ซาลาเปาถือเป็นอาหารที่อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ ประเภทไส้ที่มีแต่ไส้หมู และไส้หวาน ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก จนมาถึงในยุคนี้เมื่อทุกธุรกิจหนีไม่พ้นในเรื่องการแข่งขัน ดังนั้นการสร้างความแตกต่างจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ร้านซาลาเปา “ปั้นนึ่ง” แบรนด์น้องใหม่ ต้องนำกลยุทธ์การใส่สี รวมถึงการคิดค้นไส้ให้มีความแปลกใหม่ รสชาติกลมกล่อม เพื่อดึงดูดลูกค้า
นายภควุฒิ งามพัฒนพงศ์ชัย เล่าว่า เดิมตนเองทำงานเกี่ยวกับงานออกแบบงานโฆษณา โดยทำงานตรงตามที่เรียนมาคือ คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ทั้งทำงานประจำ และเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานด้านการออกแบบสิ่งพิมพ์ และทำ Story Boards โดยได้คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานานถึง 10 ปี ในขณะที่น้องสาวก็ทำซาลาเปาขาย ชื่อร้าน “เปา เปา” บริเวณแยกแคราย เยื้องโลตัสติวานนท์ โรงพยาบาลทรวงอก จ.นนทบุรี จากเดิมที่เน้นขายส่ง จนกระทั่งน้องสาวแต่งงาน ทำให้ไม่มีใครอยู่บ้านกับแม่ ทำให้ตนเองคิดหาอาชีพทำที่บ้าน เพื่ออยู่เป็นเพื่อนแม่ด้วย สุดท้ายก็ตัดสินใจไปเรียนทำซาลาเปากับน้องสาว และนำมาต่อยอดเป็นรูปแบบต่างๆ และทำไส้ให้มีความแตกต่างออกไป
“ในช่วงแรกน้องสาวทำซาลาเปา และขนมจีบขายก่อน ซึ่งเป็นรูปแบบธรรมดา ผมก็ไปแนะนำให้ลองนำปูอัดเข้ามาผสมด้วย เพื่อสร้างความแตกต่าง ส่วนซาลาเปาก็แนะให้มีไส้แปลกๆ ที่ยังไม่มีคนทำ เช่น ไส้หมูกระเทียม ไส้หมูแฮม ในขณะที่ผมก็ได้เรียนรู้การทำซาลาเปาไปด้วย ซึ่งแรกๆ มองแล้วน่าจะทำไม่ยาก แต่เมื่อได้ลองทำจริงๆ มันยากนะ กว่าจะทำให้แป้งออกมานุ่ม และเข้ากับไส้ได้ทุกชนิด ซึ่งผมก็มาจับจุดเองด้วย อาศัยการลองผิดลองถูก จนได้เนื้อแป้งซาลาเปาที่นุ่ม ถูกปากผู้บริโภค”
เมื่อนายภควุฒิ ได้ออกมาทำธุรกิจซาลาเปาอย่างเต็มตัวที่บ้าน ในซอยโชคชัย 4 ตรงข้ามโรงพยาบาลเปาโลสยาม จึงได้นำงานออกแบบมาใช้กับซาลาเปาด้วย หวังสร้างความแตกต่าง และหลีกหนีคู่แข่ง ที่ในปัจจุบันมีผู้ผลิตซาลาเปาหลายเจ้า ด้วยการใช้สีสันเข้ามาช่วย ทำให้ซาลาเปา 1 ลูก มีถึง 2 สี เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับสร้างแบรนด์ที่ชื่อว่า “ปั้นนึ่ง” ออกสู่ตลาด โดยขายในราคาลูกเล็ก 6 บาท และลูกเล็ก 10 บาท
“การที่ผมใช้สีเข้ามาช่วยทำให้ซาลาเปามีสีสันขึ้น ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าได้ ซึ่งผมไม่ได้มองว่ามันเป็นการเพิ่มงานให้มากขึ้น แต่กลับมองว่าเป็นกลยุทธ์ในการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง ที่สมัยนี้ต้องสร้างความแตกต่างเพื่อหลีกหนีคู่แข่ง ในขณะที่รสชาติ และไส้ของซาลาเปาก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยในเรื่องแป้งซาลาเปาจะเน้นที่ความนุ่มไม่มีฟองอากาศ และไม่ใช้วัตถุกันเสีย ส่วนไส้จะพยายามคิดค้นไส้ที่ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น หมูกระเทียม เผือกแปะก้วย ฟักทอง งาดำ และเห็ดหอม เป็นต้น รวมถึงมีไส้สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเจด้วย
นอกจากทางร้านปั้นนึ่งจะขึ้นชื่อในเรื่องของซาลาเปาแล้ว ยังมีหมั่นโถวไส้กรอก และบะจ่าง ขนมจีบหมู ขนมจีบกุ้ง รวมถึงสาหร่ายม้วนปูอัด อีกด้วย โดยเฉพาะบะจ่าง (ลูกละ 15 บาท) ที่มีเครื่องถึง 9 อย่าง ซึ่งเป็นฝีมือของผู้เป็นพ่อ ที่ได้คัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพดีจากย่านเยาวราช ทำให้ได้บะจ่างที่มีรสชาติกลมกล่อม และกลายเป็นสินค้าขายดีของร้านปั้นนึ่งอีกอย่างหนึ่ง
จากการคัดสรรวัตถุดิบในการนำมาทำซาลาเปา เพื่อให้ได้ซาลาเปาและหมั่นโถว ที่แป้งนุ่ม ชุ่มไส้แล้ว กรรมวิธีการผลิตนายภควุฒิ ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ เมื่อปั้นซาลเปาเสร็จ จะนำไปแช่แข็งทันที และก่อนที่จะนำมานึ่งจะนำมาพักไว้ให้คลายความเย็นก่อน ทำให้เมื่อนำซาลาเปาไปนึ่ง จะได้รสชาติที่ยังคงความสดใหม่ไว้ได้ ส่วนลูกค้าที่ซื้อไปแล้วรับประทานไม่หมด ก็สามารถนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นได้โดยเฉพาะไส้ประเภทธัญพืชเก็บในตู้เย็นได้นาน 4-5 วัน ในขณะที่ไส้หมูเก็บได้ 2-3 วัน และหากนำไปแช่แข็งจะเก็บได้นานถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งกำลังการผลิตในขณะนี้อยู่ที่ 500 ลูก/วัน ซึ่งไส้หมูสับ จะเป็นไส้ยอดฮิตขายดีที่สุด
***ติดต่อ 02-933-3153, 08-5160-6808***