ผู้จัดการรายวัน - "ศักดา" กลุ่มอีสานพัฒนาเดินหน้าส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช.ฟันแก๊งโกง พร้อมลุยเปิดโปงทุจริตคนในรัฐบาล แฉเตรียมหาทุนเลือกตั้ง แนะจับตาแก๊งออฟโฟร์ ส่งผีปอบ ผีกระสือ เข้าครอบงำหาประโยชน์ใน มท. รวมถึงการโยกย้ายผู้ว่าฯ อธิบดี เรียกร้อง สิงห์ดำ สิงห์แดงลุกขึ้นปกป้อง "โกวิท" แย้มรับ "ศักดิ์สยาม" น้องเนวิน นั่งหน้าห้อง พร้อมดึง "ศุภชัย" แก๊งเพื่อนเนวิน เป็นโฆษก "เป็ดเหลิม" หนุน "ศักดา" สางทุจริตคนในรัฐบาล "กุเทพ" เย้ยกลุ่มอีสานพัฒนาปูดแก๊งออฟโฟร์แค่จินตนาการ กลบความผิดหวังเก้าอี้ รมต. ปชป.จับตา กก.พีพีพี ตั้งขึ้นมาเพื่อกินหัวคิดเมกะโปรเจ๊ก
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวยืนยันถึงการเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตในรัฐบาลว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบ ต่อไปเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนการยื่นหลักฐานให้ ป.ป.ช. ดำเนินการเอาผิดกับคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีที่รับเงิน 10 ล้านบาทนั้น ต้องรออีกสักระยะความจริงจะชัดเจน
"ที่ผมลุกขึ้นมาดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเมื่อเรารู้ว่าบ้านเมืองกำลังมีปัญหาแล้วไม่ลุกขึ้นมาช่วย ปล่อยให้มีการเกาะกิน สร้างปัญหาคงไม่ได้ เราต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาแล้วต้องกล้าจัดการกลุ่มการเมืองที่เป็นเหลือบไรทางการเมือง ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือช่วยกันทั้งสังคมและสื่อด้วย"
นายศักดา กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือมีการวางแผน วางยุทธศานตร์เพื่อระมดทุนจำนวนมากเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ขอให้สังคมช่วยจับตามองให้ดีในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐมนตรีเป็นคนดีทุกคน แต่ยังไม่รู้เรื่อง ไม่รูทันเกมคนในกลุ่มนี้ ในการส่งบรรดา ผีปอบ ผีกระสือ เข้าไปครอบงำเพื่อแสวงหาประโยชน์ในเรื่องต่างๆ รวมถึงการเรื่องการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดี
"ขอเรียกร้องสิงห์ดำ สิงห์แดง ต้องร่วมมือลุกขึ้น ปกป้ององค์กรของตนเอง อย่าให้ถูกรอบงำ หรือไปรับใช้ พวกผีปอป ผีกระสือ มิฉะนั้น จะมีการวิ่งเต้น เหมือนในอดีต และขอให้รัฐมนตรีและข้าราชการ ต้องทันเกม สื่อสารให้ทันสถานการณ์ ตั้งรับให้ดี เข้มแข็งและยืนให้มั่น ถ้ามีโทรติดต่อเรื่องเลื่อนย้ายเรียกขอเงินทอง ขอให้บันทึกไว้ แล้วลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้ององค์กร" นายศักดา กล่าว และว่า ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ถึงวันนี้จะต้องร่วมกันปฎิรูปพรรคกันใหม่ หากจะทำให้เป็นสถาบันทางการเมือง จะปล่อยปัญหาดังกล่าวไว้ไม่ได้
"โกวิท"ตั้งเด็ก"เนวิน"โฆษก มท.1
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงข่าวที่ว่า จะนำนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน ชิดขอบ มาทำงานด้วยหรือไม่ว่า ใครมีความสามารถก็ต้องมาช่วยกันอย่าไปปิดกั้น ตนเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดรับฟังความคิดเห็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิท ได้ตั้ง ให้นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาขน กลุ่มเพื่อนเนวิน มาทำหน้าที่เป็นโฆษกประจำกระทรวงมหาดไทย
"เฉลิม"ปัด"ศักดา"เป็นในคาถา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรมว. มหาดไทย กล่าวถึงข่าวการอยู่เบื้องหลังนายศักดา คงเพชร ที่ออกมาแฉพฤติกรรมของคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ว่า นายศักดา ไม่ได้เป็นเด็กของตน แต่เป็นเพื่อสนิทกันตั้งแต่อยู่พรรคความหวังใหม่ ซึ่งนายศักดา มีสิทธิ์แสดงความเห็น ใครไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ต้องวิตกทุกข์ร้อน แต่ที่ผ่านมานายศักดา ไม่เคยหารือตนในเรื่องแก๊งออฟโฟร์
