xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโปงเล่ห์ตัดตอน"นพเหล่"ล่า 2 หมื่นชื่อยื่นถอดถอน ครม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - "สนธิ" เปิดโปงเล่ห์รัฐบาล "หุ่นเชิด" ใช้วิธี "ตัดตอน"ให้ "นพดล" ลาออกเพื่อลดกระแสซื้อเวลาให้ถึงฤดูโยกย้ายทหารปลายปีครั้งใหญ่ ลั่นต้องลากคอคนขายชาติมาติดคุกตลอดชีวิตให้ได้ ขณะเดียวกัน พันธมิตรฯเตรียมล่า 2 หมื่นชื่อเพื่อยื่นถอดถอนครม.ทั้งคณะพร้อมดำเนินคดีอาญากราวรูด “สุริยะใส” เผยเคลื่อนพลทวงถามคดี “แม้ว” ที่อัยการสูงสุดสัปดาห์หน้า "พล.อ.ปฐมพงษ์" เปิดใจ หน้า อนุสาวรีย์ ร.5 เหตุขึ้นเวทีพันธมิตรเต็มยศ รับไม่ได้หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ “3 นายพล 3 เหล่าทัพ” ร่วมจัดรายการ “รู้ทันทหารไทย” รุมเฉ่ง “อนุพงษ์” รับใช้การเมืองน้ำเน่า ด้านพันธมิตรฯขอนแก่นกว่า 400 คน ชูป้ายพรึ่บ แสดงพลังอารยะขัดขืน ไม่รับรัฐบาลขายชาติ เดินหน้าไล่ "เฉลิม"

วานนี้ (10 ก.ค.) ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถึงขั้นตอนการยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรีชุดนี้ทั้งคณะ และให้พี่น้องมาร่วมลงชื่อ 2 หมื่นชื่อ โดย นายสุริยะใส กตะศิลา จะไปแสดงตัวต่อประธานวุฒิสภาเพื่อยื่นถอดถอนดังกล่าวต่อไป ขณะเดียวกันให้มาร่วมลงชื่อเพื่อให้ฟ้องอาญาคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ 35 คนเพื่อให้ติดคุกให้หมด

นายสนธิ กล่าวว่า เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เมื่อมองย้อนหลังว่าประเทศไทยจะมีคนอย่างนี้ เช่นเดียวกับพระยาจักรีที่เป็นใส้ศึกให้พม่า และไม่นึกว่าปี 2551 ที่เรามีเทคโนโลยี่ไร้สายจะมีคนอย่าง นายนพดล ปัทมะ ที่เมื่อทำงานเสร็จแล้ก็ต้องไป คนอย่างนี้ตายไปอีกสิบชาติก็ไม่สาสม สมัยก่อนตัดคอเอาเลือดมาล้างเท้า

"ผมสาบานต่อหน้า เสด้จพ่อ ร.5 เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ และต่อหน้าประชาชนทุกคน ว่าตราบใดที่ลูกคนนี้ยังมีลมหายใจอยู่ ผมจะต้องเอานพดลให้ตายให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะต้องเอามาติดคุกจนตาย ไม่ว่าจะไปเสวยสุขกับเงินที่ได้ที่ไหนก็ตามก็จะลากคอมาติดคุกจนตาย" นายสนธิประกาศ และให้พี่น้องประชาชนถ้าเจอ นานพดลที่ไหนให้ด่าคนขายชาติทุกที่ ไม่ต้องรีรอ ต้องตอบโต้ให้สาสมกับการกระทำที่ทำให้ต้องเสียดินแดนอย่างชั่วช้า"

นายสนธิ ย้ำว่า กรณีของ นายนพดล เป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่ง เหมือนกับกรณีของ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่เมื่อออกมาจ้าบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว เมื่อถูกจับได้ก็ต้องลาออก แต่บอกว่าลาออกเพื่อรักขุน หรือกรณี นายทนง พิทยะ ไปเป็นประธานบอร์ดการบินไทยเมื่อซื้อเครื่องบินเสร็จแล้ว ได้ค่าคอมฯเสร็จแล้วก็ลาออกหรือบอกข่าวลดค่าเงินบาทให้กับบางคนแล้วลาออก

