เหตุการณ์อันธพาลในกำกับของรัฐบาล รุมทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯอุดรธานี ที่ชุมนุมกันอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ อย่างโหดเหี้มผิดมนุษย์ สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก แต่"หมัก"ทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่ "เป็ดเหลิม" ให้ท้าย "กุ๊ยอุดร" อ้างพันธมิตรฯแส่ไปชุมนุมในถิ่นคนรักทักษิณเอง ปัดรัฐบาลไม่เกี่ยว แถมโทรไปให้กำลังใจแกนนำถ่อย ด้านผู้ว่าฯอุดร บอกเตือนแล้วว่าอย่าตั้งเวที ก็ไม่ฟัง ส่วนผบ.ตร. ทำทีคาดโทษลูกน้อง ขณะที่ ผบ.ทบ.ก็อ้างไม่มีอำนาจจัดการ แม้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงภายใน ประชาธิปัตย์ แฉมีการทุ่มเงิน 30 ล้าน กระจายจัดทีมอันธพาลไว้ทุบตีพันธมิตรฯ จี้รัฐบาลเอาผิดแก๊งถ่อยพร้อมผู้บงการมาลงโทษ จวก"เหลิม"ไม่มีคุณสมบัติแม้กระทั่งการเป็นนักการเมือง
เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (25 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปบันทึกเทปโทรทัศน์อาเศียรวาท 12 สิงหา มหาราชินี ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 โดยภายหลังการบันทึกเทป ผู้สื่อข่าวพยามถามถึงกรณี อันธพาลการเมือง ภายใต้ชื่อกลุ่มคนรักอุดรไล่กลุ้มรุมทำร้าย กลุ่มพันธมิตรฯ ที่เปิดเวทีปราศรัย ที่ จ.อุดรธานี แต่นายสมัคร ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับโบกมืออย่างเช่นเคย ก่อนจะเดินทางไปเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ไปเป็นประธานเปิดประชุม พร้อมมอบนโยบายให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จ.อุดรธานี ว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้นเหตุที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะไปเคลื่อนไหวชุมนุมตามจังหวัดต่างๆ เพื่อโจมตีรัฐบาล และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งๆ ที่พื้นที่ต่างๆนั้นประชาชนให้การสนับสนุนรัฐบาล และพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้คนในพื้นที่ไม่พอใจ จึงเกิดการปะทะกันขึ้น
"หากพันธมิตรฯไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ก็ต้องยุติการเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาล ผมขอบอกผ่านทางสื่อเลยว่า อยากจะเจรจากับนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ให้ยุติการชุมนุม เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเสียที"
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวด้วยว่า ตามที่ได้รับรายงาน มีผู้บาดเจ็บ 13 คน ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้มีการกำชับไปยังผู้ว่าฯ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัด ให้มีการเตรียมความพร้อม ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงซ้ำรอยอีก
"การปะทะที่มีการใช้อาวุธเข้าทำร้ายกัน อาจเป็นการกระทำของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่หวังดี เพื่อป้ายสีรัฐบาล แต่เรื่องดังกล่าวคงไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมขึ้น เพราะความแตกแยกมีมานานแล้ว และหากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่หยุดกระทำการลักษณะนี้ ก็อาจเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาต่างชาติขึ้น แต่ยืนยันไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชน ถึงแม้เขตดังกล่าวเป็นพื้นที่ของพรรค ซึ่งหากมีประชาชนเกลียดชัง จึงถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยแล้ว"
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.เฉลิม ได้โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร ในการกระทำที่เกิดขึ้นด้วย
ด้าน นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ ซึ่งเป็นพี่ชายนายอุทัย แสนแก้ว ซึ่งปรากฏภาพว่า เกี่ยวข้องกับการไล่ทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯด้วย โดยปฏิเสธว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผวจ.อุดรธานี ยืนยันว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และก่อนหน้านี้เคยเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ขอให้งดจัดกิจกรรม เนื่องจากเกิดเหตุวุ่นวายระหว่างกลุ่มต่อต้านกับกลุ่มพันธมิตรฯ มาแล้วหลายครั้ง แต่ว่าไม่มีฝ่ายใดให้ความร่วมมือ
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 13 คน ส่วนใหญ่กลับบ้านได้แล้ว เหลือผู้บาดเจ็บ 4 คน ที่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งมีรายงานว่าผู้บาดเจ็บรายหนึ่ง เป็นนายทหาร ยศ พล.ต.
ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องออกมาเคลียร์
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความผิดของรัฐบาล แต่เป็นความผิดของคนที่ไม่เคารพกฎ กติกาบ้านเมือง และเชื่อว่าการปะทะกันจะเกิดอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ฝ่ายต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ มีอารมณ์ร่วมกับการต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ในหลายจังหวัด
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าคนของรัฐบาลอยู่เบื้องหลังนั้น จริงๆ แล้วไม่ว่าฝ่ายไหนก็มีผู้อยู่เบื้องหลังทั้งนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ก็มีฝ่ายค้านเช่นกัน ดังนั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรออกมาเคลียร์เรื่องนี้
"ใครรู้ตัวว่าเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ควรออกมา เพราะขณะนี้กติกาบ้านเมืองถูกละเมิดจนหมด เรามีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ยอมรับกติกา" นายวุฒิพงศ์กล่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบถ่อย วานนี้( 25 ก.ค.) นายขวัญชัย ไพรพนา, นายอุทัย แสนแก้ว แกนนำชมรมคนรักอุดรฯ ได้ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะบนเวทีที่จัดตั้งขึ้น บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมทั้ง มี ส.ส.พรรคพลังประชาชน จ. อุดรธานี เข้าร่วมเวทีจำนวนมาก เช่น นายวิเชียร ขาวขำ นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ และนายอนันต์ ศรีพันธุ์ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนชาวอุดรธานี ประมาณ 500 คน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้มาชุมนุม ส่วนใหญ่มีแต่คนแก่ และสอบถามเมื่อสอบถามผู้ชุมนุมเหล่านี้ว่าเป็นใครมาจากไหน ทราบว่า เป็นชาวบ้านที่มาจาก อำเภอน้ำโสม ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า ชาวบ้านที่นำมาในวันนี้ ล้วนถูกจ้างมาทั้งนั้น
ขณะที่ ช่วงสาย นายขวัญชัย สาระคำ พร้อมด้วยนายอุทัย แสนแก้ว ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยบนเวทีประกาศชัยชนะ และเล่าเหตุการณ์ ที่ชมรมคนรักอุดรฯ บุกเข้าไปทำร้าย ทำลายข้าวของ อย่างสะใจ พร้อมเสียงโห่ร้องปรบมือกันดังลั่นทุ่งศรีเมือง
คาดโทษผู้การฯต้องรับผิดชอบ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะกันเช่นนี้ ผู้บัญชาการภาค และ ผู้บังคับการจังหวัด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความสนใจ โดย ตร.จะมีการประชุมระดับรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อกำหนดนโยบายในเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่า ผบช. และ ผบก. จะต้องทำอะไรบ้างเมื่อมีการชุมนุม ต้องชัดเจน หากเกิดกรณีเช่นนี้อีกผู้บังคับการต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
"ความเสียหายของประเทศเกิดขึ้นมาก ตำรวจถือเป็นด่านหน้า เรากำลังดูว่า มีกฎหมายอื่นรองรับส่วนนี้หรือไม่ ในส่วนของทหารก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายความมั่นคง ซึ่งจะมีการหารือกับทหารอีกครั้ง เช่น กอ.รมน. ภาค และจังหวัด ถ้าสามารถจัดการได้ชัดเจน ผู้ว่าฯ และตำรวจ จะช่วยกันดูแลตรงนี้ และทหารก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รายละเอียดจะไปศึกษากฎหมายอีกครั้ง ส่วนจะเสนอรัฐบาลอย่างไร จะดูอีกครั้ง" ผบ.ตร. กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร. กล่าวว่า ตร.ก็เกรงว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีกในหลายพื้นที่ แต่เหตุการณ์เช่นที่ จ.อุดรธานี บางครั้งก็เกินความคาดหมาย เวลาสั้น ก็เกิดการชุลมุน ถือเป็นบทเรียนที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวัง อย่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าใกล้กันหรือมีการยั่วยุ ซึ่งจะนำมาสู่การปะทะจนบาดเจ็บทั้งผู้ชุมนุมและตำรวจ
เหตุที่ จ.อุดรธานี พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตตานนท์ ผบช.ภ.4 ได้แถลงข่าวแล้วว่า ตำรวจที่ดูแลไม่ได้นิ่งนอนใจ รวมทั้ง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปานสิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ให้ไปดูแลร่วมกับตำรวจพื้นที่เรื่องการสืบสวนหาผู้กระทำผิด รวมทั้งตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ก็มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในเรื่องนี้ และกำลังตรวจสอบพยานหลักฐานจากภาพถ่าย และพยาน โดยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ส่วนจะดำเนินการอย่างไรกับตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบนั้น ถ้าเป็นเรื่องของความบกพร่องในหน้าที่ ต้องดูระดับความรุนแรงของความบกพร่อง เพราะระเบียบวินัยตำรวจมีการกำหนดอย่างชัดเจน ถ้าถูกกล่าวหาว่าบกพร่อง ก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการว่าทำตามหน้าที่หรือไม่ คงบอกไม่ได้ว่าถึงขั้นไหน อย่างไร
ผบ.ทบ.ปัดกองทัพไม่มีอำนาจยุติปัญหา
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า นายกฯไม่ได้ปรารภอะไรเรื่องนี้ แต่เห็นว่าไม่ควรมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น เพราะไม่เป็นสิ่งที่ดีกับประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง มันจะเสียหายกับภาพพจน์ และไม่เป็นสิ่งที่ดีกับเยาวชนในอนาคต เมื่อถามว่า จะยุติปัญหาอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กองทัพบกไม่มีอำนาจ
“เจริญ”เตรียมฟ้องถึงที่สุด
ด้าน นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำพันธมิตรฯอุดรธานี กล่าวว่า รู้ สลดใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนของพันธมิตรฯ บาดเจ็บทั้งหมด 13 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน ส่วนมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปเบื้องต้น จะแจ้งความชมรมคนรักอุดรฯ ในข้อหาพยายามฆ่า และจะปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินคดีในขั้นต่อไป
ส.ว.ชี้ มท.1 ผิดอาญา ฐานยุยงส่งเสริม
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าหารือด่วนในที่ประชุมกมธ. และดูภาพถ่ายวีดีโอ ว่าเข้าข่ายพยายามทำร้ายร่างกายหรือไม่ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อกระแสข่าวที่ว่า รมว.มหาดไทย โทรศัพท์ไปให้กำลังใจนายขวัญชัย ไพรพนา ที่ทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้าหากเป็นความจริงถือว่า รมว.มหาดไทย เข้าข่ายความผิดทางอาญา ฐานยุยงส่งเสริม ซึ่งเรื่องนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว แต่หากตำรวจและรัฐบาลไม่ดำเนินการ ทางกมธ. ก็จะดำเนินการตรวจสอบ โดยจะเชิญทั้งกระทรวงมหาดไทย และตำรวจมาชี้แจง หากรัฐบาลแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ก็ขอให้พิจารณาตัวเอง
ระบุตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง หลังการประชุม โดย กมธ.ได้ดูวีดีโอ และภาพถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่ป่าเถื่อน เหมือนมีการพยายามฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ทางกมธ.จึงมีมติให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหากมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน กมธ.จะมีการประชุมฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กมธ.เห็นว่า มีการเพิกเฉยต่อการเข้าระงับเหตุการณ์ ซึ่งอาจเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยบางนายได้มีการเดินตามบุคคลที่มีการก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้มีการห้ามปราม หรือจับกุม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ควรมีการออกหมายจับหรือจับกุม ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งสิ้น หากเป็นเช่นนี้อาจถือได้ว่าเป็นการละเว้นปฎิบัติหน้าที่ โดยผู้กำกับการตำรวจ และผู้ว่าราชการจังหวัดควรต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะในแต่ละจังหวัดจะมีกองกำลังปราบจลาจลทุกจังหวัด ควรให้เข้าไปควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้บานปลาย
ต้องจับแก๊งนรกลงโทษ พร้อมผู้บงการ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการใช้สิทธิเสรีภาพของทุกคน ทุกฝ่าย มีขอบเขตที่กำหนดไว้ในรธน. ดังนั้นใครจะมีความเห็นอย่างไร เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย กับใคร ชอบหรือไม่ชอบใคร ไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นที่จะต้องใช้ความรุนแรง ไปทำร้ายผู้อื่น จะตั้งเวทีก็ตั้งของตัวเองไป แต่ไม่มีเหตุผล ไม่มีกฎหมายที่ไหน อนุญาตให้ใช้ความรุนแรงแบบนี้ หากทำกันอย่างนี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบบการเมืองอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลต้องพิสูจน์ให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่า บ้านเมืองยังมีกฎหมายอยู่ โดยนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีการบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้หมดแล้ว
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ระบุว่าการแก้ปัญหานี้คือให้พันธมิตรฯ หยุดเคลื่อนไหวในทุกพื้นที่นั้น เป็นคำพูดที่ไม่มีความเหมาะสมใดๆทั้งสิ้นที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต่อไป เพราะทุกคนมีหน้าที่รักษากฎหมาย ถ้าร.ต.อ.เฉลิม อยากจะขอร้องพันธมิตรฯ ก็ขอขร้องได้ แต่สิ่งที่ต้องทำให้เห็นก่อนคือ เอาคนทำผิดมาลงโทษ และต้องสาวให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลังด้วย เพราะกระบวนการ การทำผิดกฎหมายในหลายๆ เรื่องขณะนี้ มีการทำเป็นกระบวนการ และน่าเชื่อได้ว่า ต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอสมควรในการอยู่เบื้องหลัง หรือสนับสนุนซึ่งต้องสาวให้ถึง
