ที่ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี เวลา 08.45 น.วานนี้ (14 ส.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานแสดงเทคโนโลยียนตรกรรม พลังงานทางเลือกแห่งอนาคต โดยบริษัท เจนเนอรัล มอร์เตอร์ส คอร์ปอเรชั่น พร้อมด้วยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รมว.อุตสาหกรรม และพล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปพัลลภ รมว.พลังงาน ร่วมพิธีเปิดงาน
นายสมัคร กล่าวเปิดงานว่า ตนรับเชิญมางานนี้ด้วยความยินดี เพราะเหตุว่า ตนเป็นคนขับรถเองมาตลอดชีวิต มาเลิกขับตอนมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเขาไม่ให้ขับ จึงสนใจเรื่องรถอย่างยิ่งเพราะเหตุว่า ตอนหนุ่มๆ อยู่บริษัทขายรถยนต์ เป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยจะได้รู้ ซึ่งตนจะรู้เรื่องตั้งแต่กันชนหน้าถึงกันชนหลัง ถอดมา 3 พันชิ้น ประกอบกับได้ทุกชิ้น รู้ตรงไหนอยู่ตรงไหน อยู่บริษัทรถยนต์มา 9 ปี ขับรถเองทำอะไรเองหมดได้เห็นความเจริญ
ย้อนหลังกลับไปร้อยกว่าปี ครั้งเมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงเอารถยนต์เข้ามาใช้ ในบ้านเราก็ดูด้วยความตื่นเต้น พอโตเป็นนักเรียนได้เห็นรถเพื่อน ซึ่งเป็นรถอินตาเลี่ยน ใช้น้ำมันเบนซิน ดีเซล ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหา น้ำมันจะมีในโลกเท่าไรก็ไม่มีใครรู้มันมีเท่าไรยังไง รู้ว่ามีเท่านั้น ซึ่งสมัยก่อนน้ำมันออยล์ละ 9 เหรียญ เหรียญละ 20 บาท แล้วอยู่มาวันหนึ่งน้ำมันดิบมันขึ้นถึง 50 เหรียญ ซึ่งบางคนบอกว่าขึ้น 50 เหรียญตายแน่นอน ก็ไม่มีใครตาย แล้ววันหนึ่งน้ำมันก็ขึ้นไปถึง 140 เหรียญต่อบาเรล ก็ต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน เมื่อก่อนเราใช้มาตรการบันได 10 ขั้น ราคาน้ำมันซึ่งขึ้นเหมือนน้ำขึ้นน้ำลง บ้านเราใช้วิธีเวลาน้ำมันขึ้นก็ปล่อยให้ขึ้นไป พอมันเริ่มลง เราก็เก็บราคาลงที่เกินกว่านั้นเข้ากองทุน ซึ่งดูว่าเราเก่ง เราฉลาด เพราะต่อไปน้ำมันขึ้นอีก ก็มีเงินกองทุน ซึ่งระบบเงินอุดหนุนไม่น่าเชื่อ 2 ปีที่แล้ว คนดูแลน้ำมันบ้านเราขอยกเลิกเงินกองทุน ปล่อยให้ราคาน้ำมันลอยตัว ในที่สุดราคาน้ำมันขึ้นเราก็ปลอดภัยว่า เราไม่มีใครที่จะจ่อการจลาจลขึ้นราคาน้ำมัน
