รายงานพิเศษ : ปล่อยให้ “ทักษิณ-ลิ่วล้อ” ลบหลู่ “ชาติ-สถาบัน” กันเข้าไป!?!

อมรรัตน์ ล้อถิรธร...รายงาน

จากพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นสถาบันหลายต่อหลายครั้งของ “ทักษิณ”และ “คนรักทักษิณ” ที่ผ่านมา ล่าสุด เริ่มเหิมเกริมด้วยการใช้ “ธงชาติไทย” เป็นเครื่องมือ ประกาศศักดา “THAKSIN” ต่อสายตานานาประเทศให้เข้าใจว่า “ทักษิณคือประเทศไทย หรือประเทศไทยเป็นของทักษิณ” พฤติกรรมที่เลวร้ายนี้ แม้เจ้าตัวและบริวารรอบข้างจะช่วยกันอ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นว่าฝีมือใคร แต่เมื่อทักษิณในฐานะเจ้าของชื่อก็นั่งอยู่ตรงข้ามธงที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว หาได้ทัดทานท้วงติงให้มีการปลดธงดังกล่าวลงไม่ แล้วจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้อย่างไร? ที่น่าเสียใจยิ่งกว่าก็คือ ขนาดธงชาติของไทยถูกเปลี่ยนให้เป็นเพียง “ธงทักษิณ” เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย ก็ยังเห็นว่า ไม่ผิด...ไม่ได้เป็นการเหยียดหยามหรือทำให้ประเทศต้องมัวหมองแต่อย่างใด

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายงานพิเศษ

กี่ครั้งแล้วที่ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”พูดหรือกระทำทั้งในสิ่งที่หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นสถาบันที่เคารพสูงสุดของปวงชนชาวไทย โดยไม่สนใจว่าจะเป็นการกระทำที่ย่ำยี-ทำร้ายจิตใจของคนไทยขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็น “การทำบุญในวัดพระแก้ว” (10 เม.ย.48), การพูดในงาน “นายกฯ พบแท็กซี่” (25 ธ.ค.48)ว่า “ถ้าผมไม่จงรักภักดี แล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี” ,การพูดผ่านรายการวิทยุ “นายกฯ คุยกับประชาชน” (4 ก.พ.49) ว่า “ถ้าพระเจ้าอยู่หัวกระซิบรับสั่งคำเดียว ทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทออกแน่” หรือแม้แต่การนำธงเฉลิมพระเกียรติที่มีข้อความ "ทรงพระเจริญ” แจกให้ชาวบ้านถือโบกสะบัดต้อนรับและให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ระหว่างที่ถูกหลายฝ่ายในสังคมเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ

แม้พฤติกรรมหลายอย่างของ พ.ต.ท.ทักษิณดังกล่าวจะทำให้คนไทยเจ็บช้ำน้ำใจ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเอาผิดเขาในทางกฎหมายได้ ขณะที่หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า หรือชายคนนี้ต้องการเป็น “ประธานาธิบดี” ตามที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างจริง เพราะแม้ปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ได้อยู่ในอำนาจแล้ว แต่ในยุคที่พรรคนอมินีอย่างพลังประชาชนมีอำนาจ ก็ยังปรากฏพฤติกรรมบางอย่างของแนวร่วมที่เคยสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณกระทำการหมิ่นสถาบันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่แนวร่วม นปก.คนหนึ่งไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพ พร้อมรณรงค์ว่า “ไม่ยืน-ไม่ใช่อาชญากร คิดต่าง-ไม่ใช่อาชญากรรม” แถมสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที(ช่อง 11 เดิม) ของรัฐมนตรีจักรภพ ก็ทำเหมือนสนับสนุนการกระทำดังกล่าว ด้วยการปล่อยให้คนใส่เสื้อรณรงค์ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากรฯ ออกทีวีของตน นี่ยังไม่รวมกรณีที่เอ็นบีทีเผยแพร่สารคดีเลือกตั้งเนปาลความพยายามล้มราชวงศ์เนปาลอีกต่างหาก

เป็นที่น่าสังเกตว่า พฤติกรรมที่อาจเข้าขั้นหมิ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และแนวร่วม ไม่ได้จำกัดกรอบอยู่แค่เรื่องสถาบัน หากแต่ลามมาถึงเรื่องของ “ชาติ” ด้วย โดยสิ่งที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือก็คือ “ธงชาติไทย” โดยมีการเขียนชื่อทักษิณเป็นภาษาอังกฤษ(THAKSIN) ลงบนธงชาติไทย ติดไว้ในสนามซิตีออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าของ ธงชาติไทยที่ถูกทำให้เป็น “ธงทักษิณ”ดังกล่าวถูกติดไว้ในสนามนัดที่ทีมแมนฯ ซิตี้ ดวลแข้งกับฟูแล่มเมื่อวันที่ 26 เม.ย. โดย พ.ต.ท.ทักษิณก็นั่งชมการแข่งขันอยู่บนอัฒจันทร์ตรงข้ามธงชาติที่มีชื่อตัวเอง!