นายสนธิ ยังได้ยกตัวอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่เคยมาทำเรื่องแก้ไขสัญญาเรื่องโทรศัพท์มือถือเสร็จแล้วก็ลาออก ทุกอย่างเป็นการรับจ้างอย่างเป็นขั้นเป็นตอน คนๆนี้ทำลายชาติ ทำลายบ้านเมือง ทำให้ทุกคนลำบาก คนพวกนี้เมื่อเดินผ่านต้องถุยน้ำลายใส่

นายสนธิ ย้ำอีกว่า เป้าหมายของคนพวกนี้คือพื้นที่ทับซ้อนในทะเลซึ่งมีแหล่งน้ำมนและก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาล เนื่องจากเราไปยอมรับแผนที่ของเขมรกรณีปราสาทพระวิหารไปแล้ว ส่วนบ่อนปอยเปตทั้งหมดคนไทยเป็นคนลงทุน และต้องส่งเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ให้กับฮุนเซน และมีอยู่ 1 แห่งไอ้เป็ดก๊าบๆ มีหุ้นอยู่ด้วย

นายสนธิ กล่าวว่า นายทหารบางคนบอกว่าเรื่องการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์จบแล้วหลังจากที่ นายจักรภพ ลาออก พูดแบบนี้มันโง่หรือแกล้งโง่กันแน่ และที่ผ่านมากรณี ป๋าเปรม ถูกด่าอย่างหยาบคาย ผู้บัญชาการเหล่าทัพไม่เคยมีปฏิกิริยาใดๆ เรื่องของ นายจักรภพลาออกแล้วคดีไปไหนก็โอนให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ดูแล ดังนั้นเวลานี้ไม่ใช่หลับเถิดหทารกล้าปวงประชาจะคุ้มภัย แต่ไปให้ไกลๆเลยทหาร

นายสนธิ ย้ำว่า ทหารมีหน้าที่หลักสองอย่างคือปกป้องพระเจ้าอยู่หัว และรักษาอธิปไตย และว่ารัฐบาลชุดนี้กำลังซื้อเวลาเพื่อให้ถึงฤดูโยกย้ายทหาร

เตรียมดาวกระจายอัยการสูงสุด

วานนี้ (10 ก.ค.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลา 18.05 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 9 ก.ค. พันธมิตรฯ ได้วิเคราะห์สถานการณ์กันว่า ขณะนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ซึ่งรัฐบาลก็รู้ว่าตัวเองหมดความชอบธรรมแล้ว แต่ต้องลากสถานะของตัวเองไปให้นานที่สุด เพราะประการแรก จะต้องอยู่ให้ถึงเดือน ก.ย.และ ต.ค.เพื่อล้วงลูกการจัดโผโยกย้ายประจำปีของกองทัพ ประการที่สอง ยิ่งอยู่นานขึ้นยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และประการที่สาม เพื่อเร่งอนุมัติโครงการสำคัญๆ โดยเฉพาะเมกะโปรเจกต์ เพื่อถอนทุน เตรียมไว้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

"เชื่อว่า นายสมัคร จะยังไม่ยุบสภาหรือลาออก เราจึงจำเป็นต้องทำการต่อสู้ โดยเตรียมยุทธศาสตร์ดาวกระจายอีกครั้ง โดยจะไปทวงถาม ความคืบหน้าในการทำหน้าที่ของอัยการสูงสุด ที่ยังมีหลายคดีค้างอยู่ ว่ามีอุปสรรคอะไร โดยคาดว่าจะไปสัปดาห์หน้า"

"พล.อ.ปฐมพงษ์"ยันขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ได้

เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้(10 ก.ค.51) พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษา กองบัญชาการทหารสูงสุด เปิดแถลงที่ลานพระบรมรูปทรงม้า หน้าอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ถึงความชัดเจนกับข้อครหาการใส่เครื่องแบบทหารขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ตนจะไม่ตอบโต้ผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น ตนจะพูดในประเด็นหลัก ๆ คือ การที่ออกมาในที่ชุมนุมของพันธมิตร 1. รับไม่ได้ที่การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 2. รับไม่ได้เกี่ยวกับการที่จะมีผลกระทบต่ออาณาเขตดินแดนพระบรมเดชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เอกราชอธิปไตย