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนลงข่าวผิด ความจริงมีคนรับเงินจากบริษัทก่อสร้าง ในสมัยอยู่ กทม. จำนวน 10 ล้านบาท แล้วเอาเข้าบัญชีตัวเอง พอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบก็รู้ว่าคนรับเงิน 10 ล้านบาทเป็นใคร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปรับ ครม.ครั้งนี้ นายศักดาไม่ได้โกหก ใครที่ทำให้ประชาชนได้รู้ เพื่อเป็นประโยชน์ขจัดทุจริตและคนชั่วทางการเมืองไม่ถือว่าผิดจริยธรรม แต่ถ้าใส่ร้ายกันก็เป็นเริ่องที่ไม่ดี
หนุน"ศักดา"ส่ง ป.ป.ช.เฉือดโกง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายศักดาจะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบ ร..ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า "ถ้ามีหลักฐานเขาก็ต้องยื่น เขาต้องรักษาสถานะตัวเอง ใครไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ผมสนับสนุนเต็มใบเลยครับ ผมไม่มีปิดบัง ไปยุยงแบบแอบกระซิบไม่มีทาง คุณศักดาเอาเลย ถ้ามีหลักฐานเดินหน้าเต็มตัวใส่เกียร์ 5 ถ้าร่างคำร้องไม่เป็นผมจะร่างให้"
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวปฏิเสธว่าไม่ทราบข่าวว่า ส.ส.บางกลุ่มของพรรคพลังประชาชนจะจับมือพรรคชาติไทย ตั้งพรรคใหม่ แต่ตอนนี้เพรรคชาติไทยยังอยู่ดีๆ จะทำไปทำไม การยุบพรรคยังอีกไกล
ส่วนที่ รมว.มหาดไทยคนใหม่จะลงตรวจพื้นที่ภาคใต้นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รเป็นคนดี คนเก่ง เคยอยู่ภาคใต้มาก่อน เก่งกว่าตนร้อยเท่า และการที่ตนไม่ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสมัยเป็น รมว.มหาดไทย เพราะตนไม่ได้เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และนายกฯก็ให้ตนลงไปเฉพาะที่ จ.สงขลา เนื่องจากในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีทหารดูแลอยู่แล้ว
"กุเทพ" หลับตาแจง พปช.ยังมีเอกภาพ
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน แถลงยืนยันว่าพรรคพลังประชาชนยังมีความเป็นเอกภาพ แม้จะมีสมาขิกบางส่วนออกมาวิจารณ์ การปรับ ครม. "สมัคร 4" ซึ่งตนยืนยันว่า การปรับ ครม.เป็นมติพรรคที่มอบอำนาจให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งผลออกมา อย่างไร เป็นเรื่องที่นายกฯต้องรับผิดชอบ และการยอมรับครม.ชุดใหม่เป็นเรื่องของ ประชาชนที่ต้องติดตามการทำงานของครม.ต่อไป ในส่วนพรรคเองก็ต้องยอมรับว่า ข่าวที่ออกมาเกิดจากการที่ไม่ได้พูดคุยกันภายในพรรค จึงทำให้บางเรื่องเกิดความสับสน ซึ่งขณะนี้เมื่อพูดคุยแล้วก็เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า เราต้องให้นายกฯ เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อนำประเทศผ่าวิกฤตไปให้ได้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการตั้งทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การวิจารณ์อาจทำให้ผู้ที่อาสาเข้ามาท้อถอย แต่ปัญหาเกิดจากข้อจำกัดทางกฎหมายที่ออกมาปิดกั้นคนที่มีความรู้ ความสามารถได้มาทำงานอย่างเต็มที แต่สถานกาณ์ปัจจุบันเราต้องการคนที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของสังคมเข้ามาทำงาน แต่เมื่อมีข้อจำกัดดังกล่าว การจะทำได้ คือ ให้เป็นที่ปรึกษาและมีอำนาจในระดับหนึ่ง ซึ่งเราควรจะถือว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้เสียสละ ก็ควรให้กำลังใจ เราไม่ควรตั้งสมมุติฐานว่าบุคคลเหล่านี้เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ หรือมีส่วนได้เสีย ถ้ามองแบบนั้นถือว่ามองในแง่ลบเกินไป ไม่อย่างนั้นประเทศจะเดินหน้าไปไม่ได้
