xs
xsm
sm
md
lg

สมัชชาฯ ขอนแก่นพร้อมร่วมชุมนุม 25 พ.ค. ปลุกสำนึกคนไทยร่วมปกป้องชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น จัดประชุมและร่วมออกแถลงการณ์ เรื่อง “ร่วมชุมนุมใหญ่ต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ”
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สมัชชาประชาชนฯ ขอนแก่น ชวนคนไทยร่วมสู้ปกป้องชาติ จากวิบากกรรมของขบวนการขายชาติภายใต้ระบอบทักษิณ พร้อมออกแถลงการณ์ ร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรฯ 25 พ.ค.แน่ เชื่อเป็นการต่อสู้ที่สาหัสแต่ต้องรวมพลังอย่างเข็มแข็ง จี้ “จักรภพ” รับผิดชอบ ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมเตรียมแผนกระจายความรู้สู่ชาวบ้าน ให้ร่วมปกป้องสถาบันและรักษาแผ่นดินให้ปลอดภัย

วันนี้ (24พ.ค.) ที่ห้องประชุม คณะแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จัดประชุมและร่วมออกแถลงการณ์ เรื่อง “ร่วมชุมนุมใหญ่ต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ” โดยมีนางเครือมาศ นพรัตน์ ประธานสมัชชาประชาชนฯ พร้อมด้วยแกนนำสมัชชาประชาชนฯ ร่วมแถลงการณ์

นางเครือมาศ พร้อมคณะทำงาน ได้ร่วมอ่านแถลงการณ์ ร่วมชุมนุมใหญ่ต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ พร้อมเรียกร้องให้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งทันที จากการจาบจ้วงและหมิ่นเหม่ต่อสถาบันอย่างร้ายแรง อันเป็นสิ่งที่คนไทยผู้รักชาติทั้งแผ่นดิน ไม่อาจทนได้

ทั้งนี้ สมัชชาฯ ขอนแก่น จะเดินทางไปร่วมชุมนุมเคียงข้างกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯในวันที่ 25 พ.ค.นี้แน่นอน และร่วมประชุมเพื่อวางแผนกลยุทธการต่อสู้ กรณีที่การชุมนุมยืดเยื้อ จะจัดเวทีย่อยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อถ่ายทอดสดการชุมนุมจากกรุงเทพฯ เหมือนช่วงภารกิจกู้ชาติ ปี 2549 ที่ลานน้ำพุ ริมบึงแก่นนคร

นางเครือมาศ กล่าวอีกว่า การต่อสู้ครั้งนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยเครือข่ายสมัชชาฯ ที่อยู่ตามอำเภอ และตำบลต่างๆ ในการกระจายข้อมูลสู่ชาวบ้าน ผ่านจานดาวเทียม ASTV และคลื่นวิทยุชุมชุน แม้ขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนทั้งหมด จึงทำให้การตั้งจุดเผยแพร่ข้อมูลต้องระมัดระวังและทำอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับแกนนำผู้ประสานงานเครือข่ายในแต่ละพื้นที่

ด้านนายเธียรชัย นนยะโส รองประธานสมัชชาฯ ขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากได้ฟังนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการยามเฝ้าแผ่นดินเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ผู้ที่ได้ฟังต่างอดน้ำตาคลอไม่ได้ ด้วยความรู้สึกเศร้าสลดกับวิบากกรรมของชาติบ้านเมือง อีกทั้งกรณีที่นายสนธิ ได้พูดถึงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้บริษัทต่างชาติ ดูไบ เวิลด์ มาทำการศึกษาแลนด์บริดจ์ ถนนที่เชื่อมระหว่างสุดด้านหนึ่งของด้ามขวานข้างล่าง จากจุดทะเลอันดามันมาสู่อีกจุดหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก แล้วให้สิทธิ์ขาดเขา เป็นคนจัดการ เท่ากับเป็นการยกประเทศให้เขาแล้ว และให้สิทธิ์ต่างชาติเช่าที่นา จ้างชาวนาทำนา ชาวนาไทยเป็นเพียงผู้รับจ้าง จึงรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากว่าเราได้ขายชาติให้สิงคโปร์ไปขายชาติให้แขกไปแล้วหรือ

นายเธียรชัย ย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องชาวไทยทุกคน จะลุกขึ้นมาสู้ร่วมกัน ใครที่ไปไม่ได้ก็ช่วยบริจาคค่าใช้จ่ายเพื่อส่งกำลังพลไปร่วมต่อสู้ รักษาชาติ ปกป้องสถาบันอันสูงส่งของเรา ขอให้ออกมาร่วมทำภารกิจที่แม้จะหนักหนาสาหัสสากรรจ์ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองเราจะอ่อนแอไม่ได้ หากอ่อนแอ เราจะแพ้ทันที และสิ่งที่นายสนธิพูดถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นภารกิจของคนไทยทุกคน แม้จะต้องชุมนุมกันยืดเยื้อก็ตาม

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เส้นทางถนนมิตรภาพ ขอนแก่น - กรุงเทพฯ ขณะนี้มีการตั้งด่านตรวจ เป็นระยะๆ รวมเกือบ 10 จุด คาดว่าจะเป็นการตั้งด่าน เพื่อสกัดกั้นประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่อนุสารีย์ประชาธิปไตยในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้การเดินทางไปถึงจุดหมายช้าที่สุด

รายละเอียดแถลงการณ์สมัชชาประชาชนฯ ขอนแก่น

แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2551
สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น
เรื่อง ร่วมชุมนุมใหญ่ต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ


ตามที่มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การบริหารประเทศแบบไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ตลอดจนมีการจาบจ้วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เหล่านี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ได้ดำเนินการเป็นอันตรายต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนประชาชนอย่างชัดเจน ดังต่อไปนี้

1. การใช้วาจาก้าวร้าว จาบจ้วงและหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และหมิ่นเหม่ต่อการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2550 ระหว่างการปาถกฐาที่สโมสรผู้สื่อข่าวระหว่างประเทศ พฤติกรรมของนายจักรภพ เพ็ญแข นั้น ชาวไทยผู้รักชาติทั้งแผ่นดินไม่อาจทนได้ เราจึงขอประณามและเรียกร้องให้นายจักรภพ เพ็ญแข ลาออกจากตำแหน่งในทันที

2. รัฐบาลและรัฐสภาชุดนี้ มิได้มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น นับตั้งแต่เริ่มมีกระบวนการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างกว้างขวาง ที่มาในหลายรูปแบบ เช่น เว็บไซต์จำนวนมาก สื่อสิ่งพิมพ์ ซีดี แผ่นปลิว ฯลฯ มิหนำซ้ำรัฐมนตรีในรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ยังไปบรรยายและพูดจาในที่ต่างๆ ต่างกรรมต่างวาระ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นเนื้อหาจงใจแสดงทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน การกระทำต่างๆ เหล่านี้มีมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้ว และหนักข้อ เหิมเกริมยิ่งขึ้นในช่วงรัฐบาลชุดนี้ โดยที่รัฐบาลไม่ใส่ใจทั้งสิ้น อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 175

3. การขอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทำไปเพื่อลบล้างความผิดของอดีตนายกและพวกพ้องไม่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และช่วยเหลือนักการเมืองให้หลบหนีคดียุบพรรคการเมือง สะท้อนให้เห็นว่าอำนาจตุลาการกำลังถูกทำลาย ตลอดจนดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อทำให้กระบวนการตรวจสอบนักการเมืองอ่อนแอลง องค์กรตรวจสอบอิสระอยู่ภายใต้การคัดสรรจากอิทธิพลจนไม่สามารถตรวจสอบฝ่ายการเมืองได้ และจะนำไปสู่ความล่มจมของชาติดังที่เคยได้เกิดขึ้นมาแล้ว นอกจากนั้น รัฐบาลยังมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ได้แก่ โอบอุ้มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่ดี โยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม ตัดตอนและลดทอนอำนาจในกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น

4. ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่คนไทยทั้งชาติต้องประสบกับปัญหาข้าวยากหมากแพง อาชญากรรมเพิ่มพูน ผู้คนท้อแท้และผิดหวัง ภายใต้รัฐบาลที่ไร้ความตั้งใจในการบริหารประเทศ จนทำให้เกิดการชุมนุมของเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน และผู้ประกอบการรายย่อยที่เดือดร้อนไปอย่างกว้างขวาง แต่รัฐบาลกลับดำเนินการล้มล้างนโนบายพื้นฐานแห่งรัฐที่จะช่วยเหลือสร้างให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองได้ ลบล้างปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงออกจากรัฐธรรมนูญ และลดอำนาจประชาชนในการตรวจสอบฝ่ายการเมือง

วิกฤตต่อสถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน ดังที่ปรากฏข้างต้นนั้น เป็นเพราะรัฐบาลมุ่งแต่จะหาทางล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดของตัวเองและพวกพ้องโดยไม่สนใจต่อวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น

การล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ในมาตรา 68 ที่กำหนดเอาไว้ว่า บุคคลจะใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้

สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น ขอใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ตลอดจนการดำเนินตามหน้าที่ของชนชาวไทยในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ตามมาตรา 69 และ 70 ทุกประการ จึงมีมติดังต่อไปนี้

1. เข้าร่วม “ชุมนุมใหญ่” เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 15.00 น.

2. ร่วมถอดถอนนักการเมืองที่มีพฤติกรรมขัดกันแห่งผลประโยชน์ และอาศัยมาตรา 68 วรรคสองยื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เลิกการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือยุบพรรคการเมืองดังกล่าว และมีมติใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ในการรณรงค์และรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน เพื่อใช้สิทธิร้องขอต่อประธานวุฒิสภาให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ลงชื่อทุกคน โดยเตรียมสำเนาบัตรประชาชนเพื่อถอดถอนนักการเมืองที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วย

สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น


นางเครือมาศ นพรัตน์ ประธานสมัชชาประชาชนฯ
นายเธียรชัย  นนยะโส  รองประธานสมัชชาฯ ขอนแก่น
กำลังโหลดความคิดเห็น