ผู้จัดการรายวัน – คนอร์ พลิกโฉมครั้งใหญ่รอบ 30 ปี อัดฉีดงบ 150 ล้านบาท ยกเครื่องสูตรใหม่ชูจุดขายวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย สร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย ดึงแม่บ้านห่วงใยสุขภาพและที่ไม่เคยใช้อยู่หมัด พร้อมกระตุ้นอัตราการใช้เครื่องปรุงรสเพิ่ม และดันตลาดมูลค่า 700 ล้านบาท โตพรวด สิ้นปีตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำครองแชร์ 96% ทิ้งห่างซุปดี
นายเจอโรม ชาราโชน รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจอาหารและไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทน เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซุปก้อนคนอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับสูตรคนอร์ซุปก้อนครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี โดยหันมาชูจุดขายวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใช้ในการผลิต และไม่ใส่วัตถุดิบกันเสีย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันเข้าหาคุณค่าและวัตถุดิบจากธรรมชาติ พร้อมกันนี้ยังสร้างความโดดเด่นด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ซุปไก่ก้อนที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ
สำหรับการปรับสูตรซุปก้อนคนอร์ใหม่ครั้งนี้ เป็นโครงการที่ทำมา 2-3 ปีแล้ว เพื่อพัฒนากลุ่มอาหารของยูนิลีเวอร์ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งการปรับครั้งนี้นำร่องประเทศไทยก่อน จากนั้นทยอยปรับในแต่ละประเทศ ทั้งนี้เป้าหมายของการปรับสูตรพร้อมกับชูจุดขายวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายฐานแม่บ้านที่ห่วงใยในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย ตลอดจนแม่บ้านที่มีความมั่นใจในฝีมือทำอาหารและไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากกลุ่มนี้ยังมีจำนวนมาก
“เราพบว่าอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสในครัวเรือนราว 50% เท่านั้น จึงเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งเน้นการสื่อสารความเป็นธรรมชาติ และสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยให้กับกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกคาดว่าจะกระตุ้นอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเพิ่มขึ้น ตลอดจนผลักดันให้ตลาดมีอัตราการเติบโตมากขึ้น”
ล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท นำร่องส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิด”ธรรมชาติ”นำเสนอเรื่องราวการมองหาธรรมชาติในชีวิตประจำวันของครอบครัวสมัยใหม่ โดยมีคนอร์ก้อนเป็นผู้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถปรุงซุปสูตรธรรมชาติให้อร่อยได้บ่อยเท่าที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณา ณ จุดขาย เพื่อสื่อสารการพลิกโฉมในครั้งนี้
อีกทั้งยังเตรียมเดินสายจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคทดลองชิมสินค้าใหม่ 1 ล้านคน และกระตุ้นให้การทดลองใช้ พร้อมกันนี้บริษัทยังวางแผนจัดรายการเรียลิตี้โชว์ซุปก้อนคนอร์ เนื่องจากหลังจากเปิดตัวไปได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสมูลค่า 2,100 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 5% อย่างต่อเนื่อง โดยแบ่ง เซกเมนต์ซุปก้อนมูลค่า 700 ล้านบาท คนอร์เป็นผู้นำตลาด 96% ที่เหลืออีก 4% เป็นคู่แข่ง และเซกเมนต์ผงปรุงรสมูลค่า 1,400 ล้านบาท คนอร์มีส่วนแบ่ง 10% เป็นอันดับ 2 ของตลาด และที่เหลือ 90% เป็นสินค้าคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันรสดีของบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะเป็นผู้นำในเซกเมนต์ผงนี้
นายชาราโชน กล่าวต่อถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทยูนิลีเวอร์ ซึ่งประกอบด้วย โจ๊กคนอร์ ซุปก้อนคนอร์ ไอศกรีมวอลล์ ผลิตภัณฑ์เบสท์ฟูด ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ ล่าสุดได้ลดราคาไอศศรีมวอลล์ คอนเนตโต จาก 18 บาท เหลือ 15 บาท
นายเจอโรม ชาราโชน รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจอาหารและไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทน เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซุปก้อนคนอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับสูตรคนอร์ซุปก้อนครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี โดยหันมาชูจุดขายวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใช้ในการผลิต และไม่ใส่วัตถุดิบกันเสีย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันเข้าหาคุณค่าและวัตถุดิบจากธรรมชาติ พร้อมกันนี้ยังสร้างความโดดเด่นด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ซุปไก่ก้อนที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ
สำหรับการปรับสูตรซุปก้อนคนอร์ใหม่ครั้งนี้ เป็นโครงการที่ทำมา 2-3 ปีแล้ว เพื่อพัฒนากลุ่มอาหารของยูนิลีเวอร์ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งการปรับครั้งนี้นำร่องประเทศไทยก่อน จากนั้นทยอยปรับในแต่ละประเทศ ทั้งนี้เป้าหมายของการปรับสูตรพร้อมกับชูจุดขายวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายฐานแม่บ้านที่ห่วงใยในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย ตลอดจนแม่บ้านที่มีความมั่นใจในฝีมือทำอาหารและไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากกลุ่มนี้ยังมีจำนวนมาก
“เราพบว่าอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสในครัวเรือนราว 50% เท่านั้น จึงเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งเน้นการสื่อสารความเป็นธรรมชาติ และสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยให้กับกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกคาดว่าจะกระตุ้นอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเพิ่มขึ้น ตลอดจนผลักดันให้ตลาดมีอัตราการเติบโตมากขึ้น”
ล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท นำร่องส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิด”ธรรมชาติ”นำเสนอเรื่องราวการมองหาธรรมชาติในชีวิตประจำวันของครอบครัวสมัยใหม่ โดยมีคนอร์ก้อนเป็นผู้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถปรุงซุปสูตรธรรมชาติให้อร่อยได้บ่อยเท่าที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณา ณ จุดขาย เพื่อสื่อสารการพลิกโฉมในครั้งนี้
อีกทั้งยังเตรียมเดินสายจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคทดลองชิมสินค้าใหม่ 1 ล้านคน และกระตุ้นให้การทดลองใช้ พร้อมกันนี้บริษัทยังวางแผนจัดรายการเรียลิตี้โชว์ซุปก้อนคนอร์ เนื่องจากหลังจากเปิดตัวไปได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสมูลค่า 2,100 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 5% อย่างต่อเนื่อง โดยแบ่ง เซกเมนต์ซุปก้อนมูลค่า 700 ล้านบาท คนอร์เป็นผู้นำตลาด 96% ที่เหลืออีก 4% เป็นคู่แข่ง และเซกเมนต์ผงปรุงรสมูลค่า 1,400 ล้านบาท คนอร์มีส่วนแบ่ง 10% เป็นอันดับ 2 ของตลาด และที่เหลือ 90% เป็นสินค้าคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันรสดีของบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะเป็นผู้นำในเซกเมนต์ผงนี้
นายชาราโชน กล่าวต่อถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทยูนิลีเวอร์ ซึ่งประกอบด้วย โจ๊กคนอร์ ซุปก้อนคนอร์ ไอศกรีมวอลล์ ผลิตภัณฑ์เบสท์ฟูด ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ ล่าสุดได้ลดราคาไอศศรีมวอลล์ คอนเนตโต จาก 18 บาท เหลือ 15 บาท