ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ เริ่มสะท้อนภาพความเป็นจริงของศก. ดัชนีปิดเช้าลดลง 2.59% ตามทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ปรับตัวลงเฉลี่ย 4-6% แนวโน้มทางเทคนิคหากดัชนีหุ้นไทยยังสามารถยืนเหนือ 445-446 ได้ ยังมีลุ้นขึ้นได้อยู่ แต่หากดัชนีหลุด 430 , 424 ก็มีสิทธิ์ปรับตัวลง ช่วงบ่ายรอดูความเคลื่อนไหวของตลาดในแถบยุโรป-ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ พร้อมให้แนวรับ 437 แนวต้าน 455 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ ( 6 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 445.53 จุด ลดลง 11.83 จุด เปลี่ยนแปลง -2.59% มูลค่าการซื้อขาย 6,318.03 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผย ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับฐาน ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงทั่วหน้าในระดับ 4-6% แต่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ ประเมินว่าการที่ประธานาธิบดีใหม่ของสหรัฐฯ เป็นนายบารัค โอบามา ซึ่งมาจากพรรคเดโมแครต จะเปลี่ยนแปลงมิติใหม่การเมืองสหรัฐฯ หมดยุคการเอาใจคนรวย และกลุ่มทุนที่นิยมใช้บริการบริษัทล็อบบี้ยิสต์ และการบริจาคให้นักการเมือง เพื่อแลกสิทธิประโยชน์ทางภาษี อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบเศรษฐกิจโลก
นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า แนวทางในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของนายบารัค โอบามา น่าจะเป็นในรูปแบบการสนับสนุนการลงทุนในประเทศ และเน้นในการกระจายรายได้ให้ประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นประชาชนระดับกลาง และระดับชนชั้นแรงงานมากกว่าในระดับนายทุน เนื่องจาก โอบามา จะเร่งสร้างเศรษฐกิจให้มีความมั่นคงในประเทศก่อน
ส่วนเรื่องการค้าระหว่างประเทศ คงจะลดบทบาทลง แต่คงจะมุ่งเน้นด้านตลาดภายในประเทศหลังประสบปัญหาวิกฤติการเงิน ซึ่งคาดว่า จะต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการแก้ไขปัญหา
นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับฐาน ตามตลาดต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียได้ปรับตัวลงกันอย่างทั่วหน้าในระดับ 4-6% แต่ตลาดบ้านเราปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดเพื่อนบ้าน ทั้งนี้คาดว่าแรงขายที่เกิดขึ้นเป็นแรงขายทำกำไรในลักษณะ sell on fact ภายหลังจากที่รู้ชัดแล้วว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เป็นนายบารัค โอบามา
อย่างไรก็ดีในทางเทคนิคหากดัชนีหุ้นไทยยังสามารถยืนเหนือ 445-446 จุดได้ ตลาดฯก็ยังมีลุ้นที่จะปรับตัวขึ้นได้อยู่ แต่หากดัชนีหลุดแนว 430 , 424 จุด ตลาดหุ้นไทยก็มีสิทธิ์ปรับตัวลงไปได้อีก
ส่วนปัจจัยในเรื่องอื่นก็เป็นเรื่องของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย , รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในงวดเดือน ต.ค.ที่จะประกาศในคืนวันศุกร์นี้(7 ต.ค.) , รอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงรอดูเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในแถบยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ก่อน พร้อมให้แนวรับ 437 จุด แนวต้าน 455 จุด