ผู้จัดการรายวัน-วงเสนา"ทักษิณ-พจมาน" หนีคดี อดีต ส.ว.เชื่อแม้ 2 สามี-ภริยาผู้ต้องหาจะใช้ทนายทีมเดียวกับ "ปิ่น จักกะพาก" ต่อสู้คดีอยู่ในต่างประเทศ แต่ก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือตุลาการภิวัฒน์ไปได้ นอกเสียจากหนีจนสิ้นอายุความ ขณะที่นักวิชาการจุฬาฯฟันธง ถ้าเลือกตั้งหลัง 6 เดือนการเมืองเปลี่ยนขั้วแต่หากเลือกตั้งช่วง 3 เดือนนี้การเมืองรุนแรง ชูกฎหมายลูกให้แรงงานอยู่เกิน 3 ปีเลือกตั้งในพื้นที่ที่ทำงานได้ ชี้เมกะโปรเจกต์ประชานิยมรถเมล์ฟรี ไม่มีจริง เหตุเอาเงินภาษีของคนชั้นกลางไปให้คนจน ฉุนไม่ลดน้ำมันให้คนชั้นกลาง ถามจะเอากำไรไปทำอะไรนักหนา
วานนี้ (17 ส.ค.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันอิศรา จัดเสวนา "สถานการณ์การเมืองหลัง "ทักษิณ" ลี้ภัย คลี่คลายหรือรบแตกหัก" โดยมีนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีต ส.ว.ตาก นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนางสิริพรรณ นกสวน อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเสวนา
นายพนัส กล่าวว่า ถ้าตอบแบบฟันธงคงต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะศาลจะต้องนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา กลับมาดำเดินคดีในไทย ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการประสานไปยังอังกฤษเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้เร็วที่สุด เพราะในการดำเนินคดีอาญาจำเป็นจะต้องมีจำเลยมาอยู่ต่อหน้าศาล เพื่อรักษาความยุติธรรม เพื่อที่จะให้จำเลยทราบ และเพื่อที่จะได้หาทางต่อสู้ได้
เชื่อ"แม้ว-อ้อ"หนีไม่พ้นแน่
นายพนัส กล่าวอีกว่า นายสราวุธ เบญจกุล อดีตโฆษกศาลยุติธรรม เคยได้ให้ความเห็นไว้ว่า ในคดีอาญาหากไม่มีจำเลยมานั่งฟังในการพิจารณาคดี จะต้องจำหน่ายคดีออกไป แต่สำหรับตนไม่อยากให้ยกเรื่องนี้มาเป็นบรรทัดฐาน ถ้าหากไม่นำจำเลยมาดำเนินคดีถามว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น แต่ถ้าหากจำเลยไม่มาศาลพิจารณาจนสิ้นสุดก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าทางประเทศไทยจะดำเนินการเพื่อที่จะขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มาดำเนินคดีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ขณะนี้ตนเข้าใจว่าคณะอัยการสูงสุดฝ่ายต่างประเทศได้ติดต่อกับอังกฤษ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอัยการของเราก็เป็นผู้เชี่ยวชาญน่าจะใช้เวลาในการประสานขอตัวจำเลยมาดำเนินคดีไม่นานนัก แต่ถ้าใช้เวลานานคงติดขัดในข้อกฎหมายอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจจะมีความสลับซับซ้อนและมีขั้นตอนที่ยืดยาวพอสมควร อย่างไรก็ตาม โดยหลักแล้วถ้าหากจะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เราจะต้องติดต่อไปยัง รมว.มหาดไทยอังกฤษจะเป็นผู้พิจารณา
"ผมคิดว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองมาต่อสู้ เพราะหากไม่เช่นนั้นอาจจะถูกประหัสประหาร หรือถูกข่มขู่หรือลงโทษโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งอังกฤษอาจจะช่วยเหลือเขาโดยการปฏิเสธส่งตัวกลับไทย และคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะใช้ทนายทีมเดียวกับนายปิ่น จักรภาค เพราะในอดีตนายปิ่น ไม่เข้ามาต่อสู้คดีก็ได้"
