ผู้จัดการรายวัน - ขึงพืด "เลี้ยบ-ที่ปรึกษา" สตง.ชี้โครงการมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ฯ ผิดกฎหมายลักษณะเดียวกับหวยบนดิน อาศัยมติ ครม.เลี่ยงการประมูลอีอ๊อกชั่น พิรุธเร่งงานจนมีปัญหา แถมฮั้วเอกชนรีดไถกรมและแบงก์ในสังกัดร่วม 100 ล้าน ล่าสุดจ้องจัดเพิ่มที่ศูนย์สิริกิติ์ ขณะที่วันนี้อาจรู้ผลศาลปกครองสูงสุดไต่สวนฉุกเฉินคดีหวยบนดินที่ทนายกลุ่มพันธมิตรฯ ขอให้ออกคำสั่งห้าม 3 รัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ พร้อมพ่วงคดีบอร์ดแบงก์ชาติ ดึง 2 ส.ส.ปชป.ร่วมเป็นพยาน
รายงานข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งว่า ขณะนี้ สตง.อยู่ระหว่างตรวจสอบกิจกรรมการจัดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" ที่จัดขึ้นในวันที่ 17-20 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นการใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) สร้างความชอบธรรมให้โครงการเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองหรือไม่ เนื่องจากเมื่อพิจารณาหลักการของการใช้มติ ครม.จะพบว่ามีลักษณะคล้ายการใช้มติ ครม.ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น โครงการหวยบนดิน หรือสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ที่ใช้มติ ครม.ไม่ต้องนำส่งรายได้เข้าคลัง
"การจัดงานดังกล่าวใช้งบประมาณสูงแต่ไม่ใช้วิธีการประมูลที่มีระเบียบว่าหากโครงการที่ใช้งบสูงกว่า 5 ล้านบาทจะต้องใช้วิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังพบว่าการจัดงานไม่เป็นไปตามคำประกาศของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในด้านสินค้าที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค เช่น ปัญหาถังก๊าซเอ็นจีวีไม่พอกับความต้องการ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เตรียมการเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง แต่อาศัยสถานการณ์ความต้องการซื้อสินค้าราคาถูกจากประชาชนทำให้เป็นเรื่องเร่งด่วน อีกทั้งไม่ใช่การจัดกิจกรรมขายสินค้าราคาถูกไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงการคลังแต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์" รายงานข่าว ระบุ
กิจกรรมมั่นใจไทยแลนด์ฯ ได้เสนอ ครม.เพื่อของบประมาณจัดงานจำนวน 30 ล้านบาท โดยขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้ไม่ต้องใช้วิธีประมูลให้ก่อหนี้ผูกพันก่อนมีตัวเม็ดเงิน และหากมีรายได้จากการจัดงานไม่เพียงพอ ครม.ต้องอนุมัติเงินงบประมาณเพิ่มเติม ภายหลังจาก ครม.เห็นชอบการจัดงาน กรมบัญชีกลางทำเรื่องเสนอกระทรวงการคลังเพื่อขอเก็บเงินรายได้ไว้ใช้จ่าย โดยไม่ต้องนำส่งคลัง ซึ่งการขอเก็บเงินรายได้จะเป็นการจัดเก็บจากรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่มาออกงาน ซึ่งพบว่าการใช้จ่ายในการจัดงานรวมแล้วสูงถึง 65,891,670 บาท
แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า บริษัทที่รับดำเนินการจัดงานและโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ฯ ได้แก่ บริษัทซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ บริษัทเอสซี เบสต์บ็อกซ์ แม้ นพ.สุรพงษ์อ้างว่าใช้งบประมาณ 65 ล้านบาท แบ่งเป็นขอ ครม. 22 ล้านบาท และอีก 43 ล้านบาทนั้นจะให้หน่วยงานภาครัฐที่ร่วมจัดงานและภาคเอกชนสนับสนุน แต่ในข้อเท็จจริงรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลังต้องควักเงินให้เอกชนที่รับดำเนินการจัดงานมากกว่า 43 ล้านบาท ยังไม่นับการโก่งราคาพื้นที่จัดงาน
"เฉพาะกรมและธนาคารในสังกัดกระทรวงฯ รวมกันเกือบ 80 ล้านบาท ที่สำคัญบริษัทดังกล่าวมีเครือข่ายความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นพ.สุรพงษ์และคณะที่ปรึกษา ขณะนี้ สตง.กำลังขยายผลเรื่องนี้" แหล่งข่าวกล่าวและแนะนำให้จับตาการพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ (19 ส.ค.) ที่ นพ.สุรพงษ์ได้ระบุด้วยว่า จะเสนอ ครม.ของบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อจัดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์การลงทุนเพื่อคนไทยในอนาคต" ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อโปรโมตโครงการลงทุนขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ในประเทศไทย ว่าจะมีการขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุอีกหรือไม่