เหน็บกลุ่มอีสานพัฒนาอกหักเลยป่วน
ส่วนกรณีที่นายศักดา คงเพชร ออกมาเปิดโปรงข้อมูลทุจริตของคนใกล้ชิด นายกรัฐมนตรีนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การที่ส.ส.จะดำเนินการยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ถือเป็นเอกสิทธิ์ที่ทำได้ แต่คิดว่า ควรจะมีการพูดคุยในที่ประชุมพรรค ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่ได้พูดคุยกันยังไม่มีข้อมูลอะไร ยืนยันได้ว่าเป็นไปตามที่นำมาพูดกัน แต่ถ้าสมาชิกมีหลักฐานจริงพรรคก็ไม่ห้าม เพราะเราไม่มีการปิดกั้น
"การปรับครม.ทุกครั้งเราควรสร้างวัฒธรรม องค์กรให้มีความสงบเรียบร้อย แต่ยอมรับว่า ทุกครั้งที่มีการปรับครม.ไม่ว่ายุคใด ก็จะมีผลตามมาลักษณะนี้ ซึ่งอาจถูกมองว่า เป็นเพราะไม่พอใจเรื่องตำแหน่ง แต่ความจริงอาจจะถูกมองว่า การออกมาเปิดเผยหลังปรับครม.เป็นเพราะผิดหวังหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักของข้อมูลลดน้อยลง โครงการเช่ารถเมลล์ 6000 คันก็ได้ข้อมูลจากการพูดคุยกับฝ้ายค้าน เราก็มีตรวจสอบภายในประเด็นที่ถูกกล่าวหา แต่จะเห็นได้ว่าโครงการนี้ยังไม่ความคืบหน้าในเรื่องของผลประโยชน์ ความเป็นเอกภาพของพรรคจะต้องรักษาไว้ และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เราไม่สกัดกั้นสมาชิกในการตรวจสอบเรื่องใด ถ้ามี ข้อมูลจริงเราก็เคารพ แต่วันนี้ยังไม่เห็นข้อมูลพอเชื่อได้ว่ามีการดำเนินการเช่นนั้น"
อ้าง"แก๊งออกโฟร์"เป็นจินตนาการ
ร.ท.กุเทพ กล่าวถึงแก๊งค์ออฟโฟว่า เป็นเรื่องที่จินตนาการและการตั้งสมมุติฐาน ล้วนๆ เพื่อหาเหตุผลมารองรับคำอธิบายของตัวเอง ระบบของพรรคจะมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้จัดการ วันนี้มีความพยายามโยงใยไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีดตนายกฯรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ถึงความไม่พอใจหรือไม่ ซึ่งในความจริงท่านได้วางมือทางการเมือง และได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องในเรื่อง ต่างๆ การดึงท่านมาเกี่ยวโยงด้วยทำให้เกิดความเสียหาย คนที่รักพ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆ ทำไมต้องดึงมาเกี่ยวข้องทางการเมือง หรือดึงมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในทางการเมืองควรปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณ วางมืออย่างแท้จริง แต่เรื่องความรู้สึก เช่น การเข้าไปกล่าวอวยพรในวันเกิด เป็นเรื่องที่เราควรทำ เพราะถือเป็นผู้มีบุญคุณพรรค เป็นเรื่องความกตัญญูรู้คุณ แต่ไม่ควรดึงมาเกี่ยวข้องทุกกรณี
"วันนี้พรรคพลังประชาชนยังยึดยุทธศาสตร์จับมือกันเดิน ข่าวที่ว่าจะมีการแยกกลุ่มไปตั้งพรรคใหม่เป็นเพียงสมมุติฐาน เพราะในข้อเท็จจริงต้องยอมรับว่า ไม่มีส.ส.อีสานคนไหนที่กล้าไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นไปได้ยากที่จะชนะการเลือกตั้ง โดยส.ส.ทุกคนก็รู้ดี ยุทธศาสตร์เดิมที่เราจับมือเดินไปด้วยกันก็พิสูจน์มาแล้ว จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ถ้ามีการแยกกันก็จะเข้าทางคน ที่ต้องการทำลายพรรคพลังประชาชน ซึ่งตรงกับยุทธศาสตร์ของเขาที่ต้องการสลาย พวกเรา ทางการเมืองอาจไม่เข้าใจกัน แต่พอมาถึงจุดหนึ่งก็ต้องร่วมมือกัน ยังมีเวลาอีกพอสมควร เรื่องนี้ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย"
