ร.ท.กุเทพใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงถึงการหนีออกนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา และครอบครัวจนถูกออกหมายจับว่า พรรคพลังประชาชนอยากเรียกร้อง ทุกฝ่ายเคารพสิทธิมนุษยชนของอดีตนายกฯและครอบครัว เพราะถือว่าเป็นการใช้สิทธิความเป็นมนุษย์ และต้องการให้ การเมืองสงบ และเชื่อว่าการเมืองจะไม่ติดหล่มเพราะบางคนโยงอดีตนายกฯ ให้เข้ามายุ่งกับการเมืองจนการเมืองเดินไม่ได้ เมื่ออดีตนายกฯไปต่างประเทศทุกฝ่ายควรใช้โอกาสนี้ทำให้การเมืองเดินหน้าไปโดยไม่ต้องวุ่นวาย แต่น่าเสียดายที่ข่าวสารการเมืองยังติดพันกับอดีตนายกฯอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าวงการการเมืองและคนการเมืองไม่คิดพ้นจากหล่มนี้
ขอฝากถามว่า ผู้ที่เอาการ เอางาน ในการนำอดีตนายกฯมาประจาน ไม่ทราบ ว่ามีจุดหมายเช่นใด เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯแสดงตัวเสมือนเจ้าหน้าที่รัฐ และเปิดเผยท่าทีชัดเจนว่าจะนำหมายจับไปเผยแพร่และประจาน ตอนนี้อดีตนายกฯอยู่ที่อังกฤษ ก็ควรปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยศาลจะมีมาตรการนำตัวอดีตนายกฯมาดำเนินคดีเอง แต่นายสนธิใช้กระบวนการ ดำเนินการนอกกรอบกฎหมาย นายสนธิทำตัวเป็นเสมือนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหรือ
ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ขอประณามการกระทำดังกล่าวที่เสมือนมุ่งร้ายต่อ อดีตนายกฯ สำนวนไทยบอกไว้ว่า ไม้ล้มข้ามได้ แต่คนล้มอย่าข้าม วันนี้อดีตนายกฯหยุดแบบสุดๆแล้ว การกลับเมืองไทยครั้งนั้น ก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่บางคนก็รู้สึกว่ามีอิทธิพลกับการเมืองไทย แม้วันนี้อดีตนายกฯจะออกไปแล้วแต่ก็คนจ้องทำลายไม่รู้ว่าเป็นคนไทยหรือไม่ จิตใจทำด้วยอะไร
ร.ท.กุเทพกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ก็เช่นกันเพราะกำลังเล่นการเมืองแบบสร้างกรงขังตัวเอง แทนที่จะทำให้การเมืองทะลุทางตันเดินหน้าไปได้ ตนรู้ว่าพรรคนั้นกลัว พ.ต.ท.ทักษิณมาตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ผจญวิบากกรรมแบบนี้แต่พรรค ปชป.ก็ยังกลัวแบบนี้โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคก็ใช้ทฤษฎีเดิมว่า พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวโยงกับการเมือง และใช้ทุนรอนมาสนับสนุนการเมือง
สภาพการวันนี้อดีตนายกฯอยู่ในสภาพเอาตัวแทบไม่รอด ทำไมต้องซ้ำเติม ขอถามว่านายสุเทพมีปัญญาเพียงเท่านี้หรือ หากยังสู้กับอดีตนายกฯในสภาพแบบนี้ และยังหวาดกลัวเช่นนี้นายสุเทพจะมีภาพผู้นำการเมืองได้อย่างไร พรรคประชาธิปัตย์วันนี้เป็นองค์กรอะไรควรบอกมาให้ชัด โดยเฉพาะท่าทีของโฆษกพรรคที่มีตำแหน่ง อย่างเป็นทางการว่าคิดอะไร เพราะตอนนี้มีแต่บทบาทของนายเทพไทย เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค เป็นตัวละครที่เล่นบทเยาะเย้ยถากถางคนอื่น
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า มาดูความ เคลื่อนไหวในพรรคเสียหน่อย คนที่ดูแคลนคนอื่นเรื่อยๆ เช่นดูแคลนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแบบนี้ หากพรรคนั้นไม่มีคนสร้างสรรค์ทางการเมือง ก็เสียดายแทนว่า ขาดแคลนบุคลากร การทำแบบนี้ สร้างสรรค์เป็นประโยชน์กับการเมืองหรือไม่
