xs
xsm
sm
md
lg

ไล่ “พลังแม้ว” กลับไปอ่าน รธน.ก่อนริแจ้งจับพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิเชษฐ์ พัฒนโชติ - ประพันธ์ คูณมี
“พิเชษฐ์-ประพันธ์” หยันภูมิปัญญา “ส.ส.พลังแม้ว” เสร่อแจ้งความจับแกนนำพันธมิตรฯ ฐานยุยงปลุกปั่น ไล่กลับไปอ่านรัฐธรรมนูญ ยันชุมนุมตามสิทธิ แนะควรแจ้งจับม็อบถ่อยที่ไล่ตีพันธมิตรฯ มากกว่า ขำกลิ้งข้อหาขัดขวางการทำหน้าที่นิติบัญญัติ เย้ยไม่รู้เรื่องแล้วยังอยากแก้ไข รธน.

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการสภาท่าพระอาทิตย์ 

เวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมาได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีต่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย สร้างความเข้าใจผิดในระบอบประชาธิปไตย และขัดขวางกระบวนการใช้อำนาจนิติบัญญัติของ ส.ส.ที่เข้าชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550

นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ อดีต ส.ว.นครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า นายวรวัจน์คงไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ เพราะคนที่ยุยงให้คนออกมาชุมนุมไม่ใช่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ แต่เป็นประชาชนที่ทุนไม่ไหวกับรัฐบาลที่เรียกร้องให้มีการชุมนุม และการชุมนุมนั้นเป็นสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญที่ทำได้ เพราะฉะนั้น คดีนี้ศาลคงไม่รับฟ้อง หรือแม้แต่ตำรวจก็ไม่ควรจะรับแจ้งความด้วยซ้ำ เว้นแต่คนที่เป็นร้อยเวรไม่รู้เรื่องจริงๆ

ส่วนข้อหาที่ว่า พันธมิตรฯ ขัดขวางกระบวนการใช้อำนาจนิติบัญญัติของ ส.ส.นั้น นายพิเชษฐ์กล่าวว่า คนที่ไปแจ้งความก็เป็น ส.ส.มาหลายสมัย แต่สงสัยว่าคงไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญเลย การชุมนุมของประชาชนนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายที่สามารถกระทำได้ในระบอบประชาธิปไตย ล่าสุดกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเชียงรายให้ถอนประกันนายสนธิเพราะมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ศาลก็ยกคำร้อง ระบุชัดว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ทำได้ การที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนไปแจ้งความเรื่องนี้ แสดงว่าไม่รู้อะไรสักอย่าง

นอกจากนี้ นายวรวัจน์ยังแจ้งจับพรรคประชาธิปัตย์ที่มาร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรฯ สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ซึ่งนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้น ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่ไปอยู่ในกลุ่ม นปก.ที่ออกมาต่อต้านพันธมิตรฯ และเป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิดความวุ่นวาย ทำไมไม่แจ้งจับ

ด้าน นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ที่กล่าวหาว่าการจัดชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายนั้น การยุยงให้เกิดความวุ่นวายน่าจะเป็นพวกที่อยู่สนามหลวงมากกว่า ซึ่งได้เข้ามายั่วยุ สร้างความรุนแรง เป็นความผิดชัดเจน แต่พันธมิตรฯ ได้จัดการชุมนุมตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิที่ทำได้ การที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนไปแจ้งข้อหานี้ แสดงงว่าคนพวกนี้ไม่รู้เรื่องรัฐธรรมนูญเลย แต่กลับอยากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ ในการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อคราวที่แล้ว พวกที่ต้องการหาเรื่องได้ไปการแจ้งความไว้แล้ว แต่อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปแล้ว เพราะฉะนั้น ประเด็นเหล่านี้จึงไม่ใช่ประเด็น ส.ส.พวกนี้ควรไปอ่านกฎหมายมาใหม่

กรณีที่อ้างว่าพันธมิตรฯ ขัดขวางการใช้อำนาจนิติบัญญัติของ ส.ส.นั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า กระบวนการเข้าชื่อประชาชนเพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการใช้สิทธิตามช่องทางของรัฐธรรมนูญที่ให้ประชาชนทำร้าย ส่วนการขัดขวางกระบวนการนิติบัญญัติต้องไปจับพวกที่บุกเข้าไปขัดขวางการประชุมสภาไม่ให้ออกกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีพวก นปก.รวมอยู่ด้วย แต่กรณีนี้กระบวนการนิติบัญญัติยังดำเนินต่อไปได้ เมื่อ ส.ส.ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาจะบรรจุเข้าวาระก็ทำไป

“การเข้าไปขัดขวางก่อกวนการประชุม ถึงจะเรียกว่าขัดขวางกระบวนการนิติบัญญัติ แต่การที่พันธมิตรฯ ยื่นถอดถอน ส.ส.-ส.ว.เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญทุกประการ” นายประพันธ์กล่าว

นอกจากนี้ การที่พันธมิตรฯ ในต่างจังหวัดชักชวนประชาชนเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ ก็ไม่ถือว่าเป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย เพราะไม่ได้ชักชวนให้มากระทำผิด แต่เป็นการมาร่วมแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ การยุยงที่ผิดกฎหมายจะต้องเป็นการยุยงให้กระทำทำผิด เช่น ให้มาขว้างปา ทำร้ายผู้คน

ส่วนกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน จะแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล ฐานปราศรัยยุยงให้เกิดความวุ่นวาย และจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนการคุ้มครองเอเอสทีวีเพราะสร้างความแตกแยก รวมทั้งจะกล่าวโทษพันธมิตรฯ ฐานชุมนุมปิดถนนสร้างความเดือดร้อนนั้น ทั้งนายพิเชษฐ์ และนายประพันธ์เห็นตรงกันว่าคนอย่างนายประชาไม่มีค่าแก่การสนใจ คนคนนี้แค่ต้องการจะสร้างราคาให้แก่ตัวเอง เพราะมองเห็นว่าวิธีนี้จะทำให้ตัวเองได้ดิบได้ดี เพราะเห็นตัวอย่างจากคนที่เคยทำแบบนี้มาแล้ว และรู้วิธีว่าจะควักเงินออกจากถุงต้องทำอย่างไร คนพวกนี้ไม่เคยผ่านการต่อสู้ทางประชาธิปไตยมาก่อน ไม่รู้เรื่องการทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น