xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤต“สินเชื่อเคหะ”USบานปลาย ชี้ชัดหลังรบ.อุ้ม “อินดี้แมคแบงก์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – อินดี้แมค แบงก์ กำหนดเปิดทำการอีกครั้งวันนี้ (14) หลังจากได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแบงก์ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกันที่ถูกปิดกิจการ ในจังหวะที่อุตสาหกรรมสินเชื่อเคหะสหรัฐฯ พยายามดิ้นรนเพื่อให้รอดพ้นจากการล้มละลาย
สำนักงานกำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อเคหะ (โอทีเอส) ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (11) ว่าได้นำธนาคารมูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์ที่มีฐานการดำเนินงานอยู่ในแคลิฟอร์เนียแห่งนี้ เข้าสู่การควบคุมของสถาบันประกันเงินฝากแห่งสหรัฐฯ (เอฟดีไอซี)
ผู้ให้บริการสินเชื่อเคหะรายนี้ซึ่งจะเปิดทำการอีกครั้งในชื่อ อินดี้แมค เฟเดอรัล แบงก์ ถือเป็นกรณีความล้มเหลวครั้งร้ายแรงที่สุดของแบงก์สหรัฐฯ ในรอบปีแห่งวิกฤตสินเชื่อเคหะ ที่สะท้อนออกมาในรูปของการผิดนัดชำระหนี้และการทรุดตัวของราคาที่อยู่อาศัยที่กัดกินไปทั่วระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ
เดวิด บาร์ โฆษกเอฟดีไอซี ย้ำเมื่อวันเสาร์ (12) ว่าในการเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งวันนี้ จะมีการเริ่มต้นกระบวนการทางการตลาดเพื่อทำให้อินดี้แมคกลับสู่สภาพธุรกิจเอกชนภายใน 90 วัน
บาร์เสริมว่า เอฟดีไอซีได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าที่ตื่นตระหนกและต้องการความมั่นใจว่าเงินฝากของตนปลอดภัยกว่า 9,000 สาย
ทั้งนี้ เอฟดีไอซีทำหน้าที่รับประกัน 100% สำหรับการลงทุนส่วนบุคคล มูลค่าไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์
อินดี้แมคเป็นธนาคารอันดับที่ 5 ของปีนี้ที่เอฟดีไอซีต้องเข้ารับประกัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดค่าใช้จ่าย 4,000-8,000 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 10% ของกองทุนรับประกันเงินฝากที่มีมูลค่าทั้งสิ้น 54,000 ล้านดอลลาร์
ผู้คุมกฎของโอทีเอสเผยว่าสาเหตุที่ต้องปิดกิจการอินดี้แมค มาจากวิกฤตสภาพคล่อง ภายหลังลูกค้าทะยอยถอนเงินจากธนาคารตั้งแต่เดือนมิถุนายนรวมเบ็ดเสร็จถึง 1,300 ล้านดอลลาร์ เพราะไม่มั่นใจในความสามารถอยู่รอดของแบงก์ในระยะยาว
การตัดสินใจดังกล่าวถูกเร่งเร้าจากการร่วงของราคาหุ้นอินดี้แมค จากที่เคยซื้อขายที่ราคาหุ้นละกว่า 28 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เหลือเพียง 28 เซนต์เมื่อวันศุกร์
สัปดาห์ที่ผ่านมา อินดี้แมคประกาศระงับการกู้ยืมและเล็งปลดพนักงาน 3,800 คน หรือกว่าครึ่งของพนักงานทั้งหมด ให้เหลือเพียง 3,400 คน เทียบกับในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดคือเมื่อปี 2006 ที่อินดี้แมคว่าจ้างพนักงาน 10,000 คน
วิกฤตอินดี้แมคครั้งนี้มีขึ้นขณะที่ราคาหุ้นของแฟนนี่ เม และเฟรดดี้ แมค สองยักษ์ใหญ่ในวงการสินเชื่อเคหะ ดิ่งถล่มทลายถึง 50% เมื่อวันศุกร์ ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยมาปิดตลาดด้วยการตกลง 3% สำหรับแฟนนี่ เม และรูดลง 22% สำหรับเฟรดดี้ แมค รวมแล้วนับจากต้นปีราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทวูบไปแล้วถึง 75% ก่อให้เกิดกระแสความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯอาจต้องเข้าอุ้ม
แฟนนี่ เม และเฟรดดี้ แมค ซึ่งก่อตั้งโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว และขณะนี้ดำเนินการในรูปบริษัทมหาชนนั้น เป็นผู้รับผิดชอบสินเชื่อเคหะทั้งสิ้น 5 ล้านล้านดอลลาร์โดยประมาณ
ทั้งสองบริษัทต่างคนต่างออกมาแถลงยืนยันว่ามีสินทรัพย์ประเภททุนในระดับที่เหมาะสมและมีสภาพคล่องเพียงพอ ขณะที่เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าอาจมีการเข้าแทรกแซงเร็วๆ นี้ เพียงแต่บอกว่าจุดสนใจสำคัญอยู่ที่การสนับสนุนแฟนนี่ เมและเฟรดดี้ แมคให้ดำเนินการในรูปแบบปกติขณะปฏิบัติภารกิจสำคัญ
อนึ่ง สถานการณ์ของอินดี้แมคนั้นทรุดลงอย่างชัดเจนหลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว ชาร์ลส์ ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต ทำจดหมายถึงผู้คุมกฎของรัฐบาลซึ่งหนังสือพิมพ์วอลล์สตรี เจอร์นัล นำมารายงานว่า ชูเมอร์กำลังกังวลกับสถานะการเงินที่ง่อนแง่นลงของบริษัท ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงทั้งสำหรับผู้ชำระภาษีและผู้กู้ยืม ทั้งยังว่าผู้คุมกฎไม่ได้เตรียมมาตรการรองรับเพื่อป้องกันการล่มสลายของอินดี้แมค และคำวิจารณ์นี้จุดชนวนการถอนเงินของลูกค้าที่ตื่นตระหนก
จอห์น รีช ผู้อำนวยการโอทีเอส ให้สัมภารณ์หนังสือพิมพ์ว่า การแสดงความคิดเห็นของชูเมอร์ทำให้อินดี้แมค ‘หัวใจวาย’ ซึ่งทางชูเมอร์โต้กลับทันควันว่า
“หากโอทีเอสปฏิบัติภารกิจในฐานะผู้คุมกฎ โดยไม่ปล่อยให้แนวทางการกู้ยืมที่หละหลวมและไร้คุณภาพของอินดี้แมคดำเนินต่อมา เราก็คงไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบในขณะนี้”
รายงานข่าวระบุต่อไปว่า อินดี้แมคถือเป็นกรณีการล่มสลายครั้งใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ รองจากกรณีคอนติเนนตัล อิลลินอยส์ แบงก์ที่สร้างความเสียหายถึง 40,000 ล้านดอลลาร์
กำลังโหลดความคิดเห็น