นายพนัส กล่าวต่อว่า วันจันทร์นี้พันธมิตรฯจะไปสถานทูตอังกฤษ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษอย่านิ่งเฉยในเรื่องนี้ ซึ่งตนเห็นว่าอาจส่งผลต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน เนื่องจากอังกฤษเป็นประเทศที่มีความอ่อนไหวในเรื่องนี้สูง อาจยกเลิกไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หนีคดีในประเทศของเขา ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะต้องไปขอกับรัฐบาลประเทศอื่นแทน ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่สามารถหลุดรอดไปได้ เพราะเชื่อว่าอำนาจตุลาการณ์จะไม่ปล่อยไว้แน่ ยกเว้นแต่ว่าเขาจะหนีคดีจนคดีหมดอายุความ 20 ปี
นางสิริพรรณ กล่าวว่า การออกนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนที่มีความสุขที่สุดคือ นายสมัคร สุนทรเวช เพราะอำนาจตัดสินใจบริหารประเทศไม่ต้องมีนายเหนือหัวอีกคนมาคอยออกคำสั่ง แต่ความแตกหักที่จะเกิดขึ้นจะเกิดจากความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯไม่ยอมแน่ จนเป็นตัวแปรนำไปสู่การปะทะกัน เพราะไม่ได้แก้ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ดังนั้น สถานการณ์จะคลี่คลายลงได้ หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญรัฐบาลให้ประชาชนมีฉันทมติก่อนว่า ต้องการการเมืองแบบใด มีพรรคการเมืองแบบไหนและเข้มแข็งอย่างไร
เตือนระวัง "ทักษิณ"ยังมีพิษ
ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า การเข้าใจกับสิทธิการเมืองของไทย พ.ต.ท.ทักษิณคือระบบอย่าคิดว่า เมื่อไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณแล้วทุกอย่างจะจบแต่เขาคิดว่า ไม่จบ เพราะระบบยังอยู่ เพราะ 3 ปีกว่าที่เขาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทยสรุปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ฉลาดใช้ประโยชน์จากระบบ ซึ่งในระบบปัจจุบัน ถ้ามีสถานการณ์เป็นลบ จะเป็นบวกกับ พ.ต.ท.ทักษิณแต่ถ้าสถานการณ์เป็นบวก จะเป็นลบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
"เขากำลังคิดว่าภายใต้สถานการณ์เขาจะตัดสินใจอย่างไร ผมเคยได้คุยกับคนใกล้ชิดของเขา ฟังดูแล้วผมไม่ทราบจะตัดสินใจอย่างไรดี ผมคิดว่ามีปัจจัยหลายอย่างไปเป็นคุณต่อเขาแต่เป็นการดีต่อการพัฒนาประชาธิปไตย และขณะนี้การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง มีผลต่อฐานเสียงประชานิยมลดลง เพราะฐานเสียงประชานิยมอยู่ที่ชาวนา จะเห็นได้ว่าขณะนี้มีชาวนาเหลือเพียง 12 ล้านคนเท่านั้น แต่มีผู้ใช้แรงงานถึง 17 ล้านคน แบ่งเป็นมนุษย์เงินเดือน 16 ล้านคน ซึ่งไม่น่าจะเป็นฐานเสียงของเขาแต่ถือเป็นสิ่งที่แปลกคือ 39 ล้านเสียงมาจากไหน"
นายณรงค์ ยืนยันว่า ถ้าเปลี่ยนประชานิยมจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน เพราะการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันได้ก่อรูปโดยคนชั้นกลางมากมาย จึงอยากจะให้ไปดูเวทีพันธมิตรฯ วันนี้มีประชาชนมาชุมนุมส่วนใหญ่จบปริญญาตรีเป็นคนชั้นกลาง นั่นเป็นการบอกว่า คนชั้นกลางเป็นคนที่ปรับเปลี่ยนประชาธิปไตย เขาถึงบอกว่าประชาธิปไตยไม่สามารถฝากไว้กับคนจนและนายทุนได้ เพราะทุนใหญ่ไม่เคยเลือกเผด็จการ หรือประชาธิปไตย เพราะเขาคิดแต่ว่าอะไรจะต่อยอดธุรกิจให้เขา
