"สุเทพ" ไม่เคยคิดผสมพันธุ์ "กลุ่มเนวิน" ยันอุดมการณ์ต่างกัน เชื่อ "แม้ว" ไม่กล้าลี้ภัยไปต่างแดน เพราะมีคดีอาญาติดตัว -ณะที่ "แม้ว-อ้อ" จองตั๋วบินจากปักกิ่งกลับไทยเอาไว้แล้ว กำหนดเดินทางคืนวันที่ 10 ส.ค. แต่ถ้าไม่มารายงานตัวถูกหมายจับแน่ เผย "หมัก" สั่งหาพรรคสำรองแล้ว เชื่อพลังแม้วโดนยุบแน่ ด้านแกนนำพันธมิตรฯ รับไม่ได้กับแผนสลับขั้ว จับกลุ่มตั้งรัฐบาลใหม่
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการรวมกลุ่มส.ส.พรรคพลังประชาชน ประมาณ 80 คน โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ เป็นผู้ผลักดันอยู่เบื้องหลัง และส.ส.กลุ่มนี้มีการเจรจากับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ในการร่วมมือทางการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น
วานนี้ (8 ส.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันพร้อมเอาเกียรติประวัติความเป็นนักการเมืองมายาวนานเป็นประกันว่า ตนไม่เคยเจรจากับนายเนวิน ชิดชอบ อดีต กก.บริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง หรือสมาชิกคนใดใน"แก๊งออฟโฟร์" เนื่องจากความเห็นและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน จึงทำงานร่วมกันไม่ได้ และขอให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่า ไม่มีการโกหก หรือเกิดมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน
ส่วนที่มีข่าวความขัดแย้งในพรรคพลังประชาชน หรือความไม่ซื่อสัตย์ของนายเนวิน ที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็นเรื่องภายในพรรคพลังประชาชน ที่มีความสลับซับซ้อน ตนไม่สามารถวิเคราะห์ได้ และไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์
"แม้ว"ลี้ภัยไม่ได้เพราะมีคดีอาญา
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงข่าวการลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่มีมากขึ้น จนส่งผลให้ราคาหุ้นในตลาดพุ่งสูงขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดีอาญาติดตัวไม่สามารถลี้ภัยได้ ซึ่งคดีความที่เกิดขึ้นก็ควรว่าไปตามกฎหมาย ผิดก็ต้องรับผิดชอบ มิฉะนั้น อนาคตนักการเมืองจะทำตามอำเภอใจ ไม่กลัวกฎหมาย เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับประชาชน และกฎหมายจะไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ อีกต่อไป
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาประเทศไทยแน่นอน หากจะลี้ภัยคิดว่าไม่ใช่เวลานี้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีภารกิจที่จะต้องสะสางงานในประเทศไทยอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆในพรรคพลังประชาชน ซึ่งไม่มีใครสามารถประสานร้อยราวนี้ได้ จึงจำเป็นต้องใช้บารมีนายใหญ่ เรียกทุกคนมา เพื่อเป่ากระหม่อมเสียก่อน ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน ออกมาสัมภาษณ์ว่า ได้โทรศัพท์คุยกับนายเนวิน กรณีที่มีข่าวว่านายเนวิน จะวัดรอยเท้า และเตรียมตัวตีจากพ.ต.ท.ทักษิณ นายเนวิน ยังต้องรีบโทรสายตรงไปขอโทษ และปรับความเข้าใจกับพ.ต.ท.ทักษิณทันที
"แสดงให้เห็นว่า ผู้มีบารมีในพรรคพลังประชาชนตัวจริง คือพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นที่พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่าจะยุติบทบาททางการเมืองจึงเชื่อถือไม่ได้ เพราะพ.ต.ท. ทักษิณ ยังบงการ และกำหนดการเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชาชนอยู่ตลอดเวลา เพราะยังถือว่าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ไม่สามารถทิ้งขวางได้ เพราะฉะนั้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในพรรคพลังประชาชน จะสงบลงได้ ก็ต่อเมื่อพ.ต.ท. ทักษิณ กลับมา แม้กระทั้ง แก๊งออฟโฟร์ ที่มีอิทธิฤทธิ์ เมื่อเจอมนต์ขลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าต้องสงบอย่างแน่นอน"
"แม้ว-อ้อ" ตีตั๋วกลับไทย
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน อาจมีการขอลี้ภัยทางการเมืองไปยังต่างประเทศนั้น ล่าสุดได้มีการตรวจสอบไปยัง บ.การบินไทย โดยเจ้าหน้าที่ของ บ.การบินไทย ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีชื่ออยู่ในรายการผู้โดยสาร เที่ยวบิน TG 615 ซึ่งบินจาก กรุงปักกิ่งประเทศจีน วันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค. เวลาประมาณ 17.35 น. ถึง กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 21.45 น.
