xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ตีกัน “หุ่นเชิด” รื้อ รธน.3 วาระ-แก้ ม.63 กลบสวาปามโปรเจกต์ยักษ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ปชป.ดักคอรัฐบาลลูกกรอก คิดแก้ รธน.3 วาระรวดขัด ม.291 ที่ระบุต้องกระทำ 3 วาระ ห่วงผลศึกษา กมธ.เสนอไม่ทันสมัยนิติบัญญัติ ขณะ พปช.ยังกระเหี้ยนกระหือรือแก้ ม.309, 190 ให้ได้ คาด เหตุรุนแรงตามมาแน่ พร้อมจับตารัฐบาลสร้างระเบิดควันแก้ ม.63 กลบข่าวผลักดันเมกะโปรเจกต์ 1 ล้านล้าน ตุนเงินตั้งพรรคใหม่

วันนี้ (15 ส.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลพยายามเร่งผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยให้ผ่าน 3 วาระรวด ว่า ตนไม่แน่ใจว่ามีการตรวจสอบรัฐธรรมนูญ หรือข้อกฎหมายดีพอหรือยัง เพราะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 วาระนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ระบุชัดว่าการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องกระทำ 3 วาระ เพราะเจตนารมณ์นั้นต้องการที่จะให้สมาชิกได้พิจารณาอย่างถ่องแท้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญนั้นเป็นกฎหมายแม่บท การแก้ไขมาตราใดมาตราหนึ่งจะมีผลผูกพันกับบทบัญญัติ ในมาตราอื่นๆ และมีผลการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในระดับองค์กรต่างๆ การใช้อำนาจและสิทธิเสรีภาพและการปฏิบัติของรัฐบาลในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน

“การที่ออกมาแถลงเรื่องนี้ น่าเป็นห่วง เพราะกำลังจะเป็นตัวเพิ่มความขัดแย้งทางสังคมรอบใหม่ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญกำลังพิจารณาอยู่ อาจจะมีปัญหาเหมือนกัน คือ ไม่สามารถนำรายงานเสนอเข้าสู่สภาได้ เพราะเป็นสมัยประชุมนิติบัญญัติ ซึ่งจะต้องใช้เสียงยินยอมเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา แต่ถ้าทุกพรรคเห็นพ้องต้องกันก็จะต้องประสานไปยังวุฒิสภาว่า เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร เพื่อบรรจุเป็นวาระของสภา เพื่อที่จะขอความเห็นชอบดังกล่าว ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่มีความจำเป็นเร่งรีบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ขอให้วิปรัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะออกให้ความเห็นหรือเสนอแนวทางนี้”

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านยินดีที่จะมีการประชุมวิป และหารือกันในพรรคอีกครั้ง แต่เบื้องต้น ถ้าเป็นรายงานที่ทุกพรรคเห็นว่าจำเป็นก็ยินดีที่จะพิจารณา เพียงแต่ประเด็นที่พรรคฝากคณะกรรมาธิการพิจารณาไป ทราบว่า ขณะนี้ยังไม่มีอนุกรรมาธิการชุดใดออกไปสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนอย่างจริงจัง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นขั้นตอนสำคัญที่หายไป

“ผมไม่แน่ใจว่า การออกมาแถลงอย่างนี้เป็นการยืนยันท่าทีของรัฐบาลหรือไม่ หากรัฐบาลยืนยันว่าจะต้องแก้ ผมเข้าใจว่า ธงของพรรคพลังประชาชนคือยืนที่เดิม คือ ม.309 ม.190 ขณะที่รายงานของกรรมาธิการยังไม่ออกมา ดังนั้น หากยืนยันท่าทีแบบนี้ก็ยุ่ง เพราะการเคลื่อนไหวภายนอกก็คงจะรุนแรงขึ้น”

อย่างไรก็ตาม นายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านกำลัง-จับตาดูรัฐบาล เช่น การสร้างระเบิดควันด้วยการแก้มาตรา 63 (ว่าสิทธิของประชาชนในการจัดชุมนุมโดยสงบ) แล้วเดินหน้าเมกะโปรเจกต์ ล่าสุด มีการพูดถึงเมกะโปรเจกต์สุขภาพกว่า 8 หมื่นล้านบาท และเมกะโปรเจกต์เกี่ยวกับการคมนาคมที่มีตัวเลขโดยรวมมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นแผนการลงทุนระยะ 5 ปี ซึ่งฝ่ายค้านจะจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดโดยตรง โดยเฉพาะเมกะโปรเจกต์ด้านสุขภาพ ที่น่าแปลกว่า กระทรวงสาธารณสุขพึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีใหม่ แต่ รมว.คลัง กลับมาผลักดันเมกะโปรเจกต์สุขภาพกว่า 8 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่ยังไม่แน่นอนในด้านการเมือง การพูดในเรื่องผลที่มากมายขณะนี้ การตรวจสอบทั้งหลายเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทางหนึ่ง คือ มีธงต้องการจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่ในทางลึกรัฐบาลยังมีการผลักดันเรื่องอื่นๆ อย่างเงียบๆ จึงจะต้องมีการซักถามคณะกรรมาธิการงบประมาณ ว่า เรื่องนี้มีการติดตามหรือไม่ ซึ่งคาดว่า จะนำเข้าสู่สภาวันที่ 3-4 ก.ย.ซึ่งมีหลายประเด็นหลายโครงการที่มีความไม่ชอบมาพากล โดยในการปฏิวัติงบประมาณวาระ 2-3 จะมีการหยิบยกมาอภิปรายด้วย เช่น กรณีการจัดซื้อจัดจ้าง การใช้งบประมาณในสำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลอยู่แล้ว และอีกหลายกระทรวงที่ต้องหยิบขึ้นมาพูด

“ที่มีกระแสข่าวว่าที่ว่าการเมืองไม่แน่นอน และมีโอกาสจัดตั้งพรรคใหม่โดยจะแตกไปหลายกลุ่ม เพราะเหตุนี้หรือไม่ ที่จะมีการผลักดันเมกะโปรเจกต์ หากมีการแสวงหาผลประโยชน์จริง เม็ดเงินจำนวนมากเหล่านั้นมีคนกังวลว่าเกี่ยวข้องกับการตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ และมีการตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ว่า มีการตั้งคณะกรรมการความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน หรือ (บีบีพี) ข้อมูลตรงนี้ กรรมาธิการงบประมาณกำลังดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่” นายสาทิตย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น