"เมื่อ 3-4 ปีผมได้วิเคราะห์ไว้ว่า ปี 47 พรรคไทยรักไทยจะไปไม่รอด เพราะคนชั้นกลางจะออกมา ถึงแม้ว่าคนชั้นกลางจะอ่อนไหวก็ตาม แต่คนชั้นกลางโวยวายเสียงดัง จะเห็นได้ว่าเมื่อพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งในปี 48 ก็ตาม แต่ขณะนี้ชนชั้นกลางยังยืนหยัดอยู่ และเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง"
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า การรู้ไม่ทันกับทุนยังเป็นปัญหาสังคม ทุนพัฒนาเร็วเกินไป เมื่อตามไม่ทันก็เป็นเหยื่อทุน ทำให้สถาบันกฎหมายอ่อนแอเกินไป ตามไม่ทันสถานการณ์ ทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย ไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นผลดีต่อนักการเมือง และนักธุรกิจเอาเปรียบสังคม ระบบทุน เชื่อมต่อกันหมดระหว่างทุนภายใน ภายนอก ทำให้ทุนประเทศหนึ่งเชื่อมโยงประเทศหนึ่ง จะเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ กับต่างประเทศ การเชื่อมต่อทุน ทำให้ทุนมีพลังนุภาพ เพราะทุนร่วมมือกัน นักธุรกิจ และนักการเมืองร่วมทุนกับต่างประเทศจะมีพลังนุภาพอย่างมาก ซึ่งทำให้ทุนเพิ่มได้รวดเร็วเป็นทุนที่ไม่โปร่งใส เป็นประชาธิปไตยที่ไม่เป็นธรรม ถือว่าเป็นบวกกับ พ.ต.ท.ทักษิณแต่เป็นลบต่อสถานการณ์
"สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการเลือกตั้ง เพราะส่วนใหญ่คนจน และคนชั้นกลางบางคนเป็นพวกบริโภคประชานิยมจนขาดเหตุผล จึงทำให้กระแสประชานิยมออกมาทุกครั้งได้รับการตอบรับ ล่าสุดเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ที่มีการให้ขึ้นรถเมล์ฟรี ความจริงไม่ฟรีหรอก เพราะรัฐบาลจะต้องเอาเงินภาษีของชนชั้นกลางไปจ่ายให้ ขสมก.คันละ 8 พันบาทซึ่งเป็นสิ่งอำนวยแก่คนจน แต่ถ้าจะช่วยคนชั้นกลางทำไมไม่ลดกำไรของ ปตท.ลงเพราะ ปตท.มีเครือข่าย 7-8 บริษัทได้กำไรปีละ 3 แสนล้านบาทเอากำไรจากประชาชนมากเกินไปหรือไม่ จะเอากำไรไปทำอะไรนักหนา"
ฟันธงเลือกหลัง6เดือนแม้วพัง
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ถ้าเลือกตั้งภายใน 2 ปีคนของเขาก็ชนะ เขาจะนั่งงอมืองอเท้าทำไม ถ้าเขางอมือเท้าเขาจะเสียประโยชน์กว่า 7-8 หมื่นล้านบาทแต่ถ้าเขาลุกขึ้นมาต่อสู้ เขาจะได้กำไรถึง 6 หมื่นล้านบาท แต่ถ้ามีการเลือกตั้งภายในไม่เกิน 1 ปี หรือไม่เร็วกว่า 6 เดือนนี้ซึ่งเหล็กยังร้อนอยู่ ประกอบกับข่าวสารข้อมูลเผยแพร่จากพันธมิตรฯ ยังอุ่นๆ มากพออยู่ สถานการณ์จะเปลี่ยนแน่นอน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะไม่ชนะ พรรคก็ถูกยุบลง การเงินแขนขาก็จะอ่อนเปลี้ย การเมืองแตกหัก
"แต่ถ้าเลือกตั้งภายใน 3 เดือนนี้เขาก็จะกลับมาอีก เพราะแขนขาเก่ายังมี และแก๊งออฟโฟร์ก็มีพลังอยู่ การลงลึกของข่าวสารข้อมูลยังกระจายไม่พอ ต้องอาศัยเวลาอีกช่วง ดังนั้น จึงขอฝากกระบวนการแรงงานรณรงค์ให้ออกกฎหมายลูกให้ผู้ใช้แรงงานที่จากภูมิลำเนาเดิมมาทำงานในพื้นที่อื่นทำงานครบ 3 ปี ให้มีสิทธิเลือกตั้งได้ โดยไม่ต้องเดินทางกลับบ้าน ถ้าเป็นเช่นนี้เกมเปลี่ยนแน่นอน เมื่ออ่านเกมเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ยอมแน่ ต้องรีบเร่งเลือกตั้ง แก้รัฐธรรมนูญให้ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนกำลังอาจเกมกันอยู่ และกำลังจะชิงกันอยู่ว่า ใครจะเร็วกว่ากัน ถ้าเป็นเช่นนี้การเมืองแตกหักภาย 6 เดือนทันที ถ้าเสียงประชาชนเปลี่ยน มีปริมาณมากพอเกินการเปลี่ยนแปลง" นายณรงค์ กล่าว
