ผู้จัดการรายวัน- "หมัก"ทำขึงขัง กรณี"แม้ว" กำเริบเสิบสาน ปักชื่อบนธงชาติไทย ใช้เชียร์ฟุตบอลทีมแมนฯซิตี้ ชี้ไม่บังควร ข้องใจ"แม้ว" นั่งเชิดหน้าในสนามอยู่ได้อย่างไร แต่ก็ไม่วายปกป้องว่า คงเป็นฝรั่งมันทำ ด้าน"นพดล"อ้างเป็นเรื่องของกองเชียร์ "แม้ว"ไม่เกี่ยว "จักรภพ"ระบุ เป็นเรื่องการจ้องจับผิด เสี้ยมให้ชนกัน "เสถียรพงษ์"จี้ตำรวจดำเนินการ ส่วนรองโฆษกกลาโหม ชี้เรื่องปกติ ไม่ได้หมิ่น ปชป.แนะจับตาเว็บ "ฟ้าใหม่" หวั่นมีเนื้อหาโจมตีองคมนตรี ขณะที่"โชติศักดิ์" ผู้ต้องหาไม่ยืนถวายความเคารพ จัดฉากให้สื่อนอกทำข่าวอีก
จากกรณีที่มีการการนำธงชาติไทย เขียนตัวอักษร คำว่า "THAKSIN" ไปติดอยู่บนอัฒจันทร์ สนามซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม ประเทศอังกฤษ ของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ ระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับทีมฟูแล่ม เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยการแข่งขันฟุตบอลนัดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสโมสร แมนฯ ซิตี้ ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันด้วย และนั่งบนอัฒจันทร์ตรงข้ามกับธงชาติ
ทั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ถามถึงเรื่องนี้ ภายหลังการประชุมครม. ว่า "โอ้โห เรื่องนี้ไม่ว่าใครจะต้องตอบไม่ว่า ไม่สมควรทั้งนั้น คุณจะคิดว่าผมจะตอบว่าสมควรหรือ "
เมื่อถามว่าจะต้องให้รมว.ต่างประเทศ ดำเนินการอะไรหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า "โอ๊ย เรื่องนี้เขาต้องทักท้วง คุณทักษิณ ต้องถูกทักท้วงแน่นอน แล้วก็สำคัญที่สุด เขาก็ต้องบอก ก็ต้องแก้ตัวว่าไอ้ฝรั่งมันทำ"
" สำคัญที่สุดก็คือว่า คนเห็นแล้วก็ต้องเอาออกทันที เป็นไปไม่ได้เรื่องนี้" นายสมัครกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งชมฟุตบอลนัดนี้อยู่ด้วย นายสมัคร ย้อนถามว่า "แล้วไม่มีใครเตือนเลยหรือ" ผู้สื่อข่าวย้ำว่า ก็ไม่เห็นมีการนำธงลงมา นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ใช่เขาแหงนขึ้นไปดูหรือเปล่าว่ามีธงนั่นอยู่ข้างบน คือถ้าเขาเห็น เขาต้องท้วงแน่
" ธงสโมสร ธงอะไรต่ออะไรจะเขียนอะไรลงไปได้ แต่นี่มันธงชาติ เขาไม่ทำกันหรอก เรื่องนี้ผมไม่มีเข้าข้างหรอก" นายสมัคร กล่าว
เมื่อถามว่าเบื้องต้นต้องมีกระบวนการตรวจสอบอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ปั๊ดโถ่ ไม่ต้องมีขบวนการตรวจสอบ อย่างน้อยที่สุดท่านนายกฯทักษิณ เวลาท่านกลับมาท่านต้องชี้แจ้งแล้วว่า ทำยังไง มันเกิดเหตุขัดข้องอะไร ยังไง ต่อไปมันก็มีอีกไม่ได้
"ไม่ใช่เรื่องดีกับตัวท่าน ท่านจะไปยืนยันว่า โอ้โหย ดีไหม ชื่อผมอยู่ในนั้น ดีไหม คุณเห็นว่าดีไหม ได้ไหม ไม่ได้หรอก เห็นเข้าก็ต้องตกใจแล้ว" นายสมัครกล่าว
"หมัก"ว่าไอ้ฝรั่งมันทำ
เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อ นายสมัคร กล่าวว่า "ต้องถามนายกฯทักษิณ ต้องถามว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น ผมจะถามกันเป็นภายใน ฝากคนไปถาม ได้ข่าวมาเจอกันคราวหน้า ถ้าวันศุกร์ รู้ก็จะชี้แจงให้ฟังว่ามันเกิดเหตุยังไง ทำไมเขาปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้"
เมื่อถามว่า กฎหมายในเรื่องธงชาติ เรามีอยู่แล้ว นายสมัคร กล่าวว่า ก็ใช่แต่ปัญหาว่า เขาเห็นหรือเปล่า มันนั่นหรือเปล่า
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีแนวทางในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า "โอ๊ย เรื่องนี้ไม่ต้อง เห็นเข้าคนรู้ก็ต้องจัดการแก้ไข ไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น" เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าจะต้องหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ ใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า "ก็พวกฝรั่งอะเดะ จะมาโทษคนไทยคนไหนได้ยังไง"
"ผมต้องบอกไอ้ฝรั่งมันทำ ไอ้ฝรั่งมันนึกว่าไม่เป็นอะไร เพราะเงียบแหงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องกลัวหรอก เรื่องพรรณนี้มันต้องไม่มีอีก" นายสมัคร กล่าว
เรื่องของกองเชียร์-"แม้ว"ไม่เกี่ยว
นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูล แต่จะติดตามเรื่องนี้ให้ เพื่อที่จะดูว่ากระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่าจะต้องมีการประสานไปยังสโมสร แมนฯ ซิตี้ หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ความจริงแล้วถ้าไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมทางสโมสรคงให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่ตนขอตรวจสอบข้อมูลก่อน และจะรอติดต่อสโมสรดูว่าเป็นยังไง เพื่อไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย
เมื่อถามต่อว่า คิดว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า คงจะไม่มีผลอะไร ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของตัวบุคคล หรือแฟนสโมสร คงต้องไปดู ซึ่งคงไม่ใช่คำสั่งของสโมสรที่ไปให้กระทำเช่นนั้น