นายสมัคร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันขึ้นก็ตื่นเต้นกัน ราคาน้ำมันขึ้นตีหน้า หกโมงเย็นไปเข้าแถวเติมยาว แต่พอน้ำมันลดราคากลับไปสนใจ ที่พูดตรงนี้ให้ฟัง เพราะจะบอกว่า เรื่องราคาน้ำมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เวลาเติมน้ำมันไม่มีใครพูด คุณก็จะเติม คุณก็จะใช้ คนไทยรับสภาพนี้ได้ แต่คนที่ผลิตรถยนต์ต้องคิด ได้คิดต่อมาคือการผลิตรถอิโคคาร์ คือการทำให้รถใช้น้ำมันน้อยลง ซึ่งเวลาขับรถต้องถามกี่กิโลเมตรต่อลิตร บอกว่าผลิตได้ 12 กิโลเมตรต่อลิตร เราก็บอกว่า ยอดเยี่ยม และต่อมาก็บอกว่าผลิตได้แล้ว 40 กิโลเมตรต่อลิตร คิดกันแค่นั้น ต่อมามีการวิจัยใช้เอทานอล เป็นผลิตผลพลอยได้จากโรงงานน้ำตาล ผลิตผลจากอ้อย เติมเบนซินไป 95% ใส่เอทานอลไป 5 % ลดได้ 5 % แสนจะดีใจ ต่อมายิ่งดีกว่านั้นอีก มี E20 เติมเบนซินไป 80 ใส่เอทานอลไป 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย 20 ปีมาแล้ว
ผู้ที่เริ่มต้น อยู่ในพระราชวัง ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มทำเอทานอลในสวนจิตลาดา ผลิตเอทานอล ทรงรับสั่งว่าวันหนึ่งข้างหน้า ราคาน้ำมันจะแพงขึ้น 20 ปีที่แล้วสร้างโรงงานผลิตเอทานอลในสวนจิตรลดา แล้วเอาเอทานอลมาเติมกับน้ำมัน E 80 เบนซิน 80 เติมเอทานอล 20 ใช้อย่างนี้มาเรียกว่า แก๊สโซออล์ ผมรู้เรื่องนี้เมื่อไร ผมรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ก็ 8 ปีมาแล้ว ที่รู้ได้เพราะไปเข้าเฝ้าฯ กราบปรึกษาพระองค์ในเรื่องของงานต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านได้พระราชดำเนินมาโดยบอกว่า รถคันนี้ใช้เอทานอล และเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ว่า เจ้านายของเราสายพระเนตรกว้างไกล ถามว่า 8 ปีก่อนราคาน้ำมันแพงหรือยัง ก็ยัง พระเจ้าอยู่หัวทรงคิดถึงเรื่องแก๊สโซออล์ เอทานอล 20 ผสมกับน้ำมัน 80 แล้วทรงใช้เอง ขับเอง คันไม่ใหญ่ แต่ผมไม่บอกว่ายี่ห้อ ราคาห้าแสนบาท วันหนึ่งเขาบอกว่าจะผลิตเป็นคันสุดท้าย เลยเอาเงินให้เขาไป 6 แสน แล้วเขาก็ผลิตให้ โดยให้มา 2 คัน เลยใช้เองคันหนึ่ง ให้ลูกสาวใช้คันหนึ่งใช้เอทานอล เจ้านายของเราได้คิดเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ผมเพิ่งรู้เมื่อ 8 ปีก่อน อยู่ในวัง
นายสมัคร กล่าวว่า ต่อมาคนไทยเราก็เริ่มคิดผลิตแก๊สโซออล์อย่างน้อยก็ต้อง 20 % เรื่องนี้มีบริษัทที่ต้องการผู้ผลิตจากโรงงานผลิตเอทานอล 42 บริษัทที่ขอร้องมา และ 12 บริษัทลงมือได้ เมื่อ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์เข้ามาทำงานเป็นรมว.พลังงาน เขาก็เจรจากับ รัฐมนตรี ซึ่งการผลิตรถยนต์ใช้ E20 ได้ต้องให้มีการลดภาษีสรรพสามิต ก็ตกลงกันเรียบร้อย แล้ววันหนึ่งใครจะคิดรมว.