ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 ส.ค.) พรรคพลังประชาชนมีการประชุม ส.ส.พรรค ซึ่งเป็นที่คาดหมายกันว่าจะต้องมีการพิจารณากรณี นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา ที่ออกมาวิจารณ์คนใกล้ชิดนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน รับผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย และรัฐมนตรีของพรรครับประโยชน์ในโครงการใหญ่
โดยมีนายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล รองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน มีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง รวมทั้งนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ รัฐมนตรีจากกลุ่มเพื่อนเนวินที่ถูกตั้งเป้าแฉเรื่องความไม่ชอบมาพากลในเรื่องการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 6 พันคัน และเรื่องงบท้องถิ่นจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เข้าร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคแถลงหลังการประชุมว่า ในการประชุมมีการพูดถึงข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคนในรัฐบาล โดย ส.ส.หลายคนได้สอบถามและเสนอแนะว่าหากมีเรื่องอะไรก็ควรนำมาพูดกันในพรรค ซึ่งนายศักดาเองก็เข้าใจ และชี้แจงว่าที่ตั้งข้อสังเกตไปเป็นเพราะรักพรรค และทำหน้าที่ของส.ส. อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่านายศักดาจะต้องยุติการพูดในที่สาธารณะ หรือต้องยุติ การดำเนินการตามสิทธิของประชาชน และส.ส. ไม่ว่าจะเป็นการยื่นป.ป.ช.หรืออะไรก็แล้วแต่ก็สามารถทำได้
สำหรับเรื่องที่สงสัยไม่ว่าเรื่องการจัดซื้อรถเมล์ หรืองบท้องถิ่นก็แทบจะไม่ได้พูดกัน เพราะส.ส.ในพรรคส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะทุกคนยกเว้นนายศักดาเอง เข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่มีการทุจริตอะไร เพราะการประมูลรถก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ สิ่งที่นายศักดาพูดก็คงจะเหมือนข้อมูลของฝ่ายค้าน ที่ไม่ค่อยมีอะไร และในการพูดในที่ประชุมก็ไม่มีการแสดงเอกสารหลักฐานอะไรให้ที่ประชุมได้เห็นด้วย เพียงแต่มาพูดมือเปล่าเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยนายศักดานั้น มีการพูดถึงอยู่บ้าง แต่ที่สุดแล้วคณะกรรมการสอบวินัยของพรรคก็ไม่ได้นำเรื่อง เข้าหารือแต่อย่างใด เพียงแต่ทำความเข้าใจว่าหากมีเรื่องอะไรควรจะนำมาพูดกันในพรรค ซึ่งก็ถือว่าเข้าใจกันดีพอสมควร
ศักดาลั่นเดินหน้าสาวไส้ต่อ
ด้านนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรคว่า ในที่ประชุมได้พูดเรื่องที่เคยเป็นข่าวไปแล้วและได้ขอต่อที่ประชุมว่าอย่ามีมติให้ตนหยุด ซึ่งพรรคก็ไม่ได้มีมติอะไร และหลังจากที่ได้พูดแล้วที่ประชุมก็ไม่มีใครขอเสนอให้สอบวินัยจริยธรรม เพราะตนบอกว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง ที่ปรากฎและจะยื่นเอกสารไปยังป.ป.ช.