"คิดว่าท่านคงไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ผมก็ไม่ได้เป็นโฆษกประจำตัวท่านแล้ว แต่ในเมื่อเป็นเรื่องสาธารณะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศก็จะช่วยดูให้ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้าไม่เหมาะสมก็แก้ไขให้ถูกต้อง
"ผมจะไปดูในแง่ของกฎหมาย และความไม่เหมาะสม อะไรที่กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย เราจะแจ้งให้ทางสโมสรได้ทราบ อันนี้ไม่มีปัญหา แก้ไขได้ อาจเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของสมาชิกสโมสรบางคนที่ดำเนินการไป อันนี้จะแก้ไขให้" นายนพดลกล่าว
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าธงดังกล่าวไม่ได้เป็นธงของสนาม แต่อยู่ในส่วนของกองเชียร์ที่เข้ามาชมการแข่งขัน และเข้าใจว่าเป็นกองเชียร์ที่เป็นชาวต่างชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงในประเด็นนี้หรือไม่ น.ส.ศันสนีย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามต่อไปว่าเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบเรื่องนี้แล้ว จะมีคำตอบอย่างไร
"เชื่อว่าคนที่มีชื่ออยู่ในธงคงไม่มีความสุข เวลานี้ทุกคนต้องระมัดระวังว่าจะเป็นเครื่องมือให้คนอื่นใช้ทำลายได้ ขอร้องประชาชนอย่างเพิ่งด่วนสรุปตามคำวิจารณ์ แต่ควรรอให้มีการสอบสวนด้วยว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น" น.ส.ศันสนีย์ กล่าว
ราชบัณฑิตจี้ตร.จับคนลบหลู่ธงชาติ
นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต กล่าวว่า ธงชาติเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นการรวมไตรรงค์เข้าด้วยกัน คือ สีขาว แทนศาสนา สีแดงแทนชาติ และ สีน้ำเงิน แทนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะให้ใครมาลบหลูไม่ได้ เช่น เหยียบ เผา เขียนข้อความทับ หรือ ฉี่ราดบนธงชาติ ไม่สามารถทำได้ หากเกิดเรื่องประเภทนี้เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือว่าเป็นเจ้าทุกข์โดยตรง ไม่ใช่ ต้องรอให้สำนักงานส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ หน่วยงานทางวัฒนธรรมเป็นผู้แจ้งความ เพราะเมื่อมีกฎหมายกำหนด ควรจะดำเนินการทันที ซึ่งกฎหมายก็ได้กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ธงชาติ พ.ศ. 2522
" ธงชาติทุกคนควรจะเคารพ ไม่ว่าจะเป็นธงชาติไทย หรือธงชาติของประเทศอื่นๆ เพราะเป็นสิ่งสูงสุดของคนไทย จะดูหมิ่นไม่ได้ ดังนั้นต้องไปดูกฎหมายในรายละเอียดว่า เป็นอย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการ เพราะมีกฎหมายกำหนดไว้อยู่" นายเสฐียรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ พ.ร.บ. ธง พ.ศ.2522 หมวด 10 มาตรา 53 (1) กำหนดเอาไว้ว่า ผู้ใดประดิษฐ์ตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายอื่นใดในผืนธง รูปจำลองของธง หรือในแถบสีธง นอกจากที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.นี้ หรือกฎหมายอื่น (4) ประดิษฐ์ธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือสิ่งใดๆโดยไม่สมควร (5) แสดงหรือใช้สิ่งใดๆ ที่มีรูปธง รูปจำลองของธง หรือมีแถบสีธงอันมีลักษณะตาม (4) โดยไม่สมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้มาตรา 54 ยังระบุเอาไว้ด้วยว่า ผู้ใดกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธง ที่ได้บัญญัติกำหนดลักษณะไว้ใน พ.ร.บ.นี้ หรือตามที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตาม พ.ร.บ.นี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทหารว่าเรื่องปกติ ไม่ได้หมิ่น
พล.ท. พีระพงษ์ มานะกิจ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่เกี่ยวกับกระทรวงกลาโหม ต้องไปถามฝ่ายการเมือง แต่ข้อเท็จจริงกองเชียร์ชาวต่างชาติมักจะนำเอาชื่อเจ้าของทีม หรือเอาชื่อผู้เล่น ที่กองเชียร์ชื่นชอบไปใส่ไว้
ทั้งนี้ เราจะต้องดูข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ ถ้าเป็นคนไทยทำ ก็คงไม่เหมาะ ดังนั้นจะต้องดูเจตนาเป็นหลัก
"ตอนนี้บ้านเมืองก็เกิดความวุ่นวายมากพอแล้ว บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็มีการนำขึ้นมาโยงให้เกิดปัญหากัน ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องไปถามเจ้าตัวว่า ที่มาที่ไปเป็นอย่างไรเรื่องจะได้จบ" พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กองทัพจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า จริงๆแล้ว เรื่องนี้จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน ซึ่งทหารเองก็สนับสนุนประชาธิปไตยอยู่แล้ว จะต้องมองภาพกว้างๆ หากมองชั้นเดียวจะเกิดความขัดแย้งกัน ต้องมองเรื่องให้ลึกๆ และต้องทำความเข้าใจเรื่องบางเรื่อง เพราะถ้าดูก็ไม่รู้ว่าจะไปใส่ทำไม มันไม่มีเหตุ
"ผมฟังจากข่าว ก็เห็นว่า การเชียร์ของคนต่างชาติที่มาร่วมชมการแข่งขันก็จะให้เกียรติ ด้วยการเอาธงชาติของประเทศนั้นๆ มาโบกสะบัด บางคนจะเอาชื่อของผู้เล่น หรือเจ้าของทีมที่เป็นที่ชอบมาใส่ไว้ เพื่อเป็นเกียรติ คนต่างชาติเขามีวิธีคิดต่างกัน เราก็ต้องเข้าใจ ก็ต้องอธิบายให้เขา เพราะเป็นวัฒนธรรมของเขา หลายอย่างที่ต่างชาติไม่เข้าใจบ้านเรา"
เมื่อถามว่า ทหารมองอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีใครพูดอะไร เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้ดูแล้วเห็นว่าไม่ได้เป็นการเหยียบย่ำอะไร สมมติว่าคนเดินขบวนเอาธงชาติไปเหยียบย่ำ น่าคิด แต่นี้เขาเอาธงชาติเชิดชูยกไว้ แต่วิธีของเขาไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำจะนำมาเป็นประเด็นการเมือง ทั้งนี้ ตนไม่อยากเดาไปล่วงหน้า เพราะจะทำให้ความสมานฉันท์ปรองดองจะมีปัญหา จะต้องมองให้เกิดความเข้าใจ
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าไม่ได้เป็นการหมิ่นสถาบัน ใช่หรือไม่ พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้หมิ่น แต่เรื่องนี้คงจะต้องไปถามรัฐบาลว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เลยตามเลย
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก ซึ่ง ตนไม่แน่ใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นธงดังกล่าวหรือไม่ เพราะถ้าเห็น ก็ควรจะไปห้ามปรามกองเชียร์ ที่นำมาติด เนื่องจากเป็นการไม่เหมาะสม ควรตักเตือน หรือออกระเบียบต่างๆ ตนไม่อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ มีข่าวในทำนองนี้ออกมาบ่อยๆ เพราะครั้งหนึ่งตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมาเมืองไทยก็เคยมีคนนำธงชาติไปต้อนรับ จนทำให้เกิดความเสียหายมาแล้ว ดังนั้นเห็นว่าไม่ควรปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านเลยไป
แนะไอซีที จับตาเว็บ"ฟ้าใหม่"
นายเทพไท ยังกล่าวถึง กรณีที่เว็บไซต์ไฮทักษิณ ประกาศปิดตัวลงว่า เป็นการตัวด้วยตัวของเขาเอง ไม่ได้มีหน่วยงานราชการเข้าไปดำเนินการสั่งปิด ซึ่ง ตนเห็นว่ากระทรวงไอซีที ที่รับผิดชอบ ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง เป็นเพียงเสือกระดาษ ไม่มีน้ำยาไปจัดการ รวมทั้งเว็บไซต์อื่นๆ เช่น เว็บไซด์ไทยแอนตี้ และเว็บไซต์ประชาไท
ส่วนกรณีที่ นพ.หมอเหวง โตจิราการ ระบุว่าจะเปิดเว็บไซต์ใหม่ชื่อ "ฟ้าใหม่" แทนเว็บไซต์ไฮทักษิณ ก็อยากให้กระทรวงไอซีที จับตาดู เพราะอาจจะมีเนื้อหาที่โจมตีองคมนตรีไปโผล่ในเว็บไซต์อื่นอีก
ตร.เร่งคดี"โชติศักดิ์"หมิ่นเบื้องสูง
วานนี้ (29 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.และรองโฆษก ตร. กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินคดีกับ นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากไม่ยอมยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ว่า เดิมตร.ได้มีคำสั่งที่ 330/2550 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 50 ในการกำหนดแนวทางดำเนินคดีไว้หลายส่วน ซึ่งคดีนี้ มีผู้ร้องทุกข์ ที่ สน.ปทุมวัน พนักงานสอบสวนต้องรายงานผ่านกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ ตร.ทราบภายใน 3 วัน
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวาณิช รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าการสอบสวนคดี ซึ่งดำเนินการสอบปากคำพยานไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงปากเดียว และจะต้องนำเข้าคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของ บช.น. ที่มีพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.เป็นประธาน โดยพิจารณา 3 ส่วนคือ การตั้งข้อหา การขอหมายจับ และการดำเนินคดี แต่กรณีของนายโชติศักดิ์ ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว จึงอนุญาตให้ประกันตัวไป
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ คณะกรรมการของ บช.น.พิจารณาแล้วก็จะส่งให้กรรมการในระดับ ตร.พิจารณาอีกที เพื่อทำความเห็นทางคดีที่ทาง บช.น. ส่งมา และส่งให้ ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งคดี ซึ่งทั้งหมดคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เนื่องจากอาจมีมุมมองในแง่กฎหมายบางข้อที่อาจมีการขัดแย้ง แต่ถ้าไม่มีปัญหา ก็สามารถพิจารณาได้ทันที แต่คดีลักษณะนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อจิตใจของประชาชน ก็พยายามเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว
ด้าน พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. และโฆษกบช.น.กล่าวว่า ทางตำรวจก็พยายามทำคดีอย่างรอบคอบมากกว่าเร่งรีบ เราต้องพิจารณาหลายขั้นตอนเพื่อไม่ให้เป็นการระคายเบื้องพระยุคลบาท ต้องสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี และรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนว่า จะสามารถพิจารณาว่าสั่งฟ้องได้หรือไม่
"โชติศักดิ์"จัดฉากสร้างข่าวอีก