และนั่นไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ที่ธงไตรรงค์หรือธงชาติไทยถูกกระทำย่ำยีด้วยชื่อของทักษิณ เพราะยังมีอีกหลายกรรมหลายวาระทยอยออกมาให้เห็นเป็นชุดๆ โดยเป็นธงชาติไทยที่มีข้อความ “WELCOME THAKSIN” ซึ่งมีคนไทยและชาวต่างประเทศถือต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ และบางครั้งก็มีธงดังกล่าวติดอยู่บนอัฒจันทร์สนามฟุตบอลของแมนฯ ซิตี โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวนั่งอยู่หน้าธงชาติไทยเวอร์ชั่นเวลคัมทักษิณดังกล่าว

หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ที่สเวน โกรัน อีริกส์สัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินทางมาประเทศไทย พร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อเปิดแถลงข่าวเตรียมซื้อตัวนักเตะไทย 3 คนไปร่วมทีม(15 พ.ย.50) ก็ได้มีการนำธงชาติไทยมาดัดแปลงโดยปิดทับด้วยสัญลักษณ์ทีมแมนฯ ซิตี้ เพื่อให้เป็นแมนฯ ซิตี้สาขาประเทศไทย ซึ่งหลายฝ่ายก็ท้วงติงมาครั้งหนึ่งแล้วว่าไม่เหมาะสม แต่ครั้งนั้นทางตำรวจสันติบาล ก็ทำแค่ตักเตือน มิได้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 แต่อย่างใด สังคมจึงได้เห็นธงชาติไทยถูกกระทำย่ำยีซ้ำอีกด้วยบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับสโมสรแมนฯ ซิตีของทักษิณ

ทั้งนี้ ไม่ว่าใครก็ตามดัดแปลงธงชาติไทย จะถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย 2 ฉบับ คือ ผิดตาม พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 มาตรา 53 ซึ่งห้ามผู้ใดทำเครื่องหมายหรือประดิษฐ์รูปหรือตัวอักษรลงบนผืนธงชาติ ผู้ใดกระทำการดังกล่าวจะถือว่ามีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 118 ซึ่งเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ฐานกระทำใดๆ ในลักษณะดูถูกเหยียดหยามธงหรือเครื่องหมายอื่นใดที่มีความหมายถึงรัฐ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่ยังไม่ทันที่เจ้าของชื่อบนธงชาติอย่างทักษิณจะได้ชี้แจงยอมรับหรือปฏิเสธในเรื่องนี้ บรรดารัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคพลังประชาชนก็รีบออกมาปกป้องเจ้านายเก่าเป็นการใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จักรภพ เพ็ญแข ที่ออกมาชี้ว่า มีขบวนการจับผิด พยายามหาเหตุมาเสี้ยมมาโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ

ด้านรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ อย่างนายนพดล ปัทมะ ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รีบบอกว่า เรื่องธงดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะอาจจะเป็นการกระทำของบุคคลหรือสมาชิกของสโมสรฯ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คงไม่ใช่คำสั่งของสโมสรฯ ที่ให้ทำเช่นนั้น วันต่อมา (30 เม.ย.) นายนพดล ได้ออกมาบอกอีกว่า ได้โทรศัพท์ถาม พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ทราบว่าเป็นการกระทำของแฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ที่ดีใจที่คนไทยไปสร้างความสำเร็จให้สโมสรฯ ดังนั้นทั้งสโมสรแมนฯ ซิตี้ และ พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องธงดังกล่าวแต่อย่างใด!?!

ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ได้เห็นธงชาติไทยเวอร์ชั่นที่มีชื่อทักษิณแล้วยังขนลุก ไม่กล้าปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยบอก ต้องไปถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่าทำไมเป็นอย่างนั้น พร้อมเชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณต้องบอกว่าไอ้ฝรั่งมันทำ!