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีกำหนดต้องไปรายงานตัวต่อศาลในวันที่ 11 ส.ค. ภายหลังเดินทางกลับจากจีนแล้ว ซึ่งบุคคลทั้งสอง ต้องขึ้นให้การต่อศาลฯ ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เพื่อต่อสู้คดีซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก
"แม้ว" ไม่รายงานตัวถูกหมายจับแน่
แหล่งข่าวผู้พิพากษา ระบุหาก "ทักษิณ -พจมาน” ขอลี้ภัยต่างประเทศ ไม่กระทบการไต่สวนคดีที่ทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ เพราะแม้ตัวจำเลยไม่อยู่ องค์คณะผู้พิพากษายังสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ แต่จำเลยอาจถูกออกหมายจับ หรือสั่งปรับนายประกัน ถ้าไม่มารายงานตัวตามนัด 11 ส.ค.นี้
"หากทั้งสองคนไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อองค์คณะ ฯ ตามกำหนดนัด องค์คณะ ฯ อาจจะใช้ดุลพินิจมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองมาดำเนินคดี และสั่งปรับนายประกัน ขณะที่องค์คณะฯ สามารถดำเนินกระบวนการพิจารณาไต่สวนพยานและพิพากษาคดีได้ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ พ.ศ.2543 ข้อ 10 ที่ระบุว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาและไต่สวนพยานหลักฐานลับหลังจำเลยได้ ซึ่งแม้ว่าจำเลยจะหลบหนีไปแล้วแต่ยังมีทนายความจำเลยทำหน้าที่แก้ต่างคดีให้อยู่ โดยทนายความอาจนำพยานจำเลยปากอื่นเข้าให้องค์คณะไต่สวนได้" แหล่างข่าวกล่าว และว่า ที่จริงแล้วคำให้การจำเลยไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับคดีมากนัก เพราะคดีนี้จำเลยให้การปฎิเสธมาตั้งแต่ต้น ที่สำคัญอยู่ที่พยานหลักฐานและเอกสารที่ใช้นำสืบข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้กระทำผิดตามที่ถูกฟ้องหรือไม่ต่างหาก"
เมื่อถามว่า หากจำเลยหลบหนีแต่ประสงค์จะให้การ โดยอาจมอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษรได้หรือไม่ แหล่งข่าวผู้พิพากษา กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะฯพิจารณา ว่าจะอนุญาตจำเลย ให้การเป็นลายลักษณ์อักษรได้หรือไม่ และองค์คณะจะรับไว้พิจารณาหรือไม่
ไม่เอา "เปลี่ยนขั้วการเมือง"
นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวฝากไปยังพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่เสนอแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ว่าเมื่อเสนอแนวคิดดังกล่าวแล้ว ก็ควรจะชี้แจงถึงกระบวนการต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลเฉพาะกาลด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วประชาชนจะเกิดความคลุมเคลือในการตัดสินใจว่า จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อย่างไร แต่สำหรับ กลุ่มพันธมิตรฯ มองว่า การจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกพรรคการเมือง และที่สำคัญนักการเมืองจะต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์ที่ตน รวมถึงพรรคที่ตนสังกัดอยู่ จะได้รับ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังจะต้องคำนึงถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่จะต้องมีความสง่างาม เป็นที่ยอมรับของสังคมโดยทั่วไป ไม่ใช่เป็นเพียงแต่เป็นที่ยอมรับของ ส.ส.เท่านั้น
ส่วนกรณีที่ กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชน ออกมาแสดงท่าทีเคลื่อนไหว ในการพยายามเปลี่ยนขั้วทางการเมือง นายพิภพ ระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันไม่เอาเด็ดขาดกับการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองใดๆ ที่มีพรรคพลังประชาชนไปร่วมด้วย เนื่องจากไม่อยากเห็นรูปแบบการเมืองเดิมๆ เปลี่ยนขั้วไปมา ไม่จบสิ้น
"หมัก"สั่งเตรียมพรรคสำรอง
นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ กรรมการบริหารพรรคและนายทะเบียนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคฯได้ย้ำถึงการดำเนินการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ให้กับคณะทำงาน และฝ่ายสำนักทะเบียนพรรคว่า ขอให้รีบดำเนินการ เพราะเมื่อตอนนี้เขากำลังจะเผาบ้านเราอยู่ ต้องรีบหาบ้านหลังใหม่
ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคได้ประเมินจากการที่ กกต.ได้เรียก นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคฯ และนพ.สุรพงษ์ สืบวงส์ลี เลขาธิการพรรคเข้าชี้แจงในวันที่ 13 ส.ค.นี้โดยไม่ให้เลื่อนหรือขยายเวลาออกไปอีก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง และที่ผ่านมาได้มีการวิเคราะห์และประเมินจากหลายฝ่ายล้วนเห็นตรงกันว่าพรรคพลังประชาชน ถูกยุบแน่นอน
"ขณะนี้ได้จัดเตรียมพรรครองรับไว้แล้ว 2- 3 พรรค แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อหรือรายละเอียดได้" นายสมาน กล่าว
"มั่น"เชื่อเพื่อแผ่นดินไม่แตกแถว
นายมั่น พัธโนทัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวถึงปัญหาในพรรคเพื่อแผ่นดินว่า เราประชุมกันแล้ว ทุกฝ่ายก็เข้าใจ และจะมีการประชุมกันในวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งนายสุวิทย์ ยังเข้าร่วมประชุมพรรคเช่นเดิม ในฐานะหัวหน้าพรรค ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ
สำหรับข่าวการย้ายพรรค หรือตั้งพรรคการเมืองใหม่ในขณะนี้ จะมีสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน แยกตัวไปบ้างหรือไม่นั้น นายมั่นกล่าวว่า โดยรัฐธรรมนูญแล้วคงยังย้ายออกไปไม่ได้ แต่เรื่องนี้การจะย้ายออกไปหรือไม่ มันอยู่ที่ใจ
"สำหรับผมเชื่อว่าทุกคนในพรรคเพื่อแผ่นดินก็ยังมีใจรักพรรคอยู่ เพราะร่วมทำงานร่วมกันมานานพอสมควร และผมขอพูดได้เลยว่า พรรคเพื่อแผ่นดินเราไม่มีวันแตก"นายมั่น กล่าว
สำหรับปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะจากพรรคพลังประชาชน จะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายมั่น กล่าวว่า ตนเชื่อในความสามารถของนายกฯ ที่จะสะสางปัญหาในพรรคของท่านได้ สำหรับเราคงทำได้เพียงเฝ้าดู ให้กำลังใจ เพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่มักมีปัญหาเกิดขึ้นภายหลังปรับครม. แต่เมื่อคลื่นลมหายไปแล้ว ทุกอย่างก็จะดี
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการรวมกลุ่มส.ส.พรรคพลังประชาชน ประมาณ 80 คน โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ เป็นผู้ผลักดันอยู่เบื้องหลัง และส.ส.กลุ่มนี้มีการเจรจากับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ในการร่วมมือทางการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น
วานนี้ (8 ส.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันพร้อมเอาเกียรติประวัติความเป็นนักการเมืองมายาวนานเป็นประกันว่า ตนไม่เคยเจรจากับนายเนวิน ชิดชอบ อดีต กก.บริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง หรือสมาชิกคนใดใน"แก๊งออฟโฟร์" เนื่องจากความเห็นและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน จึงทำงานร่วมกันไม่ได้ และขอให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่า ไม่มีการโกหก หรือเกิดมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน
ส่วนที่มีข่าวความขัดแย้งในพรรคพลังประชาชน หรือความไม่ซื่อสัตย์ของนายเนวิน ที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็นเรื่องภายในพรรคพลังประชาชน ที่มีความสลับซับซ้อน ตนไม่สามารถวิเคราะห์ได้ และไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์
"แม้ว"ลี้ภัยไม่ได้เพราะมีคดีอาญา
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงข่าวการลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่มีมากขึ้น จนส่งผลให้ราคาหุ้นในตลาดพุ่งสูงขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดีอาญาติดตัวไม่สามารถลี้ภัยได้ ซึ่งคดีความที่เกิดขึ้นก็ควรว่าไปตามกฎหมาย ผิดก็ต้องรับผิดชอบ มิฉะนั้น อนาคตนักการเมืองจะทำตามอำเภอใจ ไม่กลัวกฎหมาย เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับประชาชน และกฎหมายจะไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ อีกต่อไป