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าในที่ประชุมตนเสนอให้เลขาธิการนายกฯลาออก จากตำแหน่งนั้นก็ไม่เป็นความจริง มีแต่สมาชิกพรรคพูดออกมาบอกว่าทำไมเรื่องนี้ ไม่เอามาพูดในพรรค แต่ตนก็บอกไปว่าที่พูดไปเพื่อเป็นการปกป้องนายสมัคร ต้องการให้ขจัดสิ่งที่ไม่ถูกต้องออกไป เดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไป เพราะว่า คนที่ตนกล่าวถึงไม่ได้เป็น ส.ส.และสมาชิกพรรค เมื่อไม่เป็นสมาชิกพรรคก็ไม่สมควร ที่จะเอามาพูดในที่ประชุมพรรค
อย่างไรก็ดีในที่ประชุมพรรคมีสมาชิกลุกขึ้นมาต่อว่าบ้าง แต่ตนก็ชี้แจงในหลักการไปและบอกว่าในประเด็นไหนที่ชี้แจงไม่ครอบคลุมสามารถสอบถามได้ แต่ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาสอบถามอะไรเพิ่มเติม
ส่วนจะยื่นเรื่องตรวจสอบคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ต่อป.ป.ช.ได้เมื่อไหร่ นายศักดา กล่าวว่าคงไม่นาน เพราะเอกสารบางตัวทราบมาว่ามีความพยายาม ทำลายเอกสาร เมื่อถามว่าหากไปยื่นต่อป.ป.ช.จะมีน้ำหนักหรือไม่ นายศักดากล่าวว่า เอกสารเราได้มาแล้ว และยอมรับว่ามีความพยายามที่จะทำลายเอกสารหลังจากที่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ออกมา แต่วันนี้ขอพูดแค่นี้ก่อน เพราะเดี๋ยวทางพรรคจะว่าเอา เพราะเขาบอกมีอะไรพูดให้ทางพรรคทราบก่อน วันนี้ตนยังสังกัดพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ด้วยตัวเองหรือไม่และมีกี่โครงการที่จะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบ นายศักดา กล่าวว่า ขอเอาไว้แค่นี้ก่อน ผู้สื่อข่าวซักต่อว่า คนที่จะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบอยู่ในแก็งค์ออฟโฟร์ด้วยใช่หรือไม่ นายศักดากล่าวว่า คงจะรู้แล้วว่าเป็นใคร
ส่วนหากเรื่องนี้นายสมัครยังเงียบอยู่อยากให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายศักดากล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้นายกรัฐมนตตรี อยู่ครบ4ปี แต่สิ่งไหนที่เป็นเหลือบไรเป็นสิ่งที่ไม่ดี ท่านต้องตัดใจถึงแม้ว่าจะรักแต่ก็ต้องตัดใจ บ้านเมืองสำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวบุคคล
ปูดแก๊งออฟโฟร์แอบติดต่อปชป.ตั้งรัฐบาล
แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่าในการประชุมมีการหารือถึงกรณี นายศักดา ออกเปิดเผยข้อมูลคนใกล้ชิดนายสมัคร ที่ดำเนินการหาผลประโยชน์ในหลายโครงการ โดยทันทีที่เข้าสู่การประชุมเรื่องดังกล่าวบรรยากาศ เป็นไป อย่างตึงเครียด โดยนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคม ซักถามเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น และกรณีแก๊งออฟโฟร์ว่าเป็นอย่างไร เพราะไปดูงานต่างประเทศในนามคณะกรรมาธิการฯ ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และทราบว่าส.ส.หลายคนในพรรค ไม่สบายใจที่ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรค และรัฐบาลเสียหาย