จวกสตช.ไม่ยกเว้นปิดหมายจับแม้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่เสนอให้เรียกตัวอดีตนายกฯกลับมาสู้คดีในไทย ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ตนเคารพการตัดสินใจของทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแบบปัจเจกชน การตัดสินใจเรื่องชีวิตส่วนบุคคลนั้นขอให้เคารพตามหลักสิทธิมนุษยชน และไม่เรียกร้องใดๆทั้งสิ้น เพราะเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอน และขอให้ย้อนไปดูว่ากรณีเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณเคยเกิดขึ้นหรือไม่เพราะมันก็เคยเกิดขึ้น แต่มันไม่เคยมีการเหยียดย่ำซ้ำเติมและประณามกันขนาดนี้
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า หลักปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ที่ออกหมายจับขอถามว่ากรณีของอดีตนายกฯนั้น สตช.มีตามองเห็น มีหูรับฟัง มีสมองรับรู้หรือไม่ว่าอดีตนายกฯอยู่ที่ไหน หากรับรู้ได้จะรู้ว่าเป้าอยู่ตรงไหนก็จะส่งไปที่นั่นได้ ไม่จำเป็นต้องใช้บรรทัดฐานที่ทำกับคนอื่นที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ผู้ที่เคยเป็นอดีตผู้นำประเทศ ทำงานให้บ้านเมืองมามาก เคยเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่ง สตช.ก็ควรตระหนักว่าเลือดต้องข้นกว่าน้ำและควรรู้ว่าวิธีปฏิบัติควรทำเช่นใดไม่ใช่ สะเปะสะปะเช่นนี้ หากเป็นแบบนี้ต้องถูกมองว่ามีเจตนาเล่นอะไร
เมื่อรู้ว่าท่านอยู่อังกฤษแล้วทำไมต้องเที่ยวติดประกาศออกหมายจับ แล้วนายสนธิ ใช้สิทธิอไรในการนำเรื่องเหล่านี้เข้าเวบไซต์เผยแพร่ทุกจุดของประเทศ หากไม่ใช่เพียงต้องการประจาน ขอถามว่ามันได้ประโยชน์อะไร เราเคารพสิทธิมนุษยชน วันนี้ท่านล้มก็อย่าข้าม ท่านเป็นมนุษยพรรคประชาธิปัตย์ อย่าส่งนายเทพไทมาเสียเวลาตอแยกับนายสมัคร หรืออดีตนายกฯ แต่ควรแสดงท่าที อย่างเป็นทางการผ่านโฆษกพรรคที่มีสถานะทางกฎหมายให้ชัดเจนอย่าเล่นกระแสข่าวรายสัปดาห์เพียงหวังความมันหรือสะใจทางการเมือง มันไม่ใช่การเมืองที่สร้างสรรค์
เบรกตั้งกระทู้ถามนายกฯเล่นงานตร.
ส่วนที่มี ส.ส.ในพรรคหลายคนจะยื่นกระทู้สอบถามนายกรัฐมนตรี เรื่องที่ สตช. ติดประกาศหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตรนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า วันนี้นายสมัครมีภาระกิจแก้ปัญหาให้ประชาชนหนักมาก ดังนั้นกิจการภายในพรรค ต้องเอาไว้ที่หลังให้นายกฯไปทำงานให้ประชาชนก่อน อย่างไรก็ตามการที่ สมาชิกพรรค ต้องการให้นายสมัครชี้แจงในฐานะหัวหน้าพรรคว่าเกิดอะไรขึ้นและมีเหตุผลอย่างไร แต่การที่ สตช.หน่วยงานภายในกำกับของนายกฯ นำหมายจับออกมาประจานโดยอ้างง่าเป็นไปตามระเบียบ แต่ตนขอถามว่า สตช.ไม่รู้หรือว่าอดีตนายกฯอยู่ไหนและอาจดำเนินการโดยนายกฯไม่รู้ แต่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนก็ไม่สบายใจรู้สึกว่าอดีตผู้นำถูกประจานหยามเยียบแบบนี้ก็ต้องแสดงให้เป็นประเด็นสาธารณะเช่นกัน