ขณะที่ได้เคยรายงานเกี่ยวกับเรื่องอาณาเขตดินแดนที่จะเกิดปัญหาเมื่อมีการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลก ของปราสาทพระวิหาร ตนได้ดูในพื้นที่ในวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ และเมื่อกลับมากรุงเทพ ก็ได้รายงานทันทีในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้รีบพิจารณาดำเนินการจัดการประชุมระหว่างกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกรณีการขอขึ้นมรดกโลกของปราสาทพระวิหารโดยรัฐบาลกัมพูชา และสุดท้ายของการเสนอหนังสือปัญหาในฐานะขนาดนั้นเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ก็ลงท้ายว่า มีผลเป็นประการใดขอให้แจ้งให้ทราบด้วยจาก 15 ก.พ. ไม่มีใครตอบมาเลย

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า หลังจากนั้นก็มีเรื่องเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็อึดอัดใจเต็มทีเพราะว่า ได้ศึกษาด้วยตัวเอง ดูจากเวปไซด์ อ่านจากบันทึกของสื่อมวลชน ขณะเดียวกับปัญหาเขาพระวิหารเริ่มประทุ ซึ่งตนในฐานะทหารในกองทัพบกขณะนั้นในตำแหน่งเลขานุการกองทัพบก ได้ลงพื้นที่พบว่า หากไม่มีใครท้วงติงจะเกิดปัญหาแต่ด้วยวิสัยของการเป็นทหารจึงได้ทำหนังสือด่วนที่สุดในวันเดียวกัน คือวันที่ 18 มิ.ย. 2551 ถึงปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.กองบัญชาการทหารสูงสุด ผบ. 3 เหล่าทัพ และหนังสือถึงแกนนำพันธมิตร รวมทั้งนายสุริยะใส กตะสิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ตนได้ทำแล้วในฐานะ ประธานคณะที่ปรึกษา กองบัญชาการทหารสูงสุด เมื่อยังเงียบกันอยู่ ไม่ใช่สักว่าจะทำไปแล้วหยุดวันที่ 19 มิ.ย.2551 ตนยังทำหนังสือถึงประธานวุฒิสภา และประธานองคมนตรี เพื่อชี้แจ้งให้ทราบว่า เรื่องต่าง ๆพวกนี้ได้ดำเนินการมาแล้วโดยแจ้งให้เหล่าทัพ พันธมิตรฯทราบเกี่ยวกับเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและเรื่องอาณาเขตของพระมหากษัตริย์เขาพระวิหาร

"ไม่มีใครตอบยกเว้นประธานองคมนตรี โดยพล.ร.อ.พระจุนณ์ ตามประทีป ตอบมาในวันที่ 21 มิ.ย.ว่า ท่านรับทราบและอ่านรายละเอียดและลงบันทึกมาว่า นี้เป็นการตอบแทนบุญคุณอย่างหนึ่ง ผมพยายามที่จะให้สัมภาษณ์ชี้แจงผ่านสื่อ แต่กลับไม่ใส่ใจที่จะให้ผมสัมภาษณ์ ผมจึงประสานมายังพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯว่า ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ เพราะไม่เช่นนั้นทุกคนจะคิดว่า ทหารทุกคนไปไหนกันหมด ดังนั้นนับตั้งแต่งวันที่ 21 มิ.ย. จนมาถึงวันที่พูดบนเวทีพันธมิตรฯ เพราะเวทีพันธมิตรฯจะต้องมีการจัดอันดับการพูด"

ตนได้ทำตามบนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญตามมาตรา 70 และมาตรา 77 ว่าด้วยหน้าที่ของปวงชนชาวไทย และอำนาจแห่งรัฐของความมั่นคงแห่งรัฐและทหาร เพราะฉะนั้นตรงนี้ เป็นสิ่งที่เรากระทำได้

สำหรับกรณีที่ผู้บังคับบัญชา จะดำเนินการอะไร เป็นอำนาจหน้าที่ที่เขาจะต้องพิจารณาว่า สิ่งที่ตนกระทำมีเรื่องอะไรบ้างที่ถือว่าผิด ก็ว่ากันไป ตนจะไม่ตอบโต้ผู้บังคับบัญชา ตนจะปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่คำสั่งนั้นจะต้องถูกต้องตามกฎหมายและความเป็นธรรม