จากนั้น ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา รวมทั้งนายศักดา นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายไพจิต ศรีวขาน ส.ส.นครพนม ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม ทยอยลุกขึ้นชี้แจงถึงสาเหตุในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่า ไม่ได้มาต่อรองผลประโยชน์ แต่ได้พบข้อมูลบางอย่างของคนใกล้ชิดนายกฯ เห็นว่า ไม่เหมาะสมจึงต้องตรวจสอบ เพื่อให้บ้านเมืองและรัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค และเป็นห่วงนายกฯ ต้องการปกป้อง นายกฯไม่อยากให้เกิดความเสียหายแก่ตัวท่าน ขอยืนยันประเด็นที่เปิดไปมีหลักฐานครบถ้วน
ทั้งนี้ นายศักดา กล่าวในที่ประชุมว่า ขอร้องอย่าให้ที่ประชุมพรรคมีมติ ให้หยุดตรวจสอบในสิ่งเหล่านี้ เพราะต้องการเดินหน้าตรวจสอบต่อไป ยังไม่สายเกินไป ที่จะแก้ไข ขอให้นายกฯอย่าเห็นแก่ตัวบุคคลบางคน ให้เห็นแก่บ้านเมือง เพราะถึงวันนี้คนอีสานฝากความหวังไว้กับนายกฯในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่นายไพจิต กล่าวว่า แก๊งออฟโฟร์เป็นกลุ่มที่จะทำลายพรรคและมีกระแสข่าวว่าได้ติดต่อกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตั้งรัฐบาลร่วมกัน โดยคาดว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 170 และแก๊งออฟโฟร์จะได้ 70 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งใหม่
จากนั้นประธานในที่ประชุมได้ให้นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ และเหรัญญิกพรรค ชี้แจงถึงกรณีที่ญาติลูกพี่ลูกน้องตั้งพรรคเพื่อไทย โดยสงครามกล่าวว่า พรรคนี้ตั้งขึ้นมาก่อนพรรคไทยรักไทยจะถูกยุบ และไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ ไม่เกี่ยวกับที่แก๊งออกโฟร์จะย้ายไปสังกัดพรรค
ลิ้วล้อแก๊งออกโฟร์คุกคามศักดา
มีรายงานอีกว่าก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น นายศักดาได้เดินทางมาถึงและขึ้นไปนั่งอยู่ที่ด้านหลังห้องประชุม ระหว่างนั้นนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ได้เดินเข้ามาหาพร้อมกล่าวว่าเป็นอย่างไรบ้าง ใครเป็นโจทก์ใครเป็นจำเลย แล้ว นายทรงศักดิ์เดินไปนั่งด้านหน้านายศักดา ขณะเดียวกันได้มีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน 5-6 คนมายื่นล้อมนายศักดา โดยมีบางคนพูดขึ้นเป็นอย่างไรบ้างที่ทำให้พรรคแตกแยก
ทรงศักดิ์ปัดงาบรถเมล์6พันคัน
ก่อนการประชุม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่มีการเตรียมการเจรจาเรื่องการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6 พันคัน เพื่อนำเงินมาเป็นทุน ในการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่า เป็นเรื่องที่กล่าวหากันเท่านั้น แต่ทำให้เสียหาย ก็คงต้องมีการสอบถามในที่ประชุมว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเรื่องอย่างนี้จะปล่อยให้กล่าวหากันไปมาไม่ได้ ทั้งนี้ อาจเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจ ส่วนในเรื่องที่บอกว่ามีการบินไปเจรจากันที่ฮ่องกงนั้น ก็เป็นการพูดกันลอยๆ อย่างไรก็ตาม หาก ส.ส.ที่ออกมาระบุเรื่องดังกล่าวมีข้อมูลจริง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า เม็ดเงินที่จะเป็นรายได้ของรถเอ็นจีวีนี้มาจากการให้บริการ รวมทั้งค่าเช่าจำนวน 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งแม้จะดูว่าเป็นตัวเงินที่มาก แต่เป็นเม็ดเงินที่ได้จากการให้บริการ ยังไม่มีตัวเงินที่แท้จริง และะวันนี้ยังไม่มีการจ่ายเงินใดๆซึ่งเชื่อว่าถ้าชี้แจงให้ ส.ส.ที่สงสัยฟังทุกคนจะเข้าใจดี
ซัดแก๊งออกโฟร์ทำลายพปช.