เราไม่ประสงค์ให้นายสมัครมาปกป้องใครเพียงแต่เมื่อมีคนนำเรื่องนี้ไปประจานที่เรามองว่าเกินกว่าเหตุหากคนที่ไม่เกี่ยวข้องคงไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่ผูกพันกับอดีตนายกฯก็จะเชิญนายสมัครมาชี้แจงหน่อยและเชื่อว่านายสมัครจะจัดการกลไกภายในพรรคได้ เมื่อนายสมัครอธิบายความในพรรคทุกอย่างก็เรียบร้อย และ ส.ส.ไม่มีอคติและยังสนับสนุนนายสมัครทำงานด้วยดังนั้นเรื่องต่างๆ ของให้เป็นเรื่องภายในพรรคและนายสมัครจะมาจัดการ ซึ่งหากชี้แจงแล้ว มันก็ยิ่งกว่าตอบกระทู้ในสภาเสียอีก แต่ถ้า ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนยังมีการยื่นกระทู้อีกมันก็จะยิ่งประจานอดีตนายกฯเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งผมอยากให้เรื่องนี้เงียบ
ย้ำใครหนีคดีต้องเคารพการตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่อ้างว่าการหนีออกนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่อง สิทธิมนุษยชน หากผู้ต้องหาอื่นหนีออกนอกประเทศแล้วอ้างแบบอดีตนายกฯ จะเป็นอย่างไร ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนที่ต้องเคารพใครจะทำเช่นใดก็เป็นสิทธิและกระบวนการยุติธรรมก็จะดำเนินการไปตามนั้นเพื่อจัดการปัญหานั้นๆ เราไม่มีสิทธิชี้มือประณามคนอื่นที่ตัดสินใจเช่นนั้นและอย่านำบรรทัดฐานนี้มาวัด เพราะคนที่ตัดสินใจแบบอดีตนายกฯ ก็มีกระบวนการตามกฎหมายและไม่หมายความว่าสิ้นสุด การพิจารณาความมันก็ดำเนินการ อย่าโยงถึงคนอื่นและไม่ใช่บรรทัดฐานที่ยอมรับได้ แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว มันคือเรื่องส่วนบุคคลที่ต้องเคารพตามสมควร และทุกฝ่ายควรยุติและหันมาทำการเมืองให้เดินหน้าดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตรรกะและนัยยะที่ระบุคล้ายว่าคนที่ทำผิดแล้วหนีนั้น คนอื่นๆ ควรเคารพ ร.ท.กุเทพกล่าวแบบมี อารมณ์ว่า ไม่ใช่ตรรกะของคุณเองแปลความเอง ผมบอกว่าเมื่อคนหนึ่งตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวเราควรเคารพ เพราะมีเหตุผล ที่ไม่ต้องถาม และตรงนี้ต้องไปถามคนที่ตัดสินใจ แต่ความผิดถูกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง วันนี้ศาลยังไม่ชี้ว่าผิดหรือไม่ แต่ไม่ใช่ให้คนอื่นๆใช้กฎหมู่ ที่ไม่อยู่ในกรอบกระทืบทำลายและประจาน สังคมมันก็อยู่ไม่ได้สิและปั่นป่วนใหญ่ ผมจึงบอกว่า มุมมองของพวกเราอดีตนายกฯตัดสินใจแบบคำนึงถึงสถานการ์บ้านเมืองอยู่พอควร ส่วนเรื่องอื่นๆมีกระบวนการจัดการเราควรมาสนใจเรื่องของเราดีกว่าคือ บ้านเมืองควรเดินหน้าดีกว่า
ก้มหน้ารับกรรมพปช.ถูกยุบแน่
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ข่าวการยุบพรรคพลังประชาชนที่นำมาเป็นประเด็นขณะนี้เป็นการชงข่าวเก่ามาเป็นประเด็นใหม่ให้ดูตื่นเต้น และตระหนกในทางการเมือง ตนเชื่อว่าที่สุด กกต.จะมีความเห็นไม่ต่างกับการเสนอยุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย และการที่ กกต.จะเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องยุบพรรคพลังประชาชนก็เชื่อว่าอัยการสูงสุดจะวินิจฉัยไม่ต่างจาก 2 พรรคนี้ คือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นคำตอบสุดท้าย
