“จำลอง” เมินกระแสสลับขั้วตั้งพรรคการเมืองใหม่ ชี้ ยังเป็นกลุ่มอำนาจเก่าทั้งก๊ก ที่หวังเข้ามากอบโกยผลประโชยน์ให้ตัวเอง ย้ำหากพี่น้องยังยืนหยัดเหนียวแน่น ชัยชนะต้องมาถึงในไม่ช้า
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
วันนี้ (15 ส.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น.พลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศัยบนเวทีสะพานมัฆวานว่า วันนี้ เป็นวันที่ 83 ของการชุมนุมแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา เราเปิดเผยความจริงออกมาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในการสลับขั้วตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งหากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นเพียงการเปลี่ยนขั้วอำนาจแล้วทุกอย่างเหมือนเดิม เราก็จะไม่สนับสนุน แต่ถ้าเป็นการเมืองใหม่เมื่อไหร่เราจึงจะสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของพันธมิตรฯ สามารถสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลได้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลยืนยันหนักแน่นที่จะขอยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอี 3 วันเท่านั้น แต่ยังไม่มีทีท่าว่าเขาจะยื่น สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขากลัวพวกเรา พลังของพวกเราทำให้เขาคิดหน้าหลังอย่างดี แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ล้มความตั้งใจที่จะทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง โดยหาใช่ประโยชน์ส่วนรวมไม่ นอกจากนี้ ยังไม่สนใจเสียงประชาชน 14.7 ล้านเสียงที่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ได้ผิด แต่ผิดที่นักการเมืองแต่เขาก็ยังเดินหน้า ซึ่งเราเองก็เดินหน้าเช่นกันไม่ว่าเขาจะดำเนินการลักษณะไหน
โดยที่ผ่านมา เขามีความพยายามที่จะแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่ระบุว่า การทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศต้องผ่านสภาก่อน ก็บอกว่าต้องแก้เพราะจำกัดการทำงานของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังจะแก้มาตรา 309 เพื่อลิดรอนและบั่นทอนองค์กรอิสระ โดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องกับระบบยุติธรรม ทำความผิดให้ถูกต้อง ที่สำคัญ เขาต้องการแก้มาตรา 237 ที่ระบุว่า ถ้ากรรมการบริหารพรรค รู้เห็นเป็นใจในการซื้อเสียง จะต้องถูกยุบพรรค โดยคณะกรรมการพรรค ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีด้วย นั่นแสดงว่าต้องออกจากการเมืองไป ซึ่งตอนนี้มีหลายพรรคจะถูกยุบ จึงมีการรวมขั้วตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา แต่ล้วนแล้วแต่เป็นการเมืองเก่าทั้งนั้น ซึ่งเราไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่ใช้เงินซื้อการเลือกตั้งเพื่อชัยชนะ แล้วเขามาเป็นเผด็จการในสภา กอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเอง
“ถ้าพี่น้องยังคงมุ่งเป้าหมายเดิมที่เราชุมนุม เชื่อว่า เราทำสำเร็จได้แน่ ถ้าเราไม่มา ป่านนี้เขาแก้รัฐธรรมนูญไปเรียบร้อยแล้ว ถึงวันนี้ ผลจากการดำเนินงานกระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ให้เห็นแล้ว และตอนนี้ เราไม่ถามแล้วว่าเมื่อไหร่จะเลิก แต่ทุกคนมองเป็นหน้าที่ ใครที่มีหน้าที่การงานก็กลับบ้านไปก่อน เราเรียกเมื่อไหร่ก็มาพร้อมพรั่งอย่างในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่แกนนำหวังว่า เมื่อใดที่พี่น้องยืนหยัดเหนียวแน่น ต้องสำเร็จแน่นอน” พลตรีจำลอง กล่าว