ส่วนกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ กลับมาดำรงหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินอีกครั้งนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคพลังประชาชนไม่สามารถ แทรกแซงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล ส่วนเรื่องที่ นายสุวิทย์ อ้างว่านายกรัฐมนตรีไล่ให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่มีใครเข้าร่วมรับฟัง อาจเป็นเพียงการกล่าวอ้าง เพื่อให้สมาชิกเห็นว่า ทำไมถึงต้องถอนตัว แต่ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใหญ่พอ เพราะที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีย้ำกับสมาชิกพรรคพลังประชาชนเสมอว่าให้เห็นใจ และบางครั้งถึงกับสลับตำแหน่งให้
"สมชาย"เบรก"ศักดา"ให้คุยในพรรค
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวยอมรับว่า ภายในพรรคมีความเห็นแตกแยกกัน แต่ในการประชุมพรรรคเมื่อวันที่ 5 ส.ค.นี้ ได้มีการเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พูดคุยหารือในส่วนที่ข้องใจสงสัย โดยเฉพาะในส่วนของส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา ซึ่งได้ชี้แจงให้สมาชิกในพรรคทราบ ผู้ใหญ่ในพรรคเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจได้
ส่วนที่ นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน เตรียมยื่นเอกสาร การทุจริตให้ป.ป.ช.เร็วๆ นี้นั้น นายสมชาย กล่าวว่า การดำเนินการใดๆของส.ส. โดยเฉพาะนายศักดา จะต้องใช้วิจารณญาณ แต่ครั้งนี้ยังมั่นใจว่าสมาชิกในพรรคจะพูดคุยตกลงกันได้ และเป็นไปได้ว่าจะเชิญผู้ใหญ่ในพรรคมาเคลียร์ ทั้งนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้นได้แต่รับฟัง ซึ่งคาดว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะสามารถเคลียร์ได้ ซึ่งตนมองว่าคนอยู่ด้วยกันก็ต้องคุยกันจึงจะแก้ปัญหาขัดแย้งให้จบลงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองหรือไม่ว่าการเคลียร์ภายในอาจไม่เพียงพอเพราะเป็นปัญหาทุจริตทระดับประเทศ นายสมชาย กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลและพรรคพลังประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาการทุจริต แต่เรื่องนี้ควรต้องมีการคุยกันในพรรคก่อนเพราะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงรายละเอียดก่อน
ชี้ตั้งพีพีพีหวังกินหัวคิดโปรเจ๊กยักษ์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการนโยบายความร่วมมือในการลงทุนระห่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP : Public Private Partnership Committee) โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีนายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกฯ ซึ่งมีข่าวอื้อฉาว เป็นกรรมการว่าขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังตรวจสอบอยู่ว่าขัดต่อพ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วง 6 เดือนของรัฐบาลมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นมากคิดว่าเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของรัฐบาลหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายกฯทำทุกอย่างเพื่ออยู่ในตำแหน่งนานที่สุด โดยไม่สนวิธีการ ซึ่งการแก้กฎหมาย เป็นวิธีการหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยชี้ให้เห็นแล้วว่าต้องดูที่จุดประสงค์ด้วย อย่างเช่น กรณีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ตนเห็นว่าเป็นเพียงระเบิดควันเท่านั้น แต่คนที่ตามมาหลังระเบิดควันอย่าง คณะกรรมการ พีพีพี น่ากลัวมากกว่า