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้หวังอะไร แต่พรรคพลังประชาชนเตรียมทั้งทนายความไปสู้คดี แม้จะมีความเห็นบางฝ่ายในพรรคให้นายกรัฐมนตรียุบสภาก่อนถูกยุบพรรค แต่จากที่ฟังนายสมัคร ท่านไม่ได้พูดเรื่องยุบสภา โดยบอกว่ามีเวลาเท่าไหร่ก็ทำงานให้เต็มท ี่ไม่วกตกทุกข์ร้อนเรื่องยุบหรือไม่ยุบพรรค และไม่วิตกคดีของตัวเอง
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การยุบสภาก่อนยุบพรรคนั้น อาจเป็นวิธีทางหนึ่ง แต่หากยุบสภาแล้วคดียุบพรรคยังคาราคาซังและไม่สะเด็ดน้ำมันก็มีปัญหา ฉะนั้นความเห็นของอีกฝ่ายจะบอกว่าหากมีการยุบพรรคแต่สภายังอยู่ ก็ไม่ต้องวิตก ส.ส.ก็รวมกลุ่มไปอยู่พรรคใหม่คนที่โดนตัดสิทธิทางการเมืองก็หาคนมาลงสมัครให้ประชาชนพิสูจน์ พรรคร่วมรัฐบาลที่โดนยุบก็จับมือเกี่ยวแขนเป็นรัฐบาลต่อไปได้เพราะดุลและที่นั่งในสภายังไม่เปลี่ยนแปลง วิธีแบบนี้มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น วันนี้จึงยังไม่มีบทสรุปว่าจะยุบพรรคหรือยุบสภาก่อนกัน แต่ยุทธศาสตร์คือต้องเกาะเกี่ยวกันเหนียบแน่นต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะไปอยู่บ้านหลังไหนก็ต้องไปด้วยกัน
หากยุบสภาก่อนยุบพรรค ส.ส.ของพรรคที่ถูกดำเนินคดียุบพรรคจะทำอย่างไร กรรมการบริหารพรรคจะกล้าลงสมัครเลือกตั้งหรือไม่ เพราะยังไม่รู้จะโดนตัดสิทธิทางการเมืองหรือไม่ ประชาชนก็จะโดนลากมาตัดสินในสิ่งที่เกี่ยวข้องจะเป็นภาระกับประชาชนอีก ดังนั้นนายกฯจึงบอกว่าหากจะตัดสินใจเรื่องสำคัญคือยุบสภา ก็จะนำมาหารือในพรรคก่อน ฉะนั้นท่าทีของพรรควันนี้คืออยู่ในขั้นตอนการสู้คดี แม้จะรู้ว่าที่สุดออกมาอย่างไรก็ยังต้องสู้
พรรคเพื่อไทยคือบ้านหลังใหม่
ส่วนที่มีสมาชิกพรรคเริ่มใช้พรรคเพื่อไทยแทนพรรคพลังประชาชนแล้วเช่น จ.พิจิตรนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า กรณี จ.พิจิตรเป็นเพียงผู้สมัคร ส.ส.ไม่ใช่ ส.ส. อย่าลืมว่าการเปลี่ยนพรรคนั้น หาก ส.ส.เปลี่ยนพรรคก็จะสิ้นสภาพ ส.ส.ทันทีฉะนั้น ส.ส.ต้องรอการยุบพรรคก่อนแล้วจะตัดสินใจได้ วันนี้ทุกคนเชื่อว่าพรรคไม่รอด ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก็ต้องไปเตรียมการเนี่นๆ ไว้ มันคือการต่อสู้กับหลักอยุติธรรมที่โดนสร้างขึ้นมา ต้องไปถาม ส.ร..ว่าต้องการให้พรรคเกิดความหวาดกลัวและแตกทัพหรือไม่ หากพรรคเตรียมการสู้แบบมีสติ ไม่มีอาการพารานอยด์และโฟเบีย ยุบพรรคก็ยุบไป พวกเราก็ไปหาพรรคใหม่อยู่ และเรื่องส่งของและเสบียงไปพรรคใหม่ที่จะไปรวมกันนั้นเพื่อให้พรรคใหม่เข้มแข็ง เป็นปึกแผ่น มันก็ว่ากันไป
พรรคเพื่อไทยนั้นเป็นชื่อที่ลงตัวที่สุดและคงไม่มีหลายพรรคหรอก พรรคใหม่นั้นจะใช้นโยบายเดิมที่ประชาชนชื่นชอบ หากคนไปสร้างสาขาพรรคและทิศทางไว้ก่อน การเคลื่อนกระบวนทัพใหญ่ก็จะไม่เสียเวลาถกเถียงกันให้มากเพราะมีทางเดียวก็ต้องไปทางเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคใหม่นี้จะมีส.ส.พรรคอื่นๆไหลมารวมกันหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ ส.ส.ก็พูดคุยกันและแนวทางนี้มันจะทำให้ส.ส.รวมตัวกันเพราะการแตกตัวออกไปในยุคพรรคไทยรักไทย คนเหล่านี้จะรู้ว่าเมื่อออกไปแล้วก็มีปัญหาทางการเมือง และคนเหล่านี้รู้ว่าวันนี้ประชาชนยังเหนียวแน่นกับนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ การเกาะกลุ่มเพื่อให้นโยบายเป็นไปได้นั้น ถือว่าเป็นจุดได้เปรียบ ทางการเมืองและอ้างนโยบายนั้นได้
