เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (1ต.ค.) ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า วันนี้ขอทำหน้าที่โฆษกเป็นครั้งสุดท้าย โดยไม่ใช่ลิ่วล้อของใคร ซึ่งต่อไปจะให้รักษาการรองโฆษกพรรคเป็นผู้แถลงข่าวในนามพรรคแทน
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ตนทำหน้าที่โฆษกพรรคมา 2 ปีกว่า ต้องฝ่าวิกฤติในการต่อสู้เผด็จการต้องทำงานหนัก ตอบโต้กับคนที่ใช้อำนาจเผด็จการ มีกำลัง มีอาวุธ บางเรื่องก็ถูกฟ้อง แต่ก็ไม่เคยร้องขออะไรจากพรรค แต่คนในพรรคก็ไม่เข้าใจ การมาแถลงในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะผิดหวัง หรืออกหักจากตำแหน่ง เพราะตอนที่พรรคชนะเลือกตั้งก็ไม่เคยไปวิ่งเต้น เพราะหากทำ ตนก็คงตีรวนไปแล้ว เพราะทำหน้าที่เคียงคู่กับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ มาตั้งแต่แรก จนพรรคได้รับชัยชนะ แต่ในพรรคตนขอยกไว้ 3 คนคือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่ต้องตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรค ทำให้ภาระหนักบนบ่าของทุกคนในพรรคหมดไป และตนก็สิ้นสภาพไปก่อนที่จะถูกปลด
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า สิ่งที่ตนรับไม่ได้คือมีการกล่าวหาว่า ตนบิดเบือนมติพรรค ซึ่ง การทำลายล้างกันทางการเมืองที่รุนแรงมาก ถึงขั้นจะถอดถอนตน แล้วตนจะเล่นการเมืองต่อไปได้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ แต่ขอยืนยันว่า ไม่เคยบิดเบือน แต่ที่เกิดความสับสนเพราะภายในพรรคแบ่งเป็นกลุ่มชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มอีสานพัฒนา ที่มองว่าหากนายสมัคร ยังเป็นนายกฯต่อไป จะทำให้อีกกลุ่มได้จัดการอำนาจ จึงเกิดการขัดแย้ง หากมีการกล่าวหาคนอื่นว่าเป็น "แก๊งออฟโฟร์" ซึ่งตนไม่ให้ค่าของคนคนนี้ เพราะที่ผ่านมา เคยพบว่าคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็เคยอยู่ที่ชั้น พี 8 ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายเนวิน ชิดชอบ แต่ตอนหลังมาผิดใจอะไรกันไม่รู้ จึงแยกตัวออกไป โดยไปวางแผนร่วมกับอีกกลุ่ม ซึ่งตนยืนยันว่า กลุ่มของนายสมัคร จัดสรร ตำแหน่งได้เหมาะสม ให้เกียรติกัน ไม่หักหาญ แต่กลุ่มดังกล่าวก็ไม่ยอม ถึงกับจะไปตั้งพรรคใหม่ โดยไม่ยอมทำความเข้าใจกันภายในพรรค
ร.ท.กุเทพ กล่าวด้วยว่า หากใครยังมาตอแยกับตน ก็จะตอบโต้กลับไป เพราะรู้และเห็นถึงความพยายามของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่ทำเพราะไม่ไว้ใจเพื่อน จึงช่วงชิงฉกฉวย ลุกลี้ลุกลน เข้ามาจัดการอำนาจทางการเมือง ขณะที่เรายังยึดมาตรการไม่ยึดนาย ไม่ขายเพื่อน
การที่นายสมัครพลาดท่าในสภา ถ้าเกิดจากพรรคอื่นจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เกิดจากคนในพรรคเดียวกัน ท่านจึงรู้สึกเจ็บปวด เพราะถือว่าไม่ใช่วิสัยของพรรคการเมือง และไม่ใช่วิสัย ของสุภาพบุรุษ ซึ่งทุกก้าวย่างของบุคคลพวกนี้ ตนมีข้อมูลอธิบายได้