"แต่ถ้า รมว.มหาดไทย เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
แฉทุ่ม 30 ล.จ้างอันธพาลไล่ตีพันธมิตรฯ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.นั้น ตนได้บอกไปแล้วว่า ได้ข่าวว่ามีการกระจายเงินลงไปพื้นที่ ซึ่งบางจังหวัดได้กว่า 30 ล้านบาท เพื่อจัดม็อบไปชนม็อบ และตนได้ฝากไปยังเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง และผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้หาทางป้องกัน แต่ก็ยังมีการจัดม็อบไปทำร้ายกันจนบาดเจ็บจนได้ ซึ่งขณะนี้ตนไม่ทราบว่ายอดเงินจ่ายไปอย่างไร แต่เขาทำแล้วจริงๆ
"คนเขารู้กันทั้งนั้นว่า ใครเป็นคนสั่งการ หรือบงการ อย่าคิดว่าทำอะไรแล้วคนอื่นจะไม่รู้ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้บงการเลย ด้วยประการใดๆ ทั้งสิ้น ยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ที่เขาไม่ได้เลือกข้าง เขายืนดูสถานการ์อยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตปกติ แต่เมื่อไร เขาเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองจะทำให้กระทบกระเทือนต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน ต่อสถาบันฯ หลักของประเทศแล้ว เมื่อนั้นผู้สั่งการก็จะไม่มีที่อยู่ เป็นเรื่องที่อยากจะเรียนให้สังวรณ์ ว่านี่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาด้วยการเอาคนมาตีกัน มาปะทะกัน" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ถูกมองว่าอาจจะใช้เป็นข้ออ้างในการลี้ภัยทางการเมืองของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหนีกระบวนการยุติธรรมที่กำลังใกล้เข้ามา นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่เขาคิด แต่ตนคิดว่า เขาคิดผิด มีทางออกในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองได้ ไม่ใช่วิธีนี้ แม้แต่ปัญหาของเขาเอง ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ต้องใช้วิธีที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ถ้าเป็นคนไม่ยอมแพ้ เชื่อมั่นในอำนาจเงิน อิทธิพลของตัวเอง เชื่อถือพวกประจบสอพอ ตนคิดว่าอย่างนี้ พังกันหมด
เมื่อถามว่า ความรุนแรงจะขยายไปสู่พื้นที่อื่นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนทราบข่าวมาว่า มีการประชุมกันแล้ว ก็ถึงขนาดวางแผนว่า ใครจะขนคนจังหวัดไหนให้เข้ามาอยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ เมื่อถึงเวลาก็ลุกฮือเข้ามา โดยให้เอามาเชื่อมโยงเรื่องที่รัฐบาลจะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่ง ตนคิดว่า รัฐบาลไม่ควรทำอย่างนี้ ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด ถ้าคนที่อยู่ในระบบรัฐสภา คือทั้งฝ่ายค้านและ รัฐบาล เราก็ไปถกเถียง ต่อสู้กันในสภาอย่าให้ประชาชนต้องเดือดร้อน
ต่อข้อถามว่าการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย โทรศัพท์ไปแสดงความยินดี ให้กำลังใจกับนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ นายสุเทพ กล่าวว่า รมว.มหาดไทย ประพฤติไม่เหมาะสม ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริงๆ ไปสนับสนุนม็อบให้ทุบตีผู้ที่แสดงความคิดเห็นที่ เป็นสิทธิ์ของเขา ตนคิดว่า รมว.มหาดไทย ก็เสียสติ ไม่สมควรเป็นรัฐมนตรีเลย ถ้าหากเป็นจริงอย่างนั้น
ส่วนที่ระบุว่าจะให้ จ.อุดรธานี เป็นต้นแบบของการปกป้องประชาธิปไตยนั้น เมื่อถึงวันนั้นร.ต.อ.เฉลิม ก็จะตกเป็นจำเลยของคนทั้งประเทศ ถ้าพวกตนพิสูจน์ได้ว่า ร.ต.อ.เฉลิมเข้าไปเป็นคนสั่งการ หรือเป็น 1 ในกระบวนการที่เข้าไปยุยง ส่งเสริมให้คนยกพวกมาตีกัน เราก็จะเล่นงานร.ต.อ.เฉลิม ทางการเมืองอย่างไม่ยั้งมือ และถ้ารัฐบาลนี้อยู่เบื้องหลัง เราก็เอารัฐบาลนี้ไว้ไม่ได้
"สถานการณ์ขณะนี้เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ นายกฯต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีเป็นพิเศษ นายกฯ อย่าเอาตัวไปเกี่ยวข้อง แม้จะเคยพูดจาพลั้งเผลอไปบ้าง เรื่องว่าเห็นเขาฆ่ามากแล้ว ผมสั่งให้คนของผมมาฆ่าบ้าง ก็ถือว่าให้ลืมไปเสีย ให้คิดเรื่องของประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก ประเทศไม่มีวันยุติ หรือสงบได้ ด้วยการฆ่ากัน ปัญหาแก้ไม่ได้ด้วยการฆ่ากันในประเทศ ผมให้โอกาสนายกฯ สมัครให้ลงมาแก้ปัญหานี้ อย่าให้คนไทยมาตีกัน ถ้าแก้ไม่ได้ก็เป็นความบกพร่องของนายกฯ สมัครเอง" นายสุเทพ กล่าว
"แม้ว"ก็รู้พวกกูพวกมึงจะทำชาติพัง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เนื่องจากความไม่เข้าใจกันในหมู่คนไทย จึงอยากให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ก็ได้แต่เรียกร้องวิงวอน และพยายามไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไร เพราะอยากให้ทุกอย่างสงบและยุติโดยเร็ว แต่ถ้าต่างคนต่างกลั่นแกล้งทำร้ายกันและกัน คงยุติยาก