วานนี้ (17 ส.ค.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันอิศรา จัดเสวนา "สถานการณ์การเมืองหลัง "ทักษิณ" ลี้ภัย คลี่คลายหรือรบแตกหัก" โดยมีนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีต ส.ว.ตาก นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนางสิริพรรณ นกสวน อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเสวนา
นายพนัส กล่าวว่า ถ้าตอบแบบฟันธงคงต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะศาลจะต้องนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา กลับมาดำเดินคดีในไทย ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการประสานไปยังอังกฤษเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้เร็วที่สุด เพราะในการดำเนินคดีอาญาจำเป็นจะต้องมีจำเลยมาอยู่ต่อหน้าศาล เพื่อรักษาความยุติธรรม เพื่อที่จะให้จำเลยทราบ และเพื่อที่จะได้หาทางต่อสู้ได้
เชื่อ"แม้ว-อ้อ"หนีไม่พ้นแน่
นายพนัส กล่าวอีกว่า นายสราวุธ เบญจกุล อดีตโฆษกศาลยุติธรรม เคยได้ให้ความเห็นไว้ว่า ในคดีอาญาหากไม่มีจำเลยมานั่งฟังในการพิจารณาคดี จะต้องจำหน่ายคดีออกไป แต่สำหรับตนไม่อยากให้ยกเรื่องนี้มาเป็นบรรทัดฐาน ถ้าหากไม่นำจำเลยมาดำเนินคดีถามว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น แต่ถ้าหากจำเลยไม่มาศาลพิจารณาจนสิ้นสุดก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าทางประเทศไทยจะดำเนินการเพื่อที่จะขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มาดำเนินคดีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ขณะนี้ตนเข้าใจว่าคณะอัยการสูงสุดฝ่ายต่างประเทศได้ติดต่อกับอังกฤษ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอัยการของเราก็เป็นผู้เชี่ยวชาญน่าจะใช้เวลาในการประสานขอตัวจำเลยมาดำเนินคดีไม่นานนัก แต่ถ้าใช้เวลานานคงติดขัดในข้อกฎหมายอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจจะมีความสลับซับซ้อนและมีขั้นตอนที่ยืดยาวพอสมควร อย่างไรก็ตาม โดยหลักแล้วถ้าหากจะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เราจะต้องติดต่อไปยัง รมว.มหาดไทยอังกฤษจะเป็นผู้พิจารณา
"ผมคิดว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองมาต่อสู้ เพราะหากไม่เช่นนั้นอาจจะถูกประหัสประหาร หรือถูกข่มขู่หรือลงโทษโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งอังกฤษอาจจะช่วยเหลือเขาโดยการปฏิเสธส่งตัวกลับไทย และคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะใช้ทนายทีมเดียวกับนายปิ่น จักรภาค เพราะในอดีตนายปิ่น ไม่เข้ามาต่อสู้คดีก็ได้"
