“บางจาก” เดินหน้าลุยมินิมาร์ทในปั๊มเอง หลังเจรจาแบรนด์ดังค้าปลีกเหลว เหตุตกลงเงื่อนไขกันไม่ได้ คุยโวร้านที่ลองทำเองยอดขายดีไปได้ไกล เปิดแผน ยุบแบรนด์เลมอนกรีนพร้อมทุ่ม 200 ล้านบาทรีโนเวทสู่แบรนด์เดียว “ใบจาก” คาด 4 ปีจากนี้โกยรายได้ 1,000 ล้านบาท
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรักษาการผู้อำนวยการอาวุโส สายตลาดอุตสาหกรรม และน้ำมันหล่อลื่น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากมีนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาคุณภาพน้ำมันและการบริการควบคู่กันไป ทั้งโครงการฟาสต์เซอร์วิส หรือการรีแบรนดิ้งสถานีบริการน้ำมันให้เกิดความประทับใจกับลูกค้า โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจมินิมาร์ทในสถานีบริการ เป็นอีกสิ่งที่บางจากจะต้องปรับปรุงให้สามารถแข่งขันในตลาดค้าปลีกรวมและเพื่อเป็นการทำรายได้เพิ่มอีกช่องทางหนึ่งด้วย
สำหรับแผนพัฒนาธุรกิจมินิมาร์นั้น ขณะนี้บริษัทฯมีนโยบายชัดเจนที่จะลงทุนดำเนินการเองแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจากับทางผู้ประกอบการค้าปลีกหลายรายเพื่อเข้ามาบริหารจัดการหรือรับสิทธิ?พื้นที่ในปั๊มน้ำมันบางจากหลายรายแต่ก็ไม่สามารถสรุปการเจรจาได้ เนื่องจาก เงื่อนไขบางอย่างที่บางจากรับไม่ได้ ขณะเดียวกันในบางเงื่อนไขทางฝ่ายผู้ประกอบการเองก็ไม่สามารถทำกับเราได้
ที่ผ่านมาบางจากเองก็ได้มีการทำธุรกิจมินิมาร์ทเองมาก่อนแล้วใน 2 แบรนด์คือ ใบจาก และ เลมอนกรีน ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งนี้แผนการพัฒนามินิมาร์ทที่ชัดเจนจะเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังเต็มรูปแบบในต้นปี 2552 โดยมีเป้าหมายที่จะใช้แบรนด์เดียวคือ ใบจาก ด้วยการเปิดใหม่และทำการปรับเปลี่ยนร้านเลมอนกรีนเดิมให้เป็นใบจากทั้งหมดภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากต้นปี 2552 โดยคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเฉลี่ยสาขาละ 2 ล้านบาท รวมเป็นงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านใบจากประมาณ 55 แห่ง ซึ่งเป็นร้านขนาดใหญ่มีสินค้ามากกว่า และทันสมัยกว่า ส่วนร้านเลมอนกรีนซึ่งมีขนาดเล็กกว่า และมีสาขานี้เวลานี้ประมาณ 100 กว่าแห่ง โดยปีที่แล้วมีรายได้จากมินิมาร์ท 2 แบรนด์รวมกันกว่า 600 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโต 10% หรือมีรายได้รวมมากกว่า 660 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าหากปรับเปลี่ยนร้านเลมอนกรีนหมดและมีการเปิดสาขาใบจากใหม่ๆเพิ่มขึ้น จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในช่วง 4 ปีจากนี้ไป
นายยอดพจน์กล่าวต่อถึงร้านกาแฟอินทนิลด้วยว่า เป็นร้านกาแฟที่บางจากให้บริการในรูปแบบแฟรนไชส์ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดยมี 3 ขนาดให้เลือก ได้แก่ แบบเล็กค่าแฟรนไชส์ 6 แสนบาท ขนาดกลาง 8 แสนบาท และใหญ่ 1 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 62 แห่ง ถือได้ว่าประสบความสำเร็จด้วยดี คาดว่าปีหน้าจะเปิดเพิ่มให้ครบ 80 แห่ง
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรักษาการผู้อำนวยการอาวุโส สายตลาดอุตสาหกรรม และน้ำมันหล่อลื่น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากมีนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาคุณภาพน้ำมันและการบริการควบคู่กันไป ทั้งโครงการฟาสต์เซอร์วิส หรือการรีแบรนดิ้งสถานีบริการน้ำมันให้เกิดความประทับใจกับลูกค้า โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจมินิมาร์ทในสถานีบริการ เป็นอีกสิ่งที่บางจากจะต้องปรับปรุงให้สามารถแข่งขันในตลาดค้าปลีกรวมและเพื่อเป็นการทำรายได้เพิ่มอีกช่องทางหนึ่งด้วย
สำหรับแผนพัฒนาธุรกิจมินิมาร์นั้น ขณะนี้บริษัทฯมีนโยบายชัดเจนที่จะลงทุนดำเนินการเองแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจากับทางผู้ประกอบการค้าปลีกหลายรายเพื่อเข้ามาบริหารจัดการหรือรับสิทธิ?พื้นที่ในปั๊มน้ำมันบางจากหลายรายแต่ก็ไม่สามารถสรุปการเจรจาได้ เนื่องจาก เงื่อนไขบางอย่างที่บางจากรับไม่ได้ ขณะเดียวกันในบางเงื่อนไขทางฝ่ายผู้ประกอบการเองก็ไม่สามารถทำกับเราได้
ที่ผ่านมาบางจากเองก็ได้มีการทำธุรกิจมินิมาร์ทเองมาก่อนแล้วใน 2 แบรนด์คือ ใบจาก และ เลมอนกรีน ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งนี้แผนการพัฒนามินิมาร์ทที่ชัดเจนจะเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังเต็มรูปแบบในต้นปี 2552 โดยมีเป้าหมายที่จะใช้แบรนด์เดียวคือ ใบจาก ด้วยการเปิดใหม่และทำการปรับเปลี่ยนร้านเลมอนกรีนเดิมให้เป็นใบจากทั้งหมดภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากต้นปี 2552 โดยคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเฉลี่ยสาขาละ 2 ล้านบาท รวมเป็นงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านใบจากประมาณ 55 แห่ง ซึ่งเป็นร้านขนาดใหญ่มีสินค้ามากกว่า และทันสมัยกว่า ส่วนร้านเลมอนกรีนซึ่งมีขนาดเล็กกว่า และมีสาขานี้เวลานี้ประมาณ 100 กว่าแห่ง โดยปีที่แล้วมีรายได้จากมินิมาร์ท 2 แบรนด์รวมกันกว่า 600 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโต 10% หรือมีรายได้รวมมากกว่า 660 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าหากปรับเปลี่ยนร้านเลมอนกรีนหมดและมีการเปิดสาขาใบจากใหม่ๆเพิ่มขึ้น จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในช่วง 4 ปีจากนี้ไป
นายยอดพจน์กล่าวต่อถึงร้านกาแฟอินทนิลด้วยว่า เป็นร้านกาแฟที่บางจากให้บริการในรูปแบบแฟรนไชส์ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดยมี 3 ขนาดให้เลือก ได้แก่ แบบเล็กค่าแฟรนไชส์ 6 แสนบาท ขนาดกลาง 8 แสนบาท และใหญ่ 1 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 62 แห่ง ถือได้ว่าประสบความสำเร็จด้วยดี คาดว่าปีหน้าจะเปิดเพิ่มให้ครบ 80 แห่ง