xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.มั่นใจหุ้นไทยยังเจ๋ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - บลจ.ประเมินหุ้นไทยยังน่าสนใจ เหตุปัจจัยพื้นฐานดี แนะถือยาว 5 ปี เชื่อมั่นรับผลตอบแทนชนะอัตราเงินเฟ้อ เตือนรายย่อยจับตาสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด เพื่อจับจังหวะหุ้นรูดเข้าช้อนซื้อของถูกให้เหมาะสม

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด กล่าวภายในงานเสวนา "ผู้จัดการกองทุนมองการลงทุนในหุ้นไทยอย่างไร"ว่า ภาวะตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างรุนแรง โดยตั้งแต่ในช่วงต้นปีดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากว่า 21% ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคได้มีการปรับตัวลดลงด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามถ้าเปรียบเทียบกันแล้วตลาดหุ้นไทยจะมีอัตราการปรับตัวลดลงที่น้อยกว่า โดยที่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบยังมาจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ราคานํ้ามันที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่ประเทศไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี จึงมีความน่าลงทุนอยู่และถือเป็นโอกาสดี ที่จะทำการเข้าลงทุน และในส่วนของ บลจ. อยุธยาได้เลือกลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานดีมาโดยตลอด
"เรามองว่า ราคานํ้ามันที่เพิ่มขึ้นเป็นเพราะประเทศจีนมีความต้องใช้นํ้ามันที่มากขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วเกินไป ดังนั้นเงินเฟ้ออาจหยุดนิ่งได้หากราคานํ้ามันทรงตัว ทั้งนี้อยากให้ลงทุนในหุ้นแบบถือในระยะยาวประมาณ 5 ปี เพราะหุ้นที่ถือในระยะยาวนั้นจะให้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อได้ และอยากให้มอง
การลงทุนในหุ้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุน" นายฉัตรพี กล่าว
ส่วนเรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเรื่องของปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชานั้น นายฉัตรพี ให้ความเห็นว่า การขึ้นดอกเบียดังกล่าว ในแง่ของตลาดตราสารหนี้แล้วได้มีการรับรู้ในเรื่องนี้ไปแล้วและเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยค่อนข้างดี โดยเฉพาะตัวเลขส่งออกที่เติบโตขึ้น ดังนั้นราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่ดี ขณะเดียวกันเรื่องของการเมืองนั้นตอนนี้ผู้จัดการกองทุนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นแล้ว
ด้าน นายเอกชัย จงวิศาล รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า จากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศเกิดความวิตก และเทขายหุ้นเพื่อนำเงินออกไปนอกประเทศแล้วกว่า 70,000 ล้านบาท จากที่เคยนำเงินเข้ามาลงทุนกว่า 7-8 หมื่นล้านบาท ในช่วงก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องคอยจับตามองว่า ภาวะตลาดหุ้นหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป หากนักลงทุนต่างชาตินำเงินลงทุนที่เหลืออยู่ออกไปจนหมด ทั้งนี้ แนะนำว่า เมื่อราคาหุ้นลดลง นักลงทุนต้องทำการวิเคราะห์สถานการณ์นั้นๆว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
สำหรับนโยบายการลงทุนในหุ้นของบลจ.ทิสโก้ นั้น ทางบริษัทจะพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นประมาณ 20 กว่าตัว และถืออยู่ในระยะเวลาหนึ่ง จึงเปลี่ยนมาถือหุ้นตัวใหม่หรือเปลี่ยนมาถือเงินสดแทน เพราะมองว่าในระยะยาวหุ้นน่าจะให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าพันธบัตร แม้ว่าในขณะนี้ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงก็ตาม
ขณะที่ นาง วรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนและกรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า ในขณะนี้นักลงทุนจากต่างประเทศมองตลาดหุ้นไทยว่ามีความสนใจลงทุนเป็นอย่างมาก แต่ยังมีความกังวลในเรื่องของการเมืองอยู่ ส่วนสถานการณ์ราคานํ้ามันในขณะนี้ มีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวลดลงได้หากเศรษฐกิจของโลกชะลอตัว ซึ่ง จะส่งผลปริมาณการบริโภคนํ้ามันลดลง
"บลจ.บัวหลวง ได้บริหารกองทุนโดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็กำลังให้ความสนใจกับเรื่องของการเมืองมากขึ้น และหวังว่าหลังจากนี้นักลงทุนต่างประเทศจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง หากสถานการณ์การเมืองไม่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น" นางวรวรรณ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น