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ แม้จะยังไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ก็ได้ให้บุตรชายอย่างนายพานทองแท้ ชินวัตร ชี้แจงนำร่องไปก่อน (30 เม.ย.) โดยอ้างว่า ธงชาติไทยที่มีชื่อทักษิณเป็นการกระทำของกองเชียร์ชาวอังกฤษ ซึ่งไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมของไทย และว่าส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ และได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สนามแล้วว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และหวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

ขณะที่นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยืนยัน(1 พ.ค.) ว่า เรื่องธงชาติไทยที่มีชื่อทักษิณนั้น เป็นเรื่องของผู้ชมชาวอังกฤษที่เอาธงไปแสดง เสร็จแล้วก็เก็บกลับ พร้อมย้ำ พ.ต.ท.ทักษิณเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องขอโทษตามที่บางฝ่ายเรียกร้อง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมผู้สนับสนุนและผู้ร่วมกระทำผิดต่อธงชาติไทยแล้วเมื่อวานนี้(1 พ.ค.) เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดทั้งกฎหมายธงและกฎหมายอาญา อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ายื่นหนังสือต่อตำรวจกองปราบฯ เช่นกัน โดยขอให้ตำรวจอย่าบ้าจี้ตามกระแส และให้สืบสวนตามข้อเท็จจริงว่า แฟนคลับของสโมสรแมนฯ ซิตี้ หรือกลุ่มบุคคลใดเป็นผู้กระทำต่อธงชาติไทยดังกล่าว

ลองมาดูกันว่า หลายฝ่ายในสังคมมองกรณีธงชาติไทยถูกกระทำด้วยชื่อทักษิณอย่างไร?
นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตไทย มองว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายอยู่แล้ว และ พ.ต.ท.ทักษิณจะโบ้ยว่าตัวเองไม่รู้เรื่อง คงไม่ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมที่กัดกร่อนหรือบ่อนทำลายสถาบันนั้น เป็นขบวนการที่มีมานานพอสมควรแล้ว เพิ่งจะมาออกฤทธิ์เดชในตอนนี้ ดังนั้นหากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดใด จะเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้เกิดการท้าทายสถาบันมากขึ้น

“เรื่องนี้กฎหมายก็มีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะบอกว่า ไม่รู้เรื่อง จะโบ้ยไปให้คนอื่นว่า ฝรั่งเป็นคนทำ ก็คงฟังไม่ขึ้น เท่าที่รู้มันมี พ.ร.บ.ว่าด้วยธงอยู่แล้ว แต่เรื่องอื่นๆ ก็ชัดเจนว่า เขามันก็เรื่องของมาร์เก็ตติ้ง เขาทำเพื่อการประชาสัมพันธ์หาเสียงให้แก่ตัวเอง (ถาม-ก่อนหน้านี้ ก็เคยมีกรณีสโมสรนี้มาเมืองไทย และมีการเอาธงชาติไทยมาดัดแปลงโดยมีสัญลักษณ์สโมสรนี้ทับอยู่ ดังนั้นกรณีนี้คุณทักษิณจะบอกว่า ไม่รู้ คงยาก?) ตอนนี้สังคมไทยเป็นสังคมที่ไร้บรรทัดฐานอย่างมาก ใครทำอะไร ก็จะโบ้ยบอกว่า ผมไม่รู้ คนเอาไปทำใช้ชื่อผม ผมไม่รู้ คนเอาไปเขียนชื่อผม อะไรทุกอย่าง ผมไม่รู้ทั้งนั้น แต่ถ้าคนเรามีความรับผิดชอบเนี่ย พอรู้แล้วว่าเขาทำอย่างนี้ มันก็ต้องหามาตรการป้องกัน ต้องมีความระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้น”

“(ถาม-มีกรณีที่แนวร่วม นปก.คนหนึ่งไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีอีก รู้สึกเป็นห่วงสถาบันมั้ย?) (ถอนใจก่อนตอบ) มันก็ไม่ใช่แค่อันนี้นะ มันก็เป็นขบวนการที่มันมีมานานพอสมควร แต่มันค่อยๆ แสดงอาการฤทธิ์เดชออกมาในช่วงหลังๆ นี้มากขึ้น แต่ผมคิดว่า ส่วนหนึ่งก็มาจากการดูท่าทีของฝ่ายบ้านเมือง คือ รัฐบาลเอง ไม่เข้ามาดำเนินการ อันนี้ก็เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า เป็นการส่งเสริมให้เขาคิดที่จะท้าทายมากยิ่งขึ้น คือเรื่องนี้ก็อยู่ที่ฝ่ายบ้านเมือง ฝ่ายบ้านเมืองย่อมรู้ว่า อะไรควรอะไรไม่ควรกฎหมายมันก็มีอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำอะไร มันก็เท่ากับส่งสัญญาณให้คนที่คิดจะท้าทาย คิดจะบ่อนทำลายหรือลดความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบัน กัดกร่อนไปเรื่อยๆ”

ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยเช่นกัน ก็พูดถึงกรณีธงชาติไทยถูกเขียนทับด้วยชื่อทักษิณว่า คงไม่ได้เห็นฝ่ายการเมืองดำเนินการใดใดที่ถูกที่ควรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะแต่ละคนในรัฐบาลล้วนเป็นลูกหาบของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ทูตกษิต แนะว่า สถานทูตไทยที่กรุงลอนดอนควรทำหนังสือประณามการกระทำต่อธงชาติไทยดังกล่าว พร้อมสอบถามข้อเท็จจริงจากสนามสโมสรแมนฯ ซิตี้ว่าใครเป็นผู้เขียนชื่อทักษิณลงบนธงดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องรอให้กระทรวงการต่างประเทศสั่งการเรื่องนี้

ทูตกษิต ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การกระทำต่อธงชาติไทยครั้งนี้ จะมองเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากต้องการสื่อว่า “ประเทศไทยเป็นของทักษิณ”นั่นเอง

“คุณทักษิณก็นั่งอยู่ด้วย นั่งตรงข้ามธงชาตินั้น คุณทักษิณก็เป็นเจ้าของสนามฟุตบอล เจ้าของทีม เป็นอดีตนายกฯ มีอำนาจวาสนาใหญ่โตมโหฬารจนกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อเห็น(ธงชาติไทยที่เขียนชื่อตนเอง)อยู่ข้างหน้าแบบนี้ แล้วไม่ทำอะไร ก็แสดงว่าคุณทักษิณก็ยอมรับว่า ตัวเองคือประเทศไทย มันก็กลับมาที่เราได้ฟาดฟันมา 2-3 ปี 4-5 ปี ก็คือว่า เรามีความคิดว่า คุณทักษิณอยากจะเป็นรัฐบาลเดียว ประเทศเดียว อยู่ในตัวทักษิณทั้งหมด และการเขียน(ชื่อทักษิณลงบนธงชาติไทย)แบบนี้ก็บ่งบอกว่า ธงชาติอันนี้ก็คือ “ประเทศไทยของทักษิณ หรือทักษิณคือประเทศไทย” มันไม่สามารถจะเป็นอย่างอื่นได้ เพราะพฤติกรรมคุณทักษิณ 3-4 ปีที่ผ่านมา มันก็บ่งบอกไปทำนองว่า อะไรก็ตามที่จะเป็นข่าวหรือเสริมสร้างอุดมการณ์ปรัชญาว่าด้วยผู้นำคือท่านคนเดียว อะไรต่างๆ เหล่านี้”

“เราก็รู้อยู่ว่า การแข่งขันทุกครั้งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับทีมใดของอังกฤษก็ตาม มันถ่ายทอดสดมาตรงนี้ มันก็เลยเป็นการขายชื่อทักษิณ และอาจชี้นำให้ทุกคนเคยเห็นหรือคนที่ชื่นชมคุณทักษิณว่า ประเทศชาติจะอยู่ได้-ไม่ได้ก็คุณทักษิณ มันไม่ใช่เป็นเรื่องอะไรที่ไร้เดียงสาหรือบังเอิญ ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีแผน มีขั้นตอนกันมา และสิ่งที่เราเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า คุณทักษิณยังอยากจะกลับเข้ามามีอำนาจ และลูกหาบทั้งหลายก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะนำไปสู่การกลับคืนสู่อำนาจในอำนาจที่อยู่ที่คนๆ เดียว นโยบายพรรคเดียว คนเดียว”

ด้าน สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียนชื่อดัง มองกรณีมีการเขียนชื่อทักษิณลงบนธงชาติไทยว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ตนก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณทำอะไรที่ไม่เหมาะสมมาเยอะแล้ว และว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าจะเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเล่นเรื่องคดีต่างๆ โดยเอาเข้าคุกหรือยุบพรรค จะดูเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า