"รู้อยู่ว่า คมช.วางกฎเกณฑ์ เพื่อจะทำลายล้างพรรคการเมือง แต่เราเสียใจที่การเมืองมาทำลายล้างกันภายในพรรค วันนี้พรรคตกอยู่ในสภาพจะโดนยุบอยู่แล้ว คนที่กระโจนขึ้นไปจากพรรค พอลมเปลี่ยนทิศมองกลับมาเห็นว่าพอมีเศษอาหารเหลืออยู่บ้าง ก็กลับเข้ามา วันนี้อยากเล่นเกมบ้าๆ บอๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ผมรู้เบื้องหลังทุกคนว่าใครเคยด่า พ.ต.ท.ทักษิณ แต่สุดท้ายต้องไปกราบขอโทษเพื่อขอลงสมัคร และตอนนี้ก็ประกาศตัวว่าจะลงเลือกตั้งซ่อมส.ส.ร้อยเอ็ด ในนามพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้ต้องมาวิ่งเป็นเลขารัฐมนตรี" ร.ท.กุเทพกล่าว
ร.ท.กุเทพ กล่าวอีกว่าวันนี้ทั้ง นายสมัคร และนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการเลขาธิการพรรค และตน เราพอแล้ว เหนื่อยกับการต่อสู้ ถึงจะตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็ไม่มีความสำคัญ เพราะต้องรอวันถูกยุบพรรค ซึ่งเราไม่ได้กระทำ แต่ใครทำทุกคนก็รู้อยู่ แต่เราต้องมาติดกับซาก เรือที่กำลังจม ต่อไปใครจะจัดการอย่างไรก็อย่าหยามเหยียดศักดิ์ศรีของคนอื่น
เมื่อถามว่าได้โทรศัพท์พูดคุยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับทราบบ้างหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เราไม่ใช่ระดับที่จะไปประสานโดยตรง ที่จริงเราไม่ควรข้องแวะหรือรบกวนท่านเลย แต่คนที่ไปอ้างว่าจะจัดการเพื่อนาย ถามว่าทำอะไรให้นายสำเร็จในเรื่องใดบ้าง ไม่อยากคุย ตอนที่ตนไปแต่งกลอนหมอลำ เผยแพร่ในภาคอีสาน ยังได้ใจคนอีก เปรียบตามหลักศาสนาคริสต์ พวกที่แอบอ้างว่าจัดการเพื่อนาย ก็เหมือนพวกที่แอบอ้างว่าใครจะเข้าถึงพระเจ้า ต้องผ่านตัวเอง
ส่วนนโยบายที่จะให้รัฐมนตรี 1 คน ดูแลส.ส.10 คน ไม่รู้คิดอะไร หรือยึดกฎเกณฑ์อะไรมาจับ ส.ส.ก็มีจิตสำนึก แต่รัฐบาลต้องทำให้ส.ส.ทำหน้าที่ของตัวเองได้ การตั้งพรรคเพื่อไทย หากตั้งขึ้นมาเพื่อตีกัน หรือกำราบคนอื่น เอากลุ่มโน้น ไม่เอากลุ่มนี้ ก็จะเป็นพรรคปิด ซึ่งต่างจากพรรคพลังประชาชน ที่เป็นพรรคเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมทำงาน แล้วพรรคเพื่อไทย จะเป็นพรรคใหญ่ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงข่าวปรากฏว่า นางทิพย์วัลย์ สมุทรักษ์ ส.ว.สรรหา มารดา ของนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มารอแถลงข่าวและร่วมรับฟังการแถลงข่าวของร.ท.กุเทพ ได้ลุกขึ้นมาจับมือร.ท.กุเทพ แล้วกล่าวว่าพวกเราส.ว.ขอให้กำลังใจท่าน