"อย่างที่นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ออกมาเผย โครงการจัดหารถเมล์ของ ขสมก.ว่ามีการหักหัวคิวคันละล้านบาท เพื่อเป็นทุนตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น แล้วโครงการเมกกะโปรเจค ที่มีมูลค่านับแสนล้านจะมีมูลค่าหัวคิวเท่าไร อย่างไรก็ตามที่ถือเป็นเรื่องดีที่คนของพรรคพลังประชาชนออกมาเปิดเผย เรื่องนี้ แต่ที่นายศักดา ระบุว่า จะนำเรื่องนี้ไปยื่นต่อ ป.ป.ช.นั้น ตนเห็นว่ายังไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ได้มีรายงานของ ป.ป.ช.มาแล้วซึ่งผมจะนำเรื่องนี้มาอภิปรายด้วยตนเอง"
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวยืนยันถึงการเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตในรัฐบาลว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบ ต่อไปเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนการยื่นหลักฐานให้ ป.ป.ช. ดำเนินการเอาผิดกับคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีที่รับเงิน 10 ล้านบาทนั้น ต้องรออีกสักระยะความจริงจะชัดเจน
"ที่ผมลุกขึ้นมาดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเมื่อเรารู้ว่าบ้านเมืองกำลังมีปัญหาแล้วไม่ลุกขึ้นมาช่วย ปล่อยให้มีการเกาะกิน สร้างปัญหาคงไม่ได้ เราต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาแล้วต้องกล้าจัดการกลุ่มการเมืองที่เป็นเหลือบไรทางการเมือง ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือช่วยกันทั้งสังคมและสื่อด้วย"
นายศักดา กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือมีการวางแผน วางยุทธศานตร์เพื่อระมดทุนจำนวนมากเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ขอให้สังคมช่วยจับตามองให้ดีในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐมนตรีเป็นคนดีทุกคน แต่ยังไม่รู้เรื่อง ไม่รูทันเกมคนในกลุ่มนี้ ในการส่งบรรดา ผีปอบ ผีกระสือ เข้าไปครอบงำเพื่อแสวงหาประโยชน์ในเรื่องต่างๆ รวมถึงการเรื่องการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดี
"ขอเรียกร้องสิงห์ดำ สิงห์แดง ต้องร่วมมือลุกขึ้น ปกป้ององค์กรของตนเอง อย่าให้ถูกรอบงำ หรือไปรับใช้ พวกผีปอป ผีกระสือ มิฉะนั้น จะมีการวิ่งเต้น เหมือนในอดีต และขอให้รัฐมนตรีและข้าราชการ ต้องทันเกม สื่อสารให้ทันสถานการณ์ ตั้งรับให้ดี เข้มแข็งและยืนให้มั่น ถ้ามีโทรติดต่อเรื่องเลื่อนย้ายเรียกขอเงินทอง ขอให้บันทึกไว้ แล้วลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้ององค์กร" นายศักดา กล่าว และว่า ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ถึงวันนี้จะต้องร่วมกันปฎิรูปพรรคกันใหม่ หากจะทำให้เป็นสถาบันทางการเมือง จะปล่อยปัญหาดังกล่าวไว้ไม่ได้
"โกวิท"ตั้งเด็ก"เนวิน"โฆษก มท.1
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงข่าวที่ว่า จะนำนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน ชิดขอบ มาทำงานด้วยหรือไม่ว่า ใครมีความสามารถก็ต้องมาช่วยกันอย่าไปปิดกั้น ตนเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดรับฟังความคิดเห็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิท ได้ตั้ง ให้นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาขน กลุ่มเพื่อนเนวิน มาทำหน้าที่เป็นโฆษกประจำกระทรวงมหาดไทย
"เฉลิม"ปัด"ศักดา"เป็นในคาถา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรมว. มหาดไทย กล่าวถึงข่าวการอยู่เบื้องหลังนายศักดา คงเพชร ที่ออกมาแฉพฤติกรรมของคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ว่า นายศักดา ไม่ได้เป็นเด็กของตน แต่เป็นเพื่อสนิทกันตั้งแต่อยู่พรรคความหวังใหม่ ซึ่งนายศักดา มีสิทธิ์แสดงความเห็น ใครไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ต้องวิตกทุกข์ร้อน แต่ที่ผ่านมานายศักดา ไม่เคยหารือตนในเรื่องแก๊งออฟโฟร์