ทั้งนี้ นพ.สุรพงษ์ ยังไม่ยอมหยุดการปฏิบัติหน้าที่หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้องคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ทั้งๆ ที่วัตถุประสงค์ของกฎหมายต้องการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในคดีนี้หยุดการทำหน้าที่ก่อน ส่งผลให้ทนายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่ให้ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง นาย อุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน และนาย อนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว
ลุ้นวันนี้ศาลสั่ง 3 รมต.หวยหยุด
วานนี้ (18 ส.ค.) คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่มี นายเกษม คมสัตย์ธรรม ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เจ้าของสำนวนที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกไต่สวนคำขอคุ้มครองชั่วคราวที่นายสุวัตร และคณะ ขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่ให้รัฐมนตรีทั้ง 3 คนปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาในคดีหวยบนดินโดยมิชอบ
โดยการไต่สวนนายสุวัตร ได้นำพยานรวม 6 ปากเข้าชี้แจง ประกอบด้วยผู้ฟ้องคดี 4 คน ได้แก่นาย สุวัตร อภัยภักดิ์ นาย นิติธร ล้ำเหลือ ทนายความพันธมิตรฯ นาย สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯและนาย คำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา พร้อมมยื่นรายชื่อพยานเพิ่มเติม 2 ปาก คือนายถาวร เสนเนียม และนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.ประชาธิปัตย์ เนื่องจากเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐสภา กรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากแต่งตั้งผู้ที่มีผลประโยชน์ได้เสียเข้าเป็นกรรมการสรรหา รวมทั้งกรณีที่มติ ครม.วันที่ 29 ก.ค. ที่ตั้งกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีปัญหาเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตเข้าให้การด้วย จนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีต้องฟ้องต่อศาลปกครองขอให้มีคำสั่งเพิกถอนมติครม. เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 51 และ 5 ส.ค. 51 ที่แต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และแต่งตั้งคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่มีนาย วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานเพราะเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจร่วมออกกฎหรือคำสั่งหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีหวยบนดินแล้ว ขณะที่ในส่วนของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าชี้แจงต่อศาลแต่อย่างใด
นายถาวร กล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อให้เข้าให้การในฐานะพยานในคำฟ้องคดีดังกล่าว เนื่องจากดำเนินการตรวจสอบการแต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นและเคยยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการที่ให้รัฐมนตรีที่ถูกชี้มูลทุจริตปฏิบัติหน้าที่ต่อไปก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องบรรทัดฐานได้ เพราะการตีความว่าการจะยุติการปฏิบัติหน้าที่จะต้องเป็นการยุติหน้าที่ในตำแหน่งนั้นๆ น่าจะแคบเกินไปสำหรับนักการเมืองที่ต้องมีจริยธรรมมากกว่าบุคคลทั่วไป
