“รัฐบาลทรราช” เลือดเย็นไม่สนใจกลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ เดินหน้าแถลงนโยบายทันทีหากองค์ประชุมครบ ยังด้านบอกนานแค่ไหนก็จะรอ แม้ว่าจะต้องใช้ไฟฟ้าสำรองก็ตาม วอนพันธมิตรฯ เข้าใจหน้าที่ของแต่ละฝ่าย “เสธ.หนั่น” ยังหน้ามืดตามัวบอกไม่เชื่อ ตร.ยิงแก๊สน้ำตาจน ปชช.ขาขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.00 น. ส.ส.พรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล ได้ทยอยเดินทางมาถึงรัฐสภาอย่างพร้อมเพียง แม้ว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ จะปิดล้อมไว้ก็ตาม โดยภายในอาคารรัฐสภายังคงมืดมิด ไฟฟ้าดับ ขณะเดียวกัน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เปิดเผยว่าสมาชิกรัฐสภาจะเดินหน้าประชุมแถลงนโยบายต่อไป โดยขณะนี้รอเพียงครบองค์ประชุมของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น แม้ว่านานแค่ไหนก็จะรอ เพราะข้อบังคับการประชุมไม่ได้กำหนดระยะเวลา และถึงแม้ไฟฟ้าดับก็สามารถประชุมได้ โดยใช้เครื่องกำเหนิดไฟฟ้าสำรองใช้ไปก่อน
ทั้งนี้ รองประธานสภายังขอความเห็นใจจากกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เข้าใจบทบาทหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาด้วยว่าจะต้องทำตามกฎหมายที่จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กลุ่มผู้ชุมนุมก็มีสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ หน้าที่ของแต่ละฝ่ายต้องแยกแยะกัน
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า การประชุมยังคงมีต่อไป แต่จะเป็นการประชุมที่สั้นคาดว่าจะใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง เนื่องจากไฟสำรองสามารถใช้ได้แค่เพียง 7 ชั่วโมงโดยจะประสานทาง กฟผ.ให้นำรถปั่นไฟมา ทั้งนี้ ขอความกรุณากลุ่มพันธมิตรฯ ได้เปิดทางให้ตัวแทนประชาชนคือ ส.ส.และส.ว.ได้ทำหน้าที่ตัวเองด้วย ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด จึงขอให้เคารพกฎหมายและหน้าที่ซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่าหากวันนี้ไม่ครบองค์ประชุมจะทำอย่างไร พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า หากไม่ครบองค์ประชุมจริงก็ต้องเลื่อน ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับสภาฯและหากเลื่อนไปก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้
เมื่อถามต่อว่า หากรัฐบาลไม่สามารถแถลงนโยบายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดจะทำอย่างไร พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า เป็นไปไมได้เพราะรัฐบาลจะเตรียมการแถลงนโยบายในวันนี้ และเชื่อว่าจะรักษาสภาฯ ไว้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่พันธมิตรฯ จะตัดไฟภายในรัฐสภานั้น ได้มีการพยายามใช้ไม้ยาวๆ ไปดุนหม้อแปลงไฟที่หัวมุมถนนราชวิถี โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็สามารถตัดไฟในรัฐสภา จึงทำให้รัฐสภาต้องใช้ไฟสำรองบางส่วน แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาได้ขอรถปั่นไฟเพื่อมาใช้ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 09.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการประชุมรัฐสภาได้มีการกดออดเรียกประชุมรัฐสภา 2 ครั้งเพื่อให้สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุม โดยบรรยากาศในห้องประชุมรัฐสภาเป็นไปอย่างบางตา เนื่องจากมี ส.ส.และส.ว.เข้ามาร่วมประชุมน้อยมาก มาลงชื่อแสดงตนเป็นส.ส.เพียง 157 คน และ ส.ว 11 คนเท่านั้น
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประสาศน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอดูประธานรัฐสภาที่มีอำนาจสูงสุดตัดสินใจว่าจะมีการประชุมหรือไม่ ส่วนการยิงแก๊สน้ำตาของตรำรวจไม่น่าจะเป็นการยิงแก๊สน้ำตา น่าจะมาจากเหตุการณ์อื่นมากว่า ทั้งนี้ต้องรอตำรวจให้ข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่รัฐสภาภายหลังจากที่มีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อเปิดทางสมาชิกรัฐสภา เข้าร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบายนั้น เมื่อเวลา 06.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตัดโซ่ที่ประตูด้านถนนราชวิถีที่ทางพันธมิตรฯ ได้ใช้โซ่ขนาดใหญ่ล็อกปิดทางเข้าออก เพื่อเปิดทางให้เข้าออกได้พร้อมทั้งได้เข้ายึดพื้นที่ในรัฐสภาประมาณ 3 กองร้อย จากนั้นได้กระจายกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัย
