“โชติศักดิ์” ยังไม่สำนึก สวมเสื้อไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร เดินทางไปยัง สน.ปทุมวัน โดยอ้างว่า เพื่อไปรายงานตัว ทั้งที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียก แต่นัดแนะสื่อต่างชาติไปทำข่าวกันพรึบ ในขณะที่สื่อไทยมีเพียง 2 ฉบับ ยัวะสื่อผู้จัดการ เอาข้อมูลไปเผยแพร่ อ้างเป็นข้อมูลไม่ถูกต้อง
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ สน.ปทุมวัน นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากไม่ยอมยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายโชติศักดิ์ ยังคงสวมเสื้อยืดสีดำที่ข้อความว่า “ไม่ยืน ไม่ใช่อาชญากร คิดต่าง ไม่ใช่อาชญากรรม” มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นเดิม โดยมีสื่อมวลชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นสื่อต่างประเทศที่มารอทำข่าวหน้าโรงพัก
ภายหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง นายโชติศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ ตนเข้าใจว่า จะเป็นแค่มารายงานตัวเท่านั้น แต่ทางตำรวจเข้าใจว่าตนจะเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน ทำให้วันนี้ตนยังไม่ได้ให้การเพิ่มเติมอะไร แต่ตนได้นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า จะทำคำให้การเป็นหนังสือแล้วส่งทนายความผู้รับมอบอำนาจนำมามอบให้พนักงานสอบสวนภายในวันที่ 8 พ.ค.ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะสอบสวนเพิ่มหรือไม่ ถ้าจะสอบเพิ่มก็คงจะต้องนัดตนมาอีกครั้ง แต่หากคิดว่าพอแล้ว สอบสวนครบแล้วพนักงานสอบสวนก็จะส่งให้อัยการพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากพนักงานสอบสวนเรียกมารับทราบข้อหาไปแล้วนั้น มีใครข่มขู่บ้างหรือไม่ นายโชติศักดิ์ กล่าวว่า มีโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่บ้าง นอกจากนี้ ในเว็บไซต์แห่งหนึ่งก็มีคนนำที่อยู่ของตน ทั้งที่อยู่เก่าและที่อยู่ใหม่ไปโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นการคุกคามอย่างหนึ่ง ตนก็ใช้วิธีไปนอนตามบ้านเพื่อนบ้าง ถ้าถามว่ากลัวหรือไม่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
“ในส่วนของคดีก็ปล่อยไปตามของกระบวนการของศาลไป ส่วนเรื่องที่มีคนมานำผมไปโยงทางการเมือง ผมก็คงจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องออกไป นอกจากนี้ ผมได้ร้องเรียนสภาการหนังสือพิมพ์ไว้ ว่า สื่อในเครือผู้จัดการเอาข้อมูลเกี่ยวกับผมไปเผยแพร่อย่างไม่ถูกต้อง แต่ผมไม่แน่ใจว่า จะทำอะไรกับสื่อที่บิดเบือนได้บ้าง” นายโชติศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของสื่อมวลชนไทยนั้น มีเพียง นสพ.มติชน และ นสพ.ผู้จัดการ ที่เดินทางไปทำข่าวที่ สน.ปทุมวัน เท่านั้น นอกนั้นล้วนเป็นสื่อต่างประเทศหมด ซึ่งเข้าใจว่า นายโชติศักดิ์ เป็นผู้นัดแนะมา ในขณะที่ตำรวจต่างปิดปากเงียบ ไม่กล้าที่จะเปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้วอย่างไร ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว ควรที่จะทำให้เป็นคดีตัวอย่างเสียด้วยซ้ำ
เผยโฉม “โชติศักดิ์” ไม่ยืนตรงเพลงสรรเสริญ-โทษถึงคุก!