ขอฝากถามว่า ผู้ที่เอาการ เอางาน ในการนำอดีตนายกฯมาประจาน ไม่ทราบ ว่ามีจุดหมายเช่นใด เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯแสดงตัวเสมือนเจ้าหน้าที่รัฐ และเปิดเผยท่าทีชัดเจนว่าจะนำหมายจับไปเผยแพร่และประจาน ตอนนี้อดีตนายกฯอยู่ที่อังกฤษ ก็ควรปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยศาลจะมีมาตรการนำตัวอดีตนายกฯมาดำเนินคดีเอง แต่นายสนธิใช้กระบวนการ ดำเนินการนอกกรอบกฎหมาย นายสนธิทำตัวเป็นเสมือนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหรือ
ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ขอประณามการกระทำดังกล่าวที่เสมือนมุ่งร้ายต่อ อดีตนายกฯ สำนวนไทยบอกไว้ว่า ไม้ล้มข้ามได้ แต่คนล้มอย่าข้าม วันนี้อดีตนายกฯหยุดแบบสุดๆแล้ว การกลับเมืองไทยครั้งนั้น ก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่บางคนก็รู้สึกว่ามีอิทธิพลกับการเมืองไทย แม้วันนี้อดีตนายกฯจะออกไปแล้วแต่ก็คนจ้องทำลายไม่รู้ว่าเป็นคนไทยหรือไม่ จิตใจทำด้วยอะไร
ร.ท.กุเทพกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ก็เช่นกันเพราะกำลังเล่นการเมืองแบบสร้างกรงขังตัวเอง แทนที่จะทำให้การเมืองทะลุทางตันเดินหน้าไปได้ ตนรู้ว่าพรรคนั้นกลัว พ.ต.ท.ทักษิณมาตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ผจญวิบากกรรมแบบนี้แต่พรรค ปชป.ก็ยังกลัวแบบนี้โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคก็ใช้ทฤษฎีเดิมว่า พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวโยงกับการเมือง และใช้ทุนรอนมาสนับสนุนการเมือง
สภาพการวันนี้อดีตนายกฯอยู่ในสภาพเอาตัวแทบไม่รอด ทำไมต้องซ้ำเติม ขอถามว่านายสุเทพมีปัญญาเพียงเท่านี้หรือ หากยังสู้กับอดีตนายกฯในสภาพแบบนี้ และยังหวาดกลัวเช่นนี้นายสุเทพจะมีภาพผู้นำการเมืองได้อย่างไร พรรคประชาธิปัตย์วันนี้เป็นองค์กรอะไรควรบอกมาให้ชัด โดยเฉพาะท่าทีของโฆษกพรรคที่มีตำแหน่ง อย่างเป็นทางการว่าคิดอะไร เพราะตอนนี้มีแต่บทบาทของนายเทพไทย เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค เป็นตัวละครที่เล่นบทเยาะเย้ยถากถางคนอื่น
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า มาดูความ เคลื่อนไหวในพรรคเสียหน่อย คนที่ดูแคลนคนอื่นเรื่อยๆ เช่นดูแคลนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแบบนี้ หากพรรคนั้นไม่มีคนสร้างสรรค์ทางการเมือง ก็เสียดายแทนว่า ขาดแคลนบุคลากร การทำแบบนี้ สร้างสรรค์เป็นประโยชน์กับการเมืองหรือไม่