นอกจากนี้ ตนขอยืนยันด้วยว่า ตนไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตามที่มีการกล่าวหาแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเป็น สนช.ครั้งเดียวก็ทำให้ชีวิตมัวหมองแล้ว และขอให้เข้าใจว่า จะไม่มีอะไรที่ยับยั้งให้ตนไม่ให้ออกมาพูดเรื่องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และการปกป้องประเทศชาติ ส่วนชีวิตในบั่นปลายจากทหารตนก็จะไว้ผมยาว ขี่รถชอบเปอร์ท่องเที่ยวเอาแค่นี้พอ

"ชีวิตตายได้เพื่อสองอย่างนี้ และไม่เสียดายด้วย ถ้าจะต้องเสียชีวิต เพราะว่า ไปฆ่าไอ้พวกที่มันหมิ่น หรือเอาดินแดนไปขาย จำไว้เลย บอกไว้ทั่วกันว่า ไม่เสียดายชีวิต ถ้าเผื่อว่า ฆ่าไปพวกนั้นให้ตายให้หมด หรือไล่มันออกไปจากชาติบ้านเมืองให้หมด ผมพูดในฐานะที่ผมเป็นพลเอกแห่งกองทัพไทย ตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ถือว่าสูงสุดแล้วในอัตราจอมพล" พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่นายณัฐวุฒ ใสเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาวิจารณ์ให้ผู้บังคับบัญชาเอาผิดทางวินัยว่า อย่ามาหยาม อย่ามาเหิมเกริม นายณัฐวุฒิไม่มีสิทธิที่จะคอมเมนต์ตน ขอให้เย็บปากไปเลย และขอบอกตรงๆว่าจะให้ตนไปเจอที่ไหนก็ได้ อย่ามาหยามในเรื่องที่ตนพูด

เมื่อถามว่า การขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าได้รับไฟเขียวจากประธานองคมนตรี พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เคยพบท่าน และไม่เคยคิดที่จะดึงใครมาเกี่ยวข้องด้วย ทุกวันนี้ทำอะไรแล้วก็มาคิดบัญชีกับตนได้

"3 นายพล" ผิดหวังผู้นำทหาร

วานนี้ (10 ก.ค.) ที่เวทีสะพานมัฆวาน ได้จัดรายการพิเศษช่วง “รู้ทันทหารไทย” ดำเนินรายการโดย พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการลำน้ำโขง (นปข.) มี พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ สัจจารักษ์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตหัวหน้าคณะนายทหารเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมรายการ

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่า รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่มีเสียงกล่าวว่า หลับเถิดทหารกล้าชาวประชาจะคุ้มภัย

พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับพี่น้องทหารในยุคนี้ที่ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และว่าถ้าตนเองเป็น ผบ.ทบ.ที่ติดตาม คุณสมัคร ไปทุกที่ก็จะกระซิบบอกว่า “ท่าน (นายกฯ) หมดความชอบธรรม ออกไปได้แล้ว จากนั้นก็จะแต่งเครื่องแบบมาอยู่กับประชาชนที่นี่เพื่อเรียกความชอบธรรมกลับคืนมา”

“อยากแนะนำให้น้องในกองทัพบกให้มีความเป็นปึกแผ่น เพราะถ้าเป็นสมัยก่อนเรียกว่า “ตบเท้า” ให้ออกไปได้แล้ว

พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า มีทั้งเจ็บปวดและอาย อย่างไรก็ดี ก็มีข่าวดีท่ามกลางข่าวร้าย ว่า ทหารยังเป็นของพระราชา และทหารของประชาชน และเชื่อหรือไม่ว่า มีทหารอากาศของพันธมิตรฯ และผู้บังคับบัญชาใจกว้างให้ติดจานดาวเทียมเอเอสทีวีกันทั่วประเทศ และย้ำว่า ทหารอากาศอยู่กับพี่น้องประชาชนเสมอ แต่ด้วยวินัยทหารอาจมีข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม เขาได้เรียกทหารอากาศให้ออกมาร่วมกับพี่น้องประชาชน เมื่อพูดถึงตอนนี้ พล.อ.ปรีชา ได้ยกนิ้วแสดงความชื่นชม

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่า กรณีปราสาทพระวิหาร ให้บทเรียนกับกองทัพบกกับกองทัพเรือในอนาคต ที่ผ่านมา นายสมัคร และรัฐบาลได้ลากเอาผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บังคับหน่วยมาร่วมรับผิดชอบ และกรณีของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่รับรองการกระทำของรัฐบาลที่เป็นใจให้เขมรยื่นจดทะเบียนประสาทพระวิหารสมบูรณ์ 100%

