รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุ ไม่อยากต่อความยาวสามความยืดกับ 3 เกลอหัวกลมที่ออกมาปกป้องลูกพี่แม้วทางเอ็นบีทีกล่าวหาตำรวจทำเกินกว่าเหตุ กรณีออกประกาศสืบจับ ชี้ประกาศก็คือประกาศ ไม่ใช่ประจาน ทุกโรงพักก็ทำกันทั่วไป มีประกาศก็ต้องให้ประชาชนรู้ว่านี่คือผู้ต้องหาตามหมายจับ ล่าสุด สน.นางเลิ้ง สุดใจถึง ติดประกาศจับ “แม้ว-อ้อ” ในห้องน้ำ หน้าโถปัสสาวะชาย
วันนี้ (16 ส.ค.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณี นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อคืนวานนี้ (15 ส.ค.) โดยได้วิพากษ์วิจารณ์การออกประกาศสืบจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในทำนองว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเลือกปฏิบัติ หรือทำกันเกินไปว่า เรื่องดังกล่าวไม่อยากตอบโต้ เพราะจะเป็นการต่อความยาวสาวความยืด แต่อยากชี้แจงว่าการออกประกาศสืบจับของ ตร.เป็นขั้นตอนปกติ เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งการออกประกาศสืบจับดังกล่าวเป็นเสมือนงานธุรการในการติดตามจับกุมตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับ โดยทันทีที่ ตร.ได้รับหมายจับมาจากศาล กองทะเบียนประวัติอาชญากรก็จะทำการออกประกาศสืบจับ ส่งไปยังโรงพักทั่วประเทศ เพื่อให้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับดังกล่าว ขณะเดียวกัน ประกาศสืบจับฉบับเดียวกันนี้ จะถูกส่งไปยังด่าน ตม.ทั่วประเทศ หากพบตัวบุคคลตามประกาศผ่านเข้าออกก็จะได้จับกุมได้ทันที
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือต้องการกลั่นแกล้ง เพื่อประจาน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้รับความอับอาย แต่เป็นการทำไปตามหน้าที่ปกติ และเป็นไปตามระบบที่มีอยู่ ในการนำตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นบุคคลที่กระบวนการยุติธรรมต้องการตัว ซึ่งระบบคงไม่สามารถเลือกได้ ว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แล้วไม่ต้องถูกออกประกาศสืบจับ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าใครก็ตามเมื่อถูกศาลออกหมายจับ ก็จะถูกออกประกาศสืบจับทุกคน แต่สำหรับกรณีนี้ผู้ถูกออกประกาศเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี จึงมีคนให้ความสนใจมาก เป็นเรื่องธรรมดา นอกจากนี้ การออกประกาศสืบจับนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ความบริสุทธิ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ลดน้อยลงไปแม้แต่น้อย แต่ก็ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าศาลจะตัดสินว่ามีความผิด
“กรณีนี้เป็นเพียงประกาศสืบจับตามปกติ ประกาศก็คือประกาศ ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุก็ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่เป็นการประจาน และปกติ โรงพักทุกโรงพักก็จะมีการติดประกาศจับผู้ต้องหาในลักษณะนี้อยู่แล้ว สมัยก่อนประกาศจับมันมีไม่มาก จึงติดตามโรงพักได้ แต่สมัยนี้มันมีมาก จึงไม่ติดกัน กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เช่นกัน หากประชาชนสนใจ ก็สามารถไปขอดูประกาศดังกล่าวได้ทุกโรงพักทั่วประเทศ” พล.ต.ต.สุรพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำว่า “ประกาศ” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (พ.ศ.2542) ได้บัญญัติความหมายไว้ ดังนี้ "ประกาศ ก.ป่าวร้อง, แจ้งให้ทราบ, เช่น ประกาศงานบุญงานกุศล น.ข้อความที่แจ้งให้ทราบทั่วกัน เช่น ประกาศของวัด ประกาศของบริษัท; (กฏ) ข้อความที่ทางราชการแจ้งให้ประชาชนทราบหรือวางแนวทางให้ปฏิบัติ เช่น ประกาศพระบรมราชดองการ ประกาศกระทรวง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี”