จวกสตช.ไม่ยกเว้นปิดหมายจับแม้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่เสนอให้เรียกตัวอดีตนายกฯกลับมาสู้คดีในไทย ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ตนเคารพการตัดสินใจของทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแบบปัจเจกชน การตัดสินใจเรื่องชีวิตส่วนบุคคลนั้นขอให้เคารพตามหลักสิทธิมนุษยชน และไม่เรียกร้องใดๆทั้งสิ้น เพราะเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอน และขอให้ย้อนไปดูว่ากรณีเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณเคยเกิดขึ้นหรือไม่เพราะมันก็เคยเกิดขึ้น แต่มันไม่เคยมีการเหยียดย่ำซ้ำเติมและประณามกันขนาดนี้
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า หลักปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ที่ออกหมายจับขอถามว่ากรณีของอดีตนายกฯนั้น สตช.มีตามองเห็น มีหูรับฟัง มีสมองรับรู้หรือไม่ว่าอดีตนายกฯอยู่ที่ไหน หากรับรู้ได้จะรู้ว่าเป้าอยู่ตรงไหนก็จะส่งไปที่นั่นได้ ไม่จำเป็นต้องใช้บรรทัดฐานที่ทำกับคนอื่นที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ผู้ที่เคยเป็นอดีตผู้นำประเทศ ทำงานให้บ้านเมืองมามาก เคยเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่ง สตช.ก็ควรตระหนักว่าเลือดต้องข้นกว่าน้ำและควรรู้ว่าวิธีปฏิบัติควรทำเช่นใดไม่ใช่ สะเปะสะปะเช่นนี้ หากเป็นแบบนี้ต้องถูกมองว่ามีเจตนาเล่นอะไร
เมื่อรู้ว่าท่านอยู่อังกฤษแล้วทำไมต้องเที่ยวติดประกาศออกหมายจับ แล้วนายสนธิ ใช้สิทธิอไรในการนำเรื่องเหล่านี้เข้าเวบไซต์เผยแพร่ทุกจุดของประเทศ หากไม่ใช่เพียงต้องการประจาน ขอถามว่ามันได้ประโยชน์อะไร เราเคารพสิทธิมนุษยชน วันนี้ท่านล้มก็อย่าข้าม ท่านเป็นมนุษยพรรคประชาธิปัตย์ อย่าส่งนายเทพไทมาเสียเวลาตอแยกับนายสมัคร หรืออดีตนายกฯ แต่ควรแสดงท่าที อย่างเป็นทางการผ่านโฆษกพรรคที่มีสถานะทางกฎหมายให้ชัดเจนอย่าเล่นกระแสข่าวรายสัปดาห์เพียงหวังความมันหรือสะใจทางการเมือง มันไม่ใช่การเมืองที่สร้างสรรค์
เบรกตั้งกระทู้ถามนายกฯเล่นงานตร.
ส่วนที่มี ส.ส.ในพรรคหลายคนจะยื่นกระทู้สอบถามนายกรัฐมนตรี เรื่องที่ สตช. ติดประกาศหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตรนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า วันนี้นายสมัครมีภาระกิจแก้ปัญหาให้ประชาชนหนักมาก ดังนั้นกิจการภายในพรรค ต้องเอาไว้ที่หลังให้นายกฯไปทำงานให้ประชาชนก่อน อย่างไรก็ตามการที่ สมาชิกพรรค ต้องการให้นายสมัครชี้แจงในฐานะหัวหน้าพรรคว่าเกิดอะไรขึ้นและมีเหตุผลอย่างไร แต่การที่ สตช.หน่วยงานภายในกำกับของนายกฯ นำหมายจับออกมาประจานโดยอ้างง่าเป็นไปตามระเบียบ แต่ตนขอถามว่า สตช.ไม่รู้หรือว่าอดีตนายกฯอยู่ไหนและอาจดำเนินการโดยนายกฯไม่รู้ แต่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนก็ไม่สบายใจรู้สึกว่าอดีตผู้นำถูกประจานหยามเยียบแบบนี้ก็ต้องแสดงให้เป็นประเด็นสาธารณะเช่นกัน