**"สมชาย"ไม่จำเป็นต้องเคลียร์"กุเทพ"
ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงความขัดแย้งภายในพรรคว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่บานปลายอย่างแน่นอน เพราะในพรรคมีความเป็นประชาธิปไตย สมาชิกคิดอะไรก็พูดกันออกมา แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้างตามประสาคนหมู่มาก แต่สุดท้ายก็หารือ ทำความเข้าใจกันได้ จึงไม่รู้สึกว่าการที่สมาชิกออกมาพูดอะไรแล้วจะส่งผลกระทบต่อพรรค เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว นายสมชาย กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ แต่เข้าใจว่าคนที่ออกมาพูดต้องการอยากเห็นความเป็นธรรม ตนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ อยู่ตรงกลาง ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย นำมาขบคิด พิจารณาดูว่ามีเหตุผลอย่างไร ต่อไปจะได้ทำความเข้าใจ และพยายามทำให้ทุกคนในพรรคมีความสบายใจ และทำให้พรรคมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้เป็นผู้นำตัวจริง เพราะเป็นรองหัวหน้าพรรค และหลังจากที่นายสมัคร ได้ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ก็ยังไม่ได้เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่ตนยังต้องทำหน้าที่แทนไปก่อน และจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่จำเป็นที่ต้องมีการเรียกร.ท. กุเทพ มาพูดคุย หรือทำความเข้าใจ
**ไม่สน..อยากแถลงก็แถลงไป
ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน ในฐานะหัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา ได้ออกมาตอบโต้ร.ท.กุเทพ ที่ระบุว่า กลุ่มอีสานพัฒนา เป็นต้นเหตุของความแตกแยก ว่า ไม่มีใครเป็นตัวเริ่มต้น และวันนี้ ส.ส.ของพรรคก็จะอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง เพื่อช่วยนายกรัฐมนตรี ในการบริหารงาน การที่ร.ท.กุเทพ จะอออกมาแถลงข่าว ถือเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัวที่ต้องเคารพ เพราะความเห็น ส.ส.เป็นเรื่องยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะห้ามกันได้
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ที่เคยขู่ว่าจะเสนอให้พรรคถอด ร.ท.กุเทพ จากตำแหน่งโฆษกพรรค กล่าวว่า สิ่งที่พวกตนทำถูกต้องแล้ว เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย และพรรคการเมืองของตัวเอง ไม่ใช่มาพูดในสิ่งที่ไม่ใช่มติพรรค แต่ความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร ถ้าจะถามตนว่าสิ่งที่ ร.ท.กุเทพ พูดถูกต้องหรือไม่ สังคมต้องเป็นผู้พิจารณา
"พวกผมยืนหยัดบนความถูกต้อง ยืนหยัดหลักประชาธิปไตย ซึ่งต่างคนต่างความคิด อีกฝ่ายก็คงคิดว่าเขาถูกต้อง จึงไม่สามารถไปตอบแทนได้ ว่าใครถูก ใครผิด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มอีสานพัฒนา จะหยุดแค่นี้หรือจะเดินต่อไป นายศักดา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูล และยังไม่ได้ดูเลยว่า ร.ท.กุเทพ พูดว่าอย่างไร ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ร.ท.กุเทพ แถลงข่าวบิดเบือนมติพรรคนั้น เป็นขั้นต้นที่ทางพรรคจะดำเนินการ และตำแหน่งต่างๆ ในพรรคขณะนี้ก็เป็นแค่รักษาการ ส.ส.ของพรรคมีกว่า 200 คน อาจมีความเห็นแตกต่างกัน
