“นักวิชาการ-ทีดีอาร์ไอ” เตือนรับมือปัญหาว่างงาน เชื่อ ศก.ไทยปี 52 เข้าขั้นตรีทูต คาดตัวเลขคนตกงานพุ่งทะลุ 2 ล้านคน เตือนการใช้เงินงบประมาณ ไม่ควรมอมเมารากหญ้าด้วยประชานิยม เสพติดการแจกเงิน รถมอเตอร์ไซค์-มือถือ เพื่อหวังคะแนนทางการเมือง ส่วนโครงการขนาดใหญ่ ควรมีการตรวจสอบความโปร่งใสที่เข้มงวด ป้องกันนักการเมืองโกงกินชาติ
นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนรวมและการกระจายรายได้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ หรือ ทีดีอาร์ไอ (TDRI) กล่าวยอมรับว่า ในปี 2552 มีโอกาสที่อัตราการเลิกจ้างงานของประเทศไทยจะสูงขึ้นตามที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ออกมาเปิดเผยข้อมูล หากภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าตกต่ำลงมาก เนื่องจากอัตราการเลิกจ้างงานที่ระดับ 1 ล้านคนนั้น จะคิดเป็น 4-5% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเลิกจ้างงานในช่วงเกิดวิกฤตปี 2540
ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐควรจะต้องเร่งดูแลไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำ ด้วยการเร่งการลงทุนในประเทศ โดยเริ่มจากโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) เพื่อทดแทนการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง เพื่อรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้าไม่ให้ต่ำกว่า 3%
รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในอนาคตจำนวนผู้ว่างงานอาจเพิ่มเป็น 2 ล้านคน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ คนงานที่อยู่ในระบบถูกปลด ส่วนผู้จบการศึกษาใหม่ไม่มีตำแหน่งงานรองรับ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่จะถึงนี้มีแนวโน้มจำนวนผู้ว่างงานมากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ถูกต้อง และแยกแยะให้ชัดเจน ทั้งการว่างงานจากวิกฤตเศรษฐกิจ และการว่างงานแฝงในระบบ ซึ่งต้องแยกทำแผนรับมือให้ชัดเจน
“ความจริงเงินที่รัฐบาลอัดไปเป็นเงินกองทุนหมู่บ้านนั้น ไม่น่าปล่อยเอาไปปล่อยกู้ ซึ่งผมคัดค้านเรื่องนี้มานานแล้ว มันน่าจะเปลี่ยนไปในลักษณะจ้างงานมากกว่า ถ้ารัฐบาลจริงใจ อย่างหวังเพียงเพื่อหาเสียง”
รศ.ดร.ณรงค์ เชื่อว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ จะถือเป็นการกระจายรายได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นตอนที่ผมทำในเงินผันรัฐบาลสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ในปี 2518-2519 ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบปัญหา ขอให้คำนึงถึงผลระยะยาว โดยเปลี่ยนจากการเลิกจ้างเป็นการต่อรองลดวันทำงาน เช่น จาก 6 วันเหลือ 4 วัน เนื่องจากปัจจุบันคนงานดี มีประสบการณ์ค่อนข้างหายาก
ทั้งนี้ หากวิกฤตการเงินโลกสิ้นสุดลง คนงานก็สามารถกลับมาทำงานตามปกติ เหมือนครั้งที่ประเทศไทยเจอวิกฤตปี 2540 ส่วนบัณฑิตที่จบใหม่นั้นจะเข้าสู่ระบบการจ้างงานของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้แก้ปัญหาตกงาน ว่างงานได้ แม้จะเป็นการแก้ไขแบบขายผ้าเอาหน้ารอด