xs
xsm
sm
md
lg

“เพ็ญ” ปัดหนุน “ม็อบโชว์จู๋” - ขู่ฟ้องคนต้านแก้ รธน.ทำชาติเสียโอกาส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจักรภพ เพ็ญแข
“เพ็ญ” ปัด นปก.อยู่เบื้องหลังคนถ่อยก่อเหตุป่วนเวทีพันธมิตรฯ-ด่า “ป๋าเปรม” ยันรายงานพิเศษเรื่องโค่นล้มสถาบันกษัตริย์เนปาลทางเอ็นบีทีไม่มีอะไรผิดสังเกต ขู่ดำเนินคดีคนขวางแก้ รธน. อ้างทำให้ประเทศเสียโอกาส มั่นใจรัฐบาล “หมัก” อยู่ครบ 4 ปี

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายจักรภพ เพ็ญแข ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (28 เม.ย.) นายจักรภพ เพ็ญแข รับมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรนำสถาบันเบื้องสูงพาดพิงรัฐบาลโดยกล่าวอ้างว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่จงรักภักดีและช่อง 11 นำเสนอข่าวของการเปลี่ยนแปลงสถาบันกษัตริย์ของประเทศเนปาลมาเผยแพร่ว่า วันนี้มีคนที่พยายามทำร้ายรัฐบาลตลอดจนผลงานของรัฐบาลอย่างสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ซึ่งยกระดับจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ของกรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้เดิมทีตนไม่คิดจะมาเสียเวลาตอบโต้ในเรื่องนี้ เนื่องจากคนทั้งหลายเหล่านั้นไม่มีสถานภาพอะไรที่จะออกมาทำลายย่ำยีบ้านเมืองอย่างที่กระทำการเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ ซึ่งเรื่องที่พูดชักจะกำเริบเสริบสานไปกันใหญ่

นายจักภรพ กล่าวต่อว่า คนกลุ่มนี้ได้นำสถาบันระดับสูงอันเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั้งประเทศลงมาเป็นเครื่องมือของตัว ตนคิดว่าเรื่องนี้คงยอมไม่ได้ ดังนั้นในขั้นต้นตนจะได้ให้ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีออกชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่าข้อเท็จจริงในเรื่องของการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับประเทศที่ได้เคยอ้างถึงนั้นเป็นอย่างไร แต่ในขั้นต้นนี้ตนได้สอบถามและได้ชมรายการด้วยตนเองพบว่าไม่เป็นความจริงการนำเสนอประเทศที่กล่าวอ้างนั้นไม่แตกต่างอะไรกับช่องอื่น ๆ ในทีวีไทย เป็นการนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จำนวนข่าวที่ออกมา ปริมาณข่าวที่ออกเป็นไปตามสัดส่วนการรายงานข่าวข้อเท็จจริง ดังนั้นการจ้องจับผิดใช้ข้อกล่าวหาที่ฉกรรจ์ขนาดนี้ถือว่ามีความประสงค์ร้ายอย่างชัดเจน เรื่องนี้ตนคงไม่หยุดเพียงแค่นี้ขั้นแรกต้องชี้แจงให้ประชาชนรับทราบก่อนว่าข้อเท็จจริงไม่มีตามที่กล่าวหา

นายจักรภพกล่าวต่อว่า อย่าลามปามถึงเอ็นบีที เหมือนกับสถานีโทรทัศน์ที่เริ่มตั้งไข่ จนพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ฉะนั้นถ้ายังพอขอร้องกันได้ ยังพูดจาภาษาสุภาพชนกันได้ขอร้องอย่าโจมตี เอ็นบีที ให้โจมตีมายังตน ซึ่งจะตอบโต้แนวทางทางการเมือง ส่วนเรื่องการชี้แจงต่อประชาชนเปรียบเสมือนผู้ถือหุ้นใหญ่ นอกจากสัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนแล้ว คืนนี้ตนจะไปออกรายการ ถามจริง ตอบตรง โดยจะถือโอกาสนี้ชี้แจงเรื่องที่ถูกกล่าวหาและรายงานต่อประชาชนด้วยว่า สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที จะมีรายการอะไรบ้างที่จะนำเสนอตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคมซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นของการดำเนินการ ตนขอชี้แจงเป็นระยะๆ หวังว่า สื่อมวลชนคงจะนำเรื่องนี้เสนอต่อสาธารณะชนต่อไป นอกจากนี้ ตนกำลังพิจารณาว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูงจนกระทั่งมีการแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลนั้น ตนจะทำเป็นหนังสือชี้แจงและจะนำคำบรรยายที่เขาใช้เป็นข้อกล่าวหามาเผยแพร่ต่อสาธารณะชนด้วย โดยสรุปจะเป็นการชี้แจงเรื่องเอ็นบีที และเรื่องที่ถูกกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง

“ผมไม่อยากสนใจจุดนี้เท่าไหร่ แต่เมื่อกำเริบเสิบสานถึงขนาดนี้ก็ต้องตอบโต้กันด้วยเหตุผลและข้อมูลให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ตัดสิน” นายจักรภพ กล่าว

เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงชุมนุมต่อไป ทางรัฐบาลจะดำเนินการป้องกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นายจักรภพกล่าวว่า พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยกับพันธมิตร กลุ่มพันธมิตรเปรียบเสมือนโทรศัพท์ที่แบตใกล้หมด ต้องฮัลโหลๆ ดังๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่เมื่อมีความก้าวร้าวถึงขั้นที่ใช้สถาบันระดับสูงมาเป็นเครื่องมือวิชามารมาเป็นเงื่อนไขของตัวเอง ตรงนี้รัฐบาลและตนเองจะอยู่เฉยต่อไปไม่ได้ สังเกตได้ว่าเราไม่เคยตอบโต้พันธมิตรฯ ชนิดช็อตต่อช็อต เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็น คู่ของรัฐบาลในทางการเมืองคือพรรคฝ่ายค้านและเราจะตอบโต้กลับในระบบรัฐสภา ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและสิ่งที่พี่น้องประชาชนคาดหวัง

“พันธมิตรฯ เป็นใครมาจากไหนที่รัฐบาลจะต้องมานั่งตอบคำถาม หรือเป็นที่สนใจ ฉะนั้นเราจะตอบโต้เฉพาะเรื่องที่จะนำมาสู่ความเข้าใจผิด และความเสียหายต่อบ้านเมืองเท่านั้น แต่มากกว่านี้คงจะไม่มีมาตรการอะไร ใครที่มีเหตุผลรู้ว่าบ้านเมืองกำลังเข้าที่เข้าทาง เขาใช้ระบบรัฐสภา แม้แต่ประชาชนทั่วไปก็สามารถพูดสมาชิกรัฐสภาได้ เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะสร้างกลุ่มมาเฟียของตัวเอง ขอให้ไปทำที่อื่น อย่ามาทำในระบบของสุภาพชนที่เขากำลังจะพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า”

เมื่อถามว่า มีการกล่าวอ้างว่ากลุ่มที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตร เป็นกลุ่ม นปก. นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่จริง หากมีหลักฐานอะไรก็แสดงออกมา เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องเพราะ กลุ่มต่างๆ ที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตามรู้ดีว่าบ้านเมืองเวลานี้กลับสู่ครรลองประชาธิปไตยแล้ว เดิมทีเราต้องใช้การประท้วงเนื่องจากรัฐบาลเป็นเผด็จการระบอบทหารเข้าครอบงำประเทศจะให้สู้ด้วยวิธีไหน กลไกปกติไม่มี แต่มาตอนนี้รัฐบาลถูกวิจารณ์ สื่อสารมวลชนเปิดมากขึ้นใครที่เคยวิจารณ์รัฐบาลจะใช้ถ้อยคำรุนแรงหยาบคายอย่างไรก็ยังทำได้ เป็นการแสดงว่าระบอบประชาธิปไตยคืนสู่ที่ ฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องลงไปเพิ่มความสำคัญให้กับกลุ่มนอกระบบด้วยการลงไปเล่นเกมแบบนี้

“ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเป็นเพียงการเรียกร้องของคนบางกลุ่ม ที่เรียกร้องความสนใจและความสำคัญให้กับตนเอง เพราะรู้ว่าลมหายใจสุดท้ายเข้ามาใกล้เต็มที” นายจักรภพ กล่าว