นายพนัส กล่าวต่อว่า วันจันทร์นี้พันธมิตรฯจะไปสถานทูตอังกฤษ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษอย่านิ่งเฉยในเรื่องนี้ ซึ่งตนเห็นว่าอาจส่งผลต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน เนื่องจากอังกฤษเป็นประเทศที่มีความอ่อนไหวในเรื่องนี้สูง อาจยกเลิกไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หนีคดีในประเทศของเขา ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะต้องไปขอกับรัฐบาลประเทศอื่นแทน ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่สามารถหลุดรอดไปได้ เพราะเชื่อว่าอำนาจตุลาการณ์จะไม่ปล่อยไว้แน่ ยกเว้นแต่ว่าเขาจะหนีคดีจนคดีหมดอายุความ 20 ปี
นางสิริพรรณ กล่าวว่า การออกนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนที่มีความสุขที่สุดคือ นายสมัคร สุนทรเวช เพราะอำนาจตัดสินใจบริหารประเทศไม่ต้องมีนายเหนือหัวอีกคนมาคอยออกคำสั่ง แต่ความแตกหักที่จะเกิดขึ้นจะเกิดจากความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯไม่ยอมแน่ จนเป็นตัวแปรนำไปสู่การปะทะกัน เพราะไม่ได้แก้ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ดังนั้น สถานการณ์จะคลี่คลายลงได้ หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญรัฐบาลให้ประชาชนมีฉันทมติก่อนว่า ต้องการการเมืองแบบใด มีพรรคการเมืองแบบไหนและเข้มแข็งอย่างไร
เตือนระวัง "ทักษิณ"ยังมีพิษ
ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า การเข้าใจกับสิทธิการเมืองของไทย พ.ต.ท.ทักษิณคือระบบอย่าคิดว่า เมื่อไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณแล้วทุกอย่างจะจบแต่เขาคิดว่า ไม่จบ เพราะระบบยังอยู่ เพราะ 3 ปีกว่าที่เขาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทยสรุปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ฉลาดใช้ประโยชน์จากระบบ ซึ่งในระบบปัจจุบัน ถ้ามีสถานการณ์เป็นลบ จะเป็นบวกกับ พ.ต.ท.ทักษิณแต่ถ้าสถานการณ์เป็นบวก จะเป็นลบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
"เขากำลังคิดว่าภายใต้สถานการณ์เขาจะตัดสินใจอย่างไร ผมเคยได้คุยกับคนใกล้ชิดของเขา ฟังดูแล้วผมไม่ทราบจะตัดสินใจอย่างไรดี ผมคิดว่ามีปัจจัยหลายอย่างไปเป็นคุณต่อเขาแต่เป็นการดีต่อการพัฒนาประชาธิปไตย และขณะนี้การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง มีผลต่อฐานเสียงประชานิยมลดลง เพราะฐานเสียงประชานิยมอยู่ที่ชาวนา จะเห็นได้ว่าขณะนี้มีชาวนาเหลือเพียง 12 ล้านคนเท่านั้น แต่มีผู้ใช้แรงงานถึง 17 ล้านคน แบ่งเป็นมนุษย์เงินเดือน 16 ล้านคน ซึ่งไม่น่าจะเป็นฐานเสียงของเขาแต่ถือเป็นสิ่งที่แปลกคือ 39 ล้านเสียงมาจากไหน"
นายณรงค์ ยืนยันว่า ถ้าเปลี่ยนประชานิยมจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน เพราะการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันได้ก่อรูปโดยคนชั้นกลางมากมาย จึงอยากจะให้ไปดูเวทีพันธมิตรฯ วันนี้มีประชาชนมาชุมนุมส่วนใหญ่จบปริญญาตรีเป็นคนชั้นกลาง นั่นเป็นการบอกว่า คนชั้นกลางเป็นคนที่ปรับเปลี่ยนประชาธิปไตย เขาถึงบอกว่าประชาธิปไตยไม่สามารถฝากไว้กับคนจนและนายทุนได้ เพราะทุนใหญ่ไม่เคยเลือกเผด็จการ หรือประชาธิปไตย เพราะเขาคิดแต่ว่าอะไรจะต่อยอดธุรกิจให้เขา
"เมื่อ 3-4 ปีผมได้วิเคราะห์ไว้ว่า ปี 47 พรรคไทยรักไทยจะไปไม่รอด เพราะคนชั้นกลางจะออกมา ถึงแม้ว่าคนชั้นกลางจะอ่อนไหวก็ตาม แต่คนชั้นกลางโวยวายเสียงดัง จะเห็นได้ว่าเมื่อพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งในปี 48 ก็ตาม แต่ขณะนี้ชนชั้นกลางยังยืนหยัดอยู่ และเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง"
