ผู้จัดการรายวัน - เอชเอสบีซีเอาใจลูกค้ากระเป๋าหนัก เปิดตัว "Grow My Wealth" เสนอสิทธิประโยชน์เพียบ อาทิ เงินคืน 12% เพิ่มจากดอกเบี้ยที่ได้รับ เมื่อลงทุนในตั๋วแลกเงิน หรือเปิดบัญชีเงินฝากประจำเอชเอสบีซี พรีเมียร์ ตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งเป้าลูกค้าใหม่ปีนี้เติบโตสองเท่า
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อตอบแทนลูกค้าที่เชื่อมั่นในบริการของเอชเอสบีซี ธนาคารมีความยินดีที่จะมอบสิทธิประโยชน์แห่งการลงทุนที่หลากหลายในรายการ “Grow My Wealth” เริ่มด้วยที่สุดแห่งข้อเสนอเงินคืน 12% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ ณ วันครบกำหนด แก่ลูกค้าใหม่ที่ลงทุนในตั๋วแลกเงิน หรือเปิดบัญชีเงินฝากประจำเอชเอสบีซี พรีเมียร์ มูลค่าตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันนี้ - 31ตุลาคมศกนี้ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่เพิ่มความคุ้มค่าสูงสุด
นอกจากนี้ ลูกค้าใหม่ของเอชเอสบีซี พรีเมียร์ ยังสามารถรับสิทธิประโยชน์พิเศษอื่นๆอีกมากมาย อาทิ ของกำนัลพิเศษ “กระเป๋าใส่ชุดสูทสำหรับเดินทาง” สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีเอชเอสบีซี พรีเมียร์ ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป เงินคืนหรือบัตรกำนัล มูลค่า 1,200 บาท เมื่อลงทุนในผลิตภัณฑ์ใดๆของเอชเอสบีซี ขั้นต่ำ 4 ล้านบาท ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ไม่รวมเงินลงทุนในบัญชีเงินฝากประจำ และตั๋วแลกเงิน เงินคืนหรือบัตรกำนัล มูลค่า 2,000 บาท เมื่อลงทุนในผลิตภัณฑ์ของเอชเอสบีซี รวม 6 ประเภท โดยมียอดรวมการลงทุนตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ภายในเดือนแรกที่เปิดบัญชี ไม่รวมบริการเอทีเอ็ม บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต และบริการธนาคารทางโทรศัพท์ เงินคืนหรือบัตรกำนัล มูลค่า 1,200 บาท สำหรับลูกค้าพรีเมียร์ ปัจจุบัน ที่แนะนำเพื่อนหรือคนรู้จัก เพื่อเปิดบัญชีใหม่กับเอชเอสบีซี และพิเศษสุด รับสร้อยคอทองคำหนัก 1.9 กรัม มูลค่า 1,800 บาท สำหรับการแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักที่ได้รับการอนุมัติทุก ๆ 3 ราย
“ธนาคารคาดว่าแคมเปญใหม่จะเป็นที่สนใจ และช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ไม่ยาก โดยตั้งเป้าเติบโตฐานลูกค้าสองเท่าจากปีที่แล้ว ปัจจุบัน ธุรกิจพรีเมียร์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากลูกค้าที่มีฐานะการเงินดีในเมืองไทยมีอยู่ราว 160,000 คน จาก 200 ล้านคนทั่วโลก และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20% ต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าเหล่านี้มีไลฟ์สไตล์เดินทางต่างประเทศเป็นประจำ และต้องทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ จึงจำเป็นต้องใช้บริการจากธนาคารที่มีเครือข่ายทั่วโลก” นายวิชิต กล่าว
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจพรีเมียร์ในครึ่งปีหลังยังแข่งขันกันดุเดือด ทั้งในแง่ของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การเงิน และผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย ในภาวะที่ดอกเบี้ยขาขึ้นขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ระยะสั้นมีแนวโน้มได้รับความนิยมจากลูกค้าสูงขึ้น ซึ่งเอชเอสบีซี พยายามนำเสนอทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย และมองว่าในอนาคตอันใกล้ ลูกค้าเงินฝากประจำอาจมีการปรับพอร์ตการลงทุนครั้งใหญ่ โดยกระจายเงินไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ แทน หากพ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากมีผลบังคับใช้