จากนั้นเมื่อเวลา 07.00 น.ได้มี ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนต่างทยอยเดินทางมายังรัฐสภา เช่น พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชศรีมา นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ นายวิทยา บูรณะศิริ ส.ส.อยุธยา และประธานคณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาล
ซึ่งเมื่อได้นายประชาได้เดินทางเข้ามาในบริเวณรัฐสภาแล้วก็ได้ประสานไปทางพรรคพลังประชาชนเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่พรรคส่งข้อความไปยัง ส.ส.ของพรรคให้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมรัฐสภาทางประตูถนนราชวิถี พร้อมทั้งกล่าวว่าส่วน นปก.และ นปช.มาชุมนุมเพื่อต่อต้านพันธมิตรหรือไม่นั้น ก็ต้องดูมติของ นปก.และเชื่อว่าวันนี้พันธมิตรฯ จบแน่นอน ส่วนการตั้งข้อหากบฎกับแกนนำพันธมิตรฯ ก็เป็นไปตามโทษที่พวกเขาสร้างกันไว้ ส่วนการยิงแก๊สน้ำตาจนผู้ชุมนุมแขนขาขาดนั้นก็เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนก็เห็นใจทุกฝ่าย
ด้านนายวิทยา ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้เดินทางมาดู เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาในเรื่ององค์ประชุม จึงได้มีการนัดวิป 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา มาหารือในเวลา 08.30 น.เพราะต้องการเสียง 311 เสียงเพื่อให้สามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ เพราะเชื่อว่าในการแถลงนโยบายของรัฐบาลคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะไม่ต้องมีการลงมติ
ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมนั้น ถือว่าได้ทำตามหน้าที่และถูกต้องแล้ว ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เพราะการยิงแก๊สน้ำตาทั่วโลกเขาก็ทำกันในการสลายฝูงชน การประชุมร่วมรัฐสภาไม่สามารถเลื่อนได้ ส่วนการที่พันธมิตรฯมาปิดรัฐสภาถือว่าไม่ถูกต้องเพราะสภาฯ เป็นสถานที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบรรยากาศภายในรัฐสภาก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังอย่างหนาแน่นหลายร้อยคน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้สมาชิกรัฐสภา
โดยเมื่อเวลา 08.20 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบ.ชน.เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องใช้แก๊สน้ำตาเพราะต้องการเปิดเส้นทางให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้ามาประชุมรัฐสภาได้ จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรึงกำลังไม่มีการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ยังปักหลักบริเวณถนนอู่ทองใน แต่ยังตรึงเพื่อดูแลความสงบและความปลอดภัยต่อไป
เมื่อเวลา 08.45 น. นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่าหากวันนี้มีสมาชิกรัฐสภาครบองค์ประชุม 311 คน ก็จะมีการแถลงนโยบายรัฐสภาต่อรัฐสภา แต่ตอนนี้ ส.ส.รัฐบาลมีทั้งสิ้น 306 คนต้องหาเพิ่มอีก 5 คนซึ่งต้องรอดูท่าทีของฝ่ายค้านและส.ว.ว่าจะมีท่าทีอย่างไร อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมทุกคน
เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านและ ส.ว.ไม่เข้าร่วมประชุมรัฐบาลจะมีความชอบธรรมในการแถลงนโยบายหรือไม่ นายธีรชัยกล่าวว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร ทุกฝ่ายต้องช่วยกันรักษากติกาของสภาฯ หากสภาฯถูกขัดขวางอีกสภาฯก็อยู่ไม่ได้ ตราบใดที่สภาฯ ยังไม่ถูกยุบก็ต้องดำเนินการตามวิถีทางของสภาฯทั้งนี้เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯแล้วก็ต้องแถลงนโยายต่อรัฐสภา ส่วนกรณีผู้บาดเจ็บถึงขั้นขาขาดแขนขาดก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดู
ด้าน นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ส.สรรหา ยืนยันว่า 40 ส.ว.จะเดินทางเข้าฟังการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยเบื้องต้นได้นัดหารือกันที่โรงแรมสวนดุสิต เพื่อหารือกันถึงแนวทางต่างๆ และคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า พร้อมทั้งเตรียมอภิปรายรัฐบาล ซึ่งมีการจับฉลากแบบชิงโชค โดยพวกตนได้อภิปรายเพียงแค่ 2 คนที่เหลือเป็นของอีกกลุ่มหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้เดินทางมายังรัฐสภาเมื่อเวลา 09.00 น.แต่ไม่สัมภาษณ์ใดๆ โดยได้ไปร่วมหารือกับสมาชิกวุฒิสภาในห้องสมาชิกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา
ด้าน นายไชยยา พรหมมา ส.ส.หนองบังลำภู พรรคพลังประชาชน แกนนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า หากบรรยากาศประทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มพันธมิตรฯยังเป็นอย่างนี้อยู่และแนวโน้มรุนแรงขึ้นประธานสภาฯ จะต้องเลื่อนการประชุมออกไป โดยสามารถทำได้เลย โดยใช้การแจ้งผ่านสื่อมวลชนหรือส่งเอสเอ็มเอสได้ ซึ่งขณะนี้ ส.ส.หลายคนเห็นด้วย
เมื่อเวลา 09.20 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางมายังรัฐสภาให้สัมภาษณ์ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ มาปิดล้อมรัฐสภาถือว่าไม่ถูกต้อง ต้องให้โอกาสรัฐบาลแถลงนโยบายก่อนเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานไปได้ ส่วนตัวทนไม่ได้ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้และตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้
ส่วน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ จะทำหน้าที่ประสานกับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่นั้นก็ต้องปล่อยให้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเจรจาต่อไป หากดำเนินการได้ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่บานปลาย เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่เกิน เพราะเป็นมติสภาฯ พันธมิตรฯ ยึดแค่ทำเนียบก็พอทำไมต้องมายึดสภาฯ ถือว่าทำไม่ถูกต้องไม่งั้นประเทศไทยก็ต้องถูกยึดทั้งหมด จะเอาอย่างนั้นหรือเปล่า สภาฯ จะต้องเปิดเพือ่ให้เป็นเวทีสาธารณะให้พูดจากกันค่อยเป็นค่อยไป แต่ตอนนี้ให้รัฐบาลแถลงนโยบายก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหากับประเทศชาติ ประเทศก็จะล่มจม เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ ต่อไปจะเอาอย่างไรก็ค่อยมาว่ากันอีกที
เมื่อถามว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ จะปักหลักชุมนุมที่สภาฯ จะทำอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต้องทำความเข้าใจกัน เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมประชุม นายบรรหาร กล่าววว่า ตนตอบไมได้แต่อยากให้เห็นแก่บ้านเมืองหน่อย โดยเฉพาะสื่อขอให้เห็นแก่บ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองเป็นแบบนั้นหรือ แต่ตนทนไม่ได้เกิดมาในชีวิตตนไม่เคยเจออย่างนี้เลย บอกตามตรงต้องยอมกันบ้าง ยึดทำเนียบก็ยึดไปไม่ได้ว่าอะไร ยึคสภาไม่ได้ พันธมิตรฯ ทำไม่ถูกต้อง และเชื่อว่าวันนี้รัฐบาลจะแถลงนโยบาย และหากฝ่ายค้านและส.ว.ไม่เข้าร่วมรัฐสภาก็ต้องรับผิดชอบ แต่ไม่เข้าสภาฯ ก็ประชุมได้
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวว่า ที่มาประชุมสภาฯวันนี้เพราะต้องการดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมแถลงนโยบายหรือไม่นั้นก็ตอ้งดูว่าองค์ประชุมครบหรือไม่ถ้าครบก็ประชุมได้ และจะมีการหารือกับประธานสภาฯ อีกครั้ง ส่วน ส.ส.พรรคชาติไทยก็มาประชุมตามปกติ ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่แถลงนโยบายก็ไม่สามารถทำงานได้