เมื่อถามว่า มองอายุรัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ จากวิกฤติต่างๆ นายจักรภพ กล่าวว่า น่าจะประมาณ 4 ปี เพราะเป็นวาระปกติ ปัญหารัฐบาลไม่ได้อยู่ที่ต้องได้รับคำชมตลอดเวลา รัฐบาลต้องถูกวิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นคำวิจารณ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือเป็นธรรม เป็นปกติของรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นการถูกวิจารณ์มาก ไม่ได้บั่นทอนอายุรัฐบาล หากถูกวิจารณ์แล้วผ่านสันดอนมาได้ นั่นเท่ากับผ่านการทดสอบย่อย ซึ่งจะนำไปสู่การทดสอบใหญ่ นั้นคือการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า นายกฯ ระบุว่า มีกลุ่มที่พยามใช้ข่าวปลุกปั่นประชาชนจะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอนไปด้วยหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ต้องขอบคุณนายกฯ ที่กรุณาตอบโต้ให้กับสมาชิกร่วมคณะ ยังให้ความเข้าใจกับสาธารณชนเข้าใจว่าบ้านเมืองอยู่ในครรลองอย่างไร ขณะนี้สมการบ้านเมืองยังอยู่ที่เดิม เพราะมีคนจำนวนมากคิดว่าแนวทางการปฏิรูปประชาธิปไตยไปไม่รอด ไปตั้งธงอย่างนั้น จึงเกิดกระแสโหมกระหน่ำวิจารณ์โดยไม่คิดถึงประเทศชาติ ประชาชน ลองคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปเพื่อให้รัฐบาลทำงานได้คล่องขึ้น สามราถแก้ไขปัญหาข้าวยากหมากแพงแก้ปัญหาการแข่งขันระหว่างประเทศได้อย่างทะมัดทะแมง ปรากฎว่ามานั่งจับผิดกัน เรียกว่าจะก้าวขาเดินก็งับขากัน พยามจะลากถอยหลัง

“ ต้องขอบอกว่างับขาไปเถอะ แต่จะก้าวเดินต่อไป ฉะนั้นถ้าใครงับขาก็ฝังเขี้ยวให้ดี เพราะจะลากตามไปด้วย”

เมื่อถามว่า หมายถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ไม่ มันมีการงับขาจากหลายเขี้ยว ตอนนี้เปลี่ยนจากรองเท้าคัตชูเป็นรองเท้าบูทจะได้งับยากขึ้น เมื่อถามว่า หมายถึงอะไร นายจักรภพกล่าวว่า ประเด็นคือรัฐบาลจะต้องให้การศึกษาให้ความรู้กับประชาชนมากขึ้น ว่าบ้านเมืองกำลังจะไปสู่จุดไหนอย่างไร อย่าลืมว่า ขณะนี้ชาวต่างประเทศเริ่มแสดงความรู้สึกแล้วว่าพอเป็นประชาธิปไตยเขาก็ดีใจและอยากมาร่วมลงทุนในไทย แต่พอมีข่าวการยึดอำนาจ มีการเตรียมพร้อม มีข่าวว่าพันธมิตรฯ จะออกมาก็หมดเครดิต

“ตรงนี้ผมถามดังๆ ว่า ใครคือผู้เสียหายและวันหนึ่งคิดว่าอาจจะต้องมีการรวบรวมประชาชนที่ออกมาโหมกระแสสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง คิดเป็นมูลค่าที่เสียหาย ซึ่งเรื่องนี้วันหลังอาจจะเกิดคดีแรกในเมืองไทย คือ ดำเนินคดีการสร้างความเสียโอกาสให้กับประเทศไปแค่ไหน จากการออกมาเคลื่อนไหว เพื่อตอบสนองปัญหาทางการเมืองของตนเอง”

อยึ่ง สำหรับ นายจักรภพ เคยให้สัมภาษณ์ในทำนองว่าไม่ยอมรับระบบศักดินา และอยากเห็นสงครามประชาชนเกิดขึ้น และเคยเป็นแกนนำกลุ่ม นปก.ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยนำม็อบไปชุมนุมด่าทอ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ รวมทั้งสนับสนุนให้กล่าวโจมตี พล.อ.เปรม หลายครั้ง และล่าสุดมีผู้ตั้งข้อสังเกตถึงการเผยแพร่รายงานพิเศษของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีที่นายจักรภพกำกับดูแลอยู่ ซึ่งมีการเสนอรายงานพิเศษเรื่องการเลือกตั้งเนปาลโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ รวมทั้งการโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ในฝรั่งเศส และการปฏิวัติโค่นล้มกษัตริย์พระองค์หนึ่งในอังกฤษโดยสามัญชน ซึ่งมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าการเผยแพร่รายงานชิ้นนี้มีนัยแอบแฝง กรณีนี้เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ในเวทีสัมมนาพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

/0110
ม็อบก่อกวนงานสัมมนาพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ใส่เสื้อ นปก.ชัดเจน
เสื้อแดงไม่รับรัฐธรรมนูญ 2550 ที่กลุ่ม นปก.เคยผลิตออกมาเพื่อรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญช่วงการลงประชามติเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น