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าการที่นายศักดา ออกมาเปิดเผยถึงการทุจริตของคนใกล้ชิดนายกฯ เพราะต้องการเตือนไปยังผู้บริหารว่าขอให้จำสัญญาในการไปหาเสียงได้ประชาชนไว้ว่าจะทำอย่างไร แล้วเมื่อมาเป็นฝ่ายบริหารแล้วได้ดำเนินการอย่างที่เคยให้สัญญาไว้จริงหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ดูขณะนี้รัฐบาลเดินนอกกรอบมากเกินไปแล้ว ส.ส.จึงต้องส่งสัญญาณเตือนไป ซึ่งถือเป็นกลไกถ่วงดุลตามระบอบประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา
ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแกงค์ออฟโฟร์ควรจะออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบหรือไม่นั้น นายวรวัจน์ กล่าวว่า ก็ควรออกมาชี้แจง และนายกฯเอง ในฐานะที่มีข่าวว่าคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมเสียหาย ก็ต้องออกมาบอกกล่าวกับประชาชนให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง และที่สำคัญเมื่อมีสัญญาณเตือนจากส.ส.ในพรรคเอง ก็ควรรับฟัง ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ต่อไปได้ยาก
อย่างคุณโป๋ (นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี) เองไม่ใช่คน ในพรรค การเอาคนนอกพรรคมาทำงาน ก็เกิดปัญหาว่าไม่รู้นโยบายของพรรค ที่เคยออกไปให้สัญญากับประชาชน แล้วก็ทำให้ออก นอกกรอบไป ส.ส.เองก็มีหน้าที่ต้องเตือน ซึ่งนายกฯเองก็ต้องรับฟัง โดยจะต้องเอาเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุมพรรคอย่างแน่นอนเพราะเป็นสิทธิของส.ส.ที่จะตรวจสอบได้
ปรีชาเผยมีเห็บ2ตัวเกาะแม้ว-หมัก
นายปรีชา เร่งสมบรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า การเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ไม่ได้ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ เมื่อมีการปรับ ครม.เสร็จสิ้นแล้วทุกอย่างก็จบ เพียงต้องการทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ว่าใครเป็นของแท้ ใครเป็นของปลอมซึ่งก่อนปรับ ครม.ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพื่อต่อรอง เพียงต้องการทราบว่าเรื่องทีเกิดขึ้นเป็นอย่างไร เมื่อทราบความจริง นายกรัฐมนตรีถึงกับขอโทษถึง 3 ครั้งซึ่งตนภูมิใจที่ได้เล่าความจริงให้ท่านทราบ ซึ่งท่านได้บอกว่า ให้ไปดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯตนได้ยืนยันว่า ไม่ได้มาต่อรองตำแหน่ง แม้ว่าจะมีการปรับ ครม.ก็จะไม่เอาตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น
การที่ออกมาพูดออกมาตรวจสอบ เพราะอยากให้ได้รู้เหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นอย่างไร โดยเฉพาะคนใกล้ชิดนายกฯซึ่งตอนนี้บอกได้ว่ามีเห็บอยู่สองตัว ตัวหนึ่งเกาะอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เห็บอีกตัวเกาะอยู่กับท่านนายกฯสมัคร ซึ่งขอให้ท่านตัดสินใจเอาเองก็แล้วกันว่าจะทำอย่างไร เพราะหากปล่อยให้มีเห็บเกาะอยู่อย่างนี้จะบริหารประเทศไปได้อย่างไร นายปรีชา กล่าวด้วยน้ำเสียงสนั่นเครือ
นายปรีชา กล่าวอีกว่าในการประชุมพรรคครั้งนี้ จะได้พูดข้อมูล ข้อเท็จจริง ให้ทุกคนให้ที่ประชุมพรรคได้รับทราบทั้งหมด ทำให้ทุกคนตาสว่าง เพื่อจะช่วยกันพิจารณาว่าพรรคจะเดินต่อไปอย่างไรในอนาคต
ส่วนข้อมูลที่นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา ออกมาเปิดเผยข้อมูลนั้น ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องไปสอบถามกันเองเอา
สมชายปัดเมียตั้งพรรค