ส่วนการเดินทางมาเป็นพยานเพราะไม่ว่าบุคคลใดหากศาลเรียกเข้าให้การ ก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะกลายเป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้าข้างฝ่ายพันธมิตรฯหรือจับมือกันเล่นงานรัฐบาล ซึ่งก็เป็นเพียงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพราะการกระทำของเราจะให้พวก 3 เกลอหัวแข็งมาชื่นชมคงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายถาวร และนายกรณ์ นั้นได้ยื่นเอกสารคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในกรณีการแต่งตั้งกรรมการสรรหาคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยโดยมิชอบต่อตุลาการเจ้าของสำนวน ซึ่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าเอกสารดังกล่าวมีข้อเท็จจริงพร้อมอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้นายถาวรและนายกรณ์เข้าเบิกความอีกแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตุลาการเจ้าของสำนวนได้ใช้เวลาไต่สวนผู้ฟ้องคดีทั้ง 4 ประมาณ 1 ชั่วโมง
มีรายงานว่า หลังจากที่ตุลาการเจ้าของสำนวนได้ไต่สวนผู้ฟ้องคดีเสร็จสิ้นแล้ว ได้นำเอกสารคำฟ้องคดีและคำให้การเข้าสู่ที่ประชุมองค์คณะ โดยองค์คณะได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 19 ส.ค.ที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะมีคำสั่งออกมาว่าจะสั่งระงับการบังคับใช้มติ ครม.วันที่ 29 ก.ค. และ 5 ส.ค. 51 ไว้จนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษา รวมทั้งให้ 3 รัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองมีคำพิพากษาหรือไม่ในวันเดียวกัน
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ตัวแทนทนายกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวภายหลังเข้าให้ข้อมูลต่อศาลฯ ว่า องค์คณะของศาลปกครองได้ไต่สวนฉุกเฉินเสร็จแล้ว โดยเราได้นำพยานเข้าไต่สวนสองปากพร้อมส่งเอกสารประกอบคำฟ้องแล้ว แต่ศาลยังไม่ได้นัดวันฟังคำสั่ง เมื่อศาลฯไม่ได้นัดวันฟังคำสั่ง ก็มีความเป็นไปได้ที่ศาลอาจจะส่งคำสั่งเป็นเอกสารมาให้ผู้ร้อง
วันเดียวกัน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ตนอยากจะเรียกร้องให้ 3 รมต.ที่ถูกยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอให้งดเข้าร่วมในการประชุม ครม.ในวันที่ 19 ส.ค. เพราะตนไม่แน่ใจว่า ศาลปกครองอาจจะมีคำสั่งออกมาในคืนวันที่ 18 ส.ค. เหมือนกับกรณีคำฟ้องเขาพระวิหารหรือไม่ ตามความเหมาะสมแล้ว 3 รมต.ควรจะขอลา ไม่ควรเข้าร่วมการประชุม ครม.เพื่อรอคำสั่งศาลปกครองเสียก่อนว่าจะออกมาอย่างไร หาก 3 รมต.ยังคงดึงดันที่จะเข้าร่วมประชุม ครม.แล้ว ประกอบกับหากศาลมีคำสั่งออกมาในวันเดียวกันก็อาจจะมีผลทำให้การประชุม ครม.ที่มีมติเรื่องใดออกมากลายเป็นโมฆะทันที
รายงานข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งว่า ขณะนี้ สตง.อยู่ระหว่างตรวจสอบกิจกรรมการจัดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" ที่จัดขึ้นในวันที่ 17-20 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นการใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) สร้างความชอบธรรมให้โครงการเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองหรือไม่ เนื่องจากเมื่อพิจารณาหลักการของการใช้มติ ครม.จะพบว่ามีลักษณะคล้ายการใช้มติ ครม.ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น โครงการหวยบนดิน หรือสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ที่ใช้มติ ครม.ไม่ต้องนำส่งรายได้เข้าคลัง
"การจัดงานดังกล่าวใช้งบประมาณสูงแต่ไม่ใช้วิธีการประมูลที่มีระเบียบว่าหากโครงการที่ใช้งบสูงกว่า 5 ล้านบาทจะต้องใช้วิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังพบว่าการจัดงานไม่เป็นไปตามคำประกาศของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในด้านสินค้าที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค เช่น ปัญหาถังก๊าซเอ็นจีวีไม่พอกับความต้องการ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เตรียมการเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง แต่อาศัยสถานการณ์ความต้องการซื้อสินค้าราคาถูกจากประชาชนทำให้เป็นเรื่องเร่งด่วน อีกทั้งไม่ใช่การจัดกิจกรรมขายสินค้าราคาถูกไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงการคลังแต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์" รายงานข่าว ระบุ
กิจกรรมมั่นใจไทยแลนด์ฯ ได้เสนอ ครม.เพื่อของบประมาณจัดงานจำนวน 30 ล้านบาท โดยขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้ไม่ต้องใช้วิธีประมูลให้ก่อหนี้ผูกพันก่อนมีตัวเม็ดเงิน และหากมีรายได้จากการจัดงานไม่เพียงพอ ครม.ต้องอนุมัติเงินงบประมาณเพิ่มเติม ภายหลังจาก ครม.เห็นชอบการจัดงาน กรมบัญชีกลางทำเรื่องเสนอกระทรวงการคลังเพื่อขอเก็บเงินรายได้ไว้ใช้จ่าย โดยไม่ต้องนำส่งคลัง ซึ่งการขอเก็บเงินรายได้จะเป็นการจัดเก็บจากรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่มาออกงาน ซึ่งพบว่าการใช้จ่ายในการจัดงานรวมแล้วสูงถึง 65,891,670 บาท
แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า บริษัทที่รับดำเนินการจัดงานและโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ฯ ได้แก่ บริษัทซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ บริษัทเอสซี เบสต์บ็อกซ์ แม้ นพ.สุรพงษ์อ้างว่าใช้งบประมาณ 65 ล้านบาท แบ่งเป็นขอ ครม. 22 ล้านบาท และอีก 43 ล้านบาทนั้นจะให้หน่วยงานภาครัฐที่ร่วมจัดงานและภาคเอกชนสนับสนุน แต่ในข้อเท็จจริงรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลังต้องควักเงินให้เอกชนที่รับดำเนินการจัดงานมากกว่า 43 ล้านบาท ยังไม่นับการโก่งราคาพื้นที่จัดงาน
"เฉพาะกรมและธนาคารในสังกัดกระทรวงฯ รวมกันเกือบ 80 ล้านบาท ที่สำคัญบริษัทดังกล่าวมีเครือข่ายความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นพ.สุรพงษ์และคณะที่ปรึกษา ขณะนี้ สตง.กำลังขยายผลเรื่องนี้" แหล่งข่าวกล่าวและแนะนำให้จับตาการพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ (19 ส.ค.) ที่ นพ.สุรพงษ์ได้ระบุด้วยว่า จะเสนอ ครม.ของบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อจัดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์การลงทุนเพื่อคนไทยในอนาคต" ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อโปรโมตโครงการลงทุนขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ในประเทศไทย ว่าจะมีการขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุอีกหรือไม่
ทั้งนี้ นพ.สุรพงษ์ ยังไม่ยอมหยุดการปฏิบัติหน้าที่หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้องคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ทั้งๆ ที่วัตถุประสงค์ของกฎหมายต้องการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในคดีนี้หยุดการทำหน้าที่ก่อน ส่งผลให้ทนายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่ให้ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง นาย อุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน และนาย อนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว
ลุ้นวันนี้ศาลสั่ง 3 รมต.หวยหยุด
วานนี้ (18 ส.ค.) คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่มี นายเกษม คมสัตย์ธรรม ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เจ้าของสำนวนที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกไต่สวนคำขอคุ้มครองชั่วคราวที่นายสุวัตร และคณะ ขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่ให้รัฐมนตรีทั้ง 3 คนปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาในคดีหวยบนดินโดยมิชอบ
โดยการไต่สวนนายสุวัตร ได้นำพยานรวม 6 ปากเข้าชี้แจง ประกอบด้วยผู้ฟ้องคดี 4 คน ได้แก่นาย สุวัตร อภัยภักดิ์ นาย นิติธร ล้ำเหลือ ทนายความพันธมิตรฯ นาย สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯและนาย คำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา พร้อมมยื่นรายชื่อพยานเพิ่มเติม 2 ปาก คือนายถาวร เสนเนียม และนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.ประชาธิปัตย์ เนื่องจากเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐสภา กรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากแต่งตั้งผู้ที่มีผลประโยชน์ได้เสียเข้าเป็นกรรมการสรรหา รวมทั้งกรณีที่มติ ครม.วันที่ 29 ก.ค. ที่ตั้งกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีปัญหาเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตเข้าให้การด้วย จนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีต้องฟ้องต่อศาลปกครองขอให้มีคำสั่งเพิกถอนมติครม. เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 51 และ 5 ส.