" ร.ท.กุเทพ เป็นส.ส.อยู่ในวงการเมืองด้วยกันมา ยืนหยัดอยู่บนท้องสนามหลวงด้วยกันมา ในช่วงการต่อสู้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ขึ้นปราศรัย แต่ก็เดินอยู่บนถนนราชดำเนิน" นายศักดิ์ดา กล่าว
เมื่อถามว่าความขัดแย้งในเรื่องนี้ เริ่มต้นจากอะไร นายศักดา กล่าวว่า ยังนึกไม่ออก อาจเป็นไปได้ว่า ผู้แทนมาจากหลายพื้นที่ แต่ละพื้นที่มีสภาพปัญหาแตกต่างกัน บางครั้งความคิดเห็นก็อาจจะแตกต่างกัน แต่ก็เคารพซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีเรื่องถึงกับไม่พูดไม่จากัน
เมื่อถามว่าที่ผ่านมา ร.ท.กุเทพ ปกป้องพรรคมาตลอด แต่วันนี้ทำไมถึงมาแถลงข่าวแบบนี้ มองว่าได้รับคำสั่งจากใคร หรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า ไม่ทราบ พูดไปมากกว่านี้จะเหมือนไปให้ร้ายกัน เมื่อถามว่าความขัดแย้งวันนี้เฉพาะกลุ่มอีสานพัฒนา หรือกลุ่มเพื่อนเนวินด้วย นายศักดา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ความคิดแต่ละคนมีเยอะ
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าส.ส.อีสานพัฒนา จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งขึ้น นายศักดา กล่าวว่า ถ้าดูจากอดีตมาถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าพรรคไทยรักไทย ก็ถูกยุบ ต่อไปคาดว่าพรรคพลังประชาชน ก็คงตกอยู่ในภาวะนั้นเช่นกัน ฉะนั้นผู้ใหญ่ในพรรคคงเตรียมพร้อมตั้งพรรคเพื่อไทยขึ้นมารองรับ ถ้าหากพรรคพลังประชาชนยุบ ก็ย้ายไปพรรคเพื่อไทย แต่หากสมาชิกคนใดมีความเห็นแตกต่างกันมาก อุดมการณ์ทางการเมืองไม่เหมือนกัน ก็อาจะเปลี่ยนแปลงได้
**ใบปลิวถล่ม"โกวิท" สุนัขรับใช้
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้(1ต.ค.) ได้มีใบปลิวแปะไว้ในห้องน้ำ ชั้น 3 และชั้น 5 ของอาคารกรมการปกครอง โดยมีเนื้อหาระบุว่า"ในสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ กระทรวงมหาดไทยอยู่ในยุคมืดมน เพราะถูกบดบังด้วยอิทธิพลของคนตระกูลชิดชอบ ที่ส่งสมุนมากำกับรัฐมนตรีโกวิท อำนาจตัดสินใจก็ไม่มี และส่งนายศักดิ์สยาม มาประกบรัฐมนตรี แล้วส่งมือขวาคือ นายสุพล เข้ามาเป็น มท. 2 แล้วยังมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดขายตัว 3-4 คน มาเป็นสุนัขรับใช้ มีหน้าที่ตรวจสอบ วางยา หากคนที่ไม่ใช่คนของตน ก็กลั่นแกล้ง หาคนของตัวเองมาลงแทน รวมทั้งพยายามสะสมทุนสำรองทางการเมือง หวังทรยศ นายทักษิณ และฌาปนกิจเรียบร้อย "
เนื้อหาระบุอีกว่า"เมื่อมาถึงรัฐบาลสมชาย ครั้งแรกก็ดีใจที่พรรคพลังประชาชนจัดการ แก๊งออฟโฟร์ แต่รัฐมนตรีโกวิท ก็ยังหลงลมไอ้ห้อย เอากรมท้องถิ่นมาดูแลเองตามคำสั่ง และยังใช้บริการรองผู้ว่าฯ 3 คน ที่ นายศักดิ์สยาม เลี้ยงเอาไว้เป็นหมาในบ้าน คอยวางแผนทั้งเรื่องการเลือกตั้ง รีดไถ และแต่งตั้งคน โดยเอาแต่พวกพ้อง จึงอยากถามว่า รัฐมนตรีโกวิท จะเอาอย่างไร แล้วใครกันแน่ที่เป็นรัฐมนตรีตัวจริง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรัฐบาลสมชายนี้ มีรมช.