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนลงข่าวผิด ความจริงมีคนรับเงินจากบริษัทก่อสร้าง ในสมัยอยู่ กทม. จำนวน 10 ล้านบาท แล้วเอาเข้าบัญชีตัวเอง พอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบก็รู้ว่าคนรับเงิน 10 ล้านบาทเป็นใคร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปรับ ครม.ครั้งนี้ นายศักดาไม่ได้โกหก ใครที่ทำให้ประชาชนได้รู้ เพื่อเป็นประโยชน์ขจัดทุจริตและคนชั่วทางการเมืองไม่ถือว่าผิดจริยธรรม แต่ถ้าใส่ร้ายกันก็เป็นเริ่องที่ไม่ดี
หนุน"ศักดา"ส่ง ป.ป.ช.เฉือดโกง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายศักดาจะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบ ร..ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า "ถ้ามีหลักฐานเขาก็ต้องยื่น เขาต้องรักษาสถานะตัวเอง ใครไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ผมสนับสนุนเต็มใบเลยครับ ผมไม่มีปิดบัง ไปยุยงแบบแอบกระซิบไม่มีทาง คุณศักดาเอาเลย ถ้ามีหลักฐานเดินหน้าเต็มตัวใส่เกียร์ 5 ถ้าร่างคำร้องไม่เป็นผมจะร่างให้"
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวปฏิเสธว่าไม่ทราบข่าวว่า ส.ส.บางกลุ่มของพรรคพลังประชาชนจะจับมือพรรคชาติไทย ตั้งพรรคใหม่ แต่ตอนนี้เพรรคชาติไทยยังอยู่ดีๆ จะทำไปทำไม การยุบพรรคยังอีกไกล
ส่วนที่ รมว.มหาดไทยคนใหม่จะลงตรวจพื้นที่ภาคใต้นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รเป็นคนดี คนเก่ง เคยอยู่ภาคใต้มาก่อน เก่งกว่าตนร้อยเท่า และการที่ตนไม่ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสมัยเป็น รมว.มหาดไทย เพราะตนไม่ได้เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และนายกฯก็ให้ตนลงไปเฉพาะที่ จ.สงขลา เนื่องจากในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีทหารดูแลอยู่แล้ว
"กุเทพ" หลับตาแจง พปช.ยังมีเอกภาพ
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน แถลงยืนยันว่าพรรคพลังประชาชนยังมีความเป็นเอกภาพ แม้จะมีสมาขิกบางส่วนออกมาวิจารณ์ การปรับ ครม. "สมัคร 4" ซึ่งตนยืนยันว่า การปรับ ครม.เป็นมติพรรคที่มอบอำนาจให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งผลออกมา อย่างไร เป็นเรื่องที่นายกฯต้องรับผิดชอบ และการยอมรับครม.ชุดใหม่เป็นเรื่องของ ประชาชนที่ต้องติดตามการทำงานของครม.ต่อไป ในส่วนพรรคเองก็ต้องยอมรับว่า ข่าวที่ออกมาเกิดจากการที่ไม่ได้พูดคุยกันภายในพรรค จึงทำให้บางเรื่องเกิดความสับสน ซึ่งขณะนี้เมื่อพูดคุยแล้วก็เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า เราต้องให้นายกฯ เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อนำประเทศผ่าวิกฤตไปให้ได้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการตั้งทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การวิจารณ์อาจทำให้ผู้ที่อาสาเข้ามาท้อถอย แต่ปัญหาเกิดจากข้อจำกัดทางกฎหมายที่ออกมาปิดกั้นคนที่มีความรู้ ความสามารถได้มาทำงานอย่างเต็มที แต่สถานกาณ์ปัจจุบันเราต้องการคนที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของสังคมเข้ามาทำงาน แต่เมื่อมีข้อจำกัดดังกล่าว การจะทำได้ คือ ให้เป็นที่ปรึกษาและมีอำนาจในระดับหนึ่ง ซึ่งเราควรจะถือว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้เสียสละ ก็ควรให้กำลังใจ เราไม่ควรตั้งสมมุติฐานว่าบุคคลเหล่านี้เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ หรือมีส่วนได้เสีย ถ้ามองแบบนั้นถือว่ามองในแง่ลบเกินไป ไม่อย่างนั้นประเทศจะเดินหน้าไปไม่ได้
เหน็บกลุ่มอีสานพัฒนาอกหักเลยป่วน