เมื่อถามว่าสถานการณ์ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บถึงขั้นขาขาด พล.ต.สนั่น กล่าวว่า หากใช้แก๊สน้ำตาทำไมจะเจ็บขนาดนั้น เมื่อถามต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ไม่ทราบต้องถามเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.00 น. ส.ส.พรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล ได้ทยอยเดินทางมาถึงรัฐสภาอย่างพร้อมเพียง แม้ว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ จะปิดล้อมไว้ก็ตาม โดยภายในอาคารรัฐสภายังคงมืดมิด ไฟฟ้าดับ ขณะเดียวกัน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เปิดเผยว่าสมาชิกรัฐสภาจะเดินหน้าประชุมแถลงนโยบายต่อไป โดยขณะนี้รอเพียงครบองค์ประชุมของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น แม้ว่านานแค่ไหนก็จะรอ เพราะข้อบังคับการประชุมไม่ได้กำหนดระยะเวลา และถึงแม้ไฟฟ้าดับก็สามารถประชุมได้ โดยใช้เครื่องกำเหนิดไฟฟ้าสำรองใช้ไปก่อน
ทั้งนี้ รองประธานสภายังขอความเห็นใจจากกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เข้าใจบทบาทหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาด้วยว่าจะต้องทำตามกฎหมายที่จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กลุ่มผู้ชุมนุมก็มีสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ หน้าที่ของแต่ละฝ่ายต้องแยกแยะกัน
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า การประชุมยังคงมีต่อไป แต่จะเป็นการประชุมที่สั้นคาดว่าจะใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง เนื่องจากไฟสำรองสามารถใช้ได้แค่เพียง 7 ชั่วโมงโดยจะประสานทาง กฟผ.ให้นำรถปั่นไฟมา ทั้งนี้ ขอความกรุณากลุ่มพันธมิตรฯ ได้เปิดทางให้ตัวแทนประชาชนคือ ส.ส.และส.ว.ได้ทำหน้าที่ตัวเองด้วย ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด จึงขอให้เคารพกฎหมายและหน้าที่ซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่าหากวันนี้ไม่ครบองค์ประชุมจะทำอย่างไร พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า หากไม่ครบองค์ประชุมจริงก็ต้องเลื่อน ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับสภาฯและหากเลื่อนไปก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้
เมื่อถามต่อว่า หากรัฐบาลไม่สามารถแถลงนโยบายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดจะทำอย่างไร พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า เป็นไปไมได้เพราะรัฐบาลจะเตรียมการแถลงนโยบายในวันนี้ และเชื่อว่าจะรักษาสภาฯ ไว้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่พันธมิตรฯ จะตัดไฟภายในรัฐสภานั้น ได้มีการพยายามใช้ไม้ยาวๆ ไปดุนหม้อแปลงไฟที่หัวมุมถนนราชวิถี โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็สามารถตัดไฟในรัฐสภา จึงทำให้รัฐสภาต้องใช้ไฟสำรองบางส่วน แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาได้ขอรถปั่นไฟเพื่อมาใช้ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 09.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการประชุมรัฐสภาได้มีการกดออดเรียกประชุมรัฐสภา 2 ครั้งเพื่อให้สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุม โดยบรรยากาศในห้องประชุมรัฐสภาเป็นไปอย่างบางตา เนื่องจากมี ส.ส.และส.ว.เข้ามาร่วมประชุมน้อยมาก มาลงชื่อแสดงตนเป็นส.ส.เพียง 157 คน และ ส.ว 11 คนเท่านั้น
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประสาศน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอดูประธานรัฐสภาที่มีอำนาจสูงสุดตัดสินใจว่าจะมีการประชุมหรือไม่ ส่วนการยิงแก๊สน้ำตาของตรำรวจไม่น่าจะเป็นการยิงแก๊สน้ำตา น่าจะมาจากเหตุการณ์อื่นมากว่า ทั้งนี้ต้องรอตำรวจให้ข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่รัฐสภาภายหลังจากที่มีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อเปิดทางสมาชิกรัฐสภา เข้าร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบายนั้น เมื่อเวลา 06.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตัดโซ่ที่ประตูด้านถนนราชวิถีที่ทางพันธมิตรฯ ได้ใช้โซ่ขนาดใหญ่ล็อกปิดทางเข้าออก เพื่อเปิดทางให้เข้าออกได้พร้อมทั้งได้เข้ายึดพื้นที่ในรัฐสภาประมาณ 3 กองร้อย จากนั้นได้กระจายกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัย
จากนั้นเมื่อเวลา 07.00 น.ได้มี ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนต่างทยอยเดินทางมายังรัฐสภา เช่น พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชศรีมา นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ นายวิทยา บูรณะศิริ ส.ส.อยุธยา และประธานคณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาล
ซึ่งเมื่อได้นายประชาได้เดินทางเข้ามาในบริเวณรัฐสภาแล้วก็ได้ประสานไปทางพรรคพลังประชาชนเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่พรรคส่งข้อความไปยัง ส.ส.ของพรรคให้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมรัฐสภาทางประตูถนนราชวิถี พร้อมทั้งกล่าวว่าส่วน นปก.และ นปช.มาชุมนุมเพื่อต่อต้านพันธมิตรหรือไม่นั้น ก็ต้องดูมติของ นปก.และเชื่อว่าวันนี้พันธมิตรฯ จบแน่นอน ส่วนการตั้งข้อหากบฎกับแกนนำพันธมิตรฯ ก็เป็นไปตามโทษที่พวกเขาสร้างกันไว้ ส่วนการยิงแก๊สน้ำตาจนผู้ชุมนุมแขนขาขาดนั้นก็เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนก็เห็นใจทุกฝ่าย
ด้านนายวิทยา ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้เดินทางมาดู เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาในเรื่ององค์ประชุม จึงได้มีการนัดวิป 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา มาหารือในเวลา 08.30 น.เพราะต้องการเสียง 311 เสียงเพื่อให้สามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ เพราะเชื่อว่าในการแถลงนโยบายของรัฐบาลคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะไม่ต้องมีการลงมติ
ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมนั้น ถือว่าได้ทำตามหน้าที่และถูกต้องแล้ว ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เพราะการยิงแก๊สน้ำตาทั่วโลกเขาก็ทำกันในการสลายฝูงชน การประชุมร่วมรัฐสภาไม่สามารถเลื่อนได้ ส่วนการที่พันธมิตรฯมาปิดรัฐสภาถือว่าไม่ถูกต้องเพราะสภาฯ เป็นสถานที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบรรยากาศภายในรัฐสภาก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังอย่างหนาแน่นหลายร้อยคน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้สมาชิกรัฐสภา
โดยเมื่อเวลา 08.20 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบ.ชน.เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องใช้แก๊สน้ำตาเพราะต้องการเปิดเส้นทางให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้ามาประชุมรัฐสภาได้ จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรึงกำลังไม่มีการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ยังปักหลักบริเวณถนนอู่ทองใน แต่ยังตรึงเพื่อดูแลความสงบและความปลอดภัยต่อไป
เมื่อเวลา 08.45 น. นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่าหากวันนี้มีสมาชิกรัฐสภาครบองค์ประชุม 311 คน ก็จะมีการแถลงนโยบายรัฐสภาต่อรัฐสภา แต่ตอนนี้ ส.ส.รัฐบาลมีทั้งสิ้น 306 คนต้องหาเพิ่มอีก 5 คนซึ่งต้องรอดูท่าทีของฝ่ายค้านและส.ว.ว่าจะมีท่าทีอย่างไร อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมทุกคน
เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านและ ส.ว.ไม่เข้าร่วมประชุมรัฐบาลจะมีความชอบธรรมในการแถลงนโยบายหรือไม่ นายธีรชัยกล่าวว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร ทุกฝ่ายต้องช่วยกันรักษากติกาของสภาฯ หากสภาฯถูกขัดขวางอีกสภาฯก็อยู่ไม่ได้ ตราบใดที่สภาฯ ยังไม่ถูกยุบก็ต้องดำเนินการตามวิถีทางของสภาฯทั้งนี้เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯแล้วก็ต้องแถลงนโยายต่อรัฐสภา ส่วนกรณีผู้บาดเจ็บถึงขั้นขาขาดแขนขาดก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดู
ด้าน นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ส.สรรหา ยืนยันว่า 40 ส.ว.จะเดินทางเข้าฟังการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยเบื้องต้นได้นัดหารือกันที่โรงแรมสวนดุสิต เพื่อหารือกันถึงแนวทางต่างๆ และคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า พร้อมทั้งเตรียมอภิปรายรัฐบาล ซึ่งมีการจับฉลากแบบชิงโชค โดยพวกตนได้อภิปรายเพียงแค่ 2 คนที่เหลือเป็นของอีกกลุ่มหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้เดินทางมายังรัฐสภาเมื่อเวลา 09.00 น.แต่ไม่สัมภาษณ์ใดๆ โดยได้ไปร่วมหารือกับสมาชิกวุฒิสภาในห้องสมาชิกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา
ด้าน นายไชยยา พรหมมา ส.ส.หนองบังลำภู พรรคพลังประชาชน แกนนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า หากบรรยากาศประทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มพันธมิตรฯยังเป็นอย่างนี้อยู่และแนวโน้มรุนแรงขึ้นประธานสภาฯ จะต้องเลื่อนการประชุมออกไป โดยสามารถทำได้เลย โดยใช้การแจ้งผ่านสื่อมวลชนหรือส่งเอสเอ็มเอสได้ ซึ่งขณะนี้ ส.ส.หลายคนเห็นด้วย
เมื่อเวลา 09.20 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางมายังรัฐสภาให้สัมภาษณ์ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ มาปิดล้อมรัฐสภาถือว่าไม่ถูกต้อง ต้องให้โอกาสรัฐบาลแถลงนโยบายก่อนเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานไปได้ ส่วนตัวทนไม่ได้ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้และตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้
ส่วน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ จะทำหน้าที่ประสานกับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่นั้นก็ต้องปล่อยให้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเจรจาต่อไป หากดำเนินการได้ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่บานปลาย เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่เกิน เพราะเป็นมติสภาฯ พันธมิตรฯ ยึดแค่ทำเนียบก็พอทำไมต้องมายึดสภาฯ ถือว่าทำไม่ถูกต้องไม่งั้นประเทศไทยก็ต้องถูกยึดทั้งหมด จะเอาอย่างนั้นหรือเปล่า สภาฯ จะต้องเปิดเพือ่ให้เป็นเวทีสาธารณะให้พูดจากกันค่อยเป็นค่อยไป แต่ตอนนี้ให้รัฐบาลแถลงนโยบายก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหากับประเทศชาติ ประเทศก็จะล่มจม เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ ต่อไปจะเอาอย่างไรก็ค่อยมาว่ากันอีกที
เมื่อถามว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ จะปักหลักชุมนุมที่สภาฯ จะทำอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต้องทำความเข้าใจกัน เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมประชุม นายบรรหาร กล่าววว่า ตนตอบไมได้แต่อยากให้เห็นแก่บ้านเมืองหน่อย โดยเฉพาะสื่อขอให้เห็นแก่บ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองเป็นแบบนั้นหรือ แต่ตนทนไม่ได้เกิดมาในชีวิตตนไม่เคยเจออย่างนี้เลย บอกตามตรงต้องยอมกันบ้าง ยึดทำเนียบก็ยึดไปไม่ได้ว่าอะไร ยึคสภาไม่ได้ พันธมิตรฯ ทำไม่ถูกต้อง และเชื่อว่าวันนี้รัฐบาลจะแถลงนโยบาย และหากฝ่ายค้านและส.ว.ไม่เข้าร่วมรัฐสภาก็ต้องรับผิดชอบ แต่ไม่เข้าสภาฯ ก็ประชุมได้
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวว่า ที่มาประชุมสภาฯวันนี้เพราะต้องการดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมแถลงนโยบายหรือไม่นั้นก็ตอ้งดูว่าองค์ประชุมครบหรือไม่ถ้าครบก็ประชุมได้ และจะมีการหารือกับประธานสภาฯ อีกครั้ง ส่วน ส.ส.พรรคชาติไทยก็มาประชุมตามปกติ ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่แถลงนโยบายก็ไม่สามารถทำงานได้
เมื่อถามว่าสถานการณ์ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บถึงขั้นขาขาด พล.ต.สนั่น กล่าวว่า หากใช้แก๊สน้ำตาทำไมจะเจ็บขนาดนั้น เมื่อถามต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ไม่ทราบต้องถามเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