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า การรู้ไม่ทันกับทุนยังเป็นปัญหาสังคม ทุนพัฒนาเร็วเกินไป เมื่อตามไม่ทันก็เป็นเหยื่อทุน ทำให้สถาบันกฎหมายอ่อนแอเกินไป ตามไม่ทันสถานการณ์ ทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย ไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นผลดีต่อนักการเมือง และนักธุรกิจเอาเปรียบสังคม ระบบทุน เชื่อมต่อกันหมดระหว่างทุนภายใน ภายนอก ทำให้ทุนประเทศหนึ่งเชื่อมโยงประเทศหนึ่ง จะเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ กับต่างประเทศ การเชื่อมต่อทุน ทำให้ทุนมีพลังนุภาพ เพราะทุนร่วมมือกัน นักธุรกิจ และนักการเมืองร่วมทุนกับต่างประเทศจะมีพลังนุภาพอย่างมาก ซึ่งทำให้ทุนเพิ่มได้รวดเร็วเป็นทุนที่ไม่โปร่งใส เป็นประชาธิปไตยที่ไม่เป็นธรรม ถือว่าเป็นบวกกับ พ.ต.ท.ทักษิณแต่เป็นลบต่อสถานการณ์
"สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการเลือกตั้ง เพราะส่วนใหญ่คนจน และคนชั้นกลางบางคนเป็นพวกบริโภคประชานิยมจนขาดเหตุผล จึงทำให้กระแสประชานิยมออกมาทุกครั้งได้รับการตอบรับ ล่าสุดเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ที่มีการให้ขึ้นรถเมล์ฟรี ความจริงไม่ฟรีหรอก เพราะรัฐบาลจะต้องเอาเงินภาษีของชนชั้นกลางไปจ่ายให้ ขสมก.คันละ 8 พันบาทซึ่งเป็นสิ่งอำนวยแก่คนจน แต่ถ้าจะช่วยคนชั้นกลางทำไมไม่ลดกำไรของ ปตท.ลงเพราะ ปตท.มีเครือข่าย 7-8 บริษัทได้กำไรปีละ 3 แสนล้านบาทเอากำไรจากประชาชนมากเกินไปหรือไม่ จะเอากำไรไปทำอะไรนักหนา"
ฟันธงเลือกหลัง6เดือนแม้วพัง
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ถ้าเลือกตั้งภายใน 2 ปีคนของเขาก็ชนะ เขาจะนั่งงอมืองอเท้าทำไม ถ้าเขางอมือเท้าเขาจะเสียประโยชน์กว่า 7-8 หมื่นล้านบาทแต่ถ้าเขาลุกขึ้นมาต่อสู้ เขาจะได้กำไรถึง 6 หมื่นล้านบาท แต่ถ้ามีการเลือกตั้งภายในไม่เกิน 1 ปี หรือไม่เร็วกว่า 6 เดือนนี้ซึ่งเหล็กยังร้อนอยู่ ประกอบกับข่าวสารข้อมูลเผยแพร่จากพันธมิตรฯ ยังอุ่นๆ มากพออยู่ สถานการณ์จะเปลี่ยนแน่นอน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะไม่ชนะ พรรคก็ถูกยุบลง การเงินแขนขาก็จะอ่อนเปลี้ย การเมืองแตกหัก
"แต่ถ้าเลือกตั้งภายใน 3 เดือนนี้เขาก็จะกลับมาอีก เพราะแขนขาเก่ายังมี และแก๊งออฟโฟร์ก็มีพลังอยู่ การลงลึกของข่าวสารข้อมูลยังกระจายไม่พอ ต้องอาศัยเวลาอีกช่วง ดังนั้น จึงขอฝากกระบวนการแรงงานรณรงค์ให้ออกกฎหมายลูกให้ผู้ใช้แรงงานที่จากภูมิลำเนาเดิมมาทำงานในพื้นที่อื่นทำงานครบ 3 ปี ให้มีสิทธิเลือกตั้งได้ โดยไม่ต้องเดินทางกลับบ้าน ถ้าเป็นเช่นนี้เกมเปลี่ยนแน่นอน เมื่ออ่านเกมเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ยอมแน่ ต้องรีบเร่งเลือกตั้ง แก้รัฐธรรมนูญให้ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนกำลังอาจเกมกันอยู่ และกำลังจะชิงกันอยู่ว่า ใครจะเร็วกว่ากัน ถ้าเป็นเช่นนี้การเมืองแตกหักภาย 6 เดือนทันที ถ้าเสียงประชาชนเปลี่ยน มีปริมาณมากพอเกินการเปลี่ยนแปลง" นายณรงค์ กล่าว