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวได้ทำลายเงื่อนไขที่บรรพบุรุษเคยอ้างสิทธิเหนือประสาทพระวิหารอย่างสิ้นเชิง และกรณี จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ประกาศจะทวงประสาทพระวิหารในทุกชาติ ท่าน (พล.อ.อนุพงษ์) ลืมแล้วหรือ ท่านฉีกทิ้งอย่างสิ้นเชิงแล้ว และกรณีศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่า ทำผิดมาตรา 190 นั้นหมิ่นเหม่ต่อการก้าวล่วง และกล่าวหาว่า ท่านผู้บัญชาการทหารบกมีส่วนในความผิดพลาดของ ครม.ชุดปัจจุบัน

"เป็ดเหลิม"ซีดชาวขอนแก่นโห่ไล่

วานนี้ (10 ก.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น กว่า 400 คน พร้อมใจกันไปร่วมชุมนุมประท้วงขับไล่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เดินทางมาปฏิบัติราชการ มอบนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจน ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ที่หอประชุม 4 อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น

พันธมิตรฯ บางส่วนได้รวมตัวกันหน้าศูนย์ประสานงานพันธมิตรฯ หน้าศูนย์ข่าว ASTV NEWS 1 ใกล้กับศาลหลักเมืองขอนแก่น ตั้งแต่ 8.30 น. เคลื่อนขบวนด้วยรถยนต์มากกว่า 10 คัน มุ่งหน้าไปม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสานฯ เมื่อถึงบริเวณประตูรั้ว มีพันธมิตรนขอนแก่นส่วนหนึ่งรออยู่มากกว่า 200 คน ชูป้ายประท้วงอย่างคึกคัก อาทิ ชาวขอนแก่น ไม่ต้อนรับรัฐบาลขายชาติ , เป็ดเหลิมโมฆะบุรุษ ไม่มีสิทธิบริหารราชการแผ่นดิน , ทางเสือเสือเดิน ทางหมาหมาเดิน แล้วทำไมเหลิมเดินทางหมา ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯขอนแก่นทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงอาคารที่ประชุมได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังและปิดประตูกั้นกลุ่มพันธมิตรฯให้ชุมนุมบริเวณด้านหน้าริมถนนศรีจันทร์ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนโห่ร้องเสียงดังเพื่อแสดงพลังเป็นระยะให้ถึงที่ประชุมที่ ร.ต.อ.เฉลิม กำลังมอบนโยบายกับผู้ร่วมประชุมอยู่ เช่น "เฉลิม ติดคุก", "นพดล ติดคุก", "สมัคร ติดคุก", "รัฐบาลขายชาติ ออกไป" ฯลฯ

นอกจากนี้พันธมิตรฯยังได้นำป้ายผ้าสีเหลืองตัวอักษรสีแดงข้อความ "ขอนแก่นไม่ต้อนรับเป็ดเหลิม" ไปติดทับป้ายกระดานที่หน่วยงานรัฐทำข้อความต้อนรับว่า "ยินดีต้อนรับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และคณะด้วยความยินดียิ่ง" เพื่อแสดงจุดยืนของชาวขอนแก่น ที่ไม่ต้อนรับรัฐบาลขายชาติ และรมว.มหาดไทย

พธม.เลยนัดโห่ไล่เป็ดเหลิมวันนี้

ด้านกลุ่มพันธมิตรฯเลย เมื่อคืนที่ผ่านมายังคงปักหลักร่วมดูการถ่ายทอดสัญญาณ ASTV จากสะพานมัฆวานฯ ที่บริเวณลานประชาธิปไตย ริมน้ำกุดป่อง เทศบาลเมืองเลยอย่างหนาตาเช่นเคย โดยกิจกรรมที่ทำร่วมคู่ขนานกับการดูการถ่ายทอด ASTV แล้ว มีการนำภาพ รูปผู้นำรัฐบาลมา ให้ทางกลุ่มพันธมิตรได้มีโอกาสระบายความอึดอัดในใจ ซึ่งประกอบด้วยภาพหน้าเหลี่ยมทักษิณ หน้าหมูสมัคร เป็ดเฉลิม ยุทธ ตู้เย็น นพดลขายชาติ จักรภพหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งได้มีประชาชน และกลุ่มพันธมิตร นั้นแสดงความรู้สึกลงไปกับภาพที่นำมาติดไว้ อย่างคับคั่ง

