กรมวิทย์เจ๋งพัฒนาชุดตรวจเชื้อมาลาเรียสำเร็จ คุณภาพดีราคาไม่แพง ระบุ ถูกกว่านำเข้าเกือบครึ่ง ส่งให้องค์การอนามัยโลกพิสูจน์คุณภาพก่อนวางขายทั่วโลก
นพ.มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้ร่วมกับกรมควบคุมโรคในการวิจัย ชุดทดสอบเชื้อมาลาเรียแบบรวดเร็วภายใน 15 นาทีสำเร็จ และมีคุณภาพเท่าเทียมกับที่มีจำหน่ายในท้องตลาดที่เป็นของต่างประเทศ แต่มีราคาเพียง 65 บาท ซึ่งถูกกว่าชุดทดสอบจากต่างประเทศ ที่มีราคาประมาณ 110 บาทเท่านั้น ซึ่งชุดทดสอบนี้จะมีประโยชน์มากต่อโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป และสถานีอนามัย และยังสามารถนำไปใช้ในการศึกษาด้านระบาดวิทยาในกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มแรงงานต่างด้าว ประชาชนตามแนวชายแดน เป็นต้น
นพ.มานิตย์ กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคได้นำไปทดลองใช้งานแล้วได้ผลดี ทั้งนี้ ได้นำชุดตรวจดังกล่าวไปให้องค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อประเมิน คาดว่า ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน และการนำไปทดสอบภาคสนามประเทศอื่นๆ อีก ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 ปี โดยองค์การอนามัยโลกจะนำไปทดสอบภาคสนามในประเทศต่างๆ ทั้ง อินเดีย พม่า แองโกลา บราซิล ฯลฯ เพื่อทดสอบว่าชุดทดสอบนี้สามารถใช้ได้ในต่างประเทศที่มีการระบาดของโรคหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า จะผ่านการรับรอง เพราะชุดทดสอบนี้ได้ผ่านการวิจัยในประเทศไทยแล้วในระดับหนึ่ง
“เราก็คิดจะขายไปทั่วโลก เพื่อให้ประเทศที่มีการระบาดของโรคมาลาเรียมากๆ อย่างประเทศแอฟริกา ได้เข้าถึงชุดตรวจดังกล่าว ซึ่งประเทศเหล่านี้อาจอาจไม่มีกำลังซื้อในปริมาณมาก เพราะมีราคาแพง แต่ชุดทดสอบของเรามีราคาถูกลงกว่าครึ่งหนึ่ง การตรวจก็ง่าย คุณภาพก็ดี นอกจากนี้ หากผลิตในปริมาณมากๆ เชิงพาณิชย์อาจมีราคาถูกลงกว่านี้ ซึ่งทางกรมวิทยาศาสตร์ฯอาจขายสิทธิบัตรให้กับองค์การเภสัชกรรมเพื่อใช้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไป”นพ.มานิตย์ กล่าว
นพ.มานิตย์ กล่าวด้วยว่า ในสมัยอดีตการตรวจวิเคราะห์เชื้อจะต้องนำโลหิตผู้ป่วยตรวจผ่านแผ่นฟิล์มและดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ซึ่งบางครั้งหาเชื้อได้ยากมาก แต่ชุดทดสอบดังกล่าวสามารถนำโลหิตจากปลายนิ้วหยุดลงไปที่ชุดทดสอบที่มีลักษณะคล้ายกับชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ทั้งนี้หากไม่พบการติดเชื้อจะขึ้นแทบสีแดง 1 แถบ หากติดเชื้อมาลาเรียชนิดไม่รุนแรงจะพบ 2 แถบ และถ้าเป็นชนิดรุนแรงจะพบ 3 แถบ และเมื่อเทียบคุณภาพกับชุดทดสอบจากต่างประเทศได้ผลดีมาก