"หากทุกคนยังคิดว่าเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องรวมพลังกันไว้ ถ้าเรานึกตรงนี้ก็ไม่ยากที่จะยุติปัญหา แต่ถ้าคิดว่าเป็นพวกกู พวกมึง ทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกัน มันก็ลำบาก"พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และว่าวันแห่งความวุ่นวาย เป็นมาแล้ว 3 ปี ความไม่สงบของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น คนที่เดือดร้อนมากที่สุด คือคนไทยที่หาเช้ากินค่ำและประเทศชาติ
"ผมเข้าวัดทำบุญ นั่งสมาธิ อโหสิกรรมทุกวัน กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร ผู้จองเวรทั้งหลายตลอดเวลา ตัวผมนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือประเทศ อยากเห็นชีวิตคนไทยดีขึ้น หวังว่าคนไทยทุกคนจะให้อภัยกัน และนำความสันติกลับสู่ประเทศโดยเร็ว อยากให้ทุกคนอดทนกัน สักวันสิ่งที่ดีย่อมชนะสิ่งที่ไม่ดี วันนี้เขาไม่เข้าใจเรา สักวันเขาจะเข้าใจเรา" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และว่า ผู้ที่ได้ทำอะไรไม่ดีกับตนไว้ ตนก็ไม่ได้คิดที่จะไปล้างแค้นอะไร แต่ตรงข้ามอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้ประเทศเข้าสู่ความปรองดอง
เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (25 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปบันทึกเทปโทรทัศน์อาเศียรวาท 12 สิงหา มหาราชินี ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 โดยภายหลังการบันทึกเทป ผู้สื่อข่าวพยามถามถึงกรณี อันธพาลการเมือง ภายใต้ชื่อกลุ่มคนรักอุดรไล่กลุ้มรุมทำร้าย กลุ่มพันธมิตรฯ ที่เปิดเวทีปราศรัย ที่ จ.อุดรธานี แต่นายสมัคร ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับโบกมืออย่างเช่นเคย ก่อนจะเดินทางไปเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ไปเป็นประธานเปิดประชุม พร้อมมอบนโยบายให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จ.อุดรธานี ว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้นเหตุที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะไปเคลื่อนไหวชุมนุมตามจังหวัดต่างๆ เพื่อโจมตีรัฐบาล และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งๆ ที่พื้นที่ต่างๆนั้นประชาชนให้การสนับสนุนรัฐบาล และพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้คนในพื้นที่ไม่พอใจ จึงเกิดการปะทะกันขึ้น
"หากพันธมิตรฯไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ก็ต้องยุติการเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาล ผมขอบอกผ่านทางสื่อเลยว่า อยากจะเจรจากับนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ให้ยุติการชุมนุม เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเสียที"
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวด้วยว่า ตามที่ได้รับรายงาน มีผู้บาดเจ็บ 13 คน ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้มีการกำชับไปยังผู้ว่าฯ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัด ให้มีการเตรียมความพร้อม ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงซ้ำรอยอีก
"การปะทะที่มีการใช้อาวุธเข้าทำร้ายกัน อาจเป็นการกระทำของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่หวังดี เพื่อป้ายสีรัฐบาล แต่เรื่องดังกล่าวคงไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมขึ้น เพราะความแตกแยกมีมานานแล้ว และหากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่หยุดกระทำการลักษณะนี้ ก็อาจเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาต่างชาติขึ้น แต่ยืนยันไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชน ถึงแม้เขตดังกล่าวเป็นพื้นที่ของพรรค ซึ่งหากมีประชาชนเกลียดชัง จึงถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยแล้ว"
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.เฉลิม ได้โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร ในการกระทำที่เกิดขึ้นด้วย
ด้าน นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ ซึ่งเป็นพี่ชายนายอุทัย แสนแก้ว ซึ่งปรากฏภาพว่า เกี่ยวข้องกับการไล่ทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯด้วย โดยปฏิเสธว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผวจ.อุดรธานี ยืนยันว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และก่อนหน้านี้เคยเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ขอให้งดจัดกิจกรรม เนื่องจากเกิดเหตุวุ่นวายระหว่างกลุ่มต่อต้านกับกลุ่มพันธมิตรฯ มาแล้วหลายครั้ง แต่ว่าไม่มีฝ่ายใดให้ความร่วมมือ
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 13 คน ส่วนใหญ่กลับบ้านได้แล้ว เหลือผู้บาดเจ็บ 4 คน ที่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งมีรายงานว่าผู้บาดเจ็บรายหนึ่ง เป็นนายทหาร ยศ พล.ต.
ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องออกมาเคลียร์
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความผิดของรัฐบาล แต่เป็นความผิดของคนที่ไม่เคารพกฎ กติกาบ้านเมือง และเชื่อว่าการปะทะกันจะเกิดอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ฝ่ายต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ มีอารมณ์ร่วมกับการต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ในหลายจังหวัด
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าคนของรัฐบาลอยู่เบื้องหลังนั้น จริงๆ แล้วไม่ว่าฝ่ายไหนก็มีผู้อยู่เบื้องหลังทั้งนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ก็มีฝ่ายค้านเช่นกัน ดังนั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรออกมาเคลียร์เรื่องนี้
"ใครรู้ตัวว่าเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ควรออกมา เพราะขณะนี้กติกาบ้านเมืองถูกละเมิดจนหมด เรามีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ยอมรับกติกา" นายวุฒิพงศ์กล่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบถ่อย วานนี้( 25 ก.ค.) นายขวัญชัย ไพรพนา, นายอุทัย แสนแก้ว แกนนำชมรมคนรักอุดรฯ ได้ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะบนเวทีที่จัดตั้งขึ้น บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมทั้ง มี ส.ส.พรรคพลังประชาชน จ. อุดรธานี เข้าร่วมเวทีจำนวนมาก เช่น นายวิเชียร ขาวขำ นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ และนายอนันต์ ศรีพันธุ์ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนชาวอุดรธานี ประมาณ 500 คน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้มาชุมนุม ส่วนใหญ่มีแต่คนแก่ และสอบถามเมื่อสอบถามผู้ชุมนุมเหล่านี้ว่าเป็นใครมาจากไหน ทราบว่า เป็นชาวบ้านที่มาจาก อำเภอน้ำโสม ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า ชาวบ้านที่นำมาในวันนี้ ล้วนถูกจ้างมาทั้งนั้น
ขณะที่ ช่วงสาย นายขวัญชัย สาระคำ พร้อมด้วยนายอุทัย แสนแก้ว ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยบนเวทีประกาศชัยชนะ และเล่าเหตุการณ์ ที่ชมรมคนรักอุดรฯ บุกเข้าไปทำร้าย ทำลายข้าวของ อย่างสะใจ พร้อมเสียงโห่ร้องปรบมือกันดังลั่นทุ่งศรีเมือง
คาดโทษผู้การฯต้องรับผิดชอบ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะกันเช่นนี้ ผู้บัญชาการภาค และ ผู้บังคับการจังหวัด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความสนใจ โดย ตร.จะมีการประชุมระดับรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อกำหนดนโยบายในเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่า ผบช. และ ผบก. จะต้องทำอะไรบ้างเมื่อมีการชุมนุม ต้องชัดเจน หากเกิดกรณีเช่นนี้อีกผู้บังคับการต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
"ความเสียหายของประเทศเกิดขึ้นมาก ตำรวจถือเป็นด่านหน้า เรากำลังดูว่า มีกฎหมายอื่นรองรับส่วนนี้หรือไม่ ในส่วนของทหารก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายความมั่นคง ซึ่งจะมีการหารือกับทหารอีกครั้ง เช่น กอ.รมน. ภาค และจังหวัด ถ้าสามารถจัดการได้ชัดเจน ผู้ว่าฯ และตำรวจ จะช่วยกันดูแลตรงนี้ และทหารก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รายละเอียดจะไปศึกษากฎหมายอีกครั้ง ส่วนจะเสนอรัฐบาลอย่างไร จะดูอีกครั้ง" ผบ.ตร. กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร. กล่าวว่า ตร.ก็เกรงว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีกในหลายพื้นที่ แต่เหตุการณ์เช่นที่ จ.อุดรธานี บางครั้งก็เกินความคาดหมาย เวลาสั้น ก็เกิดการชุลมุน ถือเป็นบทเรียนที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวัง อย่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าใกล้กันหรือมีการยั่วยุ ซึ่งจะนำมาสู่การปะทะจนบาดเจ็บทั้งผู้ชุมนุมและตำรวจ
เหตุที่ จ.อุดรธานี พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตตานนท์ ผบช.ภ.4 ได้แถลงข่าวแล้วว่า ตำรวจที่ดูแลไม่ได้นิ่งนอนใจ รวมทั้ง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปานสิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ให้ไปดูแลร่วมกับตำรวจพื้นที่เรื่องการสืบสวนหาผู้กระทำผิด รวมทั้งตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ก็มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในเรื่องนี้ และกำลังตรวจสอบพยานหลักฐานจากภาพถ่าย และพยาน โดยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ส่วนจะดำเนินการอย่างไรกับตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบนั้น ถ้าเป็นเรื่องของความบกพร่องในหน้าที่ ต้องดูระดับความรุนแรงของความบกพร่อง เพราะระเบียบวินัยตำรวจมีการกำหนดอย่างชัดเจน ถ้าถูกกล่าวหาว่าบกพร่อง ก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการว่าทำตามหน้าที่หรือไม่ คงบอกไม่ได้ว่าถึงขั้นไหน อย่างไร
ผบ.ทบ.ปัดกองทัพไม่มีอำนาจยุติปัญหา
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า นายกฯไม่ได้ปรารภอะไรเรื่องนี้ แต่เห็นว่าไม่ควรมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น เพราะไม่เป็นสิ่งที่ดีกับประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง มันจะเสียหายกับภาพพจน์ และไม่เป็นสิ่งที่ดีกับเยาวชนในอนาคต เมื่อถามว่า จะยุติปัญหาอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กองทัพบกไม่มีอำนาจ