นายจีระศักดิ์ น้อยกล่ำ แกนนำกลุ่มพันธมิตรเลย กล่าวว่า ทางกลุ่มได้หารือเตรียมพร้อมต้อนรับ มท.1 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือเป็ดเหลิม เรียบร้อยแล้ว จะมีการนำพี่น้องพันธมิตรฯมาต้อนรับ มท.1 อย่างสงบเรียบร้อย แบบเงียบๆ โดยให้กลุ่มพันธมิตรฯในหลายๆ อำเภอเตรียมเดินทางมาในตัวเมืองเลยและพร้อมต้อนรับในวันนี้ (11 ก.ค.) และทางกลุ่มพันธมิตรฯเอง อาจจะมีการวางกลุ่มประชาชนยืนชุมนุมคัดค้านตามจุดแยกถนนต่างๆ

พธม.ชม.จัดเวทีคุยเรื่อง"เขาพระวิหาร"

ด้านพันธมิตรฯเชียงใหม่ พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ และชมรมนักธุรกิจภาคเหนือเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการจัดเวทีเสวนาวิชาการครั้งที่ 2 เรื่อง "แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13 ก.ค.51 นี้ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ระหว่างเวลา 11.30-18.00 น.โดยจะมีการเสวนาเรื่อง "เขาพระวิหารกับความรับผิดชอบของรัฐบาลไทย" มีวิทยากร ได้แก่ นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี., ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัย 9 สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และ นายประภาสิทธิ์ แก้วมงคล ผู้ช่วยนักวิจัยสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากนี้ มีการแสดงดนตรีโดย "หรั่ง ร็อคเคสตร้า" และ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง

ขณะเดียวกัน ได้ประกาศว่า การจัดเวทีที่ประตูท่าแพ และลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ของนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา นายกสโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมนักข่าวเชียงใหม่ และ "แอน" หรือนางกัลยกรณ์ เจียมกิจวัฒนา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.51 ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกิจกรรมของพันธมิตรฯเชียงใหม่และพันธมิตรฯลำปาง รวมทั้งพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ การจัดเวทีดังกล่าวเป็นการดำเนินการในนามของบุคคลทั้งสองที่เขาจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่มาร่วมเวทีโดยความบริสุทธิ์ใจ โดยที่พวกเขาจะมาอ้างว่าเป็น "พันธมิตรฯเชียงใหม่" ไม่ได้

"มือปราบตี๋ใหญ่"ตั้งเวที พธม.ต่อ

พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือ ที่รู้จักกันดีในนาม "มือปราบตี๋ใหญ่" กล่าวว่า การตั้งเวทีพันธมิตรที่จังหวัดลำปาง ณ บริเวณถนนคนเดิน หน้าห้างเสรีสรรพสินค้า ทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น.กลางเมืองลำปาง ที่ตั้งมาแล้ว 27 วันนั้นประชาชนยังคงให้การตอบรับด้วยดี

โดยในวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.51 แกนนำได้เชิญทูตกษิต ภิรมณ์ อดีตเอกอัครราชทูต ประจำกรุงวิชิงตัน ดี.ซี. มาบรรยายและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเขาพระวิหาร , นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาฯ บรรยายเรื่องการเมืองใหม่ และ "หรั่ง ร็อคเคสตร้า" ศิลปินเพื่อประชาชน มาให้ความบันเทิงและรณรงค์โครงการ we love the king we love Thailand ส่วนในวันเสาร์ที่ 19 ก.ค.51 พันธมิตรฯลำปางจะได้พบกับ "ตั้ว - ศรัณยู วงศ์กระจ่าง"

"เปิดเหลิม" เพ้อ "แม้ว" จะกลับมาเป็นนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางถึงโรงแรมที่พักใน จ.อุดรธานี โดยมีนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร พร้อมด้วยสมาชิกชมรมมาให้การต้อนรับ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลรักษาความปลอดภัยเต็มที่

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวปราศรัยกับกลุ่มชมรมคนรักอุดร ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ภาคใต้ขับไล่เมื่อครั้งไปตรวจราชการ จ.กระบี่ โดยเชื่อมั่นว่าที่ จ.อุดรธานี จะไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯ มาขับไล่ตนเอง นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง และตนเองจะขอนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น