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาประเทศไทยแน่นอน หากจะลี้ภัยคิดว่าไม่ใช่เวลานี้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีภารกิจที่จะต้องสะสางงานในประเทศไทยอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆในพรรคพลังประชาชน ซึ่งไม่มีใครสามารถประสานร้อยราวนี้ได้ จึงจำเป็นต้องใช้บารมีนายใหญ่ เรียกทุกคนมา เพื่อเป่ากระหม่อมเสียก่อน ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน ออกมาสัมภาษณ์ว่า ได้โทรศัพท์คุยกับนายเนวิน กรณีที่มีข่าวว่านายเนวิน จะวัดรอยเท้า และเตรียมตัวตีจากพ.ต.ท.ทักษิณ นายเนวิน ยังต้องรีบโทรสายตรงไปขอโทษ และปรับความเข้าใจกับพ.ต.ท.ทักษิณทันที
"แสดงให้เห็นว่า ผู้มีบารมีในพรรคพลังประชาชนตัวจริง คือพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นที่พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่าจะยุติบทบาททางการเมืองจึงเชื่อถือไม่ได้ เพราะพ.ต.ท. ทักษิณ ยังบงการ และกำหนดการเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชาชนอยู่ตลอดเวลา เพราะยังถือว่าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ไม่สามารถทิ้งขวางได้ เพราะฉะนั้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในพรรคพลังประชาชน จะสงบลงได้ ก็ต่อเมื่อพ.ต.ท. ทักษิณ กลับมา แม้กระทั้ง แก๊งออฟโฟร์ ที่มีอิทธิฤทธิ์ เมื่อเจอมนต์ขลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าต้องสงบอย่างแน่นอน"
"แม้ว-อ้อ" ตีตั๋วกลับไทย
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน อาจมีการขอลี้ภัยทางการเมืองไปยังต่างประเทศนั้น ล่าสุดได้มีการตรวจสอบไปยัง บ.การบินไทย โดยเจ้าหน้าที่ของ บ.การบินไทย ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีชื่ออยู่ในรายการผู้โดยสาร เที่ยวบิน TG 615 ซึ่งบินจาก กรุงปักกิ่งประเทศจีน วันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค. เวลาประมาณ 17.35 น. ถึง กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 21.45 น.
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีกำหนดต้องไปรายงานตัวต่อศาลในวันที่ 11 ส.ค. ภายหลังเดินทางกลับจากจีนแล้ว ซึ่งบุคคลทั้งสอง ต้องขึ้นให้การต่อศาลฯ ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เพื่อต่อสู้คดีซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก
"แม้ว" ไม่รายงานตัวถูกหมายจับแน่
แหล่งข่าวผู้พิพากษา ระบุหาก "ทักษิณ -พจมาน” ขอลี้ภัยต่างประเทศ ไม่กระทบการไต่สวนคดีที่ทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ เพราะแม้ตัวจำเลยไม่อยู่ องค์คณะผู้พิพากษายังสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ แต่จำเลยอาจถูกออกหมายจับ หรือสั่งปรับนายประกัน ถ้าไม่มารายงานตัวตามนัด 11 ส.ค.นี้
"หากทั้งสองคนไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อองค์คณะ ฯ ตามกำหนดนัด องค์คณะ ฯ อาจจะใช้ดุลพินิจมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองมาดำเนินคดี และสั่งปรับนายประกัน ขณะที่องค์คณะฯ สามารถดำเนินกระบวนการพิจารณาไต่สวนพยานและพิพากษาคดีได้ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ พ.ศ.2543 ข้อ 10 ที่ระบุว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาและไต่สวนพยานหลักฐานลับหลังจำเลยได้ ซึ่งแม้ว่าจำเลยจะหลบหนีไปแล้วแต่ยังมีทนายความจำเลยทำหน้าที่แก้ต่างคดีให้อยู่ โดยทนายความอาจนำพยานจำเลยปากอื่นเข้าให้องค์คณะไต่สวนได้" แหล่างข่าวกล่าว และว่า ที่จริงแล้วคำให้การจำเลยไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับคดีมากนัก เพราะคดีนี้จำเลยให้การปฎิเสธมาตั้งแต่ต้น ที่สำคัญอยู่ที่พยานหลักฐานและเอกสารที่ใช้นำสืบข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้กระทำผิดตามที่ถูกฟ้องหรือไม่ต่างหาก"
เมื่อถามว่า หากจำเลยหลบหนีแต่ประสงค์จะให้การ โดยอาจมอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษรได้หรือไม่ แหล่งข่าวผู้พิพากษา กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะฯพิจารณา ว่าจะอนุญาตจำเลย ให้การเป็นลายลักษณ์อักษรได้หรือไม่ และองค์คณะจะรับไว้พิจารณาหรือไม่