ค. 51 ที่แต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และแต่งตั้งคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่มีนาย วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานเพราะเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจร่วมออกกฎหรือคำสั่งหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีหวยบนดินแล้ว ขณะที่ในส่วนของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าชี้แจงต่อศาลแต่อย่างใด
นายถาวร กล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อให้เข้าให้การในฐานะพยานในคำฟ้องคดีดังกล่าว เนื่องจากดำเนินการตรวจสอบการแต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นและเคยยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการที่ให้รัฐมนตรีที่ถูกชี้มูลทุจริตปฏิบัติหน้าที่ต่อไปก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องบรรทัดฐานได้ เพราะการตีความว่าการจะยุติการปฏิบัติหน้าที่จะต้องเป็นการยุติหน้าที่ในตำแหน่งนั้นๆ น่าจะแคบเกินไปสำหรับนักการเมืองที่ต้องมีจริยธรรมมากกว่าบุคคลทั่วไป
ส่วนการเดินทางมาเป็นพยานเพราะไม่ว่าบุคคลใดหากศาลเรียกเข้าให้การ ก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะกลายเป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้าข้างฝ่ายพันธมิตรฯหรือจับมือกันเล่นงานรัฐบาล ซึ่งก็เป็นเพียงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพราะการกระทำของเราจะให้พวก 3 เกลอหัวแข็งมาชื่นชมคงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายถาวร และนายกรณ์ นั้นได้ยื่นเอกสารคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในกรณีการแต่งตั้งกรรมการสรรหาคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยโดยมิชอบต่อตุลาการเจ้าของสำนวน ซึ่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าเอกสารดังกล่าวมีข้อเท็จจริงพร้อมอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้นายถาวรและนายกรณ์เข้าเบิกความอีกแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตุลาการเจ้าของสำนวนได้ใช้เวลาไต่สวนผู้ฟ้องคดีทั้ง 4 ประมาณ 1 ชั่วโมง
มีรายงานว่า หลังจากที่ตุลาการเจ้าของสำนวนได้ไต่สวนผู้ฟ้องคดีเสร็จสิ้นแล้ว ได้นำเอกสารคำฟ้องคดีและคำให้การเข้าสู่ที่ประชุมองค์คณะ โดยองค์คณะได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 19 ส.ค.ที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะมีคำสั่งออกมาว่าจะสั่งระงับการบังคับใช้มติ ครม.วันที่ 29 ก.ค. และ 5 ส.ค. 51 ไว้จนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษา รวมทั้งให้ 3 รัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองมีคำพิพากษาหรือไม่ในวันเดียวกัน
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ตัวแทนทนายกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวภายหลังเข้าให้ข้อมูลต่อศาลฯ ว่า องค์คณะของศาลปกครองได้ไต่สวนฉุกเฉินเสร็จแล้ว โดยเราได้นำพยานเข้าไต่สวนสองปากพร้อมส่งเอกสารประกอบคำฟ้องแล้ว แต่ศาลยังไม่ได้นัดวันฟังคำสั่ง เมื่อศาลฯไม่ได้นัดวันฟังคำสั่ง ก็มีความเป็นไปได้ที่ศาลอาจจะส่งคำสั่งเป็นเอกสารมาให้ผู้ร้อง
วันเดียวกัน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ตนอยากจะเรียกร้องให้ 3 รมต.ที่ถูกยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอให้งดเข้าร่วมในการประชุม ครม.ในวันที่ 19 ส.ค. เพราะตนไม่แน่ใจว่า ศาลปกครองอาจจะมีคำสั่งออกมาในคืนวันที่ 18 ส.ค. เหมือนกับกรณีคำฟ้องเขาพระวิหารหรือไม่ ตามความเหมาะสมแล้ว 3 รมต.ควรจะขอลา ไม่ควรเข้าร่วมการประชุม ครม.เพื่อรอคำสั่งศาลปกครองเสียก่อนว่าจะออกมาอย่างไร หาก 3 รมต.ยังคงดึงดันที่จะเข้าร่วมประชุม ครม.แล้ว ประกอบกับหากศาลมีคำสั่งออกมาในวันเดียวกันก็อาจจะมีผลทำให้การประชุม ครม.ที่มีมติเรื่องใดออกมากลายเป็นโมฆะทันที