วันเดียวกัน เวลา 10.00 น.ที่ สน.ปทุมวัน นายโชติศักดิ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโชติศักดิ์ ยังคงสวมเสื้อยืดสีดำ ที่ข้อความว่า “ไม่ยืน ไม่ใช่อาชญากร คิดต่าง ไม่ใช่อาชญากรรม” มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีสื่อมวลชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นสื่อต่างประเทศ ที่มารอทำข่าวอยู่ก่อนแล้ว
ภายหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายโชติศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนเข้าใจว่า จะเป็นแค่มารายงานตัวเท่านั้น แต่ทางตำรวจเข้าใจว่า ตนจะเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน ตนยังไม่ได้ให้การเพิ่มเติมอะไร แต่ได้นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า จะทำคำให้การเป็นหนังสือ แล้วส่งทนายความผู้รับมอบอำนาจนำมามอบให้พนักงานสอบสวนภายในวันที่ 8 พ.ค.นี้ หลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะสอบสวนเพิ่มหรือไม่ ถ้าจะสอบเพิ่มก็คงจะต้องนัดตนมาอีกครั้ง แต่หากคิดว่าพอแล้ว สอบสวนครบแล้วพนักงานสอบสวนก็จะส่งให้อัยการพิจารณาต่อไป
นายโชติศักดิ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ มีโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ตนบ้าง นอกจากนี้ ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ก็มีคนนำที่อยู่ของตน ทั้งที่อยู่เก่า และที่อยู่ใหม่ไปโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ ดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นการคุกคามอย่างหนึ่ง ตนก็ใช้วิธีไปนอนตามบ้านเพื่อนบ้าง ถ้าถามว่ากลัวหรือไม่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของสื่อมวลชนไทยนั้น มีเพียงนสพ.มติชน และ นสพ.ผู้จัดการ ที่เดินทางไปทำข่าวที่ สน.ปทุมวัน นอกนั้นล้วนเป็นสื่อต่างประเทศหมด ซึ่งเข้าใจว่า นายโชติศักดิ์ เป็นผู้นัดแนะมา ในขณะที่ตำรวจต่างปิดปากเงียบ ไม่กล้าที่จะเปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว อย่างไร ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว ควรที่จะทำให้เป็นคดีตัวอย่างเสียด้วยซ้ำ
กรมกร๊วกให้ไปไล่บี้"เจ๊เพ็ญ"
นายเผชิญ ขำโพธิ์ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงการนำเสนอข่าวการเลือกตั้งที่ประเทศเนปาล ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การนำเสนอดังกล่าวเป็นการกระทำที่พยายามที่จะก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า เรื่องนี้แล้วแต่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการ เพราะกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีการแทรกแซงใดๆ ซึ่งเราทำงานภายใต้กรอบภายใต้ระเบียบของข้าราชการ และต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลที่ได้รับมอบหมายมา ที่จะให้กรมประชาสัมพันธ์ช่วยเผยแพร่ผลงาน ของรัฐบาลไปสู่ประชาชน และทำความเข้าใจกับประชาชนในแต่ละกลุ่มให้มีควงามรักความสามัคคี
"เจ๊เพ็ญ"ให้ท้าย"ประชา"ป่วนต่อ
ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายประชา ประสพดี แกนนำกลุ่มมหาประชาชน ซึ่งเคลื่อนไหว ก่อกวนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าได้มีการห้ามปรามแล้ว แต่ไม่เชื่อฟัง ว่า เรื่องนี้สามารถพูดคุยกันได้ เพราะนายประชา ก็เป็น ส.ส.และน่าจะเข้าใจ ว่าเรากำลังดำเนินการในระบบรัฐสภาอยู่
เมื่อถามว่า การเป็นลูกพรรค ควรจะเคารพหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนต้องยืนหยัดในความเป็นประชาธิปไตย สมาชิกพรรคสามารถมีความเห็นแตกต่างกันได้ เพียงแต่การลงมือปฏิบัติการ ต้องเป็นเอกภาพ เชื่อว่าในที่สุดแล้วการปฎิบัติสิ่งต่างๆ จะเป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อว่าเรื่องนี้การปฎิบัติการต่างๆ จะเป็นหนึ่งเดียวกัน
นายจักรภพ ยังกล่าวถึง กรณีที่มีชื่อทักษิณ ในธงชาติไทย ในการเชียร์ทีม แมนฯ ซิตี้ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการจับผิด หาเหตุ เป็นการเสี้ยม เป็นเรื่องการส่องกล้องจุลทรรศน์ มองลงไปเพื่อหาจุดอะไรก็ได้ ที่จะมาโจมตีกัน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะรัฐบาลรู้แกว ฉะนั้นเราจะเดินหน้าต่อไป ในการสร้างผลงานให้ประชาชนมั่นใจในรัฐบาล ซึ่งเชื่อได้ว่าสิ่งนี้จะคุ้มครองรัฐบาลได้ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตย
พปช.เครียดจัดเริ่มกัดกันเอง
ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สุมทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะโฆษกกลุ่มมหาประชาชนฯ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชนระบุว่า การชุมนุมของกลุ่มที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการการทำที่กักขฬะ ว่า กลุ่มมหาประชาชนไม่ได้ทำอะไรที่กักขฬะ เว้นแต่จะเกิดความคิดในจิตใจของคนกักขฬะ ซึ่งตนเห็นว่ามนุษย์ถือเป็นคนประเสริฐอยู่ในบ้านเดียวกัน ต้องมีความสามัคคีกัน ไม่ทำลายกันเอง เว้นแต่ว่าสุนัข ที่อยู่ในกรงเดียวกัน แต่ก็ยังกัดกัน ขอถามไปยัง ร.ท.กุเทพ ว่าเคยทำร้าย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือไม่ ที่มีตำแหน่งโฆษกพรรค แต่อยู่ๆก็ไปต่อว่านายกฯ แล้วหนีไปต่างประเทศ