ขณะเดียวกัน ที่ สน.นางเลิ้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในห้องน้ำของโรงพักได้มีการนำประกาศสืบจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานที่ถูกสื่อมวลชนนำไปตีแผ่ไปติดประกาศในห้องน้ำหน้าโถส้วมด้วย
วันนี้ (16 ส.ค.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณี นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อคืนวานนี้ (15 ส.ค.) โดยได้วิพากษ์วิจารณ์การออกประกาศสืบจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในทำนองว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเลือกปฏิบัติ หรือทำกันเกินไปว่า เรื่องดังกล่าวไม่อยากตอบโต้ เพราะจะเป็นการต่อความยาวสาวความยืด แต่อยากชี้แจงว่าการออกประกาศสืบจับของ ตร.เป็นขั้นตอนปกติ เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งการออกประกาศสืบจับดังกล่าวเป็นเสมือนงานธุรการในการติดตามจับกุมตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับ โดยทันทีที่ ตร.ได้รับหมายจับมาจากศาล กองทะเบียนประวัติอาชญากรก็จะทำการออกประกาศสืบจับ ส่งไปยังโรงพักทั่วประเทศ เพื่อให้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับดังกล่าว ขณะเดียวกัน ประกาศสืบจับฉบับเดียวกันนี้ จะถูกส่งไปยังด่าน ตม.ทั่วประเทศ หากพบตัวบุคคลตามประกาศผ่านเข้าออกก็จะได้จับกุมได้ทันที
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือต้องการกลั่นแกล้ง เพื่อประจาน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้รับความอับอาย แต่เป็นการทำไปตามหน้าที่ปกติ และเป็นไปตามระบบที่มีอยู่ ในการนำตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นบุคคลที่กระบวนการยุติธรรมต้องการตัว ซึ่งระบบคงไม่สามารถเลือกได้ ว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แล้วไม่ต้องถูกออกประกาศสืบจับ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าใครก็ตามเมื่อถูกศาลออกหมายจับ ก็จะถูกออกประกาศสืบจับทุกคน แต่สำหรับกรณีนี้ผู้ถูกออกประกาศเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี จึงมีคนให้ความสนใจมาก เป็นเรื่องธรรมดา นอกจากนี้ การออกประกาศสืบจับนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ความบริสุทธิ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ลดน้อยลงไปแม้แต่น้อย แต่ก็ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าศาลจะตัดสินว่ามีความผิด
“กรณีนี้เป็นเพียงประกาศสืบจับตามปกติ ประกาศก็คือประกาศ ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุก็ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่เป็นการประจาน และปกติ โรงพักทุกโรงพักก็จะมีการติดประกาศจับผู้ต้องหาในลักษณะนี้อยู่แล้ว สมัยก่อนประกาศจับมันมีไม่มาก จึงติดตามโรงพักได้ แต่สมัยนี้มันมีมาก จึงไม่ติดกัน กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เช่นกัน หากประชาชนสนใจ ก็สามารถไปขอดูประกาศดังกล่าวได้ทุกโรงพักทั่วประเทศ” พล.ต.ต.สุรพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำว่า “ประกาศ” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (พ.ศ.2542) ได้บัญญัติความหมายไว้ ดังนี้ "ประกาศ ก.ป่าวร้อง, แจ้งให้ทราบ, เช่น ประกาศงานบุญงานกุศล น.ข้อความที่แจ้งให้ทราบทั่วกัน เช่น ประกาศของวัด ประกาศของบริษัท; (กฏ) ข้อความที่ทางราชการแจ้งให้ประชาชนทราบหรือวางแนวทางให้ปฏิบัติ เช่น ประกาศพระบรมราชดองการ ประกาศกระทรวง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี”
ขณะเดียวกัน ที่ สน.นางเลิ้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในห้องน้ำของโรงพักได้มีการนำประกาศสืบจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานที่ถูกสื่อมวลชนนำไปตีแผ่ไปติดประกาศในห้องน้ำหน้าโถส้วมด้วย