“กฎหมายผิดไม่ผิด ผมไม่รู้เรื่อง ทีนี้ว่าเหมาะสมไม่เหมาะสม ถ้าถามผมก็ไม่เหมาะสม แต่คุณทักษิณก็ทำอะไรที่ไม่เหมาะสมมาเยอะแล้ว ผมเองก็ไม่ตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่ เขาเว่อร์ๆ สำหรับผมก็อยากจะให้อภัยมากกว่า สงสาร ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด เพราะใครจะเล่นงานคุณทักษิณก็เล่นงานไป ผมว่ามีเรื่องเล่นงานเยอะแยะ เรื่องนี้สำหรับผมเรื่องขี้ผง เรื่องที่จะเล่นงานทักษิณมีเยอะแยะแต่ไม่ทำกัน เรื่องคดีต่างๆ ก็ปล่อยให้ลอยนวล ให้ประกันออกมาให้อะไรต่างๆ ทำงานกันไม่ไหวเลย แล้วมาจับผิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี่สำหรับผมผมไม่สนใจหรอก ผมสนใจคุณทักษิณ ก็น่าจะต้องเอาเข้าคุก หรือมิฉะนั้นก็เอาให้ยุบพรรค ให้มันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า”

“(ถาม-คุณทักษิณปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องได้มั้ย?) เขาก็เฉไฉไปเรื่อย ว่ากันไป ปล่อยตามเรื่อง คนมันไม่ปกตินัก คุณต้องเข้าใจอันนี้ เป็นคนไม่ปกติน่ะ คนมันไม่อยู่กับร่องกับรอย อ้าขาผวาปีก ผมออกจะสงสารน่ะ อยากจะกรวดน้ำให้เขาไปผุดไปเกิดที่ชอบ ดีกว่าจะมาห้ำหั่นกัน ผมไม่อยากจะฟัดกับเขาตอนนี้ พูดตรงไปตรงมา (ถาม-เมื่ออาจารย์ห่วงเรื่องคดีคุณทักษิณ แต่รัฐบาลนี้กำลังเร่งแก้ รธน.ลดอายุ กกต.-ป.ป.ช.ลง ยิ่งจะทำให้คดีพวกนี้หลุดมั้ย?) ไม่รู้ๆๆ มันยังไม่ถึงนี่ ผมจะพูดเฉพาะสิ่งที่มันถึงแล้ว รัฐบาลก็ว่าไป รัฐบาลพวกนี้ก็ ทำไงได้ เราได้พวกนี้มา อัปรีย์ไปจัญไรมา ก็อย่างนี้”

ขณะที่ อ.วิทยากร เชียงกูล คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ก็มองกรณีธงชาติไทยถูกเขียนทับด้วยชื่อทักษิณว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำดังกล่าว หรือถ้าเจ้าตัวอ้างว่าไม่รู้ แต่เมื่อเห็นธงที่มีชื่อตน ก็คงไม่บอกให้ปลดธงดังกล่าวออก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณชอบที่จะให้มีการเชียร์ตน ซึ่งส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนที่ค่อนข้างประหลาด คือเป็นคนที่ “ติดตัวเอง” ขนาดหนัก

“ผมคิดว่าเขาคงรู้เห็นเป็นใจหรือเห็น(ธงชาติไทยที่เขียนชื่อตนเอง)แล้วเขาคงชอบน่ะ เห็นแล้วเขาคงไม่บอกให้เอาลง เพราะเขาเป็นคนติดตัวเอง ผมว่าเป็นคนที่ประหลาดน่ะ เป็นคนติดตัวเองอย่างขนาดหนัก (ถาม-นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ตอนที่สโมสรฯ นี้มาเมืองไทย ก็เอาสัญลักษณ์สโมสรวางทับบนพื้นธงชาติ ซึ่งสันติบาลก็ไม่ได้เล่นงาน แค่ตักเตือน คิดมั้ยว่า เมื่อครั้งนั้นไม่ได้เล่นงานก็เลยเกิดเหตุแบบนี้ซ้ำรอย และถ้าครั้งนี้ยังไม่เล่นงานอีก เดี๋ยวก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้ตามมาอีก?) ผมว่ามันสะท้อนวิธีคิดของเขา(ทักษิณ)นะ เขาคิดแบบทุนนิยม เขาเห็นทุกอย่างเป็นสินค้าหมด เขาไม่เข้าใจเรื่องสถาบันชาติเรื่องอะไร เพราะเขาก็เคยคิดจะเปลี่ยนธงชาติหรือเปลี่ยนเพลงชาติหรือจะเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ เปลี่ยนเวลา เขาคิดอะไรทุกอย่างเป็นสินค้าในระบบทุนนิยมหมดเลย เป็นคนที่ประหลาดๆ อยู่”

“(ถาม-ตอนนี้มีการพูดเรื่องที่แนวร่วม นปก.คนหนึ่งไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญฯ โดยยืนยันว่าเป็นสิทธิเสรีภาพที่จะไม่ยืน และว่า ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร คิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม แถมรณรงค์เรื่องนี้ด้วยการใส่เสื้อสกรีนข้อความดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งใส่เสื้อแบบนั้นไปออกโทรทัศน์เอ็นบีที กรณีแบบนี้ทำให้อาจารย์เป็นห่วงสถาบันมั้ย?) ผมคิดว่าเป็นการเชื่อมโยงกับกลุ่มพิทักษ์ทักษิณ คือถ้าเป็นการทำของปัจเจกชนที่เขามีความคิดอิสระเนี่ย เช่น อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ แกก็มีความอิสระ บางครั้งแกก็วิจารณ์ เราก็จะรู้สึกว่าแกก็วิจารณ์ไปอย่างนั้นเอง แต่นี่มันเป็นคนเชื่อมโยงไง เป็นคนในเครือข่ายของกลุ่มพิทักษ์ทักษิณ ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่เป็นความคิดอิสระของปัญญาชนที่คิดแตกต่างแล้ว แต่เป็นกระบวนการ เป็นกระบวนการที่ท้าทาย ผมคิดว่าอันนี้อาจจะตั้งใจนะ ไม่ใช่โดยหลงตัวเองแบบธงชาติ อันนี้อาจจะตั้งใจ”

คงต้องติดตามว่า ที่สุดแล้ว พฤติกรรมลบหลู่ธงชาติไทยด้วยชื่อทักษิณ ตำรวจและอัยการไทยจะเอาผิดหรือไม่ ซึ่งเริ่มเห็นเค้าลางของเจ้าหน้าที่ที่ไม่อยากเอาผิดแล้ว เมื่อ พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาบอก(1 พ.ค.) ว่า พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมฝ่ายกฎหมาย และเห็นว่า การกระทำต่อธงชาติไทยดังกล่าว แม้จะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ธง แต่ไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากเหตุเกิดนอกราชอาณาจักร และว่า การจะเอาผิดผู้กระทำผิดต่อธงนอกราชอาณาจักรได้ ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118 ซึ่งต้องมีเจตนาพิเศษต้องการเหยียดหยามประเทศ แต่ตำรวจเห็นว่า การเขียนชื่อทักษิณลงบนธงชาติไทย ไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดดังกล่าว!?!

ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ความเห็นดังกล่าวยังไม่ใช่ที่สุด ต้องรออัยการซึ่งมีหน้าที่สอบสวนความผิดนอกราชอาณาจักรเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ความเห็นของตำรวจไม่ได้ชี้นำคดีนี้แต่อย่างใด!?!

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตที่น่าสนใจจากนักวิชาการด้านกฎหมาย อย่าง อ.ปรีชา สุวรรณทัต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า จริงอยู่ว่า พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 มีช่องโหว่ว่า ไม่สามารถนำผู้กระทำผิดนอกราชอาณาจักรมาดำเนินคดีในราชอาณาจักรได้ แต่ส่วนตัวแล้วมองว่า การเขียนชื่อทักษิณลงบนธงชาติไทย ไม่ได้ผิดแค่ พ.ร.บ.ธง แต่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 118 ด้วย จึงสามารถนำผู้กระทำมาดำเนินคดีในราชอาณาจักรได้

ส่วนกรณีที่ตำรวจชี้นำว่า การเขียนชื่อทักษิณลงบนธงชาติไทย ไม่ถือว่าเข้าข่ายเจตนาเหยียดหยามประเทศไทยนั้น อ.ปรีชา ถามกลับว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอดีตนายกฯ ที่ตกเป็นจำเลยในคดีอาญาฐานทุจริตคอร์รัปชันหลายคดี เมื่อชื่อคนคนนี้ถูกเขียนลงบนธงชาติไทย แล้วจะไม่ทำให้ประเทศไทยมัวหมองได้อย่างไร!!