จากกรณีที่มีการการนำธงชาติไทย เขียนตัวอักษร คำว่า "THAKSIN" ไปติดอยู่บนอัฒจันทร์ สนามซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม ประเทศอังกฤษ ของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ ระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับทีมฟูแล่ม เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยการแข่งขันฟุตบอลนัดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสโมสร แมนฯ ซิตี้ ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันด้วย และนั่งบนอัฒจันทร์ตรงข้ามกับธงชาติ
ทั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ถามถึงเรื่องนี้ ภายหลังการประชุมครม. ว่า "โอ้โห เรื่องนี้ไม่ว่าใครจะต้องตอบไม่ว่า ไม่สมควรทั้งนั้น คุณจะคิดว่าผมจะตอบว่าสมควรหรือ "
เมื่อถามว่าจะต้องให้รมว.ต่างประเทศ ดำเนินการอะไรหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า "โอ๊ย เรื่องนี้เขาต้องทักท้วง คุณทักษิณ ต้องถูกทักท้วงแน่นอน แล้วก็สำคัญที่สุด เขาก็ต้องบอก ก็ต้องแก้ตัวว่าไอ้ฝรั่งมันทำ"
" สำคัญที่สุดก็คือว่า คนเห็นแล้วก็ต้องเอาออกทันที เป็นไปไม่ได้เรื่องนี้" นายสมัครกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งชมฟุตบอลนัดนี้อยู่ด้วย นายสมัคร ย้อนถามว่า "แล้วไม่มีใครเตือนเลยหรือ" ผู้สื่อข่าวย้ำว่า ก็ไม่เห็นมีการนำธงลงมา นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ใช่เขาแหงนขึ้นไปดูหรือเปล่าว่ามีธงนั่นอยู่ข้างบน คือถ้าเขาเห็น เขาต้องท้วงแน่
" ธงสโมสร ธงอะไรต่ออะไรจะเขียนอะไรลงไปได้ แต่นี่มันธงชาติ เขาไม่ทำกันหรอก เรื่องนี้ผมไม่มีเข้าข้างหรอก" นายสมัคร กล่าว
เมื่อถามว่าเบื้องต้นต้องมีกระบวนการตรวจสอบอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ปั๊ดโถ่ ไม่ต้องมีขบวนการตรวจสอบ อย่างน้อยที่สุดท่านนายกฯทักษิณ เวลาท่านกลับมาท่านต้องชี้แจ้งแล้วว่า ทำยังไง มันเกิดเหตุขัดข้องอะไร ยังไง ต่อไปมันก็มีอีกไม่ได้
"ไม่ใช่เรื่องดีกับตัวท่าน ท่านจะไปยืนยันว่า โอ้โหย ดีไหม ชื่อผมอยู่ในนั้น ดีไหม คุณเห็นว่าดีไหม ได้ไหม ไม่ได้หรอก เห็นเข้าก็ต้องตกใจแล้ว" นายสมัครกล่าว
"หมัก"ว่าไอ้ฝรั่งมันทำ
เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อ นายสมัคร กล่าวว่า "ต้องถามนายกฯทักษิณ ต้องถามว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น ผมจะถามกันเป็นภายใน ฝากคนไปถาม ได้ข่าวมาเจอกันคราวหน้า ถ้าวันศุกร์ รู้ก็จะชี้แจงให้ฟังว่ามันเกิดเหตุยังไง ทำไมเขาปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้"
เมื่อถามว่า กฎหมายในเรื่องธงชาติ เรามีอยู่แล้ว นายสมัคร กล่าวว่า ก็ใช่แต่ปัญหาว่า เขาเห็นหรือเปล่า มันนั่นหรือเปล่า
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีแนวทางในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า "โอ๊ย เรื่องนี้ไม่ต้อง เห็นเข้าคนรู้ก็ต้องจัดการแก้ไข ไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น" เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าจะต้องหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ ใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า "ก็พวกฝรั่งอะเดะ จะมาโทษคนไทยคนไหนได้ยังไง"
"ผมต้องบอกไอ้ฝรั่งมันทำ ไอ้ฝรั่งมันนึกว่าไม่เป็นอะไร เพราะเงียบแหงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องกลัวหรอก เรื่องพรรณนี้มันต้องไม่มีอีก" นายสมัคร กล่าว
เรื่องของกองเชียร์-"แม้ว"ไม่เกี่ยว
นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูล แต่จะติดตามเรื่องนี้ให้ เพื่อที่จะดูว่ากระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่าจะต้องมีการประสานไปยังสโมสร แมนฯ ซิตี้ หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ความจริงแล้วถ้าไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมทางสโมสรคงให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่ตนขอตรวจสอบข้อมูลก่อน และจะรอติดต่อสโมสรดูว่าเป็นยังไง เพื่อไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย
เมื่อถามต่อว่า คิดว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า คงจะไม่มีผลอะไร ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของตัวบุคคล หรือแฟนสโมสร คงต้องไปดู ซึ่งคงไม่ใช่คำสั่งของสโมสรที่ไปให้กระทำเช่นนั้น
"คิดว่าท่านคงไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ผมก็ไม่ได้เป็นโฆษกประจำตัวท่านแล้ว แต่ในเมื่อเป็นเรื่องสาธารณะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศก็จะช่วยดูให้ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้าไม่เหมาะสมก็แก้ไขให้ถูกต้อง
"ผมจะไปดูในแง่ของกฎหมาย และความไม่เหมาะสม อะไรที่กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย เราจะแจ้งให้ทางสโมสรได้ทราบ อันนี้ไม่มีปัญหา แก้ไขได้ อาจเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของสมาชิกสโมสรบางคนที่ดำเนินการไป อันนี้จะแก้ไขให้" นายนพดลกล่าว
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าธงดังกล่าวไม่ได้เป็นธงของสนาม แต่อยู่ในส่วนของกองเชียร์ที่เข้ามาชมการแข่งขัน และเข้าใจว่าเป็นกองเชียร์ที่เป็นชาวต่างชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงในประเด็นนี้หรือไม่ น.ส.ศันสนีย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามต่อไปว่าเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบเรื่องนี้แล้ว จะมีคำตอบอย่างไร
"เชื่อว่าคนที่มีชื่ออยู่ในธงคงไม่มีความสุข เวลานี้ทุกคนต้องระมัดระวังว่าจะเป็นเครื่องมือให้คนอื่นใช้ทำลายได้ ขอร้องประชาชนอย่างเพิ่งด่วนสรุปตามคำวิจารณ์ แต่ควรรอให้มีการสอบสวนด้วยว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น" น.ส.ศันสนีย์ กล่าว
ราชบัณฑิตจี้ตร.จับคนลบหลู่ธงชาติ
นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต กล่าวว่า ธงชาติเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นการรวมไตรรงค์เข้าด้วยกัน คือ สีขาว แทนศาสนา สีแดงแทนชาติ และ สีน้ำเงิน แทนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะให้ใครมาลบหลูไม่ได้ เช่น เหยียบ เผา เขียนข้อความทับ หรือ ฉี่ราดบนธงชาติ ไม่สามารถทำได้ หากเกิดเรื่องประเภทนี้เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือว่าเป็นเจ้าทุกข์โดยตรง ไม่ใช่ ต้องรอให้สำนักงานส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ หน่วยงานทางวัฒนธรรมเป็นผู้แจ้งความ เพราะเมื่อมีกฎหมายกำหนด ควรจะดำเนินการทันที ซึ่งกฎหมายก็ได้กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ธงชาติ พ.ศ. 2522
" ธงชาติทุกคนควรจะเคารพ ไม่ว่าจะเป็นธงชาติไทย หรือธงชาติของประเทศอื่นๆ เพราะเป็นสิ่งสูงสุดของคนไทย จะดูหมิ่นไม่ได้ ดังนั้นต้องไปดูกฎหมายในรายละเอียดว่า เป็นอย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการ เพราะมีกฎหมายกำหนดไว้อยู่" นายเสฐียรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ พ.ร.บ. ธง พ.ศ.2522 หมวด 10 มาตรา 53 (1) กำหนดเอาไว้ว่า ผู้ใดประดิษฐ์ตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายอื่นใดในผืนธง รูปจำลองของธง หรือในแถบสีธง นอกจากที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.นี้ หรือกฎหมายอื่น (4) ประดิษฐ์ธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือสิ่งใดๆโดยไม่สมควร (5) แสดงหรือใช้สิ่งใดๆ ที่มีรูปธง รูปจำลองของธง หรือมีแถบสีธงอันมีลักษณะตาม (4) โดยไม่สมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้มาตรา 54 ยังระบุเอาไว้ด้วยว่า ผู้ใดกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธง ที่ได้บัญญัติกำหนดลักษณะไว้ใน พ.ร.บ.นี้ หรือตามที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตาม พ.ร.บ.นี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทหารว่าเรื่องปกติ ไม่ได้หมิ่น
พล.ท. พีระพงษ์ มานะกิจ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่เกี่ยวกับกระทรวงกลาโหม ต้องไปถามฝ่ายการเมือง แต่ข้อเท็จจริงกองเชียร์ชาวต่างชาติมักจะนำเอาชื่อเจ้าของทีม หรือเอาชื่อผู้เล่น ที่กองเชียร์ชื่นชอบไปใส่ไว้
ทั้งนี้ เราจะต้องดูข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ ถ้าเป็นคนไทยทำ ก็คงไม่เหมาะ ดังนั้นจะต้องดูเจตนาเป็นหลัก
"ตอนนี้บ้านเมืองก็เกิดความวุ่นวายมากพอแล้ว บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็มีการนำขึ้นมาโยงให้เกิดปัญหากัน ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องไปถามเจ้าตัวว่า ที่มาที่ไปเป็นอย่างไรเรื่องจะได้จบ" พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กองทัพจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า จริงๆแล้ว เรื่องนี้จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน ซึ่งทหารเองก็สนับสนุนประชาธิปไตยอยู่แล้ว จะต้องมองภาพกว้างๆ หากมองชั้นเดียวจะเกิดความขัดแย้งกัน ต้องมองเรื่องให้ลึกๆ และต้องทำความเข้าใจเรื่องบางเรื่อง เพราะถ้าดูก็ไม่รู้ว่าจะไปใส่ทำไม มันไม่มีเหตุ
"ผมฟังจากข่าว ก็เห็นว่า การเชียร์ของคนต่างชาติที่มาร่วมชมการแข่งขันก็จะให้เกียรติ ด้วยการเอาธงชาติของประเทศนั้นๆ มาโบกสะบัด บางคนจะเอาชื่อของผู้เล่น หรือเจ้าของทีมที่เป็นที่ชอบมาใส่ไว้ เพื่อเป็นเกียรติ คนต่างชาติเขามีวิธีคิดต่างกัน เราก็ต้องเข้าใจ ก็ต้องอธิบายให้เขา เพราะเป็นวัฒนธรรมของเขา หลายอย่างที่ต่างชาติไม่เข้าใจบ้านเรา"
เมื่อถามว่า ทหารมองอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีใครพูดอะไร เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้ดูแล้วเห็นว่าไม่ได้เป็นการเหยียบย่ำอะไร สมมติว่าคนเดินขบวนเอาธงชาติไปเหยียบย่ำ น่าคิด แต่นี้เขาเอาธงชาติเชิดชูยกไว้ แต่วิธีของเขาไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำจะนำมาเป็นประเด็นการเมือง ทั้งนี้ ตนไม่อยากเดาไปล่วงหน้า เพราะจะทำให้ความสมานฉันท์ปรองดองจะมีปัญหา จะต้องมองให้เกิดความเข้าใจ
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าไม่ได้เป็นการหมิ่นสถาบัน ใช่หรือไม่ พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้หมิ่น แต่เรื่องนี้คงจะต้องไปถามรัฐบาลว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เลยตามเลย
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก ซึ่ง ตนไม่แน่ใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นธงดังกล่าวหรือไม่ เพราะถ้าเห็น ก็ควรจะไปห้ามปรามกองเชียร์ ที่นำมาติด เนื่องจากเป็นการไม่เหมาะสม ควรตักเตือน หรือออกระเบียบต่างๆ ตนไม่อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ มีข่าวในทำนองนี้ออกมาบ่อยๆ เพราะครั้งหนึ่งตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมาเมืองไทยก็เคยมีคนนำธงชาติไปต้อนรับ จนทำให้เกิดความเสียหายมาแล้ว ดังนั้นเห็นว่าไม่ควรปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านเลยไป
แนะไอซีที จับตาเว็บ"ฟ้าใหม่"
นายเทพไท ยังกล่าวถึง กรณีที่เว็บไซต์ไฮทักษิณ ประกาศปิดตัวลงว่า เป็นการตัวด้วยตัวของเขาเอง ไม่ได้มีหน่วยงานราชการเข้าไปดำเนินการสั่งปิด ซึ่ง ตนเห็นว่ากระทรวงไอซีที ที่รับผิดชอบ ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง เป็นเพียงเสือกระดาษ ไม่มีน้ำยาไปจัดการ รวมทั้งเว็บไซต์อื่นๆ เช่น เว็บไซด์ไทยแอนตี้ และเว็บไซต์ประชาไท
ส่วนกรณีที่ นพ.หมอเหวง โตจิราการ ระบุว่าจะเปิดเว็บไซต์ใหม่ชื่อ "ฟ้าใหม่" แทนเว็บไซต์ไฮทักษิณ ก็อยากให้กระทรวงไอซีที จับตาดู เพราะอาจจะมีเนื้อหาที่โจมตีองคมนตรีไปโผล่ในเว็บไซต์อื่นอีก
ตร.เร่งคดี"โชติศักดิ์"หมิ่นเบื้องสูง
วานนี้ (29 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.และรองโฆษก ตร. กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินคดีกับ นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากไม่ยอมยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ว่า เดิมตร.ได้มีคำสั่งที่ 330/2550 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 50 ในการกำหนดแนวทางดำเนินคดีไว้หลายส่วน ซึ่งคดีนี้ มีผู้ร้องทุกข์ ที่ สน.ปทุมวัน พนักงานสอบสวนต้องรายงานผ่านกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ ตร.ทราบภายใน 3 วัน
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวาณิช รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าการสอบสวนคดี ซึ่งดำเนินการสอบปากคำพยานไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงปากเดียว และจะต้องนำเข้าคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของ บช.น. ที่มีพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.เป็นประธาน โดยพิจารณา 3 ส่วนคือ การตั้งข้อหา การขอหมายจับ และการดำเนินคดี แต่กรณีของนายโชติศักดิ์ ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว จึงอนุญาตให้ประกันตัวไป
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ คณะกรรมการของ บช.น.พิจารณาแล้วก็จะส่งให้กรรมการในระดับ ตร.พิจารณาอีกที เพื่อทำความเห็นทางคดีที่ทาง บช.น. ส่งมา และส่งให้ ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งคดี ซึ่งทั้งหมดคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เนื่องจากอาจมีมุมมองในแง่กฎหมายบางข้อที่อาจมีการขัดแย้ง แต่ถ้าไม่มีปัญหา ก็สามารถพิจารณาได้ทันที แต่คดีลักษณะนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อจิตใจของประชาชน ก็พยายามเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว
ด้าน พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. และโฆษกบช.น.กล่าวว่า ทางตำรวจก็พยายามทำคดีอย่างรอบคอบมากกว่าเร่งรีบ เราต้องพิจารณาหลายขั้นตอนเพื่อไม่ให้เป็นการระคายเบื้องพระยุคลบาท ต้องสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี และรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนว่า จะสามารถพิจารณาว่าสั่งฟ้องได้หรือไม่
"โชติศักดิ์"จัดฉากสร้างข่าวอีก
วันเดียวกัน เวลา 10.00 น.ที่ สน.ปทุมวัน นายโชติศักดิ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโชติศักดิ์ ยังคงสวมเสื้อยืดสีดำ ที่ข้อความว่า “ไม่ยืน ไม่ใช่อาชญากร คิดต่าง ไม่ใช่อาชญากรรม” มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีสื่อมวลชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นสื่อต่างประเทศ ที่มารอทำข่าวอยู่ก่อนแล้ว
ภายหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายโชติศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนเข้าใจว่า จะเป็นแค่มารายงานตัวเท่านั้น แต่ทางตำรวจเข้าใจว่า ตนจะเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน ตนยังไม่ได้ให้การเพิ่มเติมอะไร แต่ได้นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า จะทำคำให้การเป็นหนังสือ แล้วส่งทนายความผู้รับมอบอำนาจนำมามอบให้พนักงานสอบสวนภายในวันที่ 8 พ.ค.นี้ หลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะสอบสวนเพิ่มหรือไม่ ถ้าจะสอบเพิ่มก็คงจะต้องนัดตนมาอีกครั้ง แต่หากคิดว่าพอแล้ว สอบสวนครบแล้วพนักงานสอบสวนก็จะส่งให้อัยการพิจารณาต่อไป
นายโชติศักดิ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ มีโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ตนบ้าง นอกจากนี้ ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ก็มีคนนำที่อยู่ของตน ทั้งที่อยู่เก่า และที่อยู่ใหม่ไปโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ ดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นการคุกคามอย่างหนึ่ง ตนก็ใช้วิธีไปนอนตามบ้านเพื่อนบ้าง ถ้าถามว่ากลัวหรือไม่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของสื่อมวลชนไทยนั้น มีเพียงนสพ.มติชน และ นสพ.ผู้จัดการ ที่เดินทางไปทำข่าวที่ สน.ปทุมวัน นอกนั้นล้วนเป็นสื่อต่างประเทศหมด ซึ่งเข้าใจว่า นายโชติศักดิ์ เป็นผู้นัดแนะมา ในขณะที่ตำรวจต่างปิดปากเงียบ ไม่กล้าที่จะเปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว อย่างไร ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว ควรที่จะทำให้เป็นคดีตัวอย่างเสียด้วยซ้ำ
กรมกร๊วกให้ไปไล่บี้"เจ๊เพ็ญ"
นายเผชิญ ขำโพธิ์ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงการนำเสนอข่าวการเลือกตั้งที่ประเทศเนปาล ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การนำเสนอดังกล่าวเป็นการกระทำที่พยายามที่จะก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า เรื่องนี้แล้วแต่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการ เพราะกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีการแทรกแซงใดๆ ซึ่งเราทำงานภายใต้กรอบภายใต้ระเบียบของข้าราชการ และต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลที่ได้รับมอบหมายมา ที่จะให้กรมประชาสัมพันธ์ช่วยเผยแพร่ผลงาน ของรัฐบาลไปสู่ประชาชน และทำความเข้าใจกับประชาชนในแต่ละกลุ่มให้มีควงามรักความสามัคคี
"เจ๊เพ็ญ"ให้ท้าย"ประชา"ป่วนต่อ
ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายประชา ประสพดี แกนนำกลุ่มมหาประชาชน ซึ่งเคลื่อนไหว ก่อกวนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าได้มีการห้ามปรามแล้ว แต่ไม่เชื่อฟัง ว่า เรื่องนี้สามารถพูดคุยกันได้ เพราะนายประชา ก็เป็น ส.ส.และน่าจะเข้าใจ ว่าเรากำลังดำเนินการในระบบรัฐสภาอยู่
เมื่อถามว่า การเป็นลูกพรรค ควรจะเคารพหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนต้องยืนหยัดในความเป็นประชาธิปไตย สมาชิกพรรคสามารถมีความเห็นแตกต่างกันได้ เพียงแต่การลงมือปฏิบัติการ ต้องเป็นเอกภาพ เชื่อว่าในที่สุดแล้วการปฎิบัติสิ่งต่างๆ จะเป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อว่าเรื่องนี้การปฎิบัติการต่างๆ จะเป็นหนึ่งเดียวกัน
นายจักรภพ ยังกล่าวถึง กรณีที่มีชื่อทักษิณ ในธงชาติไทย ในการเชียร์ทีม แมนฯ ซิตี้ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการจับผิด หาเหตุ เป็นการเสี้ยม เป็นเรื่องการส่องกล้องจุลทรรศน์ มองลงไปเพื่อหาจุดอะไรก็ได้ ที่จะมาโจมตีกัน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะรัฐบาลรู้แกว ฉะนั้นเราจะเดินหน้าต่อไป ในการสร้างผลงานให้ประชาชนมั่นใจในรัฐบาล ซึ่งเชื่อได้ว่าสิ่งนี้จะคุ้มครองรัฐบาลได้ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตย
พปช.เครียดจัดเริ่มกัดกันเอง
ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สุมทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะโฆษกกลุ่มมหาประชาชนฯ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชนระบุว่า การชุมนุมของกลุ่มที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการการทำที่กักขฬะ ว่า กลุ่มมหาประชาชนไม่ได้ทำอะไรที่กักขฬะ เว้นแต่จะเกิดความคิดในจิตใจของคนกักขฬะ ซึ่งตนเห็นว่ามนุษย์ถือเป็นคนประเสริฐอยู่ในบ้านเดียวกัน ต้องมีความสามัคคีกัน ไม่ทำลายกันเอง เว้นแต่ว่าสุนัข ที่อยู่ในกรงเดียวกัน แต่ก็ยังกัดกัน ขอถามไปยัง ร.ท.กุเทพ ว่าเคยทำร้าย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือไม่ ที่มีตำแหน่งโฆษกพรรค แต่อยู่ๆก็ไปต่อว่านายกฯ แล้วหนีไปต่างประเทศ