“เจริญ”เตรียมฟ้องถึงที่สุด
ด้าน นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำพันธมิตรฯอุดรธานี กล่าวว่า รู้ สลดใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนของพันธมิตรฯ บาดเจ็บทั้งหมด 13 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน ส่วนมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปเบื้องต้น จะแจ้งความชมรมคนรักอุดรฯ ในข้อหาพยายามฆ่า และจะปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินคดีในขั้นต่อไป
ส.ว.ชี้ มท.1 ผิดอาญา ฐานยุยงส่งเสริม
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าหารือด่วนในที่ประชุมกมธ. และดูภาพถ่ายวีดีโอ ว่าเข้าข่ายพยายามทำร้ายร่างกายหรือไม่ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อกระแสข่าวที่ว่า รมว.มหาดไทย โทรศัพท์ไปให้กำลังใจนายขวัญชัย ไพรพนา ที่ทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้าหากเป็นความจริงถือว่า รมว.มหาดไทย เข้าข่ายความผิดทางอาญา ฐานยุยงส่งเสริม ซึ่งเรื่องนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว แต่หากตำรวจและรัฐบาลไม่ดำเนินการ ทางกมธ. ก็จะดำเนินการตรวจสอบ โดยจะเชิญทั้งกระทรวงมหาดไทย และตำรวจมาชี้แจง หากรัฐบาลแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ก็ขอให้พิจารณาตัวเอง
ระบุตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง หลังการประชุม โดย กมธ.ได้ดูวีดีโอ และภาพถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่ป่าเถื่อน เหมือนมีการพยายามฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ทางกมธ.จึงมีมติให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหากมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน กมธ.จะมีการประชุมฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กมธ.เห็นว่า มีการเพิกเฉยต่อการเข้าระงับเหตุการณ์ ซึ่งอาจเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยบางนายได้มีการเดินตามบุคคลที่มีการก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้มีการห้ามปราม หรือจับกุม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ควรมีการออกหมายจับหรือจับกุม ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งสิ้น หากเป็นเช่นนี้อาจถือได้ว่าเป็นการละเว้นปฎิบัติหน้าที่ โดยผู้กำกับการตำรวจ และผู้ว่าราชการจังหวัดควรต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะในแต่ละจังหวัดจะมีกองกำลังปราบจลาจลทุกจังหวัด ควรให้เข้าไปควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้บานปลาย
ต้องจับแก๊งนรกลงโทษ พร้อมผู้บงการ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการใช้สิทธิเสรีภาพของทุกคน ทุกฝ่าย มีขอบเขตที่กำหนดไว้ในรธน. ดังนั้นใครจะมีความเห็นอย่างไร เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย กับใคร ชอบหรือไม่ชอบใคร ไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นที่จะต้องใช้ความรุนแรง ไปทำร้ายผู้อื่น จะตั้งเวทีก็ตั้งของตัวเองไป แต่ไม่มีเหตุผล ไม่มีกฎหมายที่ไหน อนุญาตให้ใช้ความรุนแรงแบบนี้ หากทำกันอย่างนี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบบการเมืองอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลต้องพิสูจน์ให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่า บ้านเมืองยังมีกฎหมายอยู่ โดยนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีการบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้หมดแล้ว
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ระบุว่าการแก้ปัญหานี้คือให้พันธมิตรฯ หยุดเคลื่อนไหวในทุกพื้นที่นั้น เป็นคำพูดที่ไม่มีความเหมาะสมใดๆทั้งสิ้นที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต่อไป เพราะทุกคนมีหน้าที่รักษากฎหมาย ถ้าร.ต.อ.เฉลิม อยากจะขอร้องพันธมิตรฯ ก็ขอขร้องได้ แต่สิ่งที่ต้องทำให้เห็นก่อนคือ เอาคนทำผิดมาลงโทษ และต้องสาวให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลังด้วย เพราะกระบวนการ การทำผิดกฎหมายในหลายๆ เรื่องขณะนี้ มีการทำเป็นกระบวนการ และน่าเชื่อได้ว่า ต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอสมควรในการอยู่เบื้องหลัง หรือสนับสนุนซึ่งต้องสาวให้ถึง
"แต่ถ้า รมว.มหาดไทย เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
แฉทุ่ม 30 ล.จ้างอันธพาลไล่ตีพันธมิตรฯ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.นั้น ตนได้บอกไปแล้วว่า ได้ข่าวว่ามีการกระจายเงินลงไปพื้นที่ ซึ่งบางจังหวัดได้กว่า 30 ล้านบาท เพื่อจัดม็อบไปชนม็อบ และตนได้ฝากไปยังเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง และผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้หาทางป้องกัน แต่ก็ยังมีการจัดม็อบไปทำร้ายกันจนบาดเจ็บจนได้ ซึ่งขณะนี้ตนไม่ทราบว่ายอดเงินจ่ายไปอย่างไร แต่เขาทำแล้วจริงๆ
