ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “จักรภพ”ขึ้นขอนแก่นเรียกประชุมวิทยุชุมชนทั่วอีสานร่วม 500 ราย อ้างวิทยุชุมชนในสายตารัฐบาลไม่ถือว่าเถื่อนเพราะเกิดก่อนมีกฎหมายประกอบกิจการกระจายเสียงฯ ที่เกิดในยุค คมช. เล็งแก้ไขใหม่อ้างผ่าทางตัน อ่อยวิทยุชุมชนกว่า 4,000 รายทั่วประเทศเป็นแนวร่วมสื่อของรัฐ แลกกับไม่ต้องถูกตำรวจจับ ด้าน นศ.ยกป้ายประท้วง หลังทีมงาน"ทั่น รมต."สั่ง ปชส.เขต 1 ต้องใช้"เบนซ์"รับนายเท่านั้น
เช้าวันนี้(19 เม.ย.)ที่โรงแรมโซฟิเทล ราชา ออคิด นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เปิดการสัมมนา “สื่อมวลชนคนวิทยุชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”โดยมีผู้ประกอบการวิทยุชุมชนใน 19 จังหวัดเข้าร่วมการสัมมนาราว 500 คน
นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจากข้อมูลที่ได้รับรายงานพบว่าขณะนี้มีจำนวนวิทยุชุมชนที่เปิดดำเนินการทั่วประเทศกว่า 4,000 ราย ถือว่าค่อนข้างมาก จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการรบกวนสัญญาน รัฐบาลรับทราบปัญหาดังกล่าวและพร้อมที่จะเป็นสื่อกลางในการหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกัน อย่างไรก็ตามในมุมมองของตนในฐานะรัฐมนตรีที่ดูแลสื่อภาครัฐตระหนักดีว่า กลุ่มบุคคลที่เข้ามาทำวิทยุชุมชน เพราะมีใจรักที่จะเป็นสื่อสารมวลชนท้องถิ่น ยอมใช้ทุนของตัวเองมาลงทุน ทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาผลกำไร
เมื่อผู้ประกอบการวิทยุชุมชนรู้สึกว่าขณะนี้ไม่มีความมั่นคงในวิชาชีพ ตนก็ขอรับปากที่จะเข้ามาดูแลหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ แม้ตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาจะทำให้วิทยุชุมชนอยู่นอกกรอบของกฎหมาย แต่ในทัศนคติของตนถือว่าผู้ประการวิทยุชุมชนมาก่อนที่จะเกิดกฎหมายฉบับดังกล่าวขึ้นมา
“กฎหมายที่ประกาศบังคับใช้นี้ ไม่ได้มาจากรัฐบาลที่มาจากระบบประชาธิปไตย เกิดมาจากรัฐบาลชุดที่แล้วภายใต้อำนาจ คมช. และมีการร่างและให้ผ่านในช่วงท้ายๆ ก่อนหมดวาระของสภานิติบัญญัติ ขอให้ท่านทราบว่าผมกับท่านอยู่บนเรือลำเดียวกันที่ไม่ยอมรับอำนาจที่มาจากเผด็จการ แต่เมื่อผมมีโอกาสเข้ามาดูแลสื่อของภาครัฐ ผมมองไปไกลกว่านั้น คือถึงขั้นต้องมีการแก้กฎหมายเพื่ผ่าทางตันให้กับวิทยุชุมชน”นายจักรภพกล่าว
นายจักรภพย้ำอีกว่า ในมุมมองของตนไม่ยอมรับว่าวิทยุชุมชนเป็นเรื่องเถื่อน ผู้ที่เข้ามาทำวิทยุชุมชนมีจิตใจดี หวังดีต่อสาธารณะชน ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้และผู้ประกอบการวิทยุชุมชนต้องร่วมมือกัน พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่ออกมาได้ทำให้วิทยุชุมชน เคเบิลทีวีหรือแม้แต่ทีวีดาวเทียมเป็นกิจการเถื่อนไปโดยปริยาย
นายจักรภพกล่าวอีกว่าตนจะหาทางออกให้กับวิทยุชุมชนทั่วประเทศ โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้มีโครงการทดลองพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและวิทยุชุมชน จะมีการพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมภายหลังว่าต้องมีกฎระเบียบอย่างไรบ้างที่เป็นเงื่อนไขในความร่วมมือดังกล่าว เช่นรัฐบาลอาจจะขอเวลาของวิทยุชุมชนแต่ละคลื่นที่เข้าร่วมโครงการฯสัก 2-3 ชั่วโมงเพื่อเป็นสถานีเครือข่ายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามวิทยุชุมชนมีหลากหลายประเภท มีทั้งตั้งขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งคงต้องมีการพิจารณากลั่นกรองก่อนพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเข้าร่วมโครงการฯ ในเบื้องต้นของโครงการคงมีการประเมินผลก่อนว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการหรือไม่ หลังจากนั้นระยะยาวคงพัฒนาเป็นนโยบายของรัฐบาล
นายจักรภพกล่าวต่อว่า ผู้ประกอบการวิทยุชุมชนรายใดที่เข้าร่วมโครงการถือว่าช่วยงานราชการ ทางรัฐบาลก็จะช่วยเหลือเป็นการตอบแทนโดยจะทำข้อตกลงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าวิทยุชุมชนในโครงการความร่วมมือดังกล่าวจะต้องไม่ถูกจับดำเนินคดี คือห้ามจับ
รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนที่นายจักรภพจะขึ้นเวทีสัมมนา สำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 1 จ.ขอนแก่นได้จัดให้มีพิธีรดน้ำขอพรจากนายจักรภพเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยมีนายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นคนแรกที่รดน้ำขอพรจากนายจักรภพ ตามด้วยนายธีระพงษ์ โสดาศรี ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 1
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าระหว่างที่นายจักรภพเดินทางมายังโรงแรมสถานที่จัดสัมมนา ได้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งประมาณ 10 คนยืนถือป้ายประท้วงด้านหน้าโรงแรม มีข้อความว่า “รมต.ช่วยประหยัดเงินภาษีประชาชน”, “ข้าวยากหมากแพง รมต.หรูหรา ไม่เข้าใจ” , “รมต.ควรเป็นตัวอย่างกับประชาชน”, “หยุดหรูหราเพื่อประชาชน”และ “เจ้เพ็ญ”ช่วยประหยัดเพื่อชาติ
ทั้งนี้สาเหตุที่นักศึกษากลุ่มดังกล่าวออกมายืนถือป้ายประท้วง เนื่องจากมีข่าวว่าก่อนที่จะเดินทางมาจัดสัมมนาครั้งนี้ ทีมงานของนายจักรภพได้แจ้งมายังสำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 1 ว่าทางสำนักงานฯ ต้องจัดหารถยนต์นั่งที่เป็นยี้ห้อ”เบนซ์”เท่านั้นที่ใช้ต้อนรับนายจักรภพ ขณะที่ทีมงานผู้ติดตามเองต้องใช้รถโฟล์ค เพื่อให้สมเกียรติรัฐมนตรี