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงข่าว ที่ว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ 1ใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญ ให้เว้นวรรคการเมือง 5 ปี ภริยานายสมชาย และเป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อ พรรคเพื่อไทยว่า จะตั้งได้อย่างไรเพราะอยู่ในบ้านเลขที่ 111 นางเยาวภา เลิกเล่น การเมืองไปนานแล้ว ไม่มีสิทธิตั้งพรรค เพราะขาดคุณสมบัติจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งพรรค และไม่เคยมายุ่งกับการเมือง ซึ่งตอนนี้พรรคก็มีอยู่แล้วคือพรรคประชาชน ไม่ต้องไปตั้งใหม่ และตอนนี้เขารไปทำมาค้าขายแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเตรียมเอาไว้หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบเป็นไปได้ หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เตรียมไม่เตรียมเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ตนคิดว่าพรรคจะไม่ถูกยุบ ทำงานกันไปก่อน โดนส่วนตัวไม่รู้เรื่องพรรคใหม่
โดยมีนายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล รองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน มีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง รวมทั้งนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ รัฐมนตรีจากกลุ่มเพื่อนเนวินที่ถูกตั้งเป้าแฉเรื่องความไม่ชอบมาพากลในเรื่องการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 6 พันคัน และเรื่องงบท้องถิ่นจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เข้าร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคแถลงหลังการประชุมว่า ในการประชุมมีการพูดถึงข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคนในรัฐบาล โดย ส.ส.หลายคนได้สอบถามและเสนอแนะว่าหากมีเรื่องอะไรก็ควรนำมาพูดกันในพรรค ซึ่งนายศักดาเองก็เข้าใจ และชี้แจงว่าที่ตั้งข้อสังเกตไปเป็นเพราะรักพรรค และทำหน้าที่ของส.ส. อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่านายศักดาจะต้องยุติการพูดในที่สาธารณะ หรือต้องยุติ การดำเนินการตามสิทธิของประชาชน และส.ส. ไม่ว่าจะเป็นการยื่นป.ป.ช.หรืออะไรก็แล้วแต่ก็สามารถทำได้
สำหรับเรื่องที่สงสัยไม่ว่าเรื่องการจัดซื้อรถเมล์ หรืองบท้องถิ่นก็แทบจะไม่ได้พูดกัน เพราะส.ส.ในพรรคส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะทุกคนยกเว้นนายศักดาเอง เข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่มีการทุจริตอะไร เพราะการประมูลรถก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ สิ่งที่นายศักดาพูดก็คงจะเหมือนข้อมูลของฝ่ายค้าน ที่ไม่ค่อยมีอะไร และในการพูดในที่ประชุมก็ไม่มีการแสดงเอกสารหลักฐานอะไรให้ที่ประชุมได้เห็นด้วย เพียงแต่มาพูดมือเปล่าเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยนายศักดานั้น มีการพูดถึงอยู่บ้าง แต่ที่สุดแล้วคณะกรรมการสอบวินัยของพรรคก็ไม่ได้นำเรื่อง เข้าหารือแต่อย่างใด เพียงแต่ทำความเข้าใจว่าหากมีเรื่องอะไรควรจะนำมาพูดกันในพรรค ซึ่งก็ถือว่าเข้าใจกันดีพอสมควร
ศักดาลั่นเดินหน้าสาวไส้ต่อ
ด้านนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรคว่า ในที่ประชุมได้พูดเรื่องที่เคยเป็นข่าวไปแล้วและได้ขอต่อที่ประชุมว่าอย่ามีมติให้ตนหยุด ซึ่งพรรคก็ไม่ได้มีมติอะไร และหลังจากที่ได้พูดแล้วที่ประชุมก็ไม่มีใครขอเสนอให้สอบวินัยจริยธรรม เพราะตนบอกว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง ที่ปรากฎและจะยื่นเอกสารไปยังป.ป.ช.