"คนเขารู้กันทั้งนั้นว่า ใครเป็นคนสั่งการ หรือบงการ อย่าคิดว่าทำอะไรแล้วคนอื่นจะไม่รู้ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้บงการเลย ด้วยประการใดๆ ทั้งสิ้น ยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ที่เขาไม่ได้เลือกข้าง เขายืนดูสถานการ์อยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตปกติ แต่เมื่อไร เขาเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองจะทำให้กระทบกระเทือนต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน ต่อสถาบันฯ หลักของประเทศแล้ว เมื่อนั้นผู้สั่งการก็จะไม่มีที่อยู่ เป็นเรื่องที่อยากจะเรียนให้สังวรณ์ ว่านี่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาด้วยการเอาคนมาตีกัน มาปะทะกัน" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ถูกมองว่าอาจจะใช้เป็นข้ออ้างในการลี้ภัยทางการเมืองของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหนีกระบวนการยุติธรรมที่กำลังใกล้เข้ามา นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่เขาคิด แต่ตนคิดว่า เขาคิดผิด มีทางออกในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองได้ ไม่ใช่วิธีนี้ แม้แต่ปัญหาของเขาเอง ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ต้องใช้วิธีที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ถ้าเป็นคนไม่ยอมแพ้ เชื่อมั่นในอำนาจเงิน อิทธิพลของตัวเอง เชื่อถือพวกประจบสอพอ ตนคิดว่าอย่างนี้ พังกันหมด
เมื่อถามว่า ความรุนแรงจะขยายไปสู่พื้นที่อื่นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนทราบข่าวมาว่า มีการประชุมกันแล้ว ก็ถึงขนาดวางแผนว่า ใครจะขนคนจังหวัดไหนให้เข้ามาอยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ เมื่อถึงเวลาก็ลุกฮือเข้ามา โดยให้เอามาเชื่อมโยงเรื่องที่รัฐบาลจะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่ง ตนคิดว่า รัฐบาลไม่ควรทำอย่างนี้ ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด ถ้าคนที่อยู่ในระบบรัฐสภา คือทั้งฝ่ายค้านและ รัฐบาล เราก็ไปถกเถียง ต่อสู้กันในสภาอย่าให้ประชาชนต้องเดือดร้อน
ต่อข้อถามว่าการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย โทรศัพท์ไปแสดงความยินดี ให้กำลังใจกับนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ นายสุเทพ กล่าวว่า รมว.มหาดไทย ประพฤติไม่เหมาะสม ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริงๆ ไปสนับสนุนม็อบให้ทุบตีผู้ที่แสดงความคิดเห็นที่ เป็นสิทธิ์ของเขา ตนคิดว่า รมว.มหาดไทย ก็เสียสติ ไม่สมควรเป็นรัฐมนตรีเลย ถ้าหากเป็นจริงอย่างนั้น
ส่วนที่ระบุว่าจะให้ จ.อุดรธานี เป็นต้นแบบของการปกป้องประชาธิปไตยนั้น เมื่อถึงวันนั้นร.ต.อ.เฉลิม ก็จะตกเป็นจำเลยของคนทั้งประเทศ ถ้าพวกตนพิสูจน์ได้ว่า ร.ต.อ.เฉลิมเข้าไปเป็นคนสั่งการ หรือเป็น 1 ในกระบวนการที่เข้าไปยุยง ส่งเสริมให้คนยกพวกมาตีกัน เราก็จะเล่นงานร.ต.อ.เฉลิม ทางการเมืองอย่างไม่ยั้งมือ และถ้ารัฐบาลนี้อยู่เบื้องหลัง เราก็เอารัฐบาลนี้ไว้ไม่ได้
"สถานการณ์ขณะนี้เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ นายกฯต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีเป็นพิเศษ นายกฯ อย่าเอาตัวไปเกี่ยวข้อง แม้จะเคยพูดจาพลั้งเผลอไปบ้าง เรื่องว่าเห็นเขาฆ่ามากแล้ว ผมสั่งให้คนของผมมาฆ่าบ้าง ก็ถือว่าให้ลืมไปเสีย ให้คิดเรื่องของประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก ประเทศไม่มีวันยุติ หรือสงบได้ ด้วยการฆ่ากัน ปัญหาแก้ไม่ได้ด้วยการฆ่ากันในประเทศ ผมให้โอกาสนายกฯ สมัครให้ลงมาแก้ปัญหานี้ อย่าให้คนไทยมาตีกัน ถ้าแก้ไม่ได้ก็เป็นความบกพร่องของนายกฯ สมัครเอง" นายสุเทพ กล่าว
"แม้ว"ก็รู้พวกกูพวกมึงจะทำชาติพัง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เนื่องจากความไม่เข้าใจกันในหมู่คนไทย จึงอยากให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ก็ได้แต่เรียกร้องวิงวอน และพยายามไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไร เพราะอยากให้ทุกอย่างสงบและยุติโดยเร็ว แต่ถ้าต่างคนต่างกลั่นแกล้งทำร้ายกันและกัน คงยุติยาก
"หากทุกคนยังคิดว่าเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องรวมพลังกันไว้ ถ้าเรานึกตรงนี้ก็ไม่ยากที่จะยุติปัญหา แต่ถ้าคิดว่าเป็นพวกกู พวกมึง ทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกัน มันก็ลำบาก"พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และว่าวันแห่งความวุ่นวาย เป็นมาแล้ว 3 ปี ความไม่สงบของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น คนที่เดือดร้อนมากที่สุด คือคนไทยที่หาเช้ากินค่ำและประเทศชาติ
"ผมเข้าวัดทำบุญ นั่งสมาธิ อโหสิกรรมทุกวัน กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร ผู้จองเวรทั้งหลายตลอดเวลา ตัวผมนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือประเทศ อยากเห็นชีวิตคนไทยดีขึ้น หวังว่าคนไทยทุกคนจะให้อภัยกัน และนำความสันติกลับสู่ประเทศโดยเร็ว อยากให้ทุกคนอดทนกัน สักวันสิ่งที่ดีย่อมชนะสิ่งที่ไม่ดี วันนี้เขาไม่เข้าใจเรา สักวันเขาจะเข้าใจเรา" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และว่า ผู้ที่ได้ทำอะไรไม่ดีกับตนไว้ ตนก็ไม่ได้คิดที่จะไปล้างแค้นอะไร แต่ตรงข้ามอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้ประเทศเข้าสู่ความปรองดอง