อนึ่ง บริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์ เป็นสุดยอดบริการทางการเงินแบบส่วนบุคคลที่เชื่อมโยงเครือข่ายทั่วโลกอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่เปิดบัญชีหรือลงทุนกับธนาคาร ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการทำธุรกรรมทางธนาคารระหว่างประเทศ อาทิ เปิดบัญชีข้ามประเทศ โอนเงิน หรือลงทุนระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจุบันบริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์ มอบบริการทางการเงินระดับโลกแก่ลูกค้าพรีเมียร์กว่า 2 ล้านคนทั่วโลก ผ่านศูนย์บริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์ มาตรฐานโลก กว่า 290 แห่งแก่ลูกค้าใน 39 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อตอบแทนลูกค้าที่เชื่อมั่นในบริการของเอชเอสบีซี ธนาคารมีความยินดีที่จะมอบสิทธิประโยชน์แห่งการลงทุนที่หลากหลายในรายการ “Grow My Wealth” เริ่มด้วยที่สุดแห่งข้อเสนอเงินคืน 12% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ ณ วันครบกำหนด แก่ลูกค้าใหม่ที่ลงทุนในตั๋วแลกเงิน หรือเปิดบัญชีเงินฝากประจำเอชเอสบีซี พรีเมียร์ มูลค่าตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันนี้ - 31ตุลาคมศกนี้ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่เพิ่มความคุ้มค่าสูงสุด
นอกจากนี้ ลูกค้าใหม่ของเอชเอสบีซี พรีเมียร์ ยังสามารถรับสิทธิประโยชน์พิเศษอื่นๆอีกมากมาย อาทิ ของกำนัลพิเศษ “กระเป๋าใส่ชุดสูทสำหรับเดินทาง” สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีเอชเอสบีซี พรีเมียร์ ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป เงินคืนหรือบัตรกำนัล มูลค่า 1,200 บาท เมื่อลงทุนในผลิตภัณฑ์ใดๆของเอชเอสบีซี ขั้นต่ำ 4 ล้านบาท ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ไม่รวมเงินลงทุนในบัญชีเงินฝากประจำ และตั๋วแลกเงิน เงินคืนหรือบัตรกำนัล มูลค่า 2,000 บาท เมื่อลงทุนในผลิตภัณฑ์ของเอชเอสบีซี รวม 6 ประเภท โดยมียอดรวมการลงทุนตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ภายในเดือนแรกที่เปิดบัญชี ไม่รวมบริการเอทีเอ็ม บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต และบริการธนาคารทางโทรศัพท์ เงินคืนหรือบัตรกำนัล มูลค่า 1,200 บาท สำหรับลูกค้าพรีเมียร์ ปัจจุบัน ที่แนะนำเพื่อนหรือคนรู้จัก เพื่อเปิดบัญชีใหม่กับเอชเอสบีซี และพิเศษสุด รับสร้อยคอทองคำหนัก 1.9 กรัม มูลค่า 1,800 บาท สำหรับการแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักที่ได้รับการอนุมัติทุก ๆ 3 ราย
“ธนาคารคาดว่าแคมเปญใหม่จะเป็นที่สนใจ และช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ไม่ยาก โดยตั้งเป้าเติบโตฐานลูกค้าสองเท่าจากปีที่แล้ว ปัจจุบัน ธุรกิจพรีเมียร์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากลูกค้าที่มีฐานะการเงินดีในเมืองไทยมีอยู่ราว 160,000 คน จาก 200 ล้านคนทั่วโลก และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20% ต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าเหล่านี้มีไลฟ์สไตล์เดินทางต่างประเทศเป็นประจำ และต้องทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ จึงจำเป็นต้องใช้บริการจากธนาคารที่มีเครือข่ายทั่วโลก” นายวิชิต กล่าว
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจพรีเมียร์ในครึ่งปีหลังยังแข่งขันกันดุเดือด ทั้งในแง่ของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การเงิน และผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย ในภาวะที่ดอกเบี้ยขาขึ้นขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ระยะสั้นมีแนวโน้มได้รับความนิยมจากลูกค้าสูงขึ้น ซึ่งเอชเอสบีซี พยายามนำเสนอทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย และมองว่าในอนาคตอันใกล้ ลูกค้าเงินฝากประจำอาจมีการปรับพอร์ตการลงทุนครั้งใหญ่ โดยกระจายเงินไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ แทน หากพ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากมีผลบังคับใช้
อนึ่ง บริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์ เป็นสุดยอดบริการทางการเงินแบบส่วนบุคคลที่เชื่อมโยงเครือข่ายทั่วโลกอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่เปิดบัญชีหรือลงทุนกับธนาคาร ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการทำธุรกรรมทางธนาคารระหว่างประเทศ อาทิ เปิดบัญชีข้ามประเทศ โอนเงิน หรือลงทุนระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจุบันบริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์ มอบบริการทางการเงินระดับโลกแก่ลูกค้าพรีเมียร์กว่า 2 ล้านคนทั่วโลก ผ่านศูนย์บริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์ มาตรฐานโลก กว่า 290 แห่งแก่ลูกค้าใน 39 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก