เผย “ฮอตดอก” หน้าโรงเรียนสุดอันตราย พบใส่สีผสมอาหารถึง 85% และเกือบ 70% ใส่วัตถุกันเสียในปริมาณสูงอาจส่งผลกระทบการทำงานของไต แถมบางร้านใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายรอบเสี่ยงเกิดมะเร็ง สธ.สั่งตรวจสอบคุณภาพด่วน!
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุบลราชธานี ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างฮอตด็อกหน้าโรงเรียนก่อนโรงเรียนปิดเทอมจำนวน 40 ตัวอย่าง มาตรวจวิเคราะห์พบว่า 85% มีการใส่สีผสมอาหาร และ 60-70% มีการใช้วัตถุกันเสีย คือ กรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิก ในปริมาณสูงเกินมาตรฐาน รวมทั้งมีการใส่สารไนเตรตไนไตรต์ เพื่อเป็นการถนอมอาหารทำให้เก็บได้นานขึ้น ขณะเดียวกันยังพบว่า ร้านที่จำหน่ายฮอตด็อกหน้าโรงเรียนบางร้านใช้น้ำมันทอดซ้ำที่มีสารโพลาร์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ เก็บตัวอย่างฮอตดอกหน้าโรงเรียนทั่วประเทศมาตรวจวิเคราะห์ เพื่อสร้างมาตรฐานอาหารปลอดภัย รวมทั้งเตรียมผลิตชุดทดสอบวัตถุกันเสีย เพื่อให้โรงเรียนหรือชุมชนสามารถนำไปตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อนต่างๆได้เอง เป็นการสร้างกระบวนการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยชุมชนเอง
“จากการเก็บตัวอย่าง พบว่าฮอตด็อกหน้าโรงเรียนประถมศึกษาซึ่งมีราคาถูก ประมาณ 1-5 บาท จะมีคุณภาพต่ำ และคุณค่าทางอาหารน้อยกว่าฮอตด็อกหน้าโรงเรียนมัธยม ซึ่งมีราคาสูงกว่าคือประมาณ 5-15 ส่วนกรดเบนโซอิก และ กรดซอร์บิก จากการติดตามแหล่งผลิตของตัวอย่างที่เก็บได้ พบว่า ผู้ประกอบการใส่สารดังกล่าวนอกจากเพื่อเป็นวัตถุกันเสียแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดเชื้อแบคทีเรียคลอสติเดียม โบทูลินัม ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เคยพบในหน่อไม้ปี๊บได้ อย่างไรก็ตาม สารบางอย่างแม้จะช่วยป้องกันเชื้อโรคบางชนิด แต่หากเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานาน อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ เช่น กรดเบนโซอิก หากได้รับมากเกินไป จะส่งผลต่อการทำงานของไต ทำให้ไตทำงานหนัก โดยเฉพาะเด็กๆ เป็นเรื่องที่ต้องระวังอย่างมาก” นพ.มานิต กล่าว