อดีตรอง ปธ.ส.ส.ร.รู้ทันเล่ห์ “พลังแม้ว” แก้ รธน.หนีผิดชี้วุ่นแน่

อดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ รู้ทัน “พลังแม้ว” เคลื่อนไหวแก้ไข รธน.เพื่อผลประโยชน์ตัวเองหนีคดียุบพรรค ชี้ปัญหาเกิดขึ้นเพราะนักการเมืองทำผิดแต่ไม่ยอมรับ แต่กลับไปโทษกฎหมาย ระบุประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้ เชื่อจะมีคนออกมาคัดค้านจนวุ่นวายอีกรอบ

วันนี้ (23 มี.ค.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กล่าวถึงความพยายามของพรรคพลังประชาชนที่จะเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้จะเป็นอำนาจของรัฐสภาแต่สิ่งที่จะต้องพิจารณา จะต้องดูด้วยว่าประเด็นที่จะแก้ไขต้องมีความชัดเจนว่าจะแก้เรื่องอะไร และประเด็นที่จะแก้มีปัญหามาน้อยเพียงใดจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เพิ่งประกาศใช้ได้ไม่นาน ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาจะต้องดูด้วยว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการประชามติจากประชาชน ดังนั้น ในกระบวนการแก้ไขจะต้องให้ความสำคัญกับประชาชนด้วยว่าสิ่งที่จะขอแก้ไขเป็นสิ่งที่ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญถ้าเป็นประเด็นที่แก้เพื่อตนเองให้พ้นจากการยุบพรรคก็ดี หรือเพื่อให้ตนได้ประโยชน์อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าจะต้องมีคนออกมาคัดค้าน สุดท้ายจะทำให้เกิดความวุ่นวาย จึงอยากให้ผู้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญพิจารณาถึงผลดีผลเสียให้ดี” นายเสรี กล่าว

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนได้อ้างความชอบธรรมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อผ่าทางตันทางการเมือง นายเสรี กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ทางตัน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้เป็นกติกาของบ้านเมือง ทุกคนต้องปฏิบัติตามกติกาของบ้านเมือง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นคนที่ทำผิดมักไม่ยอมรับผิด แต่กลับไปโทษรัฐธรรมนูญว่ามีปัญหา หรือบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากรัฐธรรมนูญ ความจริงปัญหาเกิดจากคนกระทำความผิด ถ้าไม่มีการกระทำความผิดมาตรานี้ก็จะไม่ต้องนำมาใช้ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงไม่ใช่ความชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนได้อ้างความชอบธรรมของพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมาก หากรัฐบาลมีปัญหาสะดุดลงจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย และประชาชนเสียประโยชน์ นายเสรี กล่าวว่า ตนเห็นว่าประชาชนจะเสียประโยชน์ก็เพราะนักการเมืองทำผิด หากอ้างเสียงของประชาชนก็ต้องดูว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ผ่านเสียงของประชาชนมาด้วยเช่นกัน “การที่ได้คะแนนเลือกตั้ง กับการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นคนละเรื่องกัน” นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่า หากผู้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำประชามติเพื่อขอความเห็นชอบของประชาชนเป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า การทำประชามติเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องที่สำคัญ โดยประชาชนเป็นผู้เสนอความต้องการหรือแสดงความเห็นผ่านการประชามติ เป็นสิ่งทำได้เพราะหากประชาชนเห็นด้วยก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้

เมื่อถามต่อว่าเวลาใดจึงควรพิจารณาถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเสรี กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญควรให้มีการใช้ไปสักระยะหนึ่งแล้วจึงทบทวนถึงการใช้รัฐธรรมนูญว่ามีปัญหาอย่างไร มีความขัดข้องในส่วนใด ทำให้บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้จริงหรือไม่ เป็นความขัดข้องที่รัฐธรรมนูญหรือที่กฎหมายลูกเพื่อให้แก้ไขตรงจุด หากนำรัฐธรรมนูญไปใช้แล้วเกิดปัญหาก็เป็นเหตุผลอยู่เองที่ต้องแก้ไข แต่ในเวลานี้เป็นเวลาที่เร็วเกินไป และเป็นการแก้ไขที่ไม่ได้เกิดจากปัญหาของรัฐธรรมนูญแต่เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชนของตนเองมากกว่า

“คนที่ทำผิดไม่ได้ว่าตัวเองเลย แต่จะโยนให้รัฐธรรมนูญมีข้อบกพร่องและผิดพลาดตลอด” นายเสรี กล่าว

/0110