มหาดไทย ที่มาจากกลุ่มอีสานพัฒนา คือนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ตนทำหน้าที่โฆษกพรรคมา 2 ปีกว่า ต้องฝ่าวิกฤติในการต่อสู้เผด็จการต้องทำงานหนัก ตอบโต้กับคนที่ใช้อำนาจเผด็จการ มีกำลัง มีอาวุธ บางเรื่องก็ถูกฟ้อง แต่ก็ไม่เคยร้องขออะไรจากพรรค แต่คนในพรรคก็ไม่เข้าใจ การมาแถลงในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะผิดหวัง หรืออกหักจากตำแหน่ง เพราะตอนที่พรรคชนะเลือกตั้งก็ไม่เคยไปวิ่งเต้น เพราะหากทำ ตนก็คงตีรวนไปแล้ว เพราะทำหน้าที่เคียงคู่กับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ มาตั้งแต่แรก จนพรรคได้รับชัยชนะ แต่ในพรรคตนขอยกไว้ 3 คนคือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่ต้องตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรค ทำให้ภาระหนักบนบ่าของทุกคนในพรรคหมดไป และตนก็สิ้นสภาพไปก่อนที่จะถูกปลด
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า สิ่งที่ตนรับไม่ได้คือมีการกล่าวหาว่า ตนบิดเบือนมติพรรค ซึ่ง การทำลายล้างกันทางการเมืองที่รุนแรงมาก ถึงขั้นจะถอดถอนตน แล้วตนจะเล่นการเมืองต่อไปได้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ แต่ขอยืนยันว่า ไม่เคยบิดเบือน แต่ที่เกิดความสับสนเพราะภายในพรรคแบ่งเป็นกลุ่มชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มอีสานพัฒนา ที่มองว่าหากนายสมัคร ยังเป็นนายกฯต่อไป จะทำให้อีกกลุ่มได้จัดการอำนาจ จึงเกิดการขัดแย้ง หากมีการกล่าวหาคนอื่นว่าเป็น "แก๊งออฟโฟร์" ซึ่งตนไม่ให้ค่าของคนคนนี้ เพราะที่ผ่านมา เคยพบว่าคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็เคยอยู่ที่ชั้น พี 8 ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายเนวิน ชิดชอบ แต่ตอนหลังมาผิดใจอะไรกันไม่รู้ จึงแยกตัวออกไป โดยไปวางแผนร่วมกับอีกกลุ่ม ซึ่งตนยืนยันว่า กลุ่มของนายสมัคร จัดสรร ตำแหน่งได้เหมาะสม ให้เกียรติกัน ไม่หักหาญ แต่กลุ่มดังกล่าวก็ไม่ยอม ถึงกับจะไปตั้งพรรคใหม่ โดยไม่ยอมทำความเข้าใจกันภายในพรรค
ร.ท.กุเทพ กล่าวด้วยว่า หากใครยังมาตอแยกับตน ก็จะตอบโต้กลับไป เพราะรู้และเห็นถึงความพยายามของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่ทำเพราะไม่ไว้ใจเพื่อน จึงช่วงชิงฉกฉวย ลุกลี้ลุกลน เข้ามาจัดการอำนาจทางการเมือง ขณะที่เรายังยึดมาตรการไม่ยึดนาย ไม่ขายเพื่อน
การที่นายสมัครพลาดท่าในสภา ถ้าเกิดจากพรรคอื่นจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เกิดจากคนในพรรคเดียวกัน ท่านจึงรู้สึกเจ็บปวด เพราะถือว่าไม่ใช่วิสัยของพรรคการเมือง และไม่ใช่วิสัย ของสุภาพบุรุษ ซึ่งทุกก้าวย่างของบุคคลพวกนี้ ตนมีข้อมูลอธิบายได้