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าในที่ประชุมตนเสนอให้เลขาธิการนายกฯลาออก จากตำแหน่งนั้นก็ไม่เป็นความจริง มีแต่สมาชิกพรรคพูดออกมาบอกว่าทำไมเรื่องนี้ ไม่เอามาพูดในพรรค แต่ตนก็บอกไปว่าที่พูดไปเพื่อเป็นการปกป้องนายสมัคร ต้องการให้ขจัดสิ่งที่ไม่ถูกต้องออกไป เดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไป เพราะว่า คนที่ตนกล่าวถึงไม่ได้เป็น ส.ส.และสมาชิกพรรค เมื่อไม่เป็นสมาชิกพรรคก็ไม่สมควร ที่จะเอามาพูดในที่ประชุมพรรค
อย่างไรก็ดีในที่ประชุมพรรคมีสมาชิกลุกขึ้นมาต่อว่าบ้าง แต่ตนก็ชี้แจงในหลักการไปและบอกว่าในประเด็นไหนที่ชี้แจงไม่ครอบคลุมสามารถสอบถามได้ แต่ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาสอบถามอะไรเพิ่มเติม
ส่วนจะยื่นเรื่องตรวจสอบคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ต่อป.ป.ช.ได้เมื่อไหร่ นายศักดา กล่าวว่าคงไม่นาน เพราะเอกสารบางตัวทราบมาว่ามีความพยายาม ทำลายเอกสาร เมื่อถามว่าหากไปยื่นต่อป.ป.ช.จะมีน้ำหนักหรือไม่ นายศักดากล่าวว่า เอกสารเราได้มาแล้ว และยอมรับว่ามีความพยายามที่จะทำลายเอกสารหลังจากที่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ออกมา แต่วันนี้ขอพูดแค่นี้ก่อน เพราะเดี๋ยวทางพรรคจะว่าเอา เพราะเขาบอกมีอะไรพูดให้ทางพรรคทราบก่อน วันนี้ตนยังสังกัดพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ด้วยตัวเองหรือไม่และมีกี่โครงการที่จะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบ นายศักดา กล่าวว่า ขอเอาไว้แค่นี้ก่อน ผู้สื่อข่าวซักต่อว่า คนที่จะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบอยู่ในแก็งค์ออฟโฟร์ด้วยใช่หรือไม่ นายศักดากล่าวว่า คงจะรู้แล้วว่าเป็นใคร
ส่วนหากเรื่องนี้นายสมัครยังเงียบอยู่อยากให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายศักดากล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้นายกรัฐมนตตรี อยู่ครบ4ปี แต่สิ่งไหนที่เป็นเหลือบไรเป็นสิ่งที่ไม่ดี ท่านต้องตัดใจถึงแม้ว่าจะรักแต่ก็ต้องตัดใจ บ้านเมืองสำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวบุคคล
ปูดแก๊งออฟโฟร์แอบติดต่อปชป.ตั้งรัฐบาล
แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่าในการประชุมมีการหารือถึงกรณี นายศักดา ออกเปิดเผยข้อมูลคนใกล้ชิดนายสมัคร ที่ดำเนินการหาผลประโยชน์ในหลายโครงการ โดยทันทีที่เข้าสู่การประชุมเรื่องดังกล่าวบรรยากาศ เป็นไป อย่างตึงเครียด โดยนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคม ซักถามเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น และกรณีแก๊งออฟโฟร์ว่าเป็นอย่างไร เพราะไปดูงานต่างประเทศในนามคณะกรรมาธิการฯ ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และทราบว่าส.ส.หลายคนในพรรค ไม่สบายใจที่ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรค และรัฐบาลเสียหาย
