป๋อง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม มองว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการไทยจะสามารถปรับตัวตามสถานการณ์ได้
ขณะที่ในระยะกลางมองว่า นโยบายทางเศรษฐกิจของนายโอบามา น่าจะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐเพื่อให้เกิดกระจายรายได้ไปสู่ชนชั้นแรงงาน รวมถึงการลดภาษีให้แก่กลุ่มชนชั้นกลาง และกลุ่มชนชั้นล่าง ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคของประชาชนอเมริกันได้ และจะส่งผลดีทางอ้อมต่อการส่งออกสินค้าไทย เพราะสินค้าของไทยส่วนมากจะเน้นฐานลูกค้าตั้งแต่ชนชั้นกลางลงไป