"รู้อยู่ว่า คมช.วางกฎเกณฑ์ เพื่อจะทำลายล้างพรรคการเมือง แต่เราเสียใจที่การเมืองมาทำลายล้างกันภายในพรรค วันนี้พรรคตกอยู่ในสภาพจะโดนยุบอยู่แล้ว คนที่กระโจนขึ้นไปจากพรรค พอลมเปลี่ยนทิศมองกลับมาเห็นว่าพอมีเศษอาหารเหลืออยู่บ้าง ก็กลับเข้ามา วันนี้อยากเล่นเกมบ้าๆ บอๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ผมรู้เบื้องหลังทุกคนว่าใครเคยด่า พ.ต.ท.ทักษิณ แต่สุดท้ายต้องไปกราบขอโทษเพื่อขอลงสมัคร และตอนนี้ก็ประกาศตัวว่าจะลงเลือกตั้งซ่อมส.ส.ร้อยเอ็ด ในนามพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้ต้องมาวิ่งเป็นเลขารัฐมนตรี" ร.ท.กุเทพกล่าว
ร.ท.กุเทพ กล่าวอีกว่าวันนี้ทั้ง นายสมัคร และนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการเลขาธิการพรรค และตน เราพอแล้ว เหนื่อยกับการต่อสู้ ถึงจะตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็ไม่มีความสำคัญ เพราะต้องรอวันถูกยุบพรรค ซึ่งเราไม่ได้กระทำ แต่ใครทำทุกคนก็รู้อยู่ แต่เราต้องมาติดกับซาก เรือที่กำลังจม ต่อไปใครจะจัดการอย่างไรก็อย่าหยามเหยียดศักดิ์ศรีของคนอื่น
เมื่อถามว่าได้โทรศัพท์พูดคุยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับทราบบ้างหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เราไม่ใช่ระดับที่จะไปประสานโดยตรง ที่จริงเราไม่ควรข้องแวะหรือรบกวนท่านเลย แต่คนที่ไปอ้างว่าจะจัดการเพื่อนาย ถามว่าทำอะไรให้นายสำเร็จในเรื่องใดบ้าง ไม่อยากคุย ตอนที่ตนไปแต่งกลอนหมอลำ เผยแพร่ในภาคอีสาน ยังได้ใจคนอีก เปรียบตามหลักศาสนาคริสต์ พวกที่แอบอ้างว่าจัดการเพื่อนาย ก็เหมือนพวกที่แอบอ้างว่าใครจะเข้าถึงพระเจ้า ต้องผ่านตัวเอง
ส่วนนโยบายที่จะให้รัฐมนตรี 1 คน ดูแลส.ส.10 คน ไม่รู้คิดอะไร หรือยึดกฎเกณฑ์อะไรมาจับ ส.ส.ก็มีจิตสำนึก แต่รัฐบาลต้องทำให้ส.ส.ทำหน้าที่ของตัวเองได้ การตั้งพรรคเพื่อไทย หากตั้งขึ้นมาเพื่อตีกัน หรือกำราบคนอื่น เอากลุ่มโน้น ไม่เอากลุ่มนี้ ก็จะเป็นพรรคปิด ซึ่งต่างจากพรรคพลังประชาชน ที่เป็นพรรคเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมทำงาน แล้วพรรคเพื่อไทย จะเป็นพรรคใหญ่ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงข่าวปรากฏว่า นางทิพย์วัลย์ สมุทรักษ์ ส.ว.สรรหา มารดา ของนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มารอแถลงข่าวและร่วมรับฟังการแถลงข่าวของร.ท.กุเทพ ได้ลุกขึ้นมาจับมือร.ท.กุเทพ แล้วกล่าวว่าพวกเราส.ว.ขอให้กำลังใจท่าน
**"สมชาย"ไม่จำเป็นต้องเคลียร์"กุเทพ"
ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงความขัดแย้งภายในพรรคว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่บานปลายอย่างแน่นอน เพราะในพรรคมีความเป็นประชาธิปไตย สมาชิกคิดอะไรก็พูดกันออกมา แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้างตามประสาคนหมู่มาก แต่สุดท้ายก็หารือ ทำความเข้าใจกันได้ จึงไม่รู้สึกว่าการที่สมาชิกออกมาพูดอะไรแล้วจะส่งผลกระทบต่อพรรค เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว นายสมชาย กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ แต่เข้าใจว่าคนที่ออกมาพูดต้องการอยากเห็นความเป็นธรรม ตนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ อยู่ตรงกลาง ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย นำมาขบคิด พิจารณาดูว่ามีเหตุผลอย่างไร ต่อไปจะได้ทำความเข้าใจ และพยายามทำให้ทุกคนในพรรคมีความสบายใจ และทำให้พรรคมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้เป็นผู้นำตัวจริง เพราะเป็นรองหัวหน้าพรรค และหลังจากที่นายสมัคร ได้ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ก็ยังไม่ได้เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่ตนยังต้องทำหน้าที่แทนไปก่อน และจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่จำเป็นที่ต้องมีการเรียกร.ท. กุเทพ มาพูดคุย หรือทำความเข้าใจ
**ไม่สน..อยากแถลงก็แถลงไป
ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน ในฐานะหัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา ได้ออกมาตอบโต้ร.ท.กุเทพ ที่ระบุว่า กลุ่มอีสานพัฒนา เป็นต้นเหตุของความแตกแยก ว่า ไม่มีใครเป็นตัวเริ่มต้น และวันนี้ ส.ส.ของพรรคก็จะอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง เพื่อช่วยนายกรัฐมนตรี ในการบริหารงาน การที่ร.ท.กุเทพ จะอออกมาแถลงข่าว ถือเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัวที่ต้องเคารพ เพราะความเห็น ส.ส.เป็นเรื่องยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะห้ามกันได้
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ที่เคยขู่ว่าจะเสนอให้พรรคถอด ร.ท.กุเทพ จากตำแหน่งโฆษกพรรค กล่าวว่า สิ่งที่พวกตนทำถูกต้องแล้ว เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย และพรรคการเมืองของตัวเอง ไม่ใช่มาพูดในสิ่งที่ไม่ใช่มติพรรค แต่ความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร ถ้าจะถามตนว่าสิ่งที่ ร.ท.กุเทพ พูดถูกต้องหรือไม่ สังคมต้องเป็นผู้พิจารณา
"พวกผมยืนหยัดบนความถูกต้อง ยืนหยัดหลักประชาธิปไตย ซึ่งต่างคนต่างความคิด อีกฝ่ายก็คงคิดว่าเขาถูกต้อง จึงไม่สามารถไปตอบแทนได้ ว่าใครถูก ใครผิด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มอีสานพัฒนา จะหยุดแค่นี้หรือจะเดินต่อไป นายศักดา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูล และยังไม่ได้ดูเลยว่า ร.ท.กุเทพ พูดว่าอย่างไร ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ร.ท.กุเทพ แถลงข่าวบิดเบือนมติพรรคนั้น เป็นขั้นต้นที่ทางพรรคจะดำเนินการ และตำแหน่งต่างๆ ในพรรคขณะนี้ก็เป็นแค่รักษาการ ส.ส.ของพรรคมีกว่า 200 คน อาจมีความเห็นแตกต่างกัน
" ร.ท.กุเทพ เป็นส.ส.อยู่ในวงการเมืองด้วยกันมา ยืนหยัดอยู่บนท้องสนามหลวงด้วยกันมา ในช่วงการต่อสู้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ขึ้นปราศรัย แต่ก็เดินอยู่บนถนนราชดำเนิน" นายศักดิ์ดา กล่าว