ส่วนกรณีที่นายศักดา คงเพชร ออกมาเปิดโปรงข้อมูลทุจริตของคนใกล้ชิด นายกรัฐมนตรีนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การที่ส.ส.จะดำเนินการยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ถือเป็นเอกสิทธิ์ที่ทำได้ แต่คิดว่า ควรจะมีการพูดคุยในที่ประชุมพรรค ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่ได้พูดคุยกันยังไม่มีข้อมูลอะไร ยืนยันได้ว่าเป็นไปตามที่นำมาพูดกัน แต่ถ้าสมาชิกมีหลักฐานจริงพรรคก็ไม่ห้าม เพราะเราไม่มีการปิดกั้น
"การปรับครม.ทุกครั้งเราควรสร้างวัฒธรรม องค์กรให้มีความสงบเรียบร้อย แต่ยอมรับว่า ทุกครั้งที่มีการปรับครม.ไม่ว่ายุคใด ก็จะมีผลตามมาลักษณะนี้ ซึ่งอาจถูกมองว่า เป็นเพราะไม่พอใจเรื่องตำแหน่ง แต่ความจริงอาจจะถูกมองว่า การออกมาเปิดเผยหลังปรับครม.เป็นเพราะผิดหวังหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักของข้อมูลลดน้อยลง โครงการเช่ารถเมลล์ 6000 คันก็ได้ข้อมูลจากการพูดคุยกับฝ้ายค้าน เราก็มีตรวจสอบภายในประเด็นที่ถูกกล่าวหา แต่จะเห็นได้ว่าโครงการนี้ยังไม่ความคืบหน้าในเรื่องของผลประโยชน์ ความเป็นเอกภาพของพรรคจะต้องรักษาไว้ และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เราไม่สกัดกั้นสมาชิกในการตรวจสอบเรื่องใด ถ้ามี ข้อมูลจริงเราก็เคารพ แต่วันนี้ยังไม่เห็นข้อมูลพอเชื่อได้ว่ามีการดำเนินการเช่นนั้น"
อ้าง"แก๊งออกโฟร์"เป็นจินตนาการ
ร.ท.กุเทพ กล่าวถึงแก๊งค์ออฟโฟว่า เป็นเรื่องที่จินตนาการและการตั้งสมมุติฐาน ล้วนๆ เพื่อหาเหตุผลมารองรับคำอธิบายของตัวเอง ระบบของพรรคจะมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้จัดการ วันนี้มีความพยายามโยงใยไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีดตนายกฯรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ถึงความไม่พอใจหรือไม่ ซึ่งในความจริงท่านได้วางมือทางการเมือง และได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องในเรื่อง ต่างๆ การดึงท่านมาเกี่ยวโยงด้วยทำให้เกิดความเสียหาย คนที่รักพ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆ ทำไมต้องดึงมาเกี่ยวข้องทางการเมือง หรือดึงมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในทางการเมืองควรปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณ วางมืออย่างแท้จริง แต่เรื่องความรู้สึก เช่น การเข้าไปกล่าวอวยพรในวันเกิด เป็นเรื่องที่เราควรทำ เพราะถือเป็นผู้มีบุญคุณพรรค เป็นเรื่องความกตัญญูรู้คุณ แต่ไม่ควรดึงมาเกี่ยวข้องทุกกรณี
"วันนี้พรรคพลังประชาชนยังยึดยุทธศาสตร์จับมือกันเดิน ข่าวที่ว่าจะมีการแยกกลุ่มไปตั้งพรรคใหม่เป็นเพียงสมมุติฐาน เพราะในข้อเท็จจริงต้องยอมรับว่า ไม่มีส.ส.อีสานคนไหนที่กล้าไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นไปได้ยากที่จะชนะการเลือกตั้ง โดยส.ส.ทุกคนก็รู้ดี ยุทธศาสตร์เดิมที่เราจับมือเดินไปด้วยกันก็พิสูจน์มาแล้ว จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ถ้ามีการแยกกันก็จะเข้าทางคน ที่ต้องการทำลายพรรคพลังประชาชน ซึ่งตรงกับยุทธศาสตร์ของเขาที่ต้องการสลาย พวกเรา ทางการเมืองอาจไม่เข้าใจกัน แต่พอมาถึงจุดหนึ่งก็ต้องร่วมมือกัน ยังมีเวลาอีกพอสมควร เรื่องนี้ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย"
ส่วนกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ กลับมาดำรงหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินอีกครั้งนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคพลังประชาชนไม่สามารถ แทรกแซงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล ส่วนเรื่องที่ นายสุวิทย์ อ้างว่านายกรัฐมนตรีไล่ให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่มีใครเข้าร่วมรับฟัง อาจเป็นเพียงการกล่าวอ้าง เพื่อให้สมาชิกเห็นว่า ทำไมถึงต้องถอนตัว แต่ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใหญ่พอ เพราะที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีย้ำกับสมาชิกพรรคพลังประชาชนเสมอว่าให้เห็นใจ และบางครั้งถึงกับสลับตำแหน่งให้