เราไม่ประสงค์ให้นายสมัครมาปกป้องใครเพียงแต่เมื่อมีคนนำเรื่องนี้ไปประจานที่เรามองว่าเกินกว่าเหตุหากคนที่ไม่เกี่ยวข้องคงไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่ผูกพันกับอดีตนายกฯก็จะเชิญนายสมัครมาชี้แจงหน่อยและเชื่อว่านายสมัครจะจัดการกลไกภายในพรรคได้ เมื่อนายสมัครอธิบายความในพรรคทุกอย่างก็เรียบร้อย และ ส.ส.ไม่มีอคติและยังสนับสนุนนายสมัครทำงานด้วยดังนั้นเรื่องต่างๆ ของให้เป็นเรื่องภายในพรรคและนายสมัครจะมาจัดการ ซึ่งหากชี้แจงแล้ว มันก็ยิ่งกว่าตอบกระทู้ในสภาเสียอีก แต่ถ้า ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนยังมีการยื่นกระทู้อีกมันก็จะยิ่งประจานอดีตนายกฯเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งผมอยากให้เรื่องนี้เงียบ
ย้ำใครหนีคดีต้องเคารพการตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่อ้างว่าการหนีออกนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่อง สิทธิมนุษยชน หากผู้ต้องหาอื่นหนีออกนอกประเทศแล้วอ้างแบบอดีตนายกฯ จะเป็นอย่างไร ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนที่ต้องเคารพใครจะทำเช่นใดก็เป็นสิทธิและกระบวนการยุติธรรมก็จะดำเนินการไปตามนั้นเพื่อจัดการปัญหานั้นๆ เราไม่มีสิทธิชี้มือประณามคนอื่นที่ตัดสินใจเช่นนั้นและอย่านำบรรทัดฐานนี้มาวัด เพราะคนที่ตัดสินใจแบบอดีตนายกฯ ก็มีกระบวนการตามกฎหมายและไม่หมายความว่าสิ้นสุด การพิจารณาความมันก็ดำเนินการ อย่าโยงถึงคนอื่นและไม่ใช่บรรทัดฐานที่ยอมรับได้ แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว มันคือเรื่องส่วนบุคคลที่ต้องเคารพตามสมควร และทุกฝ่ายควรยุติและหันมาทำการเมืองให้เดินหน้าดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตรรกะและนัยยะที่ระบุคล้ายว่าคนที่ทำผิดแล้วหนีนั้น คนอื่นๆ ควรเคารพ ร.ท.กุเทพกล่าวแบบมี อารมณ์ว่า ไม่ใช่ตรรกะของคุณเองแปลความเอง ผมบอกว่าเมื่อคนหนึ่งตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวเราควรเคารพ เพราะมีเหตุผล ที่ไม่ต้องถาม และตรงนี้ต้องไปถามคนที่ตัดสินใจ แต่ความผิดถูกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง วันนี้ศาลยังไม่ชี้ว่าผิดหรือไม่ แต่ไม่ใช่ให้คนอื่นๆใช้กฎหมู่ ที่ไม่อยู่ในกรอบกระทืบทำลายและประจาน สังคมมันก็อยู่ไม่ได้สิและปั่นป่วนใหญ่ ผมจึงบอกว่า มุมมองของพวกเราอดีตนายกฯตัดสินใจแบบคำนึงถึงสถานการ์บ้านเมืองอยู่พอควร ส่วนเรื่องอื่นๆมีกระบวนการจัดการเราควรมาสนใจเรื่องของเราดีกว่าคือ บ้านเมืองควรเดินหน้าดีกว่า
ก้มหน้ารับกรรมพปช.ถูกยุบแน่
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ข่าวการยุบพรรคพลังประชาชนที่นำมาเป็นประเด็นขณะนี้เป็นการชงข่าวเก่ามาเป็นประเด็นใหม่ให้ดูตื่นเต้น และตระหนกในทางการเมือง ตนเชื่อว่าที่สุด กกต.จะมีความเห็นไม่ต่างกับการเสนอยุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย และการที่ กกต.จะเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องยุบพรรคพลังประชาชนก็เชื่อว่าอัยการสูงสุดจะวินิจฉัยไม่ต่างจาก 2 พรรคนี้ คือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นคำตอบสุดท้าย
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้หวังอะไร แต่พรรคพลังประชาชนเตรียมทั้งทนายความไปสู้คดี แม้จะมีความเห็นบางฝ่ายในพรรคให้นายกรัฐมนตรียุบสภาก่อนถูกยุบพรรค แต่จากที่ฟังนายสมัคร ท่านไม่ได้พูดเรื่องยุบสภา โดยบอกว่ามีเวลาเท่าไหร่ก็ทำงานให้เต็มท ี่ไม่วกตกทุกข์ร้อนเรื่องยุบหรือไม่ยุบพรรค และไม่วิตกคดีของตัวเอง
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การยุบสภาก่อนยุบพรรคนั้น อาจเป็นวิธีทางหนึ่ง แต่หากยุบสภาแล้วคดียุบพรรคยังคาราคาซังและไม่สะเด็ดน้ำมันก็มีปัญหา ฉะนั้นความเห็นของอีกฝ่ายจะบอกว่าหากมีการยุบพรรคแต่สภายังอยู่ ก็ไม่ต้องวิตก ส.ส.ก็รวมกลุ่มไปอยู่พรรคใหม่คนที่โดนตัดสิทธิทางการเมืองก็หาคนมาลงสมัครให้ประชาชนพิสูจน์ พรรคร่วมรัฐบาลที่โดนยุบก็จับมือเกี่ยวแขนเป็นรัฐบาลต่อไปได้เพราะดุลและที่นั่งในสภายังไม่เปลี่ยนแปลง วิธีแบบนี้มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น วันนี้จึงยังไม่มีบทสรุปว่าจะยุบพรรคหรือยุบสภาก่อนกัน แต่ยุทธศาสตร์คือต้องเกาะเกี่ยวกันเหนียบแน่นต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะไปอยู่บ้านหลังไหนก็ต้องไปด้วยกัน
หากยุบสภาก่อนยุบพรรค ส.ส.ของพรรคที่ถูกดำเนินคดียุบพรรคจะทำอย่างไร กรรมการบริหารพรรคจะกล้าลงสมัครเลือกตั้งหรือไม่ เพราะยังไม่รู้จะโดนตัดสิทธิทางการเมืองหรือไม่ ประชาชนก็จะโดนลากมาตัดสินในสิ่งที่เกี่ยวข้องจะเป็นภาระกับประชาชนอีก ดังนั้นนายกฯจึงบอกว่าหากจะตัดสินใจเรื่องสำคัญคือยุบสภา ก็จะนำมาหารือในพรรคก่อน ฉะนั้นท่าทีของพรรควันนี้คืออยู่ในขั้นตอนการสู้คดี แม้จะรู้ว่าที่สุดออกมาอย่างไรก็ยังต้องสู้
พรรคเพื่อไทยคือบ้านหลังใหม่
ส่วนที่มีสมาชิกพรรคเริ่มใช้พรรคเพื่อไทยแทนพรรคพลังประชาชนแล้วเช่น จ.พิจิตรนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า กรณี จ.พิจิตรเป็นเพียงผู้สมัคร ส.ส.ไม่ใช่ ส.ส. อย่าลืมว่าการเปลี่ยนพรรคนั้น หาก ส.ส.เปลี่ยนพรรคก็จะสิ้นสภาพ ส.ส.ทันทีฉะนั้น ส.ส.ต้องรอการยุบพรรคก่อนแล้วจะตัดสินใจได้ วันนี้ทุกคนเชื่อว่าพรรคไม่รอด ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก็ต้องไปเตรียมการเนี่นๆ ไว้ มันคือการต่อสู้กับหลักอยุติธรรมที่โดนสร้างขึ้นมา ต้องไปถาม ส.ร..ว่าต้องการให้พรรคเกิดความหวาดกลัวและแตกทัพหรือไม่ หากพรรคเตรียมการสู้แบบมีสติ ไม่มีอาการพารานอยด์และโฟเบีย ยุบพรรคก็ยุบไป พวกเราก็ไปหาพรรคใหม่อยู่ และเรื่องส่งของและเสบียงไปพรรคใหม่ที่จะไปรวมกันนั้นเพื่อให้พรรคใหม่เข้มแข็ง เป็นปึกแผ่น มันก็ว่ากันไป
พรรคเพื่อไทยนั้นเป็นชื่อที่ลงตัวที่สุดและคงไม่มีหลายพรรคหรอก พรรคใหม่นั้นจะใช้นโยบายเดิมที่ประชาชนชื่นชอบ หากคนไปสร้างสาขาพรรคและทิศทางไว้ก่อน การเคลื่อนกระบวนทัพใหญ่ก็จะไม่เสียเวลาถกเถียงกันให้มากเพราะมีทางเดียวก็ต้องไปทางเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคใหม่นี้จะมีส.ส.พรรคอื่นๆไหลมารวมกันหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ ส.ส.ก็พูดคุยกันและแนวทางนี้มันจะทำให้ส.ส.รวมตัวกันเพราะการแตกตัวออกไปในยุคพรรคไทยรักไทย คนเหล่านี้จะรู้ว่าเมื่อออกไปแล้วก็มีปัญหาทางการเมือง และคนเหล่านี้รู้ว่าวันนี้ประชาชนยังเหนียวแน่นกับนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ การเกาะกลุ่มเพื่อให้นโยบายเป็นไปได้นั้น ถือว่าเป็นจุดได้เปรียบ ทางการเมืองและอ้างนโยบายนั้นได้