จากนั้น ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา รวมทั้งนายศักดา นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายไพจิต ศรีวขาน ส.ส.นครพนม ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม ทยอยลุกขึ้นชี้แจงถึงสาเหตุในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่า ไม่ได้มาต่อรองผลประโยชน์ แต่ได้พบข้อมูลบางอย่างของคนใกล้ชิดนายกฯ เห็นว่า ไม่เหมาะสมจึงต้องตรวจสอบ เพื่อให้บ้านเมืองและรัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค และเป็นห่วงนายกฯ ต้องการปกป้อง นายกฯไม่อยากให้เกิดความเสียหายแก่ตัวท่าน ขอยืนยันประเด็นที่เปิดไปมีหลักฐานครบถ้วน
ทั้งนี้ นายศักดา กล่าวในที่ประชุมว่า ขอร้องอย่าให้ที่ประชุมพรรคมีมติ ให้หยุดตรวจสอบในสิ่งเหล่านี้ เพราะต้องการเดินหน้าตรวจสอบต่อไป ยังไม่สายเกินไป ที่จะแก้ไข ขอให้นายกฯอย่าเห็นแก่ตัวบุคคลบางคน ให้เห็นแก่บ้านเมือง เพราะถึงวันนี้คนอีสานฝากความหวังไว้กับนายกฯในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่นายไพจิต กล่าวว่า แก๊งออฟโฟร์เป็นกลุ่มที่จะทำลายพรรคและมีกระแสข่าวว่าได้ติดต่อกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตั้งรัฐบาลร่วมกัน โดยคาดว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 170 และแก๊งออฟโฟร์จะได้ 70 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งใหม่
จากนั้นประธานในที่ประชุมได้ให้นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ และเหรัญญิกพรรค ชี้แจงถึงกรณีที่ญาติลูกพี่ลูกน้องตั้งพรรคเพื่อไทย โดยสงครามกล่าวว่า พรรคนี้ตั้งขึ้นมาก่อนพรรคไทยรักไทยจะถูกยุบ และไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ ไม่เกี่ยวกับที่แก๊งออกโฟร์จะย้ายไปสังกัดพรรค
ลิ้วล้อแก๊งออกโฟร์คุกคามศักดา
มีรายงานอีกว่าก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น นายศักดาได้เดินทางมาถึงและขึ้นไปนั่งอยู่ที่ด้านหลังห้องประชุม ระหว่างนั้นนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ได้เดินเข้ามาหาพร้อมกล่าวว่าเป็นอย่างไรบ้าง ใครเป็นโจทก์ใครเป็นจำเลย แล้ว นายทรงศักดิ์เดินไปนั่งด้านหน้านายศักดา ขณะเดียวกันได้มีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน 5-6 คนมายื่นล้อมนายศักดา โดยมีบางคนพูดขึ้นเป็นอย่างไรบ้างที่ทำให้พรรคแตกแยก
ทรงศักดิ์ปัดงาบรถเมล์6พันคัน
ก่อนการประชุม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่มีการเตรียมการเจรจาเรื่องการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6 พันคัน เพื่อนำเงินมาเป็นทุน ในการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่า เป็นเรื่องที่กล่าวหากันเท่านั้น แต่ทำให้เสียหาย ก็คงต้องมีการสอบถามในที่ประชุมว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเรื่องอย่างนี้จะปล่อยให้กล่าวหากันไปมาไม่ได้ ทั้งนี้ อาจเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจ ส่วนในเรื่องที่บอกว่ามีการบินไปเจรจากันที่ฮ่องกงนั้น ก็เป็นการพูดกันลอยๆ อย่างไรก็ตาม หาก ส.ส.ที่ออกมาระบุเรื่องดังกล่าวมีข้อมูลจริง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า เม็ดเงินที่จะเป็นรายได้ของรถเอ็นจีวีนี้มาจากการให้บริการ รวมทั้งค่าเช่าจำนวน 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งแม้จะดูว่าเป็นตัวเงินที่มาก แต่เป็นเม็ดเงินที่ได้จากการให้บริการ ยังไม่มีตัวเงินที่แท้จริง และะวันนี้ยังไม่มีการจ่ายเงินใดๆซึ่งเชื่อว่าถ้าชี้แจงให้ ส.ส.ที่สงสัยฟังทุกคนจะเข้าใจดี
ซัดแก๊งออกโฟร์ทำลายพปช.