"สมชาย"เบรก"ศักดา"ให้คุยในพรรค
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวยอมรับว่า ภายในพรรคมีความเห็นแตกแยกกัน แต่ในการประชุมพรรรคเมื่อวันที่ 5 ส.ค.นี้ ได้มีการเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พูดคุยหารือในส่วนที่ข้องใจสงสัย โดยเฉพาะในส่วนของส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา ซึ่งได้ชี้แจงให้สมาชิกในพรรคทราบ ผู้ใหญ่ในพรรคเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจได้
ส่วนที่ นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน เตรียมยื่นเอกสาร การทุจริตให้ป.ป.ช.เร็วๆ นี้นั้น นายสมชาย กล่าวว่า การดำเนินการใดๆของส.ส. โดยเฉพาะนายศักดา จะต้องใช้วิจารณญาณ แต่ครั้งนี้ยังมั่นใจว่าสมาชิกในพรรคจะพูดคุยตกลงกันได้ และเป็นไปได้ว่าจะเชิญผู้ใหญ่ในพรรคมาเคลียร์ ทั้งนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้นได้แต่รับฟัง ซึ่งคาดว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะสามารถเคลียร์ได้ ซึ่งตนมองว่าคนอยู่ด้วยกันก็ต้องคุยกันจึงจะแก้ปัญหาขัดแย้งให้จบลงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองหรือไม่ว่าการเคลียร์ภายในอาจไม่เพียงพอเพราะเป็นปัญหาทุจริตทระดับประเทศ นายสมชาย กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลและพรรคพลังประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาการทุจริต แต่เรื่องนี้ควรต้องมีการคุยกันในพรรคก่อนเพราะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงรายละเอียดก่อน
ชี้ตั้งพีพีพีหวังกินหัวคิดโปรเจ๊กยักษ์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการนโยบายความร่วมมือในการลงทุนระห่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP : Public Private Partnership Committee) โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีนายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกฯ ซึ่งมีข่าวอื้อฉาว เป็นกรรมการว่าขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังตรวจสอบอยู่ว่าขัดต่อพ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วง 6 เดือนของรัฐบาลมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นมากคิดว่าเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของรัฐบาลหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายกฯทำทุกอย่างเพื่ออยู่ในตำแหน่งนานที่สุด โดยไม่สนวิธีการ ซึ่งการแก้กฎหมาย เป็นวิธีการหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยชี้ให้เห็นแล้วว่าต้องดูที่จุดประสงค์ด้วย อย่างเช่น กรณีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ตนเห็นว่าเป็นเพียงระเบิดควันเท่านั้น แต่คนที่ตามมาหลังระเบิดควันอย่าง คณะกรรมการ พีพีพี น่ากลัวมากกว่า
"อย่างที่นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ออกมาเผย โครงการจัดหารถเมล์ของ ขสมก.ว่ามีการหักหัวคิวคันละล้านบาท เพื่อเป็นทุนตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น แล้วโครงการเมกกะโปรเจค ที่มีมูลค่านับแสนล้านจะมีมูลค่าหัวคิวเท่าไร อย่างไรก็ตามที่ถือเป็นเรื่องดีที่คนของพรรคพลังประชาชนออกมาเปิดเผย เรื่องนี้ แต่ที่นายศักดา ระบุว่า จะนำเรื่องนี้ไปยื่นต่อ ป.ป.ช.นั้น ตนเห็นว่ายังไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ได้มีรายงานของ ป.ป.ช.มาแล้วซึ่งผมจะนำเรื่องนี้มาอภิปรายด้วยตนเอง"