พลังงานไปประเทศบราซิล ซึ่งบราซิล มีอ้อยมากมาย และใช้น้ำมันเอทานอล 100 % เรียก E100 แล้วของเรายังเป็น E 85 ซึ่งเราถอยหลังไม่ได้ เพราะนั้นหมายถึงว่า เติมเอทานอล 85 เติมเบนซิน 15 โอ้มันน่าตื่นเต้น ซึ่งมันต้องส่งเสริมเป็นนโยบายระดับชาติ น้ำมันมันแพงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด E 20 ก็หมดไป ซึ่งพล.ท.หญิงพูนภิรมย์บอกว่า ในอเมริกาและในยุโรปเขาใช้กันแล้ว แต่ของเรายัง เขาบอกว่าขอเวลา 1-2 ปีในเอเชีย ซึ่งเมื่ออเมริกาและยุโรปเขาใช้กันแล้ว มาบอกว่าให้เอเซียรออีก 2 ปี ตนบอกว่าไม่รอ
นายสมัคร กล่าวว่า มาวันนี้แหละที่ตนจะบอกว่า รถที่เขาผลิตอย่างนี้เขามี ทางจีเอ็ม เจนเนอรัล มอร์เตอร์ส คอร์ปอเรชั่นบอกว่า สามารถใช้ E20 และ E85 ได้ ในขณะเดียวกันแก๊สก็กำลังเข้าแถวอยู่ ใช้ทั้งแก๊สโซออล์และเอทานอล วันนี้จีเอ็ม มาผลิตรถยนต์ที่จังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์ดีเซลที่จะขายทั่วโลก เทคโนยีของเขา เวลานี้ที่ยังไม่ออกมาคือรถยนต์ที่ใช้ไฮโดเจน ตนก็อยากดู รถที่มาวันนี้คือรถใช้แบตเตอรี่ รถใช้แก๊สโซออล์ รถใช้ E85 และรถใช้ E20 รถที่ใช้แก๊สโซออล์ จะใช้พลังงานที่ปลูกบนดิน แต่แน่นอนรถที่พ้นจากใช้น้ำมันไปใช้ถ่ายหิน ที่ได้พลังงานจากโรงไฟฟ้า น้ำมันหมดเมื่อไรขายดีแน่ ต่อไปจะต้องมีสถานีที่มีที่ ชาร์ตแบตเตอรี่ ขับรถจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ได้แน่นอน
เราต้องมีโรงไฟฟ้า ซึ่งคิดไว้ว่าจะตั้งโรงงานไฟฟ้าริมทะเลไว้ 2 โรง เรามีลิไนต์ที่ลำปาง เราเจราจากับออสเตรเลีย เผาแล้วไม่มีควันจะสร้าง 2 โรงที่ชายทะเล แต่ 10 ปียังสร้างไม่ได้ เพราะเอ็นจีโอขวาง แต่บัดนี้สร้างได้ แต่สร้างที่กัมพูชาข้างประเทศไทย กัมพูชาบอกมาเลยมาสร้างที่กัมพูชา สร้างแล้วขายไฟให้ประเทศไทย ทำไมไม่สร้างในไทย เพราะเอ็นจีโอไม่ให้สร้าง ส่วนที่สร้างไฮโดเจน ได้ขนาดใหญ่ก็มีที่เขื่อนสิริกิตติ์ ทั้งที่ควรจะมีโรงงานไฟฟ้าที่เขื่อนแก่งเสือเต้น แต่ 30 ปียังสร้างไม่ได้ 30 ปีเอ็นจีโอขวางไว้ แร่ฟอร์เฟตมีอยู่ สำหรับมาทำปุ๋ย มีแต่ขุดไม่ได้ เพราะเอ็นจีโอไม่ให้ขุด ประเทศไทยมันเป็นอย่างนี้” นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่โชคดีที่จีเอ็มตัดสินใจเขาเอาเทคโนโลยีมาทำ ซึ่งตนตกลงแล้ว เป็นคนตัดสินใจตกลง รอไมไม่รอ วันนี้คือเทคโนโลยีที่ใช้ E85 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เขาคิด เอเชียคิด ยุโรปคิด อเมริกาคิด แต่วันนี้ทางเอเชียจะขอเวลา 2 ปี ซึ่งก็ให้ทางอเมริกา ยุโรป คุณมาเลยเอามาขายเลยปีครึ่ง ถ้าใครคิดตามไม่ทันก็รีบคิด อธิบายให้ฟังเทคโนโลยีที่เราหวังคือ E85 และ E20 และแบตเตอรี่ เพราะพวกนี้ไม่มีควัน ไม่มีมลพิษ
จากนั้นนายกฯได้ทดลองขับรถยนต์ที่ใช้ E85 และ E20 และรถยนต์ที่ใช่แบตตารี่ ที่ทางจีเอ็มนำมาให้นายกฯได้ทดสอบ
ต่อมา นายสมัคร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การที่เราต้องให้มีการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้ E85 และ E20 และรถยนต์ที่ใช่แบตเตอรี่ จากยุโรปและอเมริกาเข้ามาจำหน่าย ในไทยก่อน เพราะทางเอเชียของเราผลิตช้า เราต้องยอมเปิดโอกาสให้อเมริกา ทางยุโรป พูดง่ายๆ ทางญี่ปุ่นเขาช้า ก็ให้เวลาปีครึ่ง ที่นำเข้ามาได้ทั้งคันแล้วหลังจากนั้นต้องนำมาประกอบในไทย ซึ่งก็ต้องมีการลดภาษีศุลากร ลดทุกอย่างซึ่งตกลงไว้กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ 20 % เขาตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาตกลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกฯบอกว่า 2 ปีต้องจุดชนวน หมายความว่า จะทำให้รัฐบาลอยู่ได้ 2 ปี หมายถึงนโยบายรัฐบาลหรือเปล่า นายสมัคร กล่าวปฎิเสธว่า ไม่ใช่ คุณไม่เข้าใจ แปลว่ารถที่เข้ามาต้องมาประกอบในนี้ ให้เขานำเข้ามาขายทั้งคันได้ก่อน มันจะได้เริ่มต้น เอทานอล แก๊สโซออล์จะได้เดินหน้า แล้วพอเริ่มประกอบญี่ปุ่นก็ออกตามทัน
นายสมัคร กล่าวเปิดงานว่า ตนรับเชิญมางานนี้ด้วยความยินดี เพราะเหตุว่า ตนเป็นคนขับรถเองมาตลอดชีวิต มาเลิกขับตอนมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเขาไม่ให้ขับ จึงสนใจเรื่องรถอย่างยิ่งเพราะเหตุว่า ตอนหนุ่มๆ อยู่บริษัทขายรถยนต์ เป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยจะได้รู้ ซึ่งตนจะรู้เรื่องตั้งแต่กันชนหน้าถึงกันชนหลัง ถอดมา 3 พันชิ้น ประกอบกับได้ทุกชิ้น รู้ตรงไหนอยู่ตรงไหน อยู่บริษัทรถยนต์มา 9 ปี ขับรถเองทำอะไรเองหมดได้เห็นความเจริญ
ย้อนหลังกลับไปร้อยกว่าปี ครั้งเมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงเอารถยนต์เข้ามาใช้ ในบ้านเราก็ดูด้วยความตื่นเต้น พอโตเป็นนักเรียนได้เห็นรถเพื่อน ซึ่งเป็นรถอินตาเลี่ยน ใช้น้ำมันเบนซิน ดีเซล ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหา น้ำมันจะมีในโลกเท่าไรก็ไม่มีใครรู้มันมีเท่าไรยังไง รู้ว่ามีเท่านั้น ซึ่งสมัยก่อนน้ำมันออยล์ละ 