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าการที่นายศักดา ออกมาเปิดเผยถึงการทุจริตของคนใกล้ชิดนายกฯ เพราะต้องการเตือนไปยังผู้บริหารว่าขอให้จำสัญญาในการไปหาเสียงได้ประชาชนไว้ว่าจะทำอย่างไร แล้วเมื่อมาเป็นฝ่ายบริหารแล้วได้ดำเนินการอย่างที่เคยให้สัญญาไว้จริงหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ดูขณะนี้รัฐบาลเดินนอกกรอบมากเกินไปแล้ว ส.ส.จึงต้องส่งสัญญาณเตือนไป ซึ่งถือเป็นกลไกถ่วงดุลตามระบอบประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา
ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแกงค์ออฟโฟร์ควรจะออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบหรือไม่นั้น นายวรวัจน์ กล่าวว่า ก็ควรออกมาชี้แจง และนายกฯเอง ในฐานะที่มีข่าวว่าคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมเสียหาย ก็ต้องออกมาบอกกล่าวกับประชาชนให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง และที่สำคัญเมื่อมีสัญญาณเตือนจากส.ส.ในพรรคเอง ก็ควรรับฟัง ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ต่อไปได้ยาก
อย่างคุณโป๋ (นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี) เองไม่ใช่คน ในพรรค การเอาคนนอกพรรคมาทำงาน ก็เกิดปัญหาว่าไม่รู้นโยบายของพรรค ที่เคยออกไปให้สัญญากับประชาชน แล้วก็ทำให้ออก นอกกรอบไป ส.ส.เองก็มีหน้าที่ต้องเตือน ซึ่งนายกฯเองก็ต้องรับฟัง โดยจะต้องเอาเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุมพรรคอย่างแน่นอนเพราะเป็นสิทธิของส.ส.ที่จะตรวจสอบได้
ปรีชาเผยมีเห็บ2ตัวเกาะแม้ว-หมัก
นายปรีชา เร่งสมบรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า การเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ไม่ได้ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ เมื่อมีการปรับ ครม.เสร็จสิ้นแล้วทุกอย่างก็จบ เพียงต้องการทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ว่าใครเป็นของแท้ ใครเป็นของปลอมซึ่งก่อนปรับ ครม.ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพื่อต่อรอง เพียงต้องการทราบว่าเรื่องทีเกิดขึ้นเป็นอย่างไร เมื่อทราบความจริง นายกรัฐมนตรีถึงกับขอโทษถึง 3 ครั้งซึ่งตนภูมิใจที่ได้เล่าความจริงให้ท่านทราบ ซึ่งท่านได้บอกว่า ให้ไปดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯตนได้ยืนยันว่า ไม่ได้มาต่อรองตำแหน่ง แม้ว่าจะมีการปรับ ครม.ก็จะไม่เอาตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น
การที่ออกมาพูดออกมาตรวจสอบ เพราะอยากให้ได้รู้เหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นอย่างไร โดยเฉพาะคนใกล้ชิดนายกฯซึ่งตอนนี้บอกได้ว่ามีเห็บอยู่สองตัว ตัวหนึ่งเกาะอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เห็บอีกตัวเกาะอยู่กับท่านนายกฯสมัคร ซึ่งขอให้ท่านตัดสินใจเอาเองก็แล้วกันว่าจะทำอย่างไร เพราะหากปล่อยให้มีเห็บเกาะอยู่อย่างนี้จะบริหารประเทศไปได้อย่างไร นายปรีชา กล่าวด้วยน้ำเสียงสนั่นเครือ
นายปรีชา กล่าวอีกว่าในการประชุมพรรคครั้งนี้ จะได้พูดข้อมูล ข้อเท็จจริง ให้ทุกคนให้ที่ประชุมพรรคได้รับทราบทั้งหมด ทำให้ทุกคนตาสว่าง เพื่อจะช่วยกันพิจารณาว่าพรรคจะเดินต่อไปอย่างไรในอนาคต
ส่วนข้อมูลที่นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา ออกมาเปิดเผยข้อมูลนั้น ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องไปสอบถามกันเองเอา
สมชายปัดเมียตั้งพรรค
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงข่าว ที่ว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ 1ใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญ ให้เว้นวรรคการเมือง 5 ปี ภริยานายสมชาย และเป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อ พรรคเพื่อไทยว่า จะตั้งได้อย่างไรเพราะอยู่ในบ้านเลขที่ 111 นางเยาวภา เลิกเล่น การเมืองไปนานแล้ว ไม่มีสิทธิตั้งพรรค เพราะขาดคุณสมบัติจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งพรรค และไม่เคยมายุ่งกับการเมือง ซึ่งตอนนี้พรรคก็มีอยู่แล้วคือพรรคประชาชน ไม่ต้องไปตั้งใหม่ และตอนนี้เขารไปทำมาค้าขายแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเตรียมเอาไว้หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบเป็นไปได้ หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เตรียมไม่เตรียมเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ตนคิดว่าพรรคจะไม่ถูกยุบ ทำงานกันไปก่อน โดนส่วนตัวไม่รู้เรื่องพรรคใหม่