ไม่เอา "เปลี่ยนขั้วการเมือง"
นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวฝากไปยังพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่เสนอแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ว่าเมื่อเสนอแนวคิดดังกล่าวแล้ว ก็ควรจะชี้แจงถึงกระบวนการต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลเฉพาะกาลด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วประชาชนจะเกิดความคลุมเคลือในการตัดสินใจว่า จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อย่างไร แต่สำหรับ กลุ่มพันธมิตรฯ มองว่า การจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกพรรคการเมือง และที่สำคัญนักการเมืองจะต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์ที่ตน รวมถึงพรรคที่ตนสังกัดอยู่ จะได้รับ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังจะต้องคำนึงถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่จะต้องมีความสง่างาม เป็นที่ยอมรับของสังคมโดยทั่วไป ไม่ใช่เป็นเพียงแต่เป็นที่ยอมรับของ ส.ส.เท่านั้น
ส่วนกรณีที่ กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชน ออกมาแสดงท่าทีเคลื่อนไหว ในการพยายามเปลี่ยนขั้วทางการเมือง นายพิภพ ระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันไม่เอาเด็ดขาดกับการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองใดๆ ที่มีพรรคพลังประชาชนไปร่วมด้วย เนื่องจากไม่อยากเห็นรูปแบบการเมืองเดิมๆ เปลี่ยนขั้วไปมา ไม่จบสิ้น
"หมัก"สั่งเตรียมพรรคสำรอง
นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ กรรมการบริหารพรรคและนายทะเบียนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคฯได้ย้ำถึงการดำเนินการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ให้กับคณะทำงาน และฝ่ายสำนักทะเบียนพรรคว่า ขอให้รีบดำเนินการ เพราะเมื่อตอนนี้เขากำลังจะเผาบ้านเราอยู่ ต้องรีบหาบ้านหลังใหม่
ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคได้ประเมินจากการที่ กกต.ได้เรียก นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคฯ และนพ.สุรพงษ์ สืบวงส์ลี เลขาธิการพรรคเข้าชี้แจงในวันที่ 13 ส.ค.นี้โดยไม่ให้เลื่อนหรือขยายเวลาออกไปอีก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง และที่ผ่านมาได้มีการวิเคราะห์และประเมินจากหลายฝ่ายล้วนเห็นตรงกันว่าพรรคพลังประชาชน ถูกยุบแน่นอน
"ขณะนี้ได้จัดเตรียมพรรครองรับไว้แล้ว 2- 3 พรรค แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อหรือรายละเอียดได้" นายสมาน กล่าว
"มั่น"เชื่อเพื่อแผ่นดินไม่แตกแถว
นายมั่น พัธโนทัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวถึงปัญหาในพรรคเพื่อแผ่นดินว่า เราประชุมกันแล้ว ทุกฝ่ายก็เข้าใจ และจะมีการประชุมกันในวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งนายสุวิทย์ ยังเข้าร่วมประชุมพรรคเช่นเดิม ในฐานะหัวหน้าพรรค ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ
สำหรับข่าวการย้ายพรรค หรือตั้งพรรคการเมืองใหม่ในขณะนี้ จะมีสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน แยกตัวไปบ้างหรือไม่นั้น นายมั่นกล่าวว่า โดยรัฐธรรมนูญแล้วคงยังย้ายออกไปไม่ได้ แต่เรื่องนี้การจะย้ายออกไปหรือไม่ มันอยู่ที่ใจ
"สำหรับผมเชื่อว่าทุกคนในพรรคเพื่อแผ่นดินก็ยังมีใจรักพรรคอยู่ เพราะร่วมทำงานร่วมกันมานานพอสมควร และผมขอพูดได้เลยว่า พรรคเพื่อแผ่นดินเราไม่มีวันแตก"นายมั่น กล่าว
สำหรับปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะจากพรรคพลังประชาชน จะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายมั่น กล่าวว่า ตนเชื่อในความสามารถของนายกฯ ที่จะสะสางปัญหาในพรรคของท่านได้ สำหรับเราคงทำได้เพียงเฝ้าดู ให้กำลังใจ เพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่มักมีปัญหาเกิดขึ้นภายหลังปรับครม. แต่เมื่อคลื่นลมหายไปแล้ว ทุกอย่างก็จะดี