9 เหรียญ เหรียญละ 20 บาท แล้วอยู่มาวันหนึ่งน้ำมันดิบมันขึ้นถึง 50 เหรียญ ซึ่งบางคนบอกว่าขึ้น 50 เหรียญตายแน่นอน ก็ไม่มีใครตาย แล้ววันหนึ่งน้ำมันก็ขึ้นไปถึง 140 เหรียญต่อบาเรล ก็ต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน เมื่อก่อนเราใช้มาตรการบันได 10 ขั้น ราคาน้ำมันซึ่งขึ้นเหมือนน้ำขึ้นน้ำลง บ้านเราใช้วิธีเวลาน้ำมันขึ้นก็ปล่อยให้ขึ้นไป พอมันเริ่มลง เราก็เก็บราคาลงที่เกินกว่านั้นเข้ากองทุน ซึ่งดูว่าเราเก่ง เราฉลาด เพราะต่อไปน้ำมันขึ้นอีก ก็มีเงินกองทุน ซึ่งระบบเงินอุดหนุนไม่น่าเชื่อ 2 ปีที่แล้ว คนดูแลน้ำมันบ้านเราขอยกเลิกเงินกองทุน ปล่อยให้ราคาน้ำมันลอยตัว ในที่สุดราคาน้ำมันขึ้นเราก็ปลอดภัยว่า เราไม่มีใครที่จะจ่อการจลาจลขึ้นราคาน้ำมัน
นายสมัคร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันขึ้นก็ตื่นเต้นกัน ราคาน้ำมันขึ้นตีหน้า หกโมงเย็นไปเข้าแถวเติมยาว แต่พอน้ำมันลดราคากลับไปสนใจ ที่พูดตรงนี้ให้ฟัง เพราะจะบอกว่า เรื่องราคาน้ำมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เวลาเติมน้ำมันไม่มีใครพูด คุณก็จะเติม คุณก็จะใช้ คนไทยรับสภาพนี้ได้ แต่คนที่ผลิตรถยนต์ต้องคิด ได้คิดต่อมาคือการผลิตรถอิโคคาร์ คือการทำให้รถใช้น้ำมันน้อยลง ซึ่งเวลาขับรถต้องถามกี่กิโลเมตรต่อลิตร บอกว่าผลิตได้ 12 กิโลเมตรต่อลิตร เราก็บอกว่า ยอดเยี่ยม และต่อมาก็บอกว่าผลิตได้แล้ว 40 กิโลเมตรต่อลิตร คิดกันแค่นั้น ต่อมามีการวิจัยใช้เอทานอล เป็นผลิตผลพลอยได้จากโรงงานน้ำตาล ผลิตผลจากอ้อย เติมเบนซินไป 95% ใส่เอทานอลไป 5 % ลดได้ 5 % แสนจะดีใจ ต่อมายิ่งดีกว่านั้นอีก มี E20 เติมเบนซินไป 80 ใส่เอทานอลไป 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย 20 ปีมาแล้ว
ผู้ที่เริ่มต้น อยู่ในพระราชวัง ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มทำเอทานอลในสวนจิตลาดา ผลิตเอทานอล ทรงรับสั่งว่าวันหนึ่งข้างหน้า ราคาน้ำมันจะแพงขึ้น 20 ปีที่แล้วสร้างโรงงานผลิตเอทานอลในสวนจิตรลดา แล้วเอาเอทานอลมาเติมกับน้ำมัน E 80 เบนซิน 80 เติมเอทานอล 20 ใช้อย่างนี้มาเรียกว่า แก๊สโซออล์ ผมรู้เรื่องนี้เมื่อไร ผมรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ก็ 8 ปีมาแล้ว ที่รู้ได้เพราะไปเข้าเฝ้าฯ กราบปรึกษาพระองค์ในเรื่องของงานต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านได้พระราชดำเนินมาโดยบอกว่า รถคันนี้ใช้เอทานอล และเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ว่า เจ้านายของเราสายพระเนตรกว้างไกล ถามว่า 8 ปีก่อนราคาน้ำมันแพงหรือยัง ก็ยัง พระเจ้าอยู่หัวทรงคิดถึงเรื่องแก๊สโซออล์ เอทานอล 20 ผสมกับน้ำมัน 80 แล้วทรงใช้เอง ขับเอง คันไม่ใหญ่ แต่ผมไม่บอกว่ายี่ห้อ ราคาห้าแสนบาท วันหนึ่งเขาบอกว่าจะผลิตเป็นคันสุดท้าย เลยเอาเงินให้เขาไป 6 แสน แล้วเขาก็ผลิตให้ โดยให้มา 2 คัน เลยใช้เองคันหนึ่ง ให้ลูกสาวใช้คันหนึ่งใช้เอทานอล เจ้านายของเราได้คิดเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ผมเพิ่งรู้เมื่อ 8 ปีก่อน อยู่ในวัง
นายสมัคร กล่าวว่า ต่อมาคนไทยเราก็เริ่มคิดผลิตแก๊สโซออล์อย่างน้อยก็ต้อง 20 % เรื่องนี้มีบริษัทที่ต้องการผู้ผลิตจากโรงงานผลิตเอทานอล 42 บริษัทที่ขอร้องมา และ 12 บริษัทลงมือได้ เมื่อ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์เข้ามาทำงานเป็นรมว.พลังงาน เขาก็เจรจากับ รัฐมนตรี ซึ่งการผลิตรถยนต์ใช้ E20 ได้ต้องให้มีการลดภาษีสรรพสามิต ก็ตกลงกันเรียบร้อย แล้ววันหนึ่งใครจะคิดรมว.พลังงานไปประเทศบราซิล ซึ่งบราซิล มีอ้อยมากมาย และใช้น้ำมันเอทานอล 100 % เรียก E100 แล้วของเรายังเป็น E 85 ซึ่งเราถอยหลังไม่ได้ เพราะนั้นหมายถึงว่า เติมเอทานอล 85 เติมเบนซิน 15 โอ้มันน่าตื่นเต้น ซึ่งมันต้องส่งเสริมเป็นนโยบายระดับชาติ น้ำมันมันแพงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด E 20 ก็หมดไป ซึ่งพล.ท.หญิงพูนภิรมย์บอกว่า ในอเมริกาและในยุโรปเขาใช้กันแล้ว แต่ของเรายัง เขาบอกว่าขอเวลา 1-2 ปีในเอเชีย ซึ่งเมื่ออเมริกาและยุโรปเขาใช้กันแล้ว มาบอกว่าให้เอเซียรออีก 2 ปี ตนบอกว่าไม่รอ
นายสมัคร กล่าวว่า มาวันนี้แหละที่ตนจะบอกว่า รถที่เขาผลิตอย่างนี้เขามี ทางจีเอ็ม เจนเนอรัล มอร์เตอร์ส คอร์ปอเรชั่นบอกว่า สามารถใช้ E20 และ E85 ได้ ในขณะเดียวกันแก๊สก็กำลังเข้าแถวอยู่ ใช้ทั้งแก๊สโซออล์และเอทานอล วันนี้จีเอ็ม มาผลิตรถยนต์ที่จังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์ดีเซลที่จะขายทั่วโลก เทคโนยีของเขา เวลานี้ที่ยังไม่ออกมาคือรถยนต์ที่ใช้ไฮโดเจน ตนก็อยากดู รถที่มาวันนี้คือรถใช้แบตเตอรี่ รถใช้แก๊สโซออล์ รถใช้ E85 และรถใช้ E20 รถที่ใช้แก๊สโซออล์ จะใช้พลังงานที่ปลูกบนดิน แต่แน่นอนรถที่พ้นจากใช้น้ำมันไปใช้ถ่ายหิน ที่ได้พลังงานจากโรงไฟฟ้า น้ำมันหมดเมื่อไรขายดีแน่ ต่อไปจะต้องมีสถานีที่มีที่ ชาร์ตแบตเตอรี่ ขับรถจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ได้แน่นอน