เมื่อถามว่าความขัดแย้งในเรื่องนี้ เริ่มต้นจากอะไร นายศักดา กล่าวว่า ยังนึกไม่ออก อาจเป็นไปได้ว่า ผู้แทนมาจากหลายพื้นที่ แต่ละพื้นที่มีสภาพปัญหาแตกต่างกัน บางครั้งความคิดเห็นก็อาจจะแตกต่างกัน แต่ก็เคารพซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีเรื่องถึงกับไม่พูดไม่จากัน
เมื่อถามว่าที่ผ่านมา ร.ท.กุเทพ ปกป้องพรรคมาตลอด แต่วันนี้ทำไมถึงมาแถลงข่าวแบบนี้ มองว่าได้รับคำสั่งจากใคร หรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า ไม่ทราบ พูดไปมากกว่านี้จะเหมือนไปให้ร้ายกัน เมื่อถามว่าความขัดแย้งวันนี้เฉพาะกลุ่มอีสานพัฒนา หรือกลุ่มเพื่อนเนวินด้วย นายศักดา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ความคิดแต่ละคนมีเยอะ
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าส.ส.อีสานพัฒนา จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งขึ้น นายศักดา กล่าวว่า ถ้าดูจากอดีตมาถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าพรรคไทยรักไทย ก็ถูกยุบ ต่อไปคาดว่าพรรคพลังประชาชน ก็คงตกอยู่ในภาวะนั้นเช่นกัน ฉะนั้นผู้ใหญ่ในพรรคคงเตรียมพร้อมตั้งพรรคเพื่อไทยขึ้นมารองรับ ถ้าหากพรรคพลังประชาชนยุบ ก็ย้ายไปพรรคเพื่อไทย แต่หากสมาชิกคนใดมีความเห็นแตกต่างกันมาก อุดมการณ์ทางการเมืองไม่เหมือนกัน ก็อาจะเปลี่ยนแปลงได้
**ใบปลิวถล่ม"โกวิท" สุนัขรับใช้
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้(1ต.ค.) ได้มีใบปลิวแปะไว้ในห้องน้ำ ชั้น 3 และชั้น 5 ของอาคารกรมการปกครอง โดยมีเนื้อหาระบุว่า"ในสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ กระทรวงมหาดไทยอยู่ในยุคมืดมน เพราะถูกบดบังด้วยอิทธิพลของคนตระกูลชิดชอบ ที่ส่งสมุนมากำกับรัฐมนตรีโกวิท อำนาจตัดสินใจก็ไม่มี และส่งนายศักดิ์สยาม มาประกบรัฐมนตรี แล้วส่งมือขวาคือ นายสุพล เข้ามาเป็น มท. 2 แล้วยังมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดขายตัว 3-4 คน มาเป็นสุนัขรับใช้ มีหน้าที่ตรวจสอบ วางยา หากคนที่ไม่ใช่คนของตน ก็กลั่นแกล้ง หาคนของตัวเองมาลงแทน รวมทั้งพยายามสะสมทุนสำรองทางการเมือง หวังทรยศ นายทักษิณ และฌาปนกิจเรียบร้อย "
เนื้อหาระบุอีกว่า"เมื่อมาถึงรัฐบาลสมชาย ครั้งแรกก็ดีใจที่พรรคพลังประชาชนจัดการ แก๊งออฟโฟร์ แต่รัฐมนตรีโกวิท ก็ยังหลงลมไอ้ห้อย เอากรมท้องถิ่นมาดูแลเองตามคำสั่ง และยังใช้บริการรองผู้ว่าฯ 3 คน ที่ นายศักดิ์สยาม เลี้ยงเอาไว้เป็นหมาในบ้าน คอยวางแผนทั้งเรื่องการเลือกตั้ง รีดไถ และแต่งตั้งคน โดยเอาแต่พวกพ้อง จึงอยากถามว่า รัฐมนตรีโกวิท จะเอาอย่างไร แล้วใครกันแน่ที่เป็นรัฐมนตรีตัวจริง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรัฐบาลสมชายนี้ มีรมช.มหาดไทย ที่มาจากกลุ่มอีสานพัฒนา คือนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข