xs
xsm
sm
md
lg

"เว็บไฮ-ทักษิณ" ปิดตัวหนีผิด "เพ็ญ" เต้นยึด NBT ฟอกตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - "สนธิ" ย้ำพันธมิตรฯ ชุมนุมใหญ่แน่ ทันทีที่ พปช.ยื่นญัตติแก้ไข รธน.เพื่อประโยชน์ตัวเอง "สุริยะใส" เตือน "เป็ดเหลิม" คิดก่อน ก๊าบๆ ชี้ถ้าพันธมิตรฯ อุบาท์คงไม่มีผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงขึ้นเวที "เจ๊เพ็ญ" เต้น ถูกกล่าวหา ไม่จงรักภักดี ยึดทีวีรัฐโต้ เผยเว็บไฮ-ทักษิณปิดตัวเองหนีความผิดจาบจ้วงป๋าเปรม นักธุรกิจชาวขอนแก่น สุดทนพฤติกรรม "โชติศักดิ์" หมิ่นเบื้องสูงไม่ยืนเคารพ เพลงสรรเสริญพระบารมี ส่วนม็อบลามกโชว์จู๋เข้ารับทราบข้อกล่าวหา

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า แนวทางการเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนเพื่อประโยชน์ของตัวเองว่า พันธมิตรฯจะนัดชุมนุมทันทีที่พรรคพลังประชาชนยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภา เพราะถือว่าเป็นการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของพรรคพวกตัวเอง ไม่ฟังความเห็นของประชาชน ไม่มีการทำประชามติ โดยพันธมิตรฯอาจจะนัดชุมนุมในสถานที่แห่งหนึ่ง แล้วรอให้ประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุม ซึ่งแค่ในกทม.ก็มีจำนวนหลายแสนคนแล้ว

"หากพรรคพลังประชาชนจะจัดม็อบมาชนก็ทำไป ถือว่าเป็นธรรมชาติของการ ต่อสู้ เราจะไปห้ามก็ไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องควบคุมสถานการณ์ ให้อยู่ในความสงบ"

นายสนธิ กล่าวว่า การเปิดเวทีสัมมนาประชาชนในรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ" ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา และเกิดความวุ่นวายจากฝ่ายต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯนั้น เพราะตำรวจประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป จึงไม่ได้วางมาตรการที่เข้มข้นมากพอ เราจะให้โอกาส ตำรวจอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายให้จัดการอย่างเด็ดขาดกับกลุ่มที่มาปั่นป่วน พยายาม สร้างความรุนแรง ถ้าเป็นการชุมนุมที่ต่างประเทศ ถ้ามีกลุ่มหนึ่งชุมนุมโดยสงบ สันติวิธี แต่อีกกลุ่มก้าวร้าว ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดื่มเหล้า ควักของลับออกมา ตำรวจเขา ต้องปราบพวกนี้ทันทีเพราะถือว่าจงใจสร้างความไม่สงบ และหากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ฝ่ายที่เริ่มใช้ความรุนแรงจะต้องรับผิดชอบ

"พันธมิตรฯทั้ง 5 คนเห็นตรงกันว่า เราจะต้องเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตัวเองต่อไป ไม่มีถอย แม้จะมีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง ก็ปล่อยให้เขาทำ แต่เราจะต้องดูแลป้องกันคนของเราไม่ให้ไปยุ่ง และที่ผ่านมาพันธมิตรฯก็ไม่เคยทำร้ายใครก่อน ถ้าเขาข่มขู่มาแล้วเราถอยหรือเราหยุด เราก็ไม่ควรจะออกมาสู้ตั้งแต่แรก"

ติง "เป็ดเหลิม" คิดก่อนพูด

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า คนที่เป็นถึงระดับ รมว.มหาดไทย ต้องระมัดระวังคำพูด เพราะเป็นบุคคล สาธารณะ และมีอำนาจรัฐต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง จะพูดอะไรต้องคิดก่อนพูด การเปิดบ้านด่าพันธมิตรฯเป็นแก๊งค์อุบาทว์นั้น ตนไม่อยากตอบโต้อะไร ให้สังคมตัดสินว่าเป็นคำพูดที่ควรออกจากปากคนเป็นรัฐมนตรีหรือไม่

"มท. 1 มักอ้างเสมอว่าจบดอกเตอร์แต่ไม่เข้าใจการเมืองภาคประชาชนและสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องมากำกับดูแลผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ช่างน่าเห็นใจบรรดาผู้ว่าฯ เหมือนกัน"

นายสุริยะใส กล่าวว่า สังคมที่มีเสนาบดีแข่งขันกันแสดงความก้าวร้าว พูดจาไม่สุภาพ แบบนี้ก็ไม่แปลกที่เราเห็นผู้คนก็พลอยแสดงความก้าวร้าว ถ่อยเถื่อนไปด้วย โดยเฉพาะบรรดาบริวารและเครือข่ายรัฐบาลหรือม็อบที่มาป่วนพันธมิตรฯ คนเหล่านี้ได้น้ำได้เนื้อจากความก้าวร้าวของรัฐมนตรีและแกนนำพรรคพลังประชาชนก็เลยเอาอย่างบ้าง พูดง่ายๆ คือไม่มีมูลหมาไม่ขี้

นายสุริยะใส กล่าวว่าถ้าพันธมิตรฯเป็นแก๊งค์อุบาท์คงไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ทรงคุณวุฒิของบ้านเมือง นักวิชาการ หรือกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงด้านต่างๆ มาขึ้นเวที พันธมิตรฯ จะไม่เสียเวลากับข้อกล่าวหาที่ไร้สาระและวาจาที่ไม่สุภาพจากคนในรัฐบาล เราจะให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดและสื่อสารกับสังคมและประชาชนเป็นสำคัญ

ส่วนที่นายจักรภพ เพ็ญแข ระบุว่าพันธมิตรฯ เหมือนแบตเตอรี่มือถือที่กำลังหมด ไม่มีใครเอาด้วยนั้น ถ้าพันธมิตรฯ เป็นแบตเตอรี่มือถือจริง ก็เป็นแบตเตอรี่แท้ ไม่ใช่แบตเตอรี่เก๊ หรือของปลอม แบตฯ หมดก็ชาร์ทใหม่ ซึ่งตอนนี้ชาร์ทเต็มแล้ว พร้อมใช้งานเต็มที่ รัฐบาลต่างหากที่เปรียบเหมือนแบตเตอรี่ปลอม เสื่อมเร็วใช้แล้วทิ้งไม่ใช่ของจริง

"สมัคร" ยันเตือน "ประชา" แล้วแต่ไม่ฟัง

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ไม่ใช่เรื่องของตน แต่ตนดูทั้งทหารและตำรวจก็จะไม่ให้วุ่นวาย ส่วนที่วุ่นวายเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น อยู่นอกเหนือการดูแล ตนไม่ได้ไปจับมือใครต่อใครหรอก แต่เมื่อบอกไปแล้วก็ควรจะเข้าใจ คือปล่อยให้เขาดำเนินการไปข้างเดียว ตบมือข้างเดียวไม่ดัง แต่ไปร่วมตบกับเขาก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เรื่องพรรค์อย่างนี้ยังเล็กน้อย เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตำรวจดูอยู่แน่นอน

ส่วนที่กลุ่มนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ที่ออกมาจัดเวทีคู่ขนานนั้น นายสมัครกล่าวว่า แล้วแต่นายประชา เมื่อเขาไม่ฟังตน จะไปทำอะไรได้ แต่คนธรรมดาควรจะฟังว่าหัวหน้าพรรคบอกว่าไม่ให้ตบมือสองข้าง ไปตบกับเขาทำไม เขาคงคิดว่าเขาทำดีมั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่าหากยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสภาวันไหน ก็จะไปชุมนุมวันนั้น นายสมัครกล่าวว่าเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของตน เขาเคลื่อนไปทำอะไร ถ้ามีปัญหามีสิทธิคัดค้านได้ แต่การลงคะแนนพันธมิตรฯไม่ได้ลงคะแนน ในสภาเขาลง

"เจ๊เพ็ญ" ยึดทีวีรัฐโต้ไม่จงรักภักดี

นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำสถาบันเบื้องสูงพาดพิงรัฐบาลโดยอ้างว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และตนไม่จงรักภักดี และ ช่อง 11 นำเสนอข่าวของการ เปลี่ยนแปลงสถาบันกษัตริย์ของประเทศเนปาลมาเผยแพร่ส่อเจตนาไม่บริสุทธ์ว่า เดิมที ตนไม่คิดจะมาเสียเวลาตอบโต้ในเรื่องนี้ เนื่องจากคนทั้งหลายเหล่านั้นไม่มีสถานภาพ อะไรที่จะออกมาทำลายย่ำยีบ้านเมืองอย่างที่กระทำการเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ ซึ่งเรื่องที่พูดชักจะกำเริบเสิบสานไปกันใหญ่

นายจักรภพ กล่าวว่า คนกลุ่มนี้ได้นำสถาบันระดับสูงอันเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั้งประเทศลงมาเป็นเครื่องมือของตัว ตนคิดว่าเรื่องนี้คงยอมไม่ได้ ดังนั้นในขั้นต้นตนจะออกรายการโทรทัศน์ NBT (ช่อง 11) เพื่อชี้แจง ซึ่งจากการสอบถาม NBTและจากได้ชมรายการด้วยตัวเองพบว่าไม่เป็นจริง การนำเสนอรายงานประเทศเนปาล เป็นการนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่แตกต่างจากช่องอื่นๆ ในทีวีไทย ดังนั้นการจ้องจับผิด ใช้ข้อกล่าวหาที่ฉกรรจ์ ขนาดนี้ถือว่ามีความประสงค์ร้ายอย่างชัดเจน เรื่องนี้ตนคงไม่หยุดเพียงแค่นี้ ขั้นแรกต้องชี้แจงให้ประชาชนรับทราบก่อนว่าข้อเท็จจริงไม่มีตามที่กล่าวหา

ส่วนเรื่องการชี้แจงต่อประชาชนเปรียบเสมือนผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยจะออกรายการ "ถามจริง ตอบตรง" โดยจะถือโอกาสนี้ชี้แจงเรื่องที่ถูกกล่าวหาและรายงานต่อประชาชนด้วยว่า สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที จะมีรายการอะไรบ้าง

สำหรับเรื่องที่ถูกแจ้งความในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงนั้น นายจักรภพ กล่าวว่า จะทำหนังสือชี้แจง และจะนำคำบรรยายที่ใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความมาเผยแพร่ต่อ สาธารณะชนด้วย

เหน็บพันธมิตรฯ แบตใกล้หมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงชุมนุมต่อไป ทางรัฐบาลจะดำเนินการ ป้องกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นายจักรภพกล่าวว่า พี่น้องประชาชน ส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยกับพันธมิตรฯ กลุ่มพันธมิตรฯเปรียบเสมือนโทรศัพท์ที่แบต ใกล้หมด ต้องฮัลโหลๆ ดังๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่เมื่อมีความก้าวร้าวถึงขั้นที่ใช้สถาบันระดับสูงมาเป็นเครื่องมือวิชามารมาเป็นเงื่อนไขของตัวเอง ตรงนี้รัฐบาลและตนเองจะอยู่เฉยต่อไปไม่ได้

"พันธมิตรฯ เป็นใครมาจากไหนที่รัฐบาลจะต้องมานั่งตอบคำถาม หรือเป็นที่ สนใจ ฉะนั้นเราจะตอบโต้เฉพาะเรื่องที่จะนำมาสู่ความเข้าใจผิด และความเสียหาย ต่อบ้านเมืองเท่านั้น แต่มากกว่านี้คงจะไม่มีมาตรการอะไร"

ส่วนที่มีการระบุว่า กลุ่มที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มนปก. นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่จริง หากมีหลักฐานก็แสดงมา ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องลงไปเพิ่มความสำคัญให้กับกลุ่มนอกระบบด้วยการลงไปเล่นเกมส์แบบนี้

ขู่ดำเนินคดีทำให้ประเทศเสียโอกาส

"ต้องขอบอกว่างับขาไปเถอะ แต่จะก้าวเดินต่อไป ฉะนั้นถ้าใครงับขาก็ฝังเขี้ยวให้ดี เพราะจะลากตามไปด้วย"

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ไม่ มันมีการงับขาจากหลายเขี้ยว ตอนนี้เปลี่ยนจาก รองเท้าคัตชูเป็นรองเท้าบูทจะได้งับยากขึ้น เมื่อถามว่า หมายถึงอะไร นายจักรภพ กล่าวว่า ประเด็นคือรัฐบาลจะต้องให้การศึกษาให้ความรู้กับประชาชนมากขึ้น ว่า บ้านเมืองกำลังจะไปสู่จุดไหนอย่างไร

"ตรงนี้ผมถามดังๆ ว่า ใครคือผู้เสียหายและวันหนึ่งคิดว่าอาจจะต้องมีการ รวบรวมประชาชนที่ออกมาโหมกระแสสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง คิดเป็น มูลค่าที่เสียหาย ซึ่งเรื่องนี้วันหลังอาจจะเกิดคดีแรกในเมืองไทย คือ ดำเนินคดี การสร้างความเสียโอกาสให้กับประเทศไปแค่ไหน จากการออกมาเคลื่อนไหว เพื่อตอบสนองปัญหาทางการเมืองของตนเอง"

แจ้งความ "โชติศักดิ์" หมิ่นเบื้องสูง

วันเดียวกัน นายสุนิมิต จิระสุข อายุ 36 ปี เจ้าของกิจการส่วนตัวชาวจังหวัดขอนแก่น เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ที่มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา ป.116 (2) ที่ไม่ลุกขึ้นยืนถวายความเคารพ เมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง และต้องการปลุกระดมมวลชนให้มีพฤติกรรมเยี่ยงอย่าง ทั้งการเขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ต่างชาติรับรู้ อันเป็นสิ่งที่คนไทยผู้รักและเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถยอมรับได้ในการกระทำดังกล่าว

พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีต่อ 2 เว็บไซต์ คือเว็บไซด์ ฟ้าเดียวกัน และ เว็บไซด์ ประชาไท ที่นำพฤติกรรมของนายโชติศักดิ์ไปตั้งเป็นกระทู้เพื่อให้มีผู้ร่วม แสดงความคิดเห็นชื่นชมและเห็นด้วยกับนายโชติศักดิ์

"มีหลายข้อความที่ระบุว่าเห็นด้วยที่นายโชติศักดิ์ บอกว่าคนที่ลุกขึ้นยืน เพลงสรรเสริญพระบารมี คือคนที่ชอบระบบไพร่ศักดินา บางคนบอกเป็นเมียฝรั่ง จะบอกให้สามีไม่ลุกยืนเหมือนกัน เพราะไม่ชอบระบบกษัตริย์มานานแล้ว ตลอดจน มีการแต่งเพลงล้อเลียนเพลงสรรเสริญพระบารมีอย่างหยาบคายมาก ผมในฐานะประชาชนคนไทยที่รักเคารพศรัทธาสถาบันมาก ยอมรับไม่ได้"

นายสุนิมิต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข้อความแสดงความเห็นปรากฏบนเว็บไซต์ดังกล่าวกว่า 90 ความเห็น โดยมีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับนายโชติศํกดิ์ แต่ส่วนใหญ่จะเห็นด้วย และแสดงถึงความต้องการล้มล้างระบอบกษัตริย์เช่นกัน ทำให้เชื่อได้ว่าการปล่อยให้มีการแสดงความเห็นอย่างเปิดเผย โดยการเผยแพร่ทาง อินเทอร์เน็ต เป็นการแสดงออกถึงการต้องการเป็นจุดศูนย์กลางของผู้ที่คิดล้มล้าง สถาบัน ดังนั้น จึงควรมีการดำเนินคดีกับเจ้าของเว็บไซต์ทั้งสอง ตลอดจนกระทรวงไอซีทีต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย

"ผมขอให้คนไทยอย่าอยู่นิ่งเฉยเมื่อรู้ว่าเกิดการกระทำเช่นนี้ หรือการล้มล้างระบอบกษัตริย์ ด้วยรูปแบบใดก็ตาม ต้องออกมาร่วมกันปกป้องสถาบันอันเป็นที่เคารพรักเทิดทูน อย่าเงียบเฉยและปล่อยให้คนพวกนี้เหิมเกริมได้อีกต่อไป"

ถูกวิจารณ์หนักไฮ-ทักษิณปิดตัวเองแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์www.hi-thaksin.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์ เป็นกระบอกเสียง ของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาตลอด รวมทั้งยังสนับสนุนพรรคพลังประชาชนอย่างชัดเจนนั้นได้ประกาศปิดตัวเองแล้ว โดยเจ้าของ นามปากกา "ประดาบ" ระบุว่าภายใน 48ชั่วโมงนับจากวันนี้ (28เม.ย.) เว็บไซต์นี้จะปิดตัวอย่างถาวร เพราะไม่ต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องตกเป็นเป้าและโดนโจมตีทางการเมืองอีกต่อไป ตามคำขอของ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ประดาบ ยังปฎิเสธว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เป็นการใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อหาที่ปราศจากหลักฐาน

อย่างไรก็ตามเว็บไซด์ ไฮ-ทักษิณ คือ 1 ในหลายเว็บไซด์ที่เผยแพร่เนื้อหาในหนังสือ "ก้อนกรวดในรองพระบาท" และหนังสือ "ตีเสมอจ้าว" ซึ่งมีเนื้อหาโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษอย่างหยาบคาย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ ซึ่งถือเป็นสื่อเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ปิดตัวไปแล้ว แต่ก็ยังมีสื่อเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ อีกเป็นจำนวนมากที่ยังคงดำเนินการสนับสนุน เช่น เว็บไซด์ ประชาไทย หนังสือพิมพ์ ประชาทรรศน์ และวิทยุชุมชนคนแท๊กซี่ FM 92.25 เมกะเฮริทซ์ และอื่นๆ

อัศวินรับ บช.น.พลาดปล่อยม็อบป่วน

พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.เปิดเผยว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายในการ ชุมนุมของพันธมิตรฯ บช.น.ขอรับผิดชอบถือว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจนครบาล แม้ว่าได้เตรียมการป้องกันแล้วแต่ก็ยังทำให้ช่างภาพได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการรักษาความปลอดภัยต่อไป บช.น.จะวางมาตรการเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ซ้ำรอย โดยจะอุดรูรั่ว รวมทั้งช่องโหว่ให้หมด

อย่างไรก็ตาม ในการเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุสร้างความวุ่นวาย ทางตำรวจจะขอภาพเหตุการณ์จากสื่อมวลชน และภาคเอกชนมาตรวจสอบใช้ประกอบสำนวนคดี เพื่อสืบสวนหาคนกระทำผิดมาลงโทษให้ได้

ช่างภาพช่อง 7 แจ้งความ

ที่ สน.ชนะสงคราม วานนี้ (28 เม.ย.) นายเสรี อูมา อายุ 43 ปี ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ที่ถูกกลุ่มม็อบต่อต้านพันธมิตรฯ ใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลังปาใสจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวคิ้วข้างซ้าย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ชนะสงคราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มดังกล่าวในข้อหา ทำร้ายร่างกาย โดยนำผลการตรวจร่างกายของแพทย์ของโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล มามอบไว้ให้เป็นหลักฐานด้วย

พ.ต.อ.รังสรรค์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน เช่น การตรวจสอบกล้องวงจรปิดของหน่วยงานต่างๆ ที่มาร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับตำรวจในวันเกิดเหตุ ซึ่งหากตรวจสอบพบตัวผู้กระทำผิดทราบว่าเป็นใครก็จะทำการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับอันตรายแก่กาย แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ผู้เสียหายจำหน้าตา ชี้ตัวได้ถูกต้องชัดเจน ก็จะขอหมายจับจากศาลและติดตามจับกุมต่อไป

โชว์จู๋ตำรวจปรับแค่ 500

ต่อมาเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ที่ สน.ชนะสงคราม นายสาคร เอี่ยมศรี อายุ 52 ปี ชาว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่ก่อเหตุถลกกางเกงโชว์อวัยวะเพศระหว่างไปชุมนุมคัดค้านงานสัมมนาของกลุ่มพันธมิตรฯเข้าพบ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิชย์ กันจำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ชนะสงคราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และเปรียบเทียบปรับ 500 บาท ในข้อหาทำลามก

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า หลังจากเปรียบเทียบปรับเรียบร้อยแล้ว ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหา ส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ให้เแพทย์ตรวจสุขภาพจิตด้วย เนื่องจาก เป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับเพศ

"เพ็ญ" ชี้แจงข่าวเนปาล

นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการถามจริง ตอบตรง ทางสถานีโทรทัศน์เอ็บบีที นำเสนอข่าวการเลือกตั้งที่ประเทศเนปาล ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การนำเสนอดังกล่าวเป็นการกระทำที่พยายามที่จะก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ข้อเท็จจริงในการนำเสนอข่าวการเลือกตั้ง ที่ประเทศเนปาล ก็คือ ในระหว่างที่ราชอาณาจักรเนปาล ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างจะรุนแรง อันเนื่องมาจากการเลือกตั้ง และการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เป็นผลมาจากการประท้วงใหญ่ ที่ทำให้การยึดครองอำนาจของกลุ่มเดิมทลายตัวลงไป เรียกได้ว่าผลจากเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้สื่อทั่วโลกสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเห็นว่าเป็นการเลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ และสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ก็เป็นสื่อแขนงหนึ่งที่นำเสนอข่าว โดยการนำเสนอข่าวก็คือแปลข่าวจากสำนักข่าวภาษาอังกฤษ ประกอบกับการค้นคว้าจากที่ต่าง ๆ จนปรากฏเป็นรายงานข่าวในเรื่องดังกล่าว และในเวลาเดียวกันกับที่ สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที นำเสนอข่าวนี้ ทุกช่องในเมืองไทยนำเสนอหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น