เราต้องมีโรงไฟฟ้า ซึ่งคิดไว้ว่าจะตั้งโรงงานไฟฟ้าริมทะเลไว้ 2 โรง เรามีลิไนต์ที่ลำปาง เราเจราจากับออสเตรเลีย เผาแล้วไม่มีควันจะสร้าง 2 โรงที่ชายทะเล แต่ 10 ปียังสร้างไม่ได้ เพราะเอ็นจีโอขวาง แต่บัดนี้สร้างได้ แต่สร้างที่กัมพูชาข้างประเทศไทย กัมพูชาบอกมาเลยมาสร้างที่กัมพูชา สร้างแล้วขายไฟให้ประเทศไทย ทำไมไม่สร้างในไทย เพราะเอ็นจีโอไม่ให้สร้าง ส่วนที่สร้างไฮโดเจน ได้ขนาดใหญ่ก็มีที่เขื่อนสิริกิตติ์ ทั้งที่ควรจะมีโรงงานไฟฟ้าที่เขื่อนแก่งเสือเต้น แต่ 30 ปียังสร้างไม่ได้ 30 ปีเอ็นจีโอขวางไว้ แร่ฟอร์เฟตมีอยู่ สำหรับมาทำปุ๋ย มีแต่ขุดไม่ได้ เพราะเอ็นจีโอไม่ให้ขุด ประเทศไทยมันเป็นอย่างนี้” นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่โชคดีที่จีเอ็มตัดสินใจเขาเอาเทคโนโลยีมาทำ ซึ่งตนตกลงแล้ว เป็นคนตัดสินใจตกลง รอไมไม่รอ วันนี้คือเทคโนโลยีที่ใช้ E85 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เขาคิด เอเชียคิด ยุโรปคิด อเมริกาคิด แต่วันนี้ทางเอเชียจะขอเวลา 2 ปี ซึ่งก็ให้ทางอเมริกา ยุโรป คุณมาเลยเอามาขายเลยปีครึ่ง ถ้าใครคิดตามไม่ทันก็รีบคิด อธิบายให้ฟังเทคโนโลยีที่เราหวังคือ E85 และ E20 และแบตเตอรี่ เพราะพวกนี้ไม่มีควัน ไม่มีมลพิษ
จากนั้นนายกฯได้ทดลองขับรถยนต์ที่ใช้ E85 และ E20 และรถยนต์ที่ใช่แบตตารี่ ที่ทางจีเอ็มนำมาให้นายกฯได้ทดสอบ
ต่อมา นายสมัคร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การที่เราต้องให้มีการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้ E85 และ E20 และรถยนต์ที่ใช่แบตเตอรี่ จากยุโรปและอเมริกาเข้ามาจำหน่าย ในไทยก่อน เพราะทางเอเชียของเราผลิตช้า เราต้องยอมเปิดโอกาสให้อเมริกา ทางยุโรป พูดง่ายๆ ทางญี่ปุ่นเขาช้า ก็ให้เวลาปีครึ่ง ที่นำเข้ามาได้ทั้งคันแล้วหลังจากนั้นต้องนำมาประกอบในไทย ซึ่งก็ต้องมีการลดภาษีศุลากร ลดทุกอย่างซึ่งตกลงไว้กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ 20 % เขาตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาตกลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกฯบอกว่า 2 ปีต้องจุดชนวน หมายความว่า จะทำให้รัฐบาลอยู่ได้ 2 ปี หมายถึงนโยบายรัฐบาลหรือเปล่า นายสมัคร กล่าวปฎิเสธว่า ไม่ใช่ คุณไม่เข้าใจ แปลว่ารถที่เข้ามาต้องมาประกอบในนี้ ให้เขานำเข้ามาขายทั้งคันได้ก่อน มันจะได้เริ่มต้น เอทานอล แก๊สโซออล์จะได้เดินหน้า แล้วพอเริ่มประกอบญี่ปุ่นก็ออกตามทัน
