“ยามฯ ภูเก็ต” ออกแถลงการณ์ชวนคนร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรฯ วันนี้

ศูนย์ข่าวภูเก็ต- “ยามฯ ภูเก็ต” เตรียมออกแถลงการณ์ระดมพลเข้าร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรฯ ส่วนกลาง กับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย 30 พ.ค.51 นี้ คาดคนร่วมจำนวนมากแน่ พร้อมประณามตำรวจเมินเฉยฝ่ายตรงข้ามยั่วยุ-ทำร้ายพันธมิตรฯ

น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร ประชาสัมพันธ์กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ คัดค้าน ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ของรัฐบาลนอมินี ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2551 ที่ผ่านมาว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีคณะเดินทางไปร่วมชุมนุมจำนวนหนึ่ง ซึ่งรับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้ร่วมชุมนุมทั้งหมดบริเวณลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากจังหวัดอื่นๆ โดยมีนายปัญญา แดนมะตาม เลขาธิการกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต และสมชาย หยีสัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต เป็นแกนนำ

ขณะนี้เดินทางกลับมาถึง จ.ภูเก็ต แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการระดมกำลังพลชุดใหม่ขึ้นไปร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีการประกาศต่อสู้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 พ.ค.51 นี้ โดยมีบรรดาแกนนำกลุ่มอีกบางส่วนยังคงอยู่ร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ

การเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่วันที่ 30 พ.ค.51 กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตเตรียมกำลังพล อุปกรณ์การร่วมชุมนุม และขั้นตอนการเดินทางไปร่วมแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในเวลา 13.00 น.วันนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักงานยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต เลขที่ 28 ม.นิมิตร ซ.1 ถ.อ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้มีประชาชนชาวภูเก็ต แจ้งความประสงค์ขอเดินทางไปร่วมชุมนุมด้วยแล้วจำนวนมาก

สำหรับการเดินทางไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 25 พ.ค.51 ที่ผ่านมา มีพี่น้องกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตบางรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการกระทำเกินกว่าเหตุของฝ่ายตรงข้าม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยยืนมองด้วยความเพิกเฉย ไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการให้ความช่วยเหลือพี่น้องพันธมิตรฯ

“พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องช่วยเหลือดูแลกันเอง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เตรียมกำลังพลมา ไม่ช่วยเหลือประชาชนเลย กลับยืนมองฝ่ายตรงข้ามว่ากล่าวด่าทอ พันธมิตรฯเฉย ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามขว้างปาหิน ท่อนไม้เข้าใส่พันธมิตรฯ แต่ถึงแม้จะเดินทางมาจากต่างพื้นที่ ต่างพ่อต่างแม่ แต่เมื่อมาเจอกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อกอบกู้ความเป็นธรรม ความถูกต้อง และ 3 สถาบันกลับคืนมาก็ไม่ต้องแบ่งแยกแล้วว่าเป็นใครมาจากไหน เพราะทุกคนคือคนไทย” ประชาสัมพันธ์กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของการเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ยังมีการจัดเวทีคู่ขนานกับพันธมิตรฯ ส่วนกางอย่างต่อเนื่อง โดยการตั้งจอโปรเจคเตอร์รับสัญญาณถ่ายทอดสดบรรยากาศการรวมตัวชุมนุมใหญ่ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV News 1 บริเวณพื้นที่ว่างศาลเจ้ากิ้วเทียนเก้ง ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทุกวันเวลาประมาณ 17.00 น.เป็นต้นไป
จนกว่าพันธมิตรฯ ส่วนกลางจะแยกย้าย เวทีคู่ขนานที่ จ.ภูเก็ต ก็จะแยกย้ายด้วย การดำเนินการจัดกิจกรรมทุกอย่างขึ้นอยู่กับพันธมิตรฯ ส่วนกลาง หากยังมีการต่อสู้ พันธมิตรฯ ภูเก็ตก็จะร่วมต่อสู้